บทที่ 48: ทดลอง
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 48: ทดลอง
"..."
ในร้านขายของเก่า
ไรอันกัดฟันเพื่อหยุดใช้ [อักขระต้องสาป]
ในขณะที่ผนึกสีดำได้ไหลออกจากร่างกายของเขา มันค่อยๆ ถอยกลับเข้าไปในกายเนื้อของเขา ไรอันรู้สึกได้ความชั่วร้ายที่ค่อยๆ หายไปจากร่างกายของเขา เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
พลังของ [อักขระต้องสาป] นั้นแข็งแกร่งมาก
ไรอันรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น ทั้งความเร็วและพลังของคำสาปที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกายเขา หมัดของไรอันที่เสริมด้วยพลังของอักขระคำสาปนั้นแข็งแกร่งพอๆ กับการโจมตีด้วยด้วยขาเหล็กอันยิ่งใหญ่เต็มกำลัง อีกทั้งยังมีเรื่องความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาอีก
ทว่าพอเห็นอักขระสีดำที่คืบคลานออกมาจากแขน ไรอันก็ได้แต่ทำหน้าสิ้นหวัง
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมคำว่า 'ถูกทำลาย' จึงถูกเพิ่มเข้าไปในรายละเอียดของมัน ไม่เพียงเพราะบทบาทของ [มิซึกิ] เท่านั้น แต่วิชานี้ยังมีผลข้างเคียงอีกด้วย อาจกล่าวได้ว่ามัน 'พัง' ไปแล้ว
ดูเหมือนว่าพลังของ [อักขระต้องสาป] นี้คงจะต้องเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น
เมื่อนึกถึงความรู้สึกหนาวเย็นและชั่วร้ายที่มาพร้อมกับการใช้พลังของผนึก ไรอันก็รู้สึกกระอักกระอวนใจเป็นอย่างยิ่ง
'การไม่ใช้ความสามารถนี้คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด'
ยังไงไรอันก็มีโอกาสในการสุ่มการ์ดอีกมากมาย เขาไม่จำเป็นต้องมาหวังพึ่งการ์ดที่มีผลเสียคำสาปเช่นนี้หรอก
ภายในร้านขายของเก่า
เมื่อจักระในร่างกายของเขาฟื้นตัวแล้ว ไรอันก็ใช้ทักษะ [วิชาสามร่าง] เพื่อสร้างแยกในร้าน
ร่างแยกที่ปรากฏขึ้นและไรอันมองหน้ากัน จากนั้นจึงพยักหน้าเบาๆ
ความรู้สึกนี้ไม่ว่าเขาจะเห็นกี่ครั้ง ก็รู้สึกว่ามันแปลกใหม่มาก
ไรอันมองไปที่ร่างแยกที่เหมือนกันของเขาที่ปรากฏตัวในร้านขายของเก่า แล้วเขาก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ แต่เขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานความสามารถในการแปลงร่างจาก [วิชาสามร่าง] อีกครั้ง
เขาได้ยินเพียงเสียง 'ปัง' และหลังจากที่หมอกสีขาวหายไป ร่างแยกที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับไรอันก็เปลี่ยนร่างเป็นพี่ห้าอาซิง
'ไหนขอลองดูซิว่าสิ่งที่ฉันคิดมันเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า'
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่คุ้นเคยในเสื้อกันฝนสีแดงตรงข้ามกับเขา ไรอันก็สูดหายใจเข้าลึกๆ โดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็หันกลับไปที่แผงข้อมูลของระบบ เปิดการ์ดในคลังการ์ดและหา [การ์ดระดับ D -- พี่ห้าอาซิง]
ทว่าสิ่งที่เขาทำถัดไปไม่ใช่การใส่การ์ด [อาซิง] สลับการ์ดตัวละคร [มิซึกิ] ที่เขามีเหมือนดั่งเช่นในอดีต
เขาได้เล็งการ์ดใบนี้ไปที่ร่างแยกที่กลายเป็นร่างของอาซิงต่อหน้าเขาและสั่งให้ร่างแยกใช้มัน
เมื่อสั่งออกไปแล้ว ไรอันก็กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาไม่กระพริบขณะที่เขาจ้องมองไปที่การ์ดระดับ D ในระบบ
เมื่อได้ใช้ความสามารถของมิซึกิเป็นครั้งแรก ไรอันก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ในทันที
พูดตามตรง เขาไม่รู้เลยว่าวิธีนี้จะได้ผลหรือเปล่า เพราะร่างแยกนี้ไม่ใช่ร่างแยกเงา ในทางทฤษฎีแล้ว มันจะหายไปเมื่อถูกสัมผัส ไม่สิ มันจะหายไปโดยอัตโนมัติแม้ไม่ถูกสัมผัส
หากไรอันทำสำเร็จ เขาก็จะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตด้วยการวิ่งไปมาเพื่อหาคะแนนชื่อเสียงเหมือนตอนที่เขาไปยังย่านฮาร์เล็มเพื่อตามหาลุคเคจ แถมเขาก็จะสามารถแต่งเรื่องให้เข้ากับภาคีนักฆ่าและเผิงไหลได้อีก หากมีไรอันเพียงคนเดียว เรื่องแต่งที่เขาสร้างขึ้นมาย่อมถูกผู้อื่นมองออกเป็นแน่
เพราะองค์กรกับภาคีบ้าอะไรกันที่มีคนอยู่เพียงคนเดียว?
แต่หากมันล้มเหลว ไรอันคงจะได้แต่ต้องพยายามมากกว่านี้และหาการ์ดที่มีประโยชน์ขึ้น
โชคดีที่มันไม่ได้ล้มเหลว ด้วยคำสั่งของไรอัน การ์ดตัวละคร [อาซิง] ในระบบเริ่มกะพริบเป็นแสงจางๆ บางเบา หลังจากกะพริบอยู่สองสามวินาที มันก็กลายเป็นแสงสีขาวและเข้าไปในร่างของร่างแยกที่อยู่ตรงหน้าเขา
'มันได้ผล!'
ความคิดหนึ่งได้แวบเข้ามาในหัวของเขาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นไรอันก็เห็นร่างแยกที่อยู่ตรงข้ามกระพริบตาใส่เขา ในหัวของเขารู้สึกสับสนอย่างยิ่ง ความรู้สึกถูกเพิ่มเป็นทวีคูณ คล้ายกับสมองของเขาถูกแยกออกจากกันอย่างกะทันหัน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างสิ้นเชิงจากตอนที่เขาเคยใช้ร่างแยกของ [วิชาสามร่าง] แต่ไรอันก็รู้สึกว่าเขาสามารถควบคุมร่างแยกที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ เขาจัดการการเคลื่อนไหว ออกคำสั่งและสามารถปิดการใช้งานร่างแยกได้ด้วยเพียงแค่การคิด
เขาส่ายศีรษะไปมา ขจัดความรู้สึกปวดในหัว ก่อนที่จะมองมาทางอาซิงที่อยู่ตรงข้ามเขา
โดยไม่ต้องรอให้เขาพูดอะไร อาซิงพยักหน้าด้วยแววตาที่เข้าใจ "ไม่ต้องห่วง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะ"
"..."
ในร้านขายของเก่า ไรอันมองดูหลังของอาซิงขณะที่เขาผลักประตูเดินออกไป
บรรยากาศโดยรอบพลันเงียบสงัดไปชั่วขณะ ถึงเขาจะใช้คาถาร่างแยกไปแล้วและรู้สึกถึงปริมาณจักระที่ลดลง แต่เขารู้สึกว่าตนสามารถเสกร่างแยกได้อีกร่างหนึ่ง
...
“ท่านครับ”
ณ คฤหาสน์ของโทนี่สตาร์ค ในชั้นใต้ดิน
“มีอะไรจาร์วิส?”
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามารบกวนตอนที่ฉันทำงาน?”
ทันใดนั้น เสียงของพ่อบ้าน AI ก็ทำให้โทนี่ สตาร์คหยุดสิ่งที่ทำอยู่และถึงขั้นต้องเลิกคิ้วขึ้นมา
“ผมรู้ครับท่าน แต่จอมโจรคิดได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว”
โทนี่ยกมือขึ้นและปัดโฮโลแกรมออกแบบเสมือนจริงที่ดูเหมือนอาวุธที่อยู่ตรงหน้าเขาออกไป "บอกฉันมาว่าจอมโจรคิดอยู่ที่ไหน เขากำลังทำอะไร บอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย"
"ครับท่าน"
เมื่อได้ยินคำสั่งของโทนี่ จาร์วิสก็ยกข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับจอมโจรคิดมาไว้บนหน้าจอเสมือนจริงที่อยู่ตรงหน้าเขา มันมีเวลาที่ก่อเหตุอาชญากรรม วิธีการและที่สำคัญที่สุดคือเนื้อหาของจดหมายฉบับใหม่ล่าสุด
จดหมายเตือน: ในยามที่ต้องอวยพรด้วยดอกคาร์เนชั่น สุภาพบุรุษผู้นี้จะขโมยความหวังของผู้วายชนม์และเพชรครามแห่งความโชคร้ายในคราวเดียว -- จอมโจรคิด
โทนี่มองไปยังเนื้อหาของจดหมายที่แสดงบนหน้าจอเสมือน เขาเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า "จาร์วิส ค้นหารายงานข่าวเกี่ยวกับโอเชียนสตาร์ให้ฉันหน่อย"
"ครับท่าน"
ไม่กี่วินาทีต่อมา บนหน้าจอก็มีรายงานทั้งหมดที่เกี่ยวกับโอเชียนสตาร์ ด้วยการโบกนิ้วของเขา เขาลบข่าวบางอย่างที่เก่าเกินไปและในที่สุด ดวงตาของโทนี่ก็จ้องลงไปในรายงานเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
'ข่าวรายวันบู๊กเกิ้ล' -- เพชรสีน้ำเงินที่มีค่าที่สุดที่เคยสร้าง 'ความหวัง' จะถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นิวยอร์ก ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
“เยี่ยม ไอ้คุณโจร... ฉันเจอแกแล้ว!”
เมื่อมองไปที่รายงานบนหน้าจอ โทนี่ก็ยกยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ทว่ารอยยิ้มของเขาก็ได้หายไปเพราะคำพูดของจาร์วิสที่คล้ายกับกำลังราดน้ำเย็นใส่ "นายท่านถอดรหัสบทความของจอมโจรคิดได้อย่างน่าทึ่งมากครับ แต่ผมต้องขอแสดงความเสียใจที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบว่าคดีของจอมโจรคิดจบลงแล้ว และตำรวจนิวยอร์กก็ได้รับเพชรที่จอมโจรคิดขโมยไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว"
"..."
เมื่อได้ยินคำพูดของจาร์วิส สีหน้าที่มั่นใจของโทนี่ก็ได้เลือนหายไป
"จาร์วิส"
"ครับท่าน"
“หุบปาก”
"ครับท่าน"