ตอนที่แล้วบทที่ 568: หยินเสวี่ยจากไปแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 570: ฆ่าไอ้พวกคนนิสัยเสีย

บทที่ 569: คนร้ายคือแมลง


“ตายแล้ว?! มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่?” หูเจียวเจียวตกใจ หยินเสวี่ยคืออาของหยินชางไม่ใช่หรือ?

แล้วจู่ ๆ นางจะตายไปได้อย่างไร มันกะทันหันเกินไปหรือเปล่า?

หยินชางกับหลงหลิงเอ๋อหน้าถอดสีทันที เด็กทั้ง 2 มองหูหลินเพื่อรอคอยคำพูดต่อไปของเขา

“ท่านตาหลิน ท่านดูผิดไปหรือเปล่า พวกเราเพิ่งได้เจอพวกนางเมื่อกี้นี้เอง” เด็กหนุ่มถามเสียงประหม่า

“ไม่ผิดแน่ พวกเขา 3 คนตายไปแล้ว ร่างกายยังคงอุ่นอยู่เลย!” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูคัดค้านการคาดเดานั้น

ระหว่างทางมาที่นี่ เขาพบร่างของหยินเสวี่ยและคู่อีก 2 คนของนาง ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งมาบอกทุกคน

“เป็นไปไม่ได้… ดอกหมีฮ่วนไม่มีพิษ มันอาจจะทำให้คนพวกนั้นเสียสติไปบ้าง แต่มันไม่มีทางทำให้พวกเขาตายแน่นอน...” หลงหลิงเอ๋อก้มหน้าพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะจำสรรพคุณของดอกไม้ชนิดนี้ผิด

“แล้วสาเหตุการตายล่ะ พวกเขาตายได้ยังไง?” หูเจียวเจียวถามพ่อรอง

หรือว่าคนในเผ่าไป๋ผีมีศัตรูคนอื่นอีก?

เนื่องจากการตายของพวกหยินเสวี่ยเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด นั่นทำให้หูหลินรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก

“พ่อไม่รู้ พ่อบอกไม่ได้ว่าพวกเขาตายด้วยสาเหตุอะไรและพ่อก็หาบาดแผลไม่เจอด้วย”

ถ้าสาเหตุการตายมันเป็นไปตามธรรมชาติ เขาคงไม่วิตกกังวลขนาดนี้

ปัจจุบันมีคนเสียชีวิตอย่างลึกลับถึง 3 คน แม้ว่าคนพวกนั้นจะสมควรตาย แต่การมีคนตายติดต่อกันจำนวนมากมันจะสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนในเผ่า

พวกเขาไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นรายต่อไป

หลังจากหลงหลิงเอ๋อได้ยินคำพูดของท่านตา นางก็รู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น

ไม่มีบาดแผล? นั่นหมายความว่าพวกหยินเสวี่ยรู้สึกหวาดกลัวจนหัวใจวายตายไปไม่ใช่หรือ?

“พ่อรอง ให้เราไปดูศพพวกนางหน่อยได้ไหม?” หูเจียวเจียวคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีบาดแผล

นอกจากนี้ เนื่องจากหยินเสวี่ยผู้เป็นอาเสียชีวิต หยินชางก็ควรได้รับคำอธิบายเช่นกัน

ปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ดังนั้นหูหลินจึงพาพวกหูเจียวเจียวและหลงโม่ไปที่นั่น

ส่วนหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางมองหน้ากันแล้วรีบตามไปทันที

สำหรับเด็กตระกูลหลงอีก 4 คน พวกเขาหวังให้ศัตรูของแม่จิ้งจอกตายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้นพวกเขาจึงตามไปดูเรื่องสนุก ๆ เท่านั้น และไม่เคยมีคำว่ากลัวอยู่ในพจนานุกรมของพวกเขาเลยสักนิด

ในไม่ช้าหลายคนก็มาถึงบริเวณที่พวกหยินเสวี่ยเสียชีวิต โดยที่ร่างของนางและคู่ครองทั้ง 2 นอนอยู่บนหญ้า ซึ่งไม่มีร่องรอยของเลือดบนพื้น แต่มีของเหลวสีเหลืองอยู่ ประกอบกับมีกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยมาจาง ๆ

บนผิวหนังของทั้ง 3 คนไม่มีรอยแผลอะไรที่สาหัสพอจะทำให้พวกเขาเสียชีวิต

“พ่อรอง มีคนมาตรวจสอบพวกเขาหรือยัง?” หูเจียวเจียวหันไปถามหูหลินอย่างใจเย็น

“พ่อตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบบาดแผลตามตัวพวกเขาเลย” ชายร่างใหญ่พยักหน้ายืนยัน

“นี่เป็นไปไม่ได้ พวกเขาจะตายโดยไม่มีบาดแผลได้ยังไง...” หลงหลิงเอ๋อพึมพำเบา ๆ

ขณะนั้นแม่จิ้งจอกสัมผัสถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว เธอหันไปมองลูกสาวที่กำลังหลบสายตา แล้วเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่าง

ครู่ถัดมา จิ้งจอกสาวถามอีกครั้งว่า “ท่านแน่ใจหรือว่าท่านได้ตรวจสอบศพอย่างละเอียดแล้ว?”

ขณะที่คนเป็นหัวหน้าเผ่ากำลังจะตอบ ภูตคนหนึ่งก็ยืนตัวสั่นเทา ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นพูดด้วยเสียงเบาเหมือนยุงบิน

“ท่านหัวหน้า… เอ่อ… ข้าขอโทษ ข้ากลัวว่านางจะเสียชีวิตเพราะโรคภัยไข้เจ็บ ข้าก็เลยทำเพียงแค่ดูห่าง ๆ ไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด...”

“นี่เจ้า!!” หูหลินโกรธมากจนควันออกหูขณะจ้องคนพูดด้วยสายตาไม่พอใจ

“เจ้าทำแบบนี้มันไม่ถูก เจ้าจะกลัวอะไรนักหนา ตอนนี้เรามีหมอผีอยู่ในเผ่าแล้ว! หากไม่ตรวจสอบให้ชัดเจน แบบนี้ถ้าเกิดเรื่องใหญ่มันจะเกี่ยวพันถึงคนทั้งหมดในเผ่า”

ภูตคนที่พบศพเป็นคนแรกหดคอหลังจากถูกหัวหน้าด่า เขาไม่กล้าเอาเรื่องใหญ่ขนาดนี้มาล้อเล่นอีกแล้ว

“ช่างเถอะ ๆ พ่อรอง งั้นข้าขอตรวจสอบดูสักหน่อย” หูเจียวเจียวห้ามพ่อของตนพลางขยิบตาให้ภูตคนนั้น

ทางด้านภูตชายเข้าใจทันทีและถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว

“เจ้าจะทำแบบนั้นได้ยังไง เจ้าเป็นผู้หญิงนะ พ่อปล่อยให้เจ้าแตะต้องของโสโครกไม่ได้หรอก” หูหลินปฏิเสธเสียงแข็ง

“ข้าจะลองดู”

จิ้งจอกสาวไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรดี จากภายนอกเธอสังเกตเห็นเหมือนกันว่าหยินเสวี่ยไม่มีบาดแผลอะไรบนร่างกาย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนจะคิดว่านางและคู่อีก 2 คนเสียชีวิตด้วยโรคร้าย

“พ่อรอง ไม่ต้องห่วง พวกเขาไม่ได้ป่วยตาย ถ้าพวกเขาเสียชีวิตเพราะโรคภัยไข้เจ็บจริง ๆ ก่อนออกมาจากกระท่อม พวกเขาจะต้องมีอาการป่วยอยู่ก่อนแล้ว” หญิงสาวอธิบาย

แม้ว่าโรคบางชนิดจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนป่วยจะเสียชีวิตทันทีในเวลาอันสั้น

หูเจียวเจียวมั่นใจว่าหยินเสวี่ยไม่ได้เป็นอะไรก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมา เพราะหลงหลิงเอ๋อได้ให้คำตอบนี้กับเธอแล้ว

“จริงหรือ?” หูหลินมองลูกสาวอย่างสงสัย แต่เขาก็คิดเพียงว่านางคงกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาตีตนไปก่อนไข้

เนื่องจากน้ำเสียงที่หญิงสาวใช้นั้นมันเหมือนกับว่านางกำลังเกลี้ยกล่อมเด็ก

“ใช่ พวกเขาไม่ได้ตายจากโรคระบาด” หูเจียวเจียวพยักหน้ายืนยัน

ทว่าผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวคัดค้าน “ไม่ ๆ ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะไม่ได้ป่วยตายก็เถอะ แต่เจ้าจะสัมผัสศพโดยตรงไม่ได้”

บริเวณนี้มีผู้ชายอยู่ตั้งมากมาย พวกเขาจะมีหน้าปล่อยให้ผู้หญิงเป็นคนตรวจสอบศพเองได้อย่างไร

“ข้าจะจัดการเอง” หลงโม่อาสาพร้อมกับเดินไปคั่นกลางระหว่างทั้ง 2

ถ้าพวกเขายังไม่หยุดทะเลาะกัน วันนี้คงไม่ต้องกลับบ้านไปนอนกันแล้ว

“ตกลง” คราวนี้หูหลินยิ้มกว้างออกมาทันที

ส่วนหูเจียวเจียวก็ต้องมุมปากกระตุก เธอรู้สึกว่าพ่อรองจงใจพูดเพื่อให้สามีของเธอเอ่ยปากจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง

เดิมทีมังกรหนุ่มก็ไม่ได้อยากปล่อยให้ภรรยาสาวแตะต้องคนตาย ดังนั้นเขาจึงเดินผ่านนางไปตรวจสอบศพที่อยู่ตรงหน้า

ทางด้านหูหลินและคนอื่น ๆ ก็ได้แต่ยืนมองชายหนุ่มแบบใจจดใจจ่อ

ก่อนหน้านี้บริเวณโดยรอบไม่ได้มีคนเดินผ่านไปผ่านมามากนัก แต่หูเจียวเจียวและครอบครัวที่กำลังมุงดูบางอย่างได้ไปสะดุดตาหลายคนเข้า ดังนั้นจึงมีภูตมารวมตัวกันอยู่ที่นี่มากมาย

เมื่อทุกคนได้รู้ว่ามีคนเสียชีวิตแบบลึกลับภายในเผ่า ชาวเผ่าเลยมารอฟังข่าวอยู่ตรงที่เกิดเหตุมากขึ้นกว่าเดิม แล้วในไม่ช้าฝูงชนกลุ่มใหญ่ก็ยืนล้อมบริเวณดังกล่าวมากกว่า 3 ชั้น

แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้สถานที่นั้น

นั่นเป็นเพราะตอนที่ภูตกลุ่มแรกเดินเข้ามาใกล้ พวกเขาก็ได้ยินบางคนพูดคำว่า ‘โรคระบาด’ และ ‘การติดเชื้อ’

จิตใต้สำนึกของทุกคนจึงคิดไปแล้วว่าคนพวกนี้ตายเพราะโรคร้ายแรง

ด้วยความขี้ขลาดพวกเขาจึงไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้ แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็เอาชนะทุกสิ่ง เหล่าภูตจึงได้แต่ยืนอยู่ห่าง ๆ เพื่อคอยสังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ภูตพวกนี้ตายเพราะเป็นโรคร้ายหรือเปล่า?”

“ข้าเคยเห็นนาง! ข้าเคยเดินผ่านบ้านที่นางอาศัยอยู่ ตอนนั้นคนเฝ้าประตูบอกว่านางถูกขังเอาไว้ก็เพื่อความปลอดภัยของเผ่า นางจะต้องตายเพราะว่าเป็นโรคแน่ ๆ!”

“ทำไมพวกเขาถึงยังเก็บศพไว้แบบนั้นล่ะ ทั้งที่นางป่วยตายแท้ ๆ รีบเอาศพไปเผาเร็วเข้าเถอะ...”

ในระหว่างที่หลงโม่พลิกศพคู่ของหยินเสวี่ย เขาสัมผัสผิวหนังของพวกเขาโดยตรง ซึ่งการกระทำของเขามันทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในฝูงชน

พวกเขาเห็นเพียงว่ามือของมังกรหนุ่มวางอยู่บนหัวของทั้ง 3 คนเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินมาทางกลุ่มคนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์

พวกภูตรีบพากันถอยห่างออกไปจากชายร่างสูงทันทีเพราะกลัวว่าหากเข้าใกล้อีกฝ่ายมากจนเกินไป พวกตนจะติดโรค

“หลงโม่ เป็นยังไงบ้าง?” หูเจียวเจียวถามผู้เป็นสามี

มังกรหนุ่มเป็นคนที่ทำงานได้รอบคอบมากที่สุด เขาจะไม่มีทางมองผิดไปแน่

หลงโม่ส่ายหัวตอบทันทีที่ได้ยินคำถาม

“ไม่มีบาดแผลหรือ...” หูหลินถามอย่างประหม่า

“หัวของพวกเขาผิดปกติ มันเหมือนกับว่ามีแมลงเจาะเข้าไปในหัวของพวกเขา” ชายหนุ่มพูดเสียงทุ้มต่ำ

แม้ว่าภูตคนอื่นจะตรวจเจอจุดสีดำบนหนังศีรษะของศพ แต่พวกเขาก็อาจไม่รู้เบาะแสการตาย

ในเวลาเดียวกันนั้น หูของหลงหลิงเอ๋อกระดิกเบา ๆ ทั้งที่นางยังคงก้มหน้าอยู่

“นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาตายหรือ? ถูกแมลงฆ่าเนี่ยนะ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของนางส่องประกายดั่งมีดวงดาราอยู่ภายใน

พ่อมังกรพยักหน้าตอบลูกสาว อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่มีความเป็นไปได้อื่น

เมื่อชาวเผ่าได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เพราะโรคระบาด!”

“ว่าแต่มันเป็นแมลงชนิดไหนทำไมถึงได้น่ากลัวขนาดนี้ พวกมันเป็นแมลงมีพิษหรือ?”

“แมลงตัวนั้นมีหน้าตาเป็นยังไง ไม่ใช่ว่ามันมากัดข้าไปแล้วนะ...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด