บทที่ 10: [ด่าน 0] สิ้นสุดด่านฝึกสอน
บทที่ 10: [ด่าน 0] สิ้นสุดการฝึกสอน
- โห้ พี่!
ในหน้าต่างแชทที่ว่างเปล่า บรรทัดข้อความหนึ่งได้ปรากฏขึ้น
- สุดจัดดดด! นี่พี่ไปทำอีท่าไหนถึงไปชนะมาได้เนี่ย?
ฉันถึงกับพูดไม่ออก
นี่เป็นข้อความแรกที่ฉันได้รับมาจากคนดู ตั้งแต่ฉันเริ่มหันมาสตรีมเกม
ขณะที่ฉันกำลังประหลาดใจ ก็มีบรรทัดหนึ่งปรากฏขึ้นมา
- ผมเพิ่มพี่เป็นช่องโปรดเลยนะ! แล้วเดี๋ยวพี่ก็จะมาสตรีมให้ดูอีกรอบได้ไหม?
แล้วจากนั้น...
...ฉันตอบกลับไปว่ายังไงกันนะ
อ๊ากกก!
ข้าลืมตาขึ้น
ความเจ็บปวดแสบร้อนได้แล่นผ่านแขนและไหล่ของข้า ขณะที่ข้าพยายามบังคับร่างกายส่วนบนให้ลุกขึ้น อึก!
"เจ็บ"
ข้ากลืนเสียงกรีดร้องที่เกือบจะออกมาลงไป จากนั้นข้ามก็ก้มลงไป และข้าก็ได้เห็นสภาพร่างกายของข้า
ผ้าพันแผลถูกพันรอบร่างกายส่วนบนของข้า มือทั้งสองข้างถูกปิดผนึกเหมือนมัมมี่และข้าไม่สามารถยกนิ้วได้เลย
"ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกัน..."
"ฝ่าบาท ทางที่ดีท่านเองก็พักผ่อนไปอีกสักระยะดีกว่านะคะ"
ขณะที่ข้ากำลังตรวจร่างกายที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ข้าก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
"เดเมียนได้ทำการรักษาฝ่าบาทด้วยเวทรักษาไปแล้ว แต่ว่าเเผลที่ถูกเผาค่อนข้างสาหัสพอสมควร คงอีกนานกว่าจะหายสนิทแน่เลยเพคะ"
ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ข้ามองไปในทิศทางที่เสียงนั้นดังมา
คนผู้นั้นกำลังนั่งบนเตียงข้างๆ ข้า เป็นนักเวทชุดสีแดงคนหนึ่ง…กำลังเขียนเอกสารลงบนกองเอกสารข้างๆ นาง
ข้าพึมพำชื่อนางด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
"ลิลลี่?”
"ฝ่าบาท ท่านหลับไปนานถึง 3 วันเลยนะคะ"
ลิลลี่วางปากกาขนนกของนางลงและยิ้มออกมา
"ทั้งที่ฟันฝ่ามาถึงขนาดนั้นจนเอาชนะกองทัพแมงมุมมาได้แล้วแท้ๆ จนทำเอาทางนี้คิดไปว่าท่านจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วซะอีก"
"นี่ข้า...รอดมาได้สินะ"
"ต้องขอบคุณการสั่งการของฝ่าบาทเลยค่ะ"
ลิลลี่ยักไหล่ของนาง โบกกระดาษในมือไปมา
“ฝ่าบาทอยากฟังรายงานไหม? หรืออยากจะพักผ่อนมากกว่านี้ก่อน?”
ข้าอยากจะพักผ่อนต่อเพราะความเจ็บปวดในร่างกาย แต่ตอนนี้การได้ยินรายงานมีความสำคัญมากกว่า ข้าจึงขอให้นางสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันมาให้ข้าฟัง
"จากการระเบิดครั้งสุดท้ายนั้นทำให้ราชินีแมงมุมของพวกมันได้ตายไป กองทัพแมงมุมดำจึงหยุดการเคลื่อนไหวทันที"
ลิลลี่รายงานผลสั้นๆ
"พวกเราชนะค่ะ ฝ่าบาท"
“......”
“ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีที่มีเดเมียนเป็นนักบวชที่รักษาได้…ในขณะที่เดเมียนกำลังรักษาผู้บาดเจ็บและคนอื่นๆ อยู่ กำลังเสริมก็มาถึงในวันที่สอง”
ลิลลี่ชี้ไปที่หน้าต่าง ข้าเห็นทหารกำลังยุ่งวุ่นวายที่ข้างนอก
"กองกำลังหนุนได้เข้ามาจัดการเรื่องศพของทางเราและพวกแมงมุมที่หยุดการเคลื่อนไหวกันไป ตอนนี้การจัดการก็ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ”
"...งั้นเหรอ?"
ตอนนั้นเองที่ข้าประหลาดใจพอสมควร
ข้ารอด
จากด่านฝึกสอนที่แสนสาหัสนี้ ด่านที่มันแทบจะเคลียร์ไม่ได้เลย
"ฝ่าบาท ฝ่าบาทเองก็ได้รับแผลไฟไหม้บริเวณมือ แขน ไหล่และลำคอมาด้วยนะคะ"
ลิลลี่บอกข้าถึงอาการบาดเจ็บของข้าด้วยเสียงที่วบายใจนัก
"หากฝ่าบาทกลับไปยัง 'ครอสโรด' แล้ว ก็อย่าลืมแวะไปยังโบสถ์ด้วยนะคะ แม้ว่าฝ่าบาทจะรักษาจนหายแล้ว ก็คงจะยังมีแผลเป็นหลงเหลืออยู่แน่"
"พอเอามาเทียบกับชีวิต แผลเป็นมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย"
ข้าคิดอย่างที่ข้าพูดจริงๆ ถ้านั่นคือสิ่งที่ทำให้มีชีวิตรอด รอยแผลเป็นและรอยไหม้ก็เป็นเพียงเหรียญรางวัลที่ข้ายินดีจะรับไว้
ข้าถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่ข้ามองไปยังลิลลี่ ลิลลี่ก็มีผ้าพันแผลพันรอบตัวนาง
"ลิลลี่ อาการบาดเจ็บของเจ้าเองก็...?"
"ตอนที่มานาของทางนี้ได้หมดไปแล้ว ก็โดนแมงมุมสารเลวพวกนั้นเอาขาของมันมาทิ่มจากทางด้านหลัง แล้วหลังจากนั้นราชินีของพวกมันก็มาตายไป ก็เลยไม่โดนเล่นงานอะไรเพิ่มเติมค่ะ"
ลิลลี่ยิ้มอย่างขมขื่นและตบขาของนาง
"บางทีก็คงจะเป็นเพราะว่ามันไปโดนเส้นประสาทแถวๆ เอวเข้า ก็เลยทำเอาไม่สามารถขยับส่วนล่างนี้ได้เลยค่ะ"
“......”
"ฝ่าบาทไม่ต้องกังวลไปหรอก"
ลิลลี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงใจเย็น จนข้าแทบพูดไม่ออก
"แค่รอดชีวิตมาได้แบบนี้ ก็นับว่าดีแล้วล่ะค่ะ"
“......”
ลิลลี่เปลี่ยนเรื่องคุย เพราะข้าดูจะไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อเลย
"ส่วนจำนวนผู้รอดชีวิตทั้งหมดนั้นหากไม่รวมไปถึงเหล่าพลปืนใหญ่สี่คน ก็มีลูคัส เดเมียน ตัวข้าแล้วก็ฝ่าบาทที่รอดมาได้ค่ะ"
“......”
8 คน
ทั้งที่ตอนเริ่มศึกครั้งก่อนก็มีกันตั้งหลายร้อยคน แต่พอมายามนี้กลับมีเหลือกันแค่ 8 คนเท่านั้นเอง
"เหอะ…"
ข้ากัดฟันและวางฝ่ามือที่พันไว้บนหน้าผาก
นี่มันไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ เหรอ?
มีวิธีที่ดีกว่าที่ข้ามองข้ามไปหรือเปล่า?
บางทีอาจมีวิธีที่ข้าจะช่วยคนได้อีกอย่างน้อยหนึ่งคนจากยามนั้นไหม…?
"ฝ่าบาท ท่านไม่ใช่พระเจ้านะคะ"
ลิลลี่กล่าวออกมาเมื่อเห็นข้ากำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์
"พอมาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแล้ว ก็ไม่มีทางเลยที่จะไปช่วยทุกคนเอาไว้ได้ ฝ่าบาทเองก็ได้ทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว จริงไหมคะ?"
"...แต่แรกแล้ว ข้าก็เป็นคนลากทุกคนมาที่นี่เองนะ"
ถึงแม้ตามจริงแล้ว มันจะเป็นไอ้แอสสารเลวบัดซบ ไม่ใช่ตัวข้าก็เถอะ แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ข้าจะใช้มันเป็นข้ออ้าง
ในเมื่อข้าได้มาอยู่ในร่างนี้ มันก็เป็นเรื่องที่คนอย่างข้ามีส่วนต้องรับผิดชอบไปด้วย
"ฝ่าบาท ไม่มีใครรู้ว่ากองทัพแมงมุมดำจะปรากฏที่นี่ ไม่มีใครรู้ว่าสัตว์ประหลาดจะเคลื่อนไหวด้วยจำนวนมหาศาลเช่นนี้มานานหลายทศวรรษ ก็เลยไม่มีใครสักคนที่คิดจะมาห้ามการเดินทัพของฝ่าบาทเลยแม้แต่น้อย"
ลิลลี่คิดถึงความรู้สึกของข้าและปลอบใจข้า
“กลยุทธ์ทางทหารของท่านอาจจะเสี่ยง แต่ก็ไม่ใช่ไร้ความหมาย ในช่วงสุดท้ายของการต่อสู้ ท่านแสดงไหวพริบและแผนการอย่างกล้าหาญ และในท้ายที่สุด ก็นำเราไปสู่ชัยชนะ”
“......”
"เพราะอย่างนั้นแล้ว ฝ่าบาทเองก็อย่าโกรธตัวเองไปเลยค่ะ"
ข้ากัดริมฝีปากล่างอย่างแรง
ในยามนั้นเอง ลูคัสก็บึ่งเข้ามาหลังจากเปิดประตู แล้วมองมาที่ข้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง
"ฝ่าบาท!”
ลูคัสรีบวิ่งไปข้างของเตียงของข้า
เนื่องจากลูคัสตัวใหญ่ มันจึงรู้สึกเหมือนมีโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ยักษ์วิ่งมาหาข้า
“ลูคัส!”
"เห็นฝ่าบาทฟื้นขึ้นมาเช่นนี้ ข้าเองก็ดีใจสุดๆ ไปเลยขอรับ..."
น้ำตาได้ไหลออกมาจากดวงตาของลูคัส
"คือว่าฝ่าบาท ยังมีตรงไหนในร่างกายที่รู้สึกแปลกๆ บ้างไหมขอรับ? ข้าจะรีบเรียกเดเมียนมาเดี๋ยวนี้เลย"
"ไม่เลย ข้าสบายดี ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นแหละ"
ข้ายิ้มและชี้ไปที่ผ้าพันแผลพันรอบร่างกายของเขา
"ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็บาดเจ็บหนักหรือไง? นี่หายดีจนไปไหนมาไหนแบบนี้ได้แล้วเหรอ?"
"ท่านเองก็รู้นี่ว่าความแข็งแกร่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของข้า!”
เฮ้อ ก็จริง เขาเป็นอัศวินระดับ SSR นี่นะ
ข้าโล่งใจที่ได้เห็นเขาไม่เป็นอะไร ลูคัสยิ้มออกมาและดึงเอกสารออกมาจากกระเป๋าของเขา
"ข้าได้รวบรวมรายชื่อผู้เสียชีวิตมาแล้วขอรับแล้วก็มีหลายคนที่พวกเราไม่สามารถหาร่างกลับมาได้ด้วย"
"แล้วตอนนี้ศพพวกเขาอยู่ที่ไหน?”
"ที่ราบทางด้านเหนือของฐานหลักครับ"
"ข้าจะไปดูพวกเขา”
ขณะที่ข้าลุกขึ้นยืนอย่างโซเซ ลิลลี่และลูคัสที่ตกใจก็เข้ามาหยุดข้าไว้
"ฝ่าบาท!”
"ไม่ได้นะเพคะ ฝ่าบาท! ท่านต้องใช้เวลาพักรักษาตัวมากกว่านี้...!"
“พวกเขาเสียชีวิตเพราะคำสั่งของข้า”
ข้ามีอาการปวดทั่วตัว แต่ข้าก็ไม่ยอมแพ้
"ข้าจะไปดูพวกเขา พยุงข้าลูคัส”
ลูคัสไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ลูคัสหันกลับมาและคุกเข่าลงกับพื้นโดยหันหลังมาหาข้า
“ได้โปรดเสด็จบนหลังข้าเถิดฝ่าบาท ข้าจะพาท่านไปที่นั่นเอง”
หลังของลูคัสกว้าง แม้จะมีการโยกไปมาเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าสะดวกดี
“ลูคัส เจ้าอยากเป็นพาหนะส่วนตัวของข้าไหม?”
“ถ้านั่นคือความปรารถนาของฝ่าบาท ข้าก็ยินดีจะทำ”
"ข้าล้อเล่น อย่าเอาจริงเอาจังเลยนะ”
ขณะที่ข้าออกจากอาคารโดยนั่งหลังลูคัส ข้าเห็นเด็กชายคนหนึ่งพิงกำแพงอยู่
นั่นคือเดเมียน ผู้รักษาที่มีผมสีน้ำตาลหยิกที่ยามนี้กำลังมองออกไปในระยะไกลด้วยสายตาเปล่า แว่นตาของเขาได้หักลงไปแล้ว เขาจึงถือมันไว้ในมือของเขา
"เดเมียน”
พอข้าเรียกชื่อเขา เขาก็ค่อยๆ หันหน้ามาหาข้า
“ฝ่าบาท ท่านฟื้นแล้ว”
"ตาของเจ้าเป็นยังไง?”
เขามีเลือดออกเมื่อเขาใช้ตาพันลี้มากเกินไป ดังนั้นข้าจึงกังวลว่าเขาอาจมีปัญหากับการมองเห็นของเขา
เดเมียนยิ้มเบาๆ ด้วยใบหน้าขาวซีด
"มันไม่เป็นไรแล้วขอรับ เมื่อวันก่อนเริ่มเห็นเพิ่มอีกนิดหน่อย ตอนนี้ข้าจึงสามารถเห็นสิ่งต่างๆ ได้ตามปกติ”
เขาออกเดินทางทั่วที่นี่โดยใช้เวทย์ฟื้นฟูคอยรักษาผู้อื่น ทั้งที่เขามองไม่เห็นด้วยซ้ำ
ขณะที่ข้ามองดูใบหน้าซีดเซียวและอ่อนเยาว์ของเดเมียน ข้าก็รู้สึกเสียใจแทนเขาจึงได้กล่าวว่า
"เดเมียน ที่แผนในครั้งนี้สำเร็จมาได้ด้วยดี ก็ต้องขอบคุณทางเจ้าเลยนะ"
“......”
"หากเจ้าต้องการ ข้าพร้อมจะตบรางวัลให้อย่างงามจนนานพอสามารถนอนตีพุงใช้ชีวิตได้จนวันตาย เจ้าเองก็จะไม่ต้องมายังสนามรบเหมือนในครั้งนี้อีกด้วย ในเมื่อทางเจ้ามีฐานะเป็นทหารรับจ้าง ก็เชิญทำตามที่เจ้าต้องการได้ตามสบายเลย"
"ฝ่าบาท"
ทว่าเดเมียนกลับส่ายศีรษะเล็กน้อย
"เมื่อยามนั้นฝ่าบาทได้บอกกับข้าเอาไว้ว่าข้าเป็นพลยิงของฝ่าบาท"
“......”
"ข้าเลย...อยากจะรู้"
เดเมียนมองออกไปนอกกำแพงอีกครั้ง
"ว่าพวกสัตว์ประหลาดนั่นมันมาจากไหนกัน...! แล้วมันผู้ใดเป็นคนสร้างพวกมันขึ้นมาแล้วสร้างพวกมันทำไม? แล้วทำไมแวนถึงต้องตายด้วย?"
“......”
"เพราะงั้นได้โปรดเถอะ ให้ข้าได้คอยติดตามแผ่นหลังของฝ่าบาทไปด้วยเถอะขอรับ...!"
ข้ายิ้มออกมาอย่างขมขื่น
"ก็ได้ งั้นจากนี้ไปเจ้าก็คอยติดตามข้าให้ดีก็แล้วกัน เช่นนั้นเรามาแสดงความเคารพให้กับผู้ตาย พวกเรายังต้องมีนักบวชเช่นเจ้าอยู่พอดี"
เดเมียนตามเรามาขณะที่เรามุ่งหน้าไปยังที่ราบทางเหนือ
* * *
ที่ราบทางตอนเหนือของฐานหลัก
ศพถูกจัดเรียงเรียงกันเป็นแถวนับไม่ถ้วน
ผู้ที่พวกเขาพอจะรวบรวมมาได้ก็เอามาวางเรียงที่นี่ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่เหลือกระทั่งศพด้วยซ้ำ
พวกเราจุดไฟให้พวกเขา
ไฟศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาจากวิหารของครอสโรสได้ลุกโชนอยู่ตรงกลางของที่ว่างเปล่า โดยมีเพลิงจากถ่านสีฟ้า
ข้ามองเข้าไปในเปลวไฟอย่างเงียบงัน เปลวเพลิงเริงระบำราวกับถูกครอบงำด้วยความแค้นของผู้ตาย
“......”
ข้ารู้ดี
ว่ามันไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่านี้ ไม่มีแผนไหนที่จะรัดกุมยิ่งกว่านี้ การเอาแต่คิดว่า 'ถ้าหาก' กับเรื่องในอดีตมันก็โง่เสียยิ่งกว่าโง่
ข้าได้คิดวางแผนและเลือกตัดสินใจเอามาใช้แล้ว ซึ่งนี่ก็คือผลลัพธ์ของแผนที่ว่านั่น
ถ้างั้นข้าก็มีแต่ต้องทำใจอยู่กับมัน
ข้ามีแต่ต้องแบกรับมันเอาไว้บนบ่าแล้วก้าวต่อไปข้างหน้าต่อไป
"พอพิธีศพตามธรรมเนียมเสร็จแล้ว ไปเก็บรวบรวมร่างของพวกเขามาแล้วเคลื่อนย้ายไปซะ"
"อะไรนะขอรับ?”
ลูคัสเบิกตากว้างหลังจากได้ยินสิ่งที่ข้าพูด
“เราจะไม่ทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่เหรอขอรับ?”
ใน 'ครอสโรส' มีผู้เสียชีวิตนับพันรายเกิดขึ้นทุกปี
งานศพมีราคาแพงกว่าชีวิตของคนบนโลกนี้ ชีวิตราคาถูกได้มุ่งหน้าสู่ด้านหน้ากับสัตว์ประหลาดที่นี่ และตายไปไปเพื่อแลกกับการป้องกันรักษด่านหน้านี้เอาไว้
หากมีการสร้างของเช่นสุสานภายในเมือง มันคงจะมีจำนวนหลุมศพมากมายนับไม่ถ้วนทอดยาวออกไป
ในโลกนี้ ความตายมีดาษดื่นทั่วไปมากกว่าดอกไม้ป่าเสียอีก
แต่ข้าวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้
"ทางครอสโรดเองก็มีทุ่งว่างเหลืออยู่ เอาพวกเขาไปฝังไว้ที่นั่นก็แล้วกัน"
ข้าสั่งให้สร้างสุสานในทุ่งทางด้านตะวันตกเป็นอนุสรณ์สถานเอาไว้แล้ว
"แล้วทุกๆ ปีในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์...พวกเราจะกำหนดให้มันเป็นวันระลึกถึงผู้ที่เสียสละ"
ไม่ใช่แค่คนพวกนี้ที่เสียสละในสงครามครั้งนี้
แต่เพื่อตัวละครทุกคนที่ข้าได้ฆ่าไปโดยไม่มีความสำนึกผิดระหว่างการเล่นหลายร้อยครั้ง นี่ถือเป็นการไถ่บาปของข้า
ลูคัสกลืนสิ่งที่เขากำลังจะพูดและพยักหน้าเล็กน้อย
"ข้าจะทำตามคำสั่งของท่านฝ่าบาท”
หลังจากนั้นไม่นาน พิธีศพแบบเล็กๆ ก็ถูกจัดขึ้น
บาทหลวงของพระวิหารได้ประพรมน้ำศพศพและอวยพรชีวิตหลังความตาย
ถึงแม้งานศพจะไม่เป็นทางการ แต่งานศพก็ใช้เวลามาก เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ข้าเฝ้าดูทุกช่วงเวลาของพิธีโดยไม่คิดหนีไป
“ลูคัส!”
เมื่อพิธีศพจบลงก็เป็นเวลากลางคืน พระจันทร์ที่กำลังขึ้นได้ส่องแสงอันหนาวเหน็บลงมาเบื้องล่าง
"ข้าจะไม่พลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน"
กลิ่นอายแห่งความตายได้แผ่ความเย็นออกมา ที่นี่กระทั่งความร้อนจากเปลวเพลิงก็ไม่สามารถหยุดมันได้
ข้าตัวสั่นและพิงหลังลูคัสพร้อมกับกัดฟันกรอด
"ข้าจะไม่ยอมล้มเหลวอีกครั้งเด็ดขาด"
“......”
ลูคัสปิดปากและฟังสิ่งที่ข้าจะพูด
"กลับกันเถอะ”
การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว แต่สงครามเพิ่งเริ่มต้น
หลังจากมองเห็นทหารที่ข้าทิ้งให้ตายในสายตาของข้า ข้าก็พูดออกมา
"กลับไปยังครอสโรด"
[ด่าน 0 เคลียร์!]
[MVP ในด่าน - เดเมียน (N)]
[ตัวละครเลเวลอัพ]
- แอช (EX) เลเวล.5 (↑4) (ผู้เล่นสามารถเลือกอาชีพได้แล้ว!)
- ลูคัส(SSR) เลเวล.27 (↑2)
- ลิลลี่ (R) เลเวล.17 (↑2)
- เดเมียน (N) เลเวล .15 (↑5)
[ตัวละครที่ตายหรือได้รับบาดเจ็บ]
- เคน (N): เสียชีวิต
- ลิลลี่ (R): บาดเจ็บสาหัส
[ไอเทมที่ได้รับ] - อัญมณีเวทมนตร์แห่งกองทัพแมงมุมทมิฬ: 388
- แกนเวทมนตร์ของราชินีแมงมุมทมิฬ (SSR): 1
[ รางวัลถูกส่งไปแล้ว กรุณาตรวจสอบสินค้าในคลังของผู้เล่น]
- กล่องรางวัลระดับ EX: 1
>> เตรียมพร้อมสำหรับด่านต่อไป
>> [ด่าน 1: เมืองแห่งหลุมฝังศพ]