ตอนที่ 540 134 วินาที
ตอนที่ 540 134 วินาที
“ไม่ต้องห่วงครับ หลังการแข่งขันครั้งนี้เขาได้ตายแน่ ๆ และเขาจะตายอย่างอเนจอนาถที่สุดด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างสบาย ๆ
คำตอบของเซี่ยเฟยทำให้หยูฮัวชะงักไปเล็กน้อย เพราะเขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แต่เมื่อดูจากท่าทางความมั่นใจของเซี่ยเฟยแล้วสิ่งที่เขาพูดมาเมื่อสักครู่นี้ก็มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเรื่องจริง
“เซี่ยเฟยเป็นนักปรุงยาด้วยงั้นเหรอ?” หยูฮัวแอบคิดกับตัวเองภายในใจ
นักปรุงยาเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในดินแดนของผู้ใช้กฎ แต่อย่างน้อยอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพเดียวที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของนักสู้ได้
ในระหว่างการฝึกฝนกฎนักสู้มักที่จะได้รับอาการบาดเจ็บในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 เช่นเดียวกัน และถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บเหล่านั้นจะไม่ได้ร้ายแรงเหมือนกับความเสียหายในสมองของเซี่ยเฟย แต่ความเสียหายเพียงแค่เล็กน้อยมันก็ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของนักรบด้วยเหมือนกัน
ท้ายที่สุดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ก็ไม่ใช่อวัยวะทั่ว ๆ ไป และเมื่อไหร่ก็ตามที่มันได้รับความเสียหายมันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำการรักษา
หากนักปรุงยาคนไหนสามารถซ่อมแซมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของนักสู้ได้ นักปรุงยาคนนั้นก็จะกลายเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องในดินแดนของผู้ใช้กฎในทันที แต่ถึงกระนั้นสถานะของพวกเขาก็ยังคงด้อยกว่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการกลั่นพลังงานอยู่ดี
ในที่สุดหยูฉางเก่อกับหยูโหย่วตู้ก็เดินเข้ามาในลานประลอง
ตระกูลหยูมีผู้อาวุโสอยู่ทั้งหมด 9 คนและมีหยูเจียงทำหน้าที่เป็นผู้นำของตระกูล หยูฉางเก่อคนนี้จึงเป็นผู้ที่มีสถานะในตระกูลสูงมาก และเขาก็มีอำนาจในตระกูลด้อยกว่าคนเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
“การแข่งขันครั้งนี้ง่ายมาก ทั้งสองคนจะต้องทำการปรุงน้ำยาซ่อมแซมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ขึ้นมา และถ้าหากว่าใครสามารถรักษาหยูเหลียนคนนั้นได้ คนคนนั้นก็จะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ”
“ข้อพิพาทระหว่างพวกคุณทั้งสองคนเริ่มต้นขึ้นมาจากการทะเลาะกันเรื่องสูตรน้ำยารักษาพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ดังนั้นการใช้น้ำยาชนิดนี้มาเป็นตัวแปรในการแข่งขันจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหม?” หยูฉางเก่อกล่าวถาม
หยูโหย่วตู้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะกฎการแข่งขันเป็นเรื่องที่เขาพูดคุยกับหยูฉางเก่อมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องคัดค้าน
“ในฐานะผู้ปรุงยาพวกเราควรจะตรวจสอบน้ำยาของตัวเองก่อนถึงจะให้คนไข้ดื่ม ดังนั้นผมขอเสนอว่าพวกเราควรพิสูจน์ก่อนว่าน้ำยาที่พวกเราปรุงขึ้นมาไม่มีพิษ จากนั้นเราค่อยเอาน้ำยาไปให้คนไข้ของเราดื่มทีหลัง” เซี่ยเฟยกล่าวเสนอเพิ่มเงื่อนไขในการแข่งขันเข้าไปเล็กน้อย
คำพูดของชายหนุ่มคนนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เพราะถ้าหากว่าน้ำยามีปัญหาจริง ๆ ผู้ปรุงน้ำยาก็จะเป็นคนตายก่อนเป็นคนแรก
“ตราบใดก็ตามที่แกใช้หญ้าซูดานเป็นวัตถุดิบเหมือนกับที่แกได้ประกาศเอาไว้ ฉันสาบานได้เลยว่าวันนี้แกไม่มีชีวิตอยู่เหลือดูพระจันทร์ขึ้นแน่ ๆ” หยูโหย่วตู้กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
เขามีความมั่นใจในสูตรน้ำยาของตัวเองมากและเขาก็ยอมรับเงื่อนไขที่เซี่ยเฟยเสนอขึ้นมาแต่โดยดี
“ทำไมต้องรอดูพระจันทร์ขึ้นด้วย ถ้าคุณใช้สูตรที่ตัวเองบอกไว้ผมก็แน่ใจว่าคุณจะตายภายใน 3 นาทีด้วยซ้ำ” เซี่ยเฟยกล่าว
ต่างฝ่ายต่างก็พูดขึ้นมาอย่างตั้งใจ และทั้งสองฝ่ายต่างก็คิดว่าสูตรน้ำยาของฝ่ายตรงข้ามจะเป็นยาพิษที่จะฆ่าพวกเขาด้วยตัวเอง
—
เมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยกับหยูโหย่วตู้พูดจาปะทะฝีปากกัน ทุกคนต่างก็คิดว่ามันน่าจะมีเรื่องสำคัญซ่อนอยู่เบื้องหลังการแข่งขันในครั้งนี้
เมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นทั้งเซี่ยเฟยและหยูโหย่วตู้ต่างก็รีบเข้ามาตรวจสอบหยูเหลียน ผู้ซึ่งพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ได้รับอาการบาดเจ็บเสียก่อน ซึ่งอาการบาดเจ็บของนักสู้คนนี้ไม่ได้ร้ายแรงนักเป็นเพียงแค่อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในระหว่างการฝึกฝนเท่านั้น แล้วมันก็เป็นอาการบาดเจ็บที่สามารถรักษาให้หายขาดได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็กลับไปปรุงน้ำยาตามสูตรของตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่การสกัดสมุนไพรให้บริสุทธิ์, การตวงวัดและการนำสมุนไพรแต่ละชนิดมาผสมเข้าด้วยกัน ซึ่งทุก ๆ กระบวนการชายหนุ่มสามารถจัดการได้อย่างลื่นไหลไม่เหมือนมือใหม่ที่เพิ่งหัดทำน้ำยาได้เพียงแค่ไม่นาน
การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มเริ่มทำให้หยูโหย่วตู้รู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะเซี่ยเฟยที่ไม่มีป้ายรับรองนักปรุงยากลับมีความชำนาญมากกว่านักปรุงยาที่มีป้ายรับรองหลาย ๆ คนเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้นชายชรายังไม่เคยปรุงยาที่มีเอาไว้สำหรับการซ่อมแซมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 มาก่อน เพราะถ้าหากว่าเขามีฝีมือมากขนาดนี้เขาคงจะโด่งดังไปตั้งนานแล้ว สูตรน้ำยาที่เขาทำมาใช้จึงเป็นเพียงแค่สูตรน้ำยาที่เกิดขึ้นในระหว่างบทสนทนายามว่างของเขาเท่านั้น
แต่ในกรณีของเซี่ยเฟยนั้นแตกต่างออกไป ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็เคยลองปรุงน้ำยาเพื่อทดลองฟื้นฟูสมองของเขามาแล้วเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน เขาจึงมีความเชี่ยวชาญในการปรุงน้ำยาทุกประเภท เพราะเขาเคยทดลองปรุงยาลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว
ในสายตาของคนโดยทั่วไปเซี่ยเฟยดูคล้ายกับเป็นนักปรุงยามืออาชีพมากกว่าหยูโหย่วตู้ด้วยซ้ำ มันจึงทำให้ชายชราค่อนข้างที่จะรู้สึกอับอายอยู่เล็กน้อย
“ฉันไม่นึกเลยว่าแมลงสาบตัวนี้จะปรุงน้ำยาได้ด้วย” หยูชิชิกล่าวขึ้นมาขณะที่เธอยืนกอดอกรับชมการแข่งขันท่ามกลางฝูงชน
เมื่อสังเกตเห็นเด็กสาวหยูฮัวก็ยื่นมือออกไปกวักมือเรียกให้หลานสาวมานั่งลงข้าง ๆ หยูชิชิจึงเดินผ่านฝูงชนไปหาหยูฮัวอย่างมีความสุข
“ว่าไงชิชิ? เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ดูเหมือนว่าเธอจะสวยขึ้นกว่าเดิมเสียอีก” หยูฮัวกล่าวทักทาย
“นั่นมันก็เรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่คุณลุงคิดว่าเซี่ยเฟยจะตายเพราะกินน้ำยาของตัวเองหรือเปล่า?” หยูชิชิกล่าวถาม
“อะไรกันนี่เธออยากให้เซี่ยเฟยตายจริง ๆ งั้นเหรอ?”
“ใช่ค่ะ เจ้าแมลงสาบตัวนั้นมันน่ารำคาญมาก หนูแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นมันดิ้นตายกระแด่ว ๆ” หยูชิชิกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
“แต่ฉันคิดว่าเขาคงจะไม่ตายง่าย ๆ หรอกนะ” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมล่ะคะ? เขาไม่ใช่นักปรุงยาไม่ใช่เหรอแล้วน้ำยาที่เขาปรุงขึ้นมาจะไม่ใช่ยาพิษได้ยังไง?” หยูชิชิกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
“เราจะมองทุกอย่างแค่ผิวเผินไม่ได้ แม้ว่าหยูโหย่วตู้จะได้ป้ายรับรองการเป็นนักปรุงยา แต่เธอก็น่าจะเห็นว่าเขาประหม่าและขาดความมั่นใจมากแค่ไหน ในทางกลับกันแม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่มีป้ายรับรองการเป็นนักปรุงยา แต่เขากลับเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและสีหน้าของเขาก็มีความมั่นใจที่สูงมาก”
“ถ้านักปรุงยาไม่มีความมั่นใจในน้ำยาที่ตัวเองกำลังปรุง แล้วพวกเขาจะทำให้ผู้ป่วยเชื่อถือในน้ำยาที่พวกเขากำลังปรุงอยู่ได้ยังไง” หยูฮัวกล่าว
“แต่หนูไม่ชอบเซี่ยเฟย! เขาคนนั้นกล้าที่จะไม่สนใจหนู” หยูชิชิกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้นเซี่ยเฟยก็ได้เตรียมน้ำยาของเขาจนเสร็จ เขาจึงนำขวดของเหลวสีเหลืองอ่อน 2 ขวดขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็กระดกของเหลวขวดหนึ่งเข้าไปในท้องโดยไม่ลังเล
นี่คือความมั่นใจ!
เซี่ยเฟยเชื่อว่าน้ำยาที่เขาปรุงขึ้นมาย่อมไม่มีปัญหาใด ๆ ดังนั้นเขาจึงสามารถดื่มน้ำยาเข้าไปได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลังจากที่เขาดื่มน้ำยาลงไปแล้วเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งรออยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ
ในที่สุดแรงกดดันทั้งหมดก็ถูกโยนไปทางฝั่งของหยูโหย่วตู้ เพราะเซี่ยเฟยได้พิสูจน์แล้วว่าสูตรน้ำยาของตัวเองไม่มีปัญหา ทุกคนจึงตั้งตารอดูว่าสูตรน้ำยาของชายชราจะให้ผลลัพธ์ยังไง
เมื่อเวลาผ่านไปชายชราก็เทน้ำยาลงไปในขวดแก้วใส 2 ขวด แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงสามารถนำหญ้าซูดานมาปรุงน้ำยาได้โดยไม่มีปัญหา หรือมันอาจจะเป็นเพราะว่าเขาเข้าใจผิดในเรื่องนี้จริง ๆ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าชายชราจะเตรียมน้ำยาจนเสร็จแล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะยกน้ำยาของตัวเองดื่มลงไป เหล่าบรรดาฝูงชนที่มารอรับชมความตื่นเต้นจึงเริ่มส่งเสียงคัดค้านขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“เป็นอะไรไม่มั่นใจหรือยังไง?!”
“ดื่มมันเข้าไปสิ! นั่นมันยาที่คุณปรุงขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอ?”
“หรือว่าคุณคิดว่าน้ำยาของตัวเองเป็นยาพิษ คุณเลยไม่กล้าดื่มมันลงไปแบบนี้?”
เสียงกดดันจากผู้ชมเริ่มทำให้ใบหน้าของหยูโหย่วตู้ซีดเซียวลงเรื่อย ๆ และเขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะจัดการกับสถานการณ์ในปัจจุบันยังไงดี
“ช่างมันเถอะ” ผู้อาวุโสหยูฉางเก่อกล่าวขึ้นมาอย่างฉับพลันเพื่อพยายามแก้ไขสถานการณ์ เพราะเขากับหยูโหย่วตู้เป็นญาติห่าง ๆ กัน และแม้แต่คนโง่ก็ยังมองเห็นว่าชายชราคนนี้ไม่มั่นใจในน้ำยาของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้หยูโหย่วตู้ยอมแพ้ในการแข่งขันครั้งนี้ลงไปซะ
“นี่น่ะเหรอนักปรุงยาที่ได้รับป้ายรับรอง ที่แท้ป้ายพวกนั้นมันก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออะไรเลย!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
กรึ๊บ!
ในที่สุดหยูโหย่วตู้ก็ทนรับแรงกดดันไม่ไหว เขาจึงดื่มน้ำยาของตัวเองลงไปภายในท้อง
เมื่อเห็นอีกฝ่ายดื่มน้ำยาของตัวเองลงไปแล้ว เซี่ยเฟยก็ลุกยืนขึ้นและเดินจากไปโดยไม่คิดที่จะรอชมผลลัพธ์ของการแข่งขัน
“นั่นนายจะไปไหน? รอผลการแข่งขันก่อนสิ” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ผมว่าเตรียมจัดงานศพให้เขาดีกว่า เขาเหลือเวลาอีก 134 วินาที” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
จากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกไปอย่างสง่างามทิ้งฝูงชนที่กำลังรู้สึกตกตะลึง ทันใดนั้นมันก็มีคนหยิบนาฬิกาขึ้นมาจับเวลา พร้อมกับจ้องมองไปยังหยูโหย่วตู้ว่าจะตายตามเวลาที่เซี่ยเฟยได้ทำนายเอาไว้หรือเปล่า
10, 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3, 2, 1
เมื่อเวลานับถอยหลังจนถึงศูนย์ หยูโหย่วตู้ก็ตาเหลือกล้มลงกับพื้นภายในปากของเขาพ่นฟองสีขาวออกมาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับร่างกายที่กำลังชักกระตุกอย่างรุนแรง
“นั่นเขาตายแล้วใช่ไหม?!”
“สิ่งที่เซี่ยเฟยบอกทุกอย่างเป็นความจริงหมดเลย”
“หรือว่านักปรุงยาที่แท้จริงคือเซี่ยเฟยไม่ใช่หยูโหย่วตู้”
เหล่าฝูงชนต่างก็เริ่มวิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างสนอกสนใจโดยไม่มีใครสนใจความตายของหยูโหย่วตู้เลย เพราะในสายตาของทุกคนชายชราคือผู้แพ้ และผู้แพ้ในดินแดนของผู้ใช้กฎก็ไม่ควรที่จะได้รับความสงสารใด ๆ
“ทำไมเขาถึงทำนายความตายของคนอื่นได้เป๊ะ ๆ แบบนี้ นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่า?” หยูชิชิมองไปทางหยูฮัวพร้อมกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
หยูฮัวขมวดคิ้วพร้อมกับเล่นขวดยาภายในมือ ซึ่งแต่เดิมเขาได้เตรียมมันเอาไว้ในกรณีที่เซี่ยเฟยจะได้รับอันตราย แต่เนื่องจากว่าชายหนุ่มยังคงมีชีวิตอยู่ดียาขวดนี้จึงไม่จำเป็นสำหรับชายหนุ่มอีกต่อไป
“เปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ได้ 100%, สามารถทำพันธสัญญากับมารขาว ตอนนี้เขามีความสามารถแม้กระทั่งเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจ เซี่ยเฟยคนนี้จะน่าสนใจมากจนเกินไปแล้ว” หยูฮัวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสนใจเรื่องที่เซี่ยเฟยสามารถทำนายเวลาความตายของหยูโหย่วตู้ได้อย่างแม่นยำ มันก็ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นชายคนหนึ่งที่แทรกตัวเข้าไปท่ามกลางฝูงชนอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็หยิบน้ำยาขวดสีเหลืองที่เซี่ยเฟยได้ทิ้งเอาไว้และปลีกตัวออกไปอย่างไร้ร่องรอย
—
การแข่งขันเมื่อสักครู่นี้ไม่สามารถสร้างแรงกดดันให้กับเซี่ยเฟยได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะท้ายที่สุดเขาก็มีอันธคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจเรื่องการปรุงน้ำยามากนัก แต่เนื่องจากว่าในก่อนหน้านี้เขาต้องคอยปรุงยาเพื่อเพิ่มระดับพลังให้กับตัวเอง เขาจึงได้รับอานิสงส์พอจะมีความรู้เรื่องการปรุงยาติดตัวมาบ้าง
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือการพยายามเรียนรู้กฎแห่งการกลั่นพลังงานให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะท้ายที่สุดพลังงานในดินแดนของผู้ใช้กฎก็คือเงิน และเมื่อเขามีเงินเขาก็จะสามารถพัฒนาความสามารถของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะทำอะไรในดินแดนของผู้ใช้กฎต่างก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะประสบความสำเร็จในดินแดนแห่งนี้ ขั้นแรกเขาก็จำเป็นจะต้องหาวิธีการผลิตเงินเป็นจำนวนมากให้ได้เสียก่อน
เมื่อกลับเข้ามาภายในห้องชายหนุ่มก็ทำการเทสมุนไพรที่เตรียมเอาไว้ลงไปในอ่างอาบน้ำ
“โอ้พระเจ้า! คริสตัลขาว 165 ก้อนน่าจะเอาไปซื้อกาแล็กซีในพันธมิตรได้ทั้งกาแล็กซีด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะเอาเงินจำนวนนั้นมาอาบน้ำ” เซี่ยเฟยเยาะเย้ยตัวเองขึ้นมาเบา ๆ เมื่อเขาต้องลงไปแช่ในอ่างสมุนไพรที่มีมูลค่า 165 คริสตัลขาว
“เมื่อไหร่ก็ตามที่นายกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลั่นพลังงาน ตอนนั้นนายก็จะหาทุนคืนได้เองนั่นแหละ อย่ามัวพูดมากรีบฝึกต่อไปได้แล้ว” อันธกล่าวอย่างเฉยเมย
เมื่อชายหนุ่มเทสมุนไพรทุกชนิดลงไป น้ำสะอาดที่เคยเป็นสีใส ๆ กลับเปลี่ยนเป็นสีฟ้าราวกับท้องฟ้าอันสดใส
เซี่ยเฟยลองยื่นมือออกไปจุ่มน้ำดูแล้วเขาก็ได้พบว่าอุณหภูมิของน้ำไม่ได้ให้ความรู้สึกเย็นอย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้ ซึ่งในความเป็นจริงมันค่อนข้างจะอุ่นเลยด้วยซ้ำ
จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มถอดเสื้อผ้าลงไปแช่ตัว ซึ่งอุณหภูมิของน้ำค่อนข้างที่จะพอดีมาก มันจึงทำให้เขาค่อนข้างที่จะรู้สึกสบายตัว
“เริ่มฝึกได้แล้ว เดี๋ยวนายก็จะเข้าใจเองว่าสมุนไพรพวกนี้คุ้มค่ากับเงินที่นายลงทุนไป” อันธกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเริ่มถักทอเส้นใยพลังงานเป็นอักขระของกฎแห่งการกลั่นพลังงานในพื้นที่สมองส่วนที่ 7
****************
จบแล้วสำหรับกลุ่ม VIP6 [451-540] สำหรับใครที่สนใจเข้ากลุ่มสามารถติดต่อได้ที่ เพจสนพ.เซียนอ่าน ได้เลยนะคะ โดยทางกลุ่ม VIP จะค่าปลดตอนถูกกว่าทางหน้าเว็บแต่อัปตอนพร้อมกันน๊า