ตอนที่แล้วบทที่ 10 รวมตัวผู้แข็งแกร่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 เข้าร่วมตระกูลเฉิน

บทที่ 11 ต่างเชิญชวน


บทที่ 11 ต่างเชิญชวน

ถูกต้องแล้ว

หลังจากทะลวงเข้าสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานแล้ว เจียงเฉิงซวนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นผู้ฝึกตนอิสระอีกต่อไป

นั่นคงจะเหนื่อยเกินไป

เขาต้องต่อสู้เพื่อทรัพยากรด้วยตัวคนเดียว

วิธีการนี้มันไม่คอ่ยมีประสิทธิภาพมากนัก

แม้ว่าหลังจากเข้าร่วมนิกายหรือตระกูลแล้ว ถ้าเขาต้องการทรัพยากร เขาต้องทำคุณประโยชน์ให้กับพวกเขา แต่อย่างน้อยก็สามารถช่วยเขาประหยัดพลังงานและเวลาได้มาก

ในอนาคตถ้าเขาต้องการวัตถุดิบที่ล้ำค่า แม้ว่ามันจะมีราคาแพงแต่เขาก็สามารถได้รับมัน โดยไม่ต้องดั้นด้นตามหาด้วยตัวเองคนเดียว

ส่วนกฎเกณฑ์ที่เขาต้องปฏิบัติตามนั้น หรืออิสรภาพที่สูญเสียไปนั้น

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ

ทุกอย่างมีความสัมพันธ์กัน

ในขณะที่เจ้าถูกบังคับโดยกฎของนิกาย เจ้ายังได้รับการคุ้มครองจากนิกายด้วยเช่นกัน

แทนที่จะกังวลเรื่องนั้น เขาอาจจะคิดว่านิกายหรือตระกูลใดที่จะให้ประโยชน์สูงสุดแก่เขา

ในขณะนี้เจียงเฉิงซวนต้องการเพียงเข้าร่วมตระกูลผู้ฝึนตนเท่านั้น

มีสาเหตุบางประการที่ทำให้เขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับนิกาย

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือสภาพแวดล้อมในนิกายนั้นซับซ้อนเกินไป

พูดตรงๆ มีหลายฝักหลายฝ่ายภายในนิกาย

ตามที่เจียงเฉิงซวนรู้ นิกายเจียงยางที่เป็นเจ้าของปัจจุบันของตลาดเหอหยาง ถูกแบ่งออกเป็นสามฝ่าย

หากเขาเลือกที่จะเข้าร่วมนิกายเจียงยาง เขาจะต้องเข้าร่วมในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย มันจะทำให้เขาเสียผลประโยชน์ และต้องแบ่งผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นหลายส่วนเกินไป

และนี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการแข่งขันกันระหว่างพรรคและฝ่ายนั้นจะใช้เวลาและพลังงานอย่างมากและส่งผลต่อการฝึกฝนของเขา

มันเป็นสิ่งที่เจียงเฉิงซวนไม่ต้องการที่จะเผชิญไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

แม้นิกายเจียงยางยังเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ในนิกายอื่นก็คงไม่ดีไปกว่ากันแน่นอน

นี่เป็นเพราะกลไกการทำงานของนิกายต่างๆ ก็ไม่มีข้อแตกต่างกันมากนัก

ในทางกลับกัน เนื่องจากความสัมพันธ์ทางตระกูลนั้น ทำให้การต่อสู้และความขัดแย้งในตระกูลผู้ฝึกตนจึงค่อนข้างน้อยกว่าถ้าเทียบกับพวกนิกายต่างๆ

แม้ว่าจะมีการแข่งขันกันอยู่บ้าง แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างเป็นมิตร

โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะมุ่งความสนใจไปในทิศทางเดียวเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่แน่นอนไปเสียทั้งหมด

เพราะมันก็ยังมีนิกายที่ไม่แตกแยก และตระกูลผู้ฝึกตนที่แตกแยกจากภายในมากมายเช่นกัน

นั่นคือเหตุผลที่เจียงเฉิงซวนจำเป็นต้องตัดสินให้ดีและพิจารณาอย่างรอบคอบ

ณ ตอนนี้

เจียงเฉิงซวนไม่ได้ออกจากถ้ำของเขาเป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจัดระเบียบและยกเลิกคาถาป้องกันก่อนที่จะเดินออกไป

เมื่อเขาออกมา เขาก็เห็นเสวี่ยเทียนหยางและคนอื่นๆที่รออยู่ที่นี่มานานแล้วทันที

เมื่อเสวี่ยเทียนหยางและคนอื่น ๆ เห็นเจียงเฉิงซวนออกมา ดวงตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น

เสวี่ยเทียนหยางเป็นคนแรกที่ยิ้มและพูดทักทายเขาว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิด ท่านควรเป็นสหายเต๋าเจียง, เจียงเฉิงซวนใช่ไหม?

ขอแสดงความยินดีที่ท่านประสบความสำเร็จในการทะลวงขอบเขตการก่อตั้งมูลรากฐาน ท่านมีโอกาสเข้าถึงขอบเขตปราการสีม่วงในอนาคต”

เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นพวกเขาก็พูดทันที

“สหายเต๋าเสวี่ยพูดถูก สำหรับสหายเต๋าเจียงที่จะประสบความสำเร็จในการเข้าถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานได้ด้วยตัวเอง จะเห็นได้ว่าท่านมีความเพียร พรสวรรค์ และโชค ท่านจะมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน

นิกายฟ้านิรันดร์นั้นต้องการคนความสามารถเช่นท่าน สหายเต๋าเจียง ท่านสามารถพิจารณาเข้าร่วมนิกายของข้าได้

ข้ารับประกันได้ว่าตราบใดที่ท่านเต็มใจที่จะเข้าร่วมนิกายฟ้านิรันดร์ เราจะมอบตำแหน่งผู้อาวุโสให้ท่านทันที

นอกจากนั้นยังจะมีถ้ำที่พัก เทคนิคการบ่มเพาะ และสิ่งประดิษฐ์มากมายให้ท่านได้เลือกอย่างอิสระ สหายเต๋าเจียง นิกายเราจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินคำพูดของกู่เฉียนซาน, เสวี่ยเทียนหยาง, ว่านตงไหล, ชิวยี่ซุยและคนอื่น ๆ ก็สาปแช่งในใจ

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้พวกเขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะโต้เถียงกับกู่เฉียนซาน

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการคิดหาวิธีรับสมัครเจียงเฉิงซวนให้ได้

ถ้าเจียงเฉิงซวนเข้าร่วมกันองค์กรของพวกเขา ไม่เพียงแต่นิกายหรือตระกูลนั้นจะมีผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานอีกหนึ่งคนเท่านั้น แต่ในฐานะคนที่สามารถนำเจียงเฉิงซวนเข้าร่วมนิกายหรือตระกูลได้ พวกเขาก็จะได้รับรางวัลสำหรับการกระทำครั้งนี้ของพวกเขาด้วย

นี่เป็นเหตุผลหลักว่าทำไมพวกเขาถึงต้องการรับสมัครเจียงเฉิงซวนเข้ากับนิกายหรือตระกูลของพวกเขาให้ได้

“สหายเต๋าเจียง ข้าไม่คิดว่าจะต้องบอกท่านเกี่ยวกับสถานะของนิกายเจียงหยางในโลกแห่งการฝึกตนของอาณาจักรหยุนแห่งนี้

เทคนิคการบ่มเพาะ สมบัติ และทรัพยากรการบ่มเพาะต่างๆในนิกายไม่ใช่สิ่งที่นิกายทั่วไปหรือตระกูลที่มีผู้นำอยู่ในขอบเขตปราการม่วงอื่นๆจะสามารถเปรียบเทียบได้

แม้ว่าข้าจะไม่สามารถสัญญากับท่านเกี่ยวกับตำแหน่งผู้อาวุโสได้ แต่ข้าก็ไม่มีปัญหาในการทำให้ท่านเป็นหัวหน้าหน่วยเหมือนกับข้า

และหากท่านโชคดี มันก็เป็นไปได้สำหรับท่านที่จะได้เป็นศิษย์ของบรรพบุรุษของนิกายเจียงยางซึ่งอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำในอนาคต

ข้าเชื่อว่าท่านจะเลือกถูก”

เสวี่ยเทียนหยางมีความมั่นใจมาก

ในความเป็นจริง เขาประสบความสำเร็จในการรับสมัครผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานให้กับนิกายของเขามากกว่าสองครั้งแล้ว

ในอดีตนั้นเมื่อผู้ฝึกตนที่พึ่งทะลวงสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานใหม่ได้ยินว่าพวกเขาสามารถเข้าร่วมนิกายเจียงหยาง ซึ่งเป็นหนึ่งในสามมหาอำนาจของอาณาจักรหยุน พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เจียงเฉิงซวนแสวงหาคือความมั่นคง ความสงบสุข และการที่เขาไม่ต้องแกว่งเท้าหาเสี้ยน

การมองผลลัพธ์ที่แตกต่างกันหมายถึงทางเลือกที่แตกต่างกัน

ในขณะนี้ว่านตงไหล, เย่เฟยเฉิน, ชิวยี่ซุย และเซินหรูหยานก็ทำการเชิญชวนเจียงเฉิงซวนและสัญญาหลายสิ่งหลายอย่างกับเขา

ข้อเสนอเหล่านี้คล้ายกับสิ่งที่กู่เฉียนซานพูดในตอนต้น

แต่เจียงเฉิงซวนไม่ได้ให้คำตอบในทันที เขาทำได้เพียงบอกไปว่าเขาต้องคิดอย่างรอบคอบและจะให้คำตอบกับทุกคนเมื่อเขาพิจารณาอย่างดีแล้ว

จริงๆ แล้ว เขาได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะเลือกใคร แต่เขาไม่ต้องการทำให้อีกห้าคนต้องเสียหน้า

ถ้าเขาปฏิเสธพวกเขาทันที มันก็ยากที่จะบอกว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร

พวกเขาอาจรู้สึกว่าเขาดูถูกพวกเขาและไม่ได้สนใจพวกเขา

หรือบางคนอาจผูกใจเจ็บ

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น ควรรอจนกว่าพวกเขาจะจากไปก่อนที่เขาจะเริ่มไปเยี่ยมคนที่เขาต้องการเข้าร่วมในภายหลัง

เขาเชื่อว่าตราบใดที่พวกเขาไม่ใจแคบเกินไป พวกเขาก็จะไม่มีความรู้สึกไม่ดีต่อเขาถ้าทำเช่นนี้

ในความเป็นจริง ความจริงที่ว่านิกายของพวกเขาได้ส่งพวกเขามาที่นี่เพื่อรับสมัครผู้มีความสามารถ หมายความว่าพวกเขาควรจะพูดคุยด้วยได้ง่ายมาก และน่าจะเข้าใจตรรกะหลายๆอย่างได้

มิฉะนั้น พวกเขามีแนวโน้มที่จะรับสมัครศัตรูแข็งแกร่งมากกว่าพวกพ้องที่แข็งแกร่ง

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด