ตอนที่แล้วบทที่ 564: ความจริงก็คือ...
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 566: ความสามารถของหมอผีทำให้เหล่าภูตตกใจ

บทที่ 565: เด็กที่ถูกเผา


หยินชางกำหมัดแน่น พร้อมกับกลั้นหายใจและจ้องมองหยินเสวี่ยครู่หนึ่ง

คราวนี้หลงหลิงเอ๋อไม่ได้สอดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อดูต้นทางต่ออีก นางหันกลับมาเงี่ยหูฟังบทสนทนาของพวกเขา พลางจดจ่อรอคอยฟังคำพูดต่อไปของคนที่เห็นภาพหลอน

จังหวะที่ทั้งคู่กำลังจะได้ยินความจริงจากปากหยินเสวี่ย…

โครม!!

จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากระยะไกล เสียงนั้นมันฟังดูคล้ายกับบ้านถล่ม

ทางด้านหยินเสวี่ยตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่แล้ว พอนางได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมาแบบกะทันหัน นางจึงกรีดร้องเสียงดังก่อนจะกุมหัวตัวเองเอาไว้และซ่อนอยู่ข้างหลังสามีคนหนึ่ง

หญิงสาวลืมตัวไปชั่วขณะว่ากำลังจะพูดอะไรเมื่อกี้นี้

“ท่าน...” หยินชางขมวดคิ้วมุ่น

ในตอนที่เขากำลังจะถามคำถามต่อไป เขาก็เห็นแสงไฟสีแดงครอบคลุมครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า แล้วก็มีไฟพุ่งขึ้นตามมา ซึ่งทิศทางนั้นมันมาจากทางที่มีภูตอาศัยอยู่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลงหลิงเอ๋อกับหยินชางรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาในทันใด

แถมบ้านของพวกเขาก็อยู่ในทิศทางนั้นด้วย!

หรือว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้าน?

“แม่หมอ! แม่หมอ!”

ในขณะเดียวกัน ภูตที่มีสีหน้าวิตกกังวลได้วิ่งเข้ามาข้างหลังพวกเขาทั้ง 2

“ท่านลุง ที่นั่นเกิดอะไรขึ้น?” หลงหลิงเอ๋อถามอย่างเป็นห่วง

เด็กหญิงจำได้ทันทีว่าคนคนนี้เป็นลูกน้องของท่านตาหลิน

“มีไฟไหม้ในเผ่า ไฟลุกลามเร็วมาก ตอนนี้มีภูตหลายคนกำลังไปดับไฟแล้วบังเอิญถูกไฟคลอก แม่หมอได้โปรดไปช่วยพวกเขาด้วย...” ขณะที่ภูตชายกำลังอธิบายสถานการณ์ หลงหลิงเอ๋อก็สังเกตเห็นว่า แสงจากไฟที่อยู่ห่างไกลค่อย ๆ ลดลง นางจึงสันนิษฐานว่ามีภูตกำลังดิ้นรนดับไฟกันอยู่

นางพยักหน้าเข้าใจแล้วถามต่อไปว่า “ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”

“ไม่” ภูตที่มาขอความช่วยเหลือส่ายหัวอย่างเร่งรีบ

หลงหลิงเอ๋อที่ได้รับคำตอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ข้าจะไปช่วยทุกคนกับท่านเอง”

เดิมทีนางต้องการออกไปกับเขาก่อนเพื่อซื้อเวลาให้กับหยินชาง แต่อีกฝ่ายกลับหันไปมองพวกหยินเสวี่ยที่กำลังเบียดตัวเข้าหากันด้วยสีหน้าสงสัย

“แม่หมอ แล้ว 3 คนนี้คือ...?”

ภูตชายสังเกตเห็นว่าท่าทางของพวกเขาดูผิดปกติมาก

“พวกเขาป่วยน่ะ ท่านลุง เรารีบไปช่วยคนกันเถอะ บาดแผลที่เกิดจากไฟไหม้จะต้องรีบรักษาให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้สึกเจ็บปวดมาก” หลงหลิงเอ๋อคว้าแขนเสื้อของเขาแล้วดึงออกไปทันที

การที่ชายคนนี้รีบมาขอความช่วยเหลือจากนาง นั่นหมายความว่าบาดแผลของคนที่ไปดับไฟจะต้องไม่ใช่เล็กน้อยแน่นอน

ผู้บาดเจ็บจะต้องอยู่ในสภาพที่เลวร้ายพอสมควร

เมื่อภูตที่มาหาหมอผีได้ยินเช่นนี้ เขาก็คิดถึงคนที่กำลังจะตาย เขาจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะกลายร่างเป็นสัตว์ให้เด็กหญิงขึ้นขี่ จากนั้นเขาก็วิ่งไปยังทิศทางที่มีเปลวไฟลุกโหมกระหน่ำ

หยินชางรู้ว่าหลงหลิงเอ๋อจงใจล่อคนอื่นออกไปเพื่อให้ตัวเองมีโอกาสได้ซักถามหยินเสวี่ย

