ตอนที่แล้วบทที่ 46: ชิ้นส่วนการ์ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 48: ทดลอง

บทที่ 47: การ์ดระดับ C ใบแรก


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 47: การ์ดระดับ C ใบแรก

นั่นไงล่ะ

เมื่อเห็นคำว่า [ประกอบ] ของระบบ...

มันคือสิ่งที่เขาคิดไว้แน่ ไรอันสูดลมหายใจเข้าลึกโดยไม่รู้ตัว

เพราะว่าตามปกติ การ์ดระดับ C จะต้องใช้คะแนน 10,000  เพื่อแลกกับ [หีบสมบัติทองแดง]

เขาสงสัยเหลือเกินว่า 'การ์ดระดับ C กับการ์ดระดับ D จะแตกต่างกันมากขนาดไหน?'

จากการวิเคราะห์ของไรอัน ถ้าให้แบ่งตามระดับความสามารถ การ์ดระดับ E คงเป็นแค่คนธรรมดา แม้ว่าจะมีการ์ดตัวละครบางครั้งที่มีความสามารถพิเศษเช่น [เบบี้] หรือ [ฆาตกร] ที่เพิ่งสุ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นตัวละครธรรมดาที่ไม่มีความสามารถวิเศษอะไร

ทว่าจากการ์ดระดับ D ขึ้นไป มันคงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตัวละครที่มีความสามารถพิเศษบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น [จอมโจรคิด] หรือของที่ไรอันได้สุ่มออกมาอย่าง [อาซิง] หรือการ์ด [ยิปมัน] ตัวล่าสุดที่เขาเพิ่งสุ่มมาได้ ทว่าเมื่อเทียบกับการ์ดระดับ E ความสามารถของการ์ดตัวละครพวกนี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันมีความสามารถในระดับที่สามารถจัดการกับคน 10 คนได้พร้อมกันในทีเดียวเลย

แต่หากเจอสถานการณ์ที่อันตรายมาก การ์ดระดับ D เพียงอย่างเดียวคงจะไม่ไหว

ยกตัวอย่างเช่นสถานการณ์ที่ไรอันพบในย่านฮาร์เล็มก่อนหน้านี้ หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของลุคเคจ แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะมาได้ แต่เขาคงจะได้รับบาดเจ็บแน่

ดังนั้นเป้าหมายของไรอันจึงเป็นการพยายามหาคะแนนให้ได้มากที่สุด เพื่อสุ่มหาการ์ดที่ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก

เพราะในโลกมาร์เวล เขารู้ดีว่าจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้

อีกไม่นานนิวยอร์กคงกลายเป็นสนามรบครั้งใหญ่

หากเขาไม่ต้องการที่จะถูกดีดนิ้ว เขาก็ต้องพยายามให้หนักขึ้นกว่านี้

จากการคาดเดาพลังของการ์ดระดับ C จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของการ์ดระดับ E และ D ตัวละครระดับ C คงจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็คงสามารถต่อกรกับพวกปืนได้อย่างง่ายดาย พูดง่ายๆ ก็คือ อาวุธปืนไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับตัวละครในการ์ดระดับ C อีกต่อไป

แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงไหม? ช่างมัน เดี๋ยวก็ได้รู้กันแล้ว

เขาส่ายศีรษะที่กำลังมีความคิดพลุ่งพล่านอยู่ในหัว ไรอันหันกลับไปสนใจระบบที่อยู่ตรงหน้าเขา

เขาแตะที่ [ประกอบ] ด้านล่างของข้อมูลเบื้องต้น...

แสงสีขาวกระพริบในส่วนของ [ชิ้นส่วนการ์ดระดับ C x5] ในระบบ

จากนั้นการ์ดใหม่เอี่ยมที่มีความมันวาวสีทองแดงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาไรอัน

[การ์ดระดับ C -- มิซึกิ]

[ทักษะ: จักระ วิชาสามร่าง อักขระต้องสาปถูกทำลาย]

[ภูมิหลัง: มิซึกิเป็นตัวตัวร้ายในนารูโตะในภาคเสริม เดิมทีเขาเป็นนินจาในหมู่บ้านโคโนฮะจากดินแดนแห่งไฟ เขาเป็นคนใจร้าย เจ้าเล่ห์และขี้อิจฉา เขาใช้นารูโตะขโมยคัมภีร์ผนึกและบอกนารูโตะว่าเก้าหางถูกผนึกอยู่ในตัวเขา ในท้ายที่สุด เขาก็พ่ายแพ้ต่อวิชาแยกเงาพันร่างของนารูโตะ ต่อมา มิซึกิได้หักหลังโอโรจิมารุและลงเอยด้วยการเป็นเบี้ยที่ถูกทิ้งของโอโรจิมารุ]

[คำพูดติดปาก: ตลกแล้ว ฉันน่ะสามารถฆ่าเด็กเหลือขออย่างแกได้ด้วยหมัดเดียว... อ๊ะ!]

'มิซึกิ?' ตัวละครปรากฏตัวแค่ในสามตอนของนารูโตะเนี่ยนะ?!'

ไรอันรู้สึกผิดหวังกับการ์ดระดับ C ใบแรกของเขามาก มิซึกิ นี่มันตัวประกอบชัดๆ

ทว่าเขาจะทำอะไรได้อีกนอกจากผิดหวังกันล่ะ ในเมื่อการ์ดได้ถูกประกอบขึ้นมาแล้ว จะเสียใจก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นเพื่อเอาชนะความผิดหวังของเขา ไรอันจึงมุ่งความสนใจกับการ์ดที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ว่ายังไง [มิซึกิ] ก็เป็นการ์ดระดับ C มันอาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างอยู่

สิ่งแรกที่ไรอันรู้สึกเมื่อเขาเปลี่ยนไปใช้การ์ด [มิซึกิ] คือการไหลเวียนของพลังงานจักระในร่างกายของเขาที่ไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง

เห็นได้ชัดว่า [จักระ] เป็นทักษะติดตัวประเภทหนึ่ง เหมือนกับเร่งอะดรีนาลีนของ [เวสลีย์ กิบสัน]

ทว่าเมื่อรู้สึกถึงปริมาณของจักระที่ไหลผ่านร่างกายของเขา ไรอันก็ไม่ได้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ท่วมท้นหรืออะไรเลย

'ก็สมกับเป็นตัวประกอบดี แม้แต่ระดับจักระของเขาก็แค่พื้นฐานใช่ไหมเนี่ย?'

ไรอันส่ายศีรษะพลางคาดเดาว่าการ์ดระดับ C [มิซึกิ] คงจะเป็นการ์ดที่อ่อนที่สุดในระดับ C เป็นแน่

จากนั้นไรอันก็ไปสนใจทักษะที่เหลืออยู่สองอย่างของมิซึกิคือ [วิชาสามร่าง] และ [อักขระต้องสาปถูกทำลาย]

[วิชาสามร่าง] เป็นหนึ่งในคาถาที่โดดเด่นและแพร่หลายที่สุดในโลกนารูโตะ พวกมันเป็นวิชาภาคบังคับของการสอบไล่ของโรงเรียนนินจาโคโนฮะและถูกนำมาใช้ตลอดทั้งเรื่อง

มิซึกิที่เป็นอาจารย์ของโรงเรียนนินจา ย่อมมีความเชี่ยวชาญในทักษะนินจาทั้งสามนี้เป็นธรรมดา

'วิชาแปลงร่าง!'

หากเป็นไปตามเรื่องนารูโตะ คาถานินจาจะต้องถูกเปิดใช้งานด้วยการประสานอิน แต่เห็นได้ชัดว่าระบบได้ข้ามขั้นตอนนั้นไปทำให้ [วิชาสามร่าง] กลายเป็นทักษะเรียกใช้งาน ขณะที่กำลังคิด ไรอันก็ได้ยินเสียง 'ปัง' และร่างของโทนี่ สตาร์คก็ได้ปรากฏขึ้นกลