บทที่ 135 หมิงหลานมาถึง
บทที่ 135 หมิงหลานมาถึง
"นี่คือแม่นางเฟิงซินหยูงั้นเหรอ นางสวยจริงๆ" คนหนุ่มสาวหลายคนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเฟิงซินหยู
หลายคนไม่เคยคาดหวังว่าหลินเป้ยจะมีคู่หมั้นที่สวยงามเช่นนี้ โชคดีจริงๆ ที่นางมาถอนสัญญาหมั้น
ในสายตาของหลายๆ คนหลินเป้ยไม่คู่ควรกับเฟิงซินหยู ทั้งในแง่ฐานบ่มเพาะและภูมิหลังขอตระกูล เขานั้นตามหลังนางอยู่มาก
ไม่ต้องพูดถึงหลินเป้ย แม้แต่ชายหนุ่มทุกคนที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมด พวกเขาก็ไม่คู่ควรกับหญิงสาวผู้นี้แน่นอน
ส่วนหนึ่งคงเพราะ เมือชิงหลินเป็นสถานที่เล็กๆ
แน่นอน ก่อนที่เฟิงซินหยูจะมาถึง หลายคนก็สังเกตเห็นหลิวหยินเช่นกัน เป็นเพราะนางไม่ค่อยปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน วันนี้หลายๆ คนถึงได้รู้ว่านางคือบุตรสาวคนที่ 2 ของผู้นำตระกูลหลิว
แต่ตัวเอกของวันนี้คือเฟิงซินหยู่ และความสนใจของผู้คนจำนวนมากก็อยู่ที่นาง
"เจ้าตำหนักสมาคมการค้าว่านเป่า มาถึงแล้ว” ในเวลานี้ มีเสียงดังมาจากด้านนอก
"เจ้าตำหนักสมาคมการค้าว่านเป่า!?" หลายๆ คนตกใจเมื่อได้ยิน
หลายคนไม่เคยเห็นเจ้าตำหนักสมาคมการค้าว่านเป่ามาก่อน ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาเป็นชายหรือหญิง
ตัวตนของหมิงหลานนั้นลึกลับมาก มีเพียงผู้นำตระกูลหลักทั้ง 4 เท่านั้นที่เคยพบนาง
แน่นอน ผู้นำตระกูลหลักทั้ง 4 ย่อมไม่เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับหมิงหลานอยู่แล้ว แม้แต่ตู๋ไคก็ไม่เคยพบกับนางมาก่อนเลย
ทุกคนกำลังสงสัย เหตุใดบุคคลลึกลับเช่น เจ้าตำหนักสมาคมการค้าว่านเป่า ถึงได้มาที่ตระกูลหลินด้วย ทุกคนต่างก็รู้ว่า สมาคมการค้าว่านเป่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของกองกำลังอื่นๆ
หลายๆ คนคิดว่า เจ้าตำหนักอาจจะมาเพื่อดูความสนุกสนานของตระกูลหลินก็เป็นได้
หมิงหลานมาพร้อมกับปรมาจารย์เปี้ยนถง และมีผู้ใต้บังคับบัญชามหาปรมาจารย์นักรบ 2 คนตามมา ซึงทั้งสองก็คือชายชุดดำที่เฝ้าหน้าประตูนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีชายชราอีกคนหนึ่งติดตามหมิงหลานมาด้วย ชายชราผู้นี้ดูลึกลับ และไม่มีผู้ใดสามารถเห็นฐานบ่มเพาะของเขาได้
ในเวลานี้ หมิงหลานได้ถอดผ้าคลุมหน้า ทำให้ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบได้ปรากฏต่อหน้าทุกคน
เนื่องจากนางรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องปิดหน้าอีกอีกต่อไป หมิงหลานได้รับคำสั่งให้เดินทางไปเป็นหัวหน้าสาขาที่มณฑลเหยียนหยาง นี่เป็นการเลื่อนตำแหน่งของนางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น หมิงหลานยังเดินทางมาให้หน้าหลินเป้ยอีกด้วย ดังนั้นนางจึงไม่สวมผ้าคลุมอีกต่อไป
"ฟู่" หลายคนถอนหายใจเมื่อเห็นหมิงหลานและคนอื่นๆ เข้ามา หญิงสาวผู้นี้คือเจ้าตำหนักสมาคมการค้าว่านเป่างั้นเหรอ?
ไม่น่าเชื่อ นางยังเป็นรุ่นเยาว์อยู่เลย ที่สำคัญ ใบหน้าของนางสวยงามไม่แพ้เฟิงซินหยูจริงๆ
วันนี้มีความงามอันน่าทึ่งถึง 3 คนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน ทั้งหลิวหยิน เฟิงซินหยู และหมิงหลาน
หมิงหลานแสดงออร่าปราณปรมาจารย์นักรบขั้น 8 ออกมา ซึ่งทำให้ทุกคนตกใจมากยิ่งขึ้น
ดูเหมือนว่านางจะอายุเพียง 18 - 19 ปี เท่านั้นเอง และพรสวรรค์ของนางนั้นน่าทึ่งไม่น้อยไปกว่าเฟิงซินหยูจริงๆ
หลายคนคิดในใจว่า วันนี้โชคดีจริงๆ ที่มา ช่างคุ้มค่าที่ได้เห็นสาวงามทั้ง 3 คน และมี 2 คนในนั้นเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก
หลายคนไม่รู้ว่าหลิวหยินก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน นางมีสายเลือดระดับ 7 และพรสวรรค์ของนางก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเฟิงซินหยูเลย
เพราะเรื่องนี้ ตระกูลหลิวได้ส่งต่อเรื่องนี้ไปยังตระกูลหลักที่เมืองหลวงแล้ว
ปรากฎว่าตระกูลหลิวในเมืองชิงหลิน เป็นเพียงสาขาหนึ่งของตระกูลหลิว ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลหลักแห่งเมืองหลวง
ในตอนนั้นปู่ของหลิวหยิน ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลคนก่อน ก็มาจากตระกูลหลิวแห่งเมืองหลวง
“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าตำหนักสมาคมการค้าว่านเป่าจะมาที่นี่ด้วย ขออภัยที่ข้าไม่ได้ไปต้อนรับด้วยตัวเอง” หลินวู่จี้ประสานหมัดของเขา
“ข้าจะจัดที่นั่งให้ท่านเจ้าตำหนัก โปรดรอสักครู่” หลินวู่จี้เชิญหมิงหลาน
“ท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพ นายน้อยหลินเป้ยและข้าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ข้าได้ยินมาว่า มีคนมาที่ตระกูล หลินเพื่อก่อปัญหา ข้าจึงมาที่นี่เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น” หมิงหลานกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ
เห็นได้ชัดว่าคำพูดของนางพุ่งเป้าไปที่เฟิงซินหยู เนื่องจากนางตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับหลินเป้ย นางจึงไม่กลัวที่จะสร้างความขุ่นเคืองให้เฟิงซินหยู
นางมาจากตระกูลหมิง และด้วยสถานะของนาง เฟิงซินหยูผู้นี้จึงไม่คู่ควรที่จะเป็นศัตรูของนาง
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฟิงซินหยูก็ขมวดคิ้ว หญิงสาวผู้นี้ดูเหมือนจะอยู่ข้างตระกูลหลิน
“คุณหนูเฟิง หญิงสาวผู้นี้ไม่ธรรมดา ชายชราที่อยู่ข้างๆ นางอยู่ในขอบเขตราชานักรบเหมือนข้า และน่าจะแข็งแกร่งกว่าข้ามาก เพราะข้าไม่สามารถมองเห็นระดับของชายชราผู้นี้ได้เลย” ผู้อาวุโสโม่กระซิบกับเฟิงซินหยูในเวลานี้
ผู้อาวุโสโม่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีขอบเขตราชานักรบอยู่ในเมืองชิงหลินเล็กๆ แห่งนี้
ผู้อาวุโสโม่อยู่ที่ขั้นแรกขอบเขตราชานักรบ เขาพึ่งทะลวงขอบเขตนี้มาได้แค่ครึ่งปีเอง
เมื่อเฟิงซินหยูได้ยินคำพูดเช่นนี้ นางรู้สึกตกใจมาก สมาคมการค้าว่านเป่าช่างร่ำรวยและทรงพลังจริงๆ แม้แต่เมืองเล็กๆ เช่นนี้ ยังมีราชานักรบมาประจำได้
ในความเป็นจริง สิ่งที่เฟิงซินหยูไม่รู้ก็คือ หมิงหลานนั้นมีสถานะพิเศษ ดังนั้นนางจึงได้รับการคุ้มครองโดยบุคคลที่แข็งแกร่งในขอบเขตราชานักรบนั่นเอง
ไม่ว่ายังไง บิดาของหมิงหลานก็เป็นชายที่แข็งแกร่งในขอบเขตบรรพชนนักรบ(หวู่ซุน) ดังนั้นจึงไม่มากเกินไปที่จะจัดให้มีชายที่แข็งแกร่งในขอบเขตราชานักรบมาปกป้องบุตรสาวของเขา
แต่คำกล่าวของหมิงหลานที่ได้เผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนรอบข้างแปลกใจมาก
หลินเป้ยเป็นเพื่อนที่ดีกับเจ้าตำหนักผู้งดงามคนนี้งั้นเหรอ?
หลินวู่จี้และหลินเทียนต่างก็งงเล็กน้อย ทั้งคู่คิดไม่ออกว่า หลินเป้ยกับหมิงหลานกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้อย่างไร?
แต่ไม่ว่าอย่างไร หากหมิงหลานสนับสนุนหลินเป้ยนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีมากเช่นกัน
เพราะเรื่องนี้ ทำให้หลินวู่จี้มีความสุขมาก
“เชิญเจ้าตำหนัก” หลินวู่จี้พูดด้วยรอยยิ้ม
หมิงหลานจึงนั่งลงหลังจากมีผู้อาวุโสจัดที่ให้
ด้วยท่าทางแบบสุภาพสตรีของหมิงหลาน นางจึงดึงดูดความสนใจผู้คนเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้ทำให้เฟิงซินหยูรู้สึกไม่สบายใจ
นางไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวผู้นี้ถึงมาที่นี่ นางไม่เชื่อเด็ดขาดว่าขยะเช่นหลินเป้ยจะเป็นเพื่อนกับนาง
“หัวหน้าตระกูลหลิน จุดประสงค์ของข้าที่มาวันนี้คือเพื่อมายุติการหมั้นหมายระหว่างข้ากับหลินเป้ย แต่ขอโทษนะ ผู้ใดคือหลินเป้ย?” เฟิงซินหยูถามตรงๆ
นางมาที่นี่เพื่อยกเลิกสัญญาหมั้นต่อหน้าจำนวนมาก เพื่อทำให้หลินเป้ยเสียหน้า
ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกัน พวกเขานั่งอยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว แต่ไม่มีใครเห็นหลินเป้ยเลย?
หลายคนกำลังคิดว่าหลินเป่ยคงจะกลัวจนไม่กล้ามาใช่ไหม?
“บุตรชายของข้ากำลังมา เขาจะมาที่นี่เร็วๆ นี้” ในตอนนี้เอง หลิเเทียนก็ลุกขึ้นยืนและพูดออกมา
หลินเทียนรู้สึกรังเกียงหญิงสาวตรงหน้ามาก จนคิดว่าถ้าไม่จำเป็น เขาไม่อยากพูดกับนางเลย
“มีข่าวลือว่าหลินเป้ยเป็นขยะไม่ใช่เหรอ ขยะที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้ เป็นไปได้ไหมที่เขารู้ว่าข้ามา เขาก็รีบไปซ่อนตัว?” เฟิงซินหยูแสดงสีหน้าเยาะเย้ย
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ."
“ฮ่าฮ่า ข้าก็คิดว่าหลินเป่ยกลัวจริงๆ”
หลายๆ คนที่มาต่างก็หัวเราะกันดังลั่น!