ครู่ถัดมา เขาเดินไปหาอีกฝ่ายและกำลังจะเอ่ยปากถามต่อ

แต่ปัจจุบันหญิงสาวถูกเหตุการณ์อย่างอื่นทำให้ตื่นตระหนก นางเลยกุมศีรษะของตัวเองแน่นขึ้นขณะกรีดร้องไม่หยุด

ส่วนภูตชายอีก 2 คนที่เป็นสามีของนางก็พยายามมุดหัวลงไปในดิน พร้อมกับมีเสียงกรีดร้องฟังไม่ได้ศัพท์ดังออกมาเรื่อย ๆ เหมือนกัน

หยินชางขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้า เขารู้แล้วว่าตอนนี้เขาคงไม่สามารถถามอะไรจากปากคนทั้ง 3 ได้อีก

นั่นทำให้หัวใจของเด็กหนุ่มกระตุกวูบด้วยความผิดหวัง

ถัดมา เขาหันหน้าไปมองตามทิศทางที่หลงหลิงเอ๋อและคนของเผ่าวิ่งไป ก่อนจะหันมามองหยินเสวี่ยที่กำลังเสียสติไปแล้ว

ยามนี้ดวงตาของเขาขุ่นมัว ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจวิ่งตามเด็กหญิงไป

...

ปัจจุบันไฟกำลังลุกไหม้อยู่ไม่ห่างจากบ้านของหูเจียวเจียว ด้วยความกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกลูก ๆ เธอจึงออกไปตรวจสอบสถานการณ์พร้อมกับหลงโม่

ทันทีที่ทั้งคู่ไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็เห็นภูตหลายคนถูกเผาจนไหม้เกรียม

แล้วรอบ ๆ นั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมุงอยู่ ในขณะที่มีบางคนถูกไฟคลอกเป็นแผลฉกรรจ์

ฝูงชนกำลังพากันทอดถอนหายใจโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เปลวไฟอีก

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีหลายคนที่กระตือรือร้นอยากจะเข้าไปช่วยคนอื่น

ปัจจุบันไฟจวนจะมอดดับลงแล้ว มีเพียงเปลวไฟเล็ก ๆ บางจุดเท่านั้นที่ยังคงดื้อด้านไม่ยอมดับสนิท

เนื่องจากบริเวณนี้มีบ้านหลายหลังถูกสร้างขึ้นติด ๆ กัน บ้านที่อยู่โดยรอบต้นเพลิง 7-8 หลังเลยถูกไฟลุกลาม ด้วยสภาพอากาศร้อนระอุเช่นนี้ พวกภูตจะกองฟืนจำนวนมากเอาไว้ที่บ้าน มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไฟลุกไหม้รุนแรงมากกว่าเดิม

จากเหตุการณ์อันน่าสลดใจ เถ้าสีดำก็ถูกลมพัดลอยฟุ้งไปในอากาศ

ขณะนั้นหลงโม่ยกมือขึ้นลูบหัวหูเจียวเจียวเบา ๆ 2-3 ครั้ง แต่พอเห็นว่าการกระทำของตัวเองไม่ช่วยให้หัวของนางสะอาดขึ้นเลย เขาจึงหยิบเอาหนังสัตว์มาคลุมศีรษะอีกฝ่าย แล้วเขาก็ไปยืนขวางอยู่ตรงหน้านางเพื่อกั้นขี้เถ้าบางส่วนเอาไว้

“แค่ก ๆ... เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ มันถึงเกิดไฟไหม้ล่ะ?”

“แค่ก ๆ... ดู… ดูเหมือนว่าภูตจะถูกเผาตายอยู่ข้างใน!”

“น่ากลัวมาก ลูกใครโดนเผาอยู่ข้างในนั่น!”

“พวกเขาถูกไฟคลอกตายทั้งเป็น เด็กพวกนี้น่าสงสารมาก ก่อนที่จะตายพวกเขาต้องทรมานมากแน่ ๆ...”

ภูตจำนวนมากกำลังสำลักควันจนไอกันไม่หยุด ในระหว่างที่หลายคนกำลังถอนหายใจ พวกเขาก็เห็นร่างที่ถูกไฟไหม้จนเปลี่ยนเป็นสีดำ 2-3 ร่างถูกยกออกมาจากในที่เกิดเหตุ

ทันใดนั้นทุกคนก็อ้าปากค้างด้วยความหวาดกลัว

พอหูเจียวเจียวได้ยินคนพูดว่ามีเด็กถูกไฟคลอกตาย เธอก็ตกใจแล้วรีบเบียดคนอื่นเข้าไปข้างใน

เมื่อหลงโม่เห็นเช่นนี้ เขาก็เข้าไปโอบเอวบางแล้วยกตัวนางขึ้นนั่งบนบ่า ก่อนจะเดินฝ่าวงล้อมของฝูงชน

ไม่กี่อึดใจต่อมา จิ้งจอกสาวก็เห็นศพที่ถูกหามออกมาข้างนอกได้อย่างชัดเจน

คนที่ถูกไฟคลอกตายเป็นเด็กอายุ 4-5 ขวบ 5 คน แต่สภาพของศพดำเป็นตอตะโกจนไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กคนไหนเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย หรือแม้กระทั่งการระบุรูปร่างลักษณะของพวกเขาว่าเป็นลูกของเธอหรือไม่

เด็กพวกนี้ถูกไฟไหม้จนเนื้อตัวกลายเป็นสีดำ แถมมีกลิ่นเนื้อไหม้โชยมาในอากาศ ซึ่งภาพที่ปรากฏมันดูน่าขนลุกมาก

ในขณะที่หูเจียวเจียวกำลังถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็หนักอึ้งขึ้น

คงไม่มีแม่คนไหนที่ทำใจได้หากต้องมาเจอลูกของตัวเองมีสภาพเป็นแบบนี้

แค่คิดจินตนาการว่าเด็กพวกนั้นเป็นลูกของตนเอง หญิงสาวก็แทบจะทำใจไม่ได้

ไม่นานก็มีผู้หญิง 2-3 คนรีบวิ่งออกมาจากฝูงชนแล้วทรุดตัวลงข้างศพเด็กพร้อมกับร้องไห้ระงม

“ลูกแม่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าถึงมีสภาพเป็นแบบนี้...”

“เจ้าคลาดสายตาแม่ไปเดี๋ยวเดียวเอง มันกลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไง…”

“ลูกแม่ เจ้าอย่าตายนะ ลืมตามามองแม่สิ ตื่นเถิด...”

ภูตหญิงหลายคนกอดศพลูกของตัวเองพลางร้องไห้น้ำตานองหน้า

ภาพอันน่าเศร้าสลดใจนี้ทำให้คนที่อยู่รอบข้างพากันเงียบลงโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นไม่นานก็มีภูตชายหลายคนที่ดูเหมือนจะเป็นคู่ของภูตหญิงเหล่านั้นวิ่งตามเข้ามา

เมื่อหญิงสาวทั้ง 3 เห็นคู่ของตน พวกนางก็หันไปโผเข้ากอดอีกฝ่ายพร้อมกับสะอื้นไห้แรงขึ้น

“ลูกของข้าถูกไฟคลอกตาย เจ้าทำอะไรอยู่ ทำไมเจ้าไม่ดูแลลูกให้ดี ๆ ลูกข้า ฮือๆๆ...”

1 ในคนเป็นแม่นั้นที่ต้องสูญเสียลูกสาวของตัวเองไป นางเป็นคนที่ร้องไห้หนักมากที่สุด

“ฮือออ!! ลูกของข้าเป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก นางไม่เคยวิ่งสะเปะสะปะไปไหน แต่วันนี้นางมาเล่นกับเด็กพวกนี้ที่นี่ได้ยังไง แล้วก็ต้องมาถูกไฟคลอกตายอีก!”

ระหว่างนั้นหลงโม่เห็นว่าหูเจียวเจียวกำลังยืนมองดูศพนิ่ง เขาคิดว่านางกำลังหวาดกลัว เขาจึงก้าวเข้าไปคว้ามือของภรรยาสาวมากุมเอาไว้พร้อมกับใช้ตัวของเขาบดบังภาพน่าสลดใจตรงหน้า

“ถ้าเจ้ารู้สึกกลัวก็กลับไปก่อนเถอะ ข้าจะไปหาหัวหน้าหลินเพื่อจัดการกับเรื่องนี้” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงนุ่มทุ้มฟังดูอ่อนโยน

ทว่าหญิงสาวส่ายหัว ในขณะที่ดวงตาของเธอไม่ได้ละไปจากซากศพเหล่านั้น

“ข้าไม่กลัว”

ยามนี้เธอไม่ได้รู้สึกกลัว แต่เธอกำลังสงสัยว่าทำไมรูปร่างศพของเด็กพวกนี้ถึงดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย

ต่อมา หูเจียวเจียวตัดสินใจขยับเข้าไปใกล้ร่างที่ไหม้เกรียมอีก 2-3 ก้าว เธอจ้องมองไปที่หัวของศพ ซึ่งใบหน้าทั้งหมดของเด็กถูกเผาจนไม่หลงเหลือเค้าเดิม ผิวหนังของพวกเขากลายเป็นสีดำสนิทไปหมดแล้ว ตอนนี้มันเหลือเพียงเนื้อแห้ง ๆ อยู่ติดกับกะโหลกศีรษะ

ไม่นานหญิงสาวก็นึกถึงตอนที่ตนพลิกดูตำราทางการแพทย์ในมิติ ในนั้นเธอได้เห็นภาพโครงสร้างกระดูกภูตด้วยตาของตัวเอง

แต่กะโหลกศีรษะของศพเด็กที่นอนอยู่บนพื้นมันดูไม่เหมือนกับกะโหลกศีรษะที่เธอเห็นในตำรา ราวกับว่า... มันถูกบางอย่างเจาะ

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: จังหวะอย่างกับละคร จะได้รู้อยู่แล้วเชียว บ้าจริง!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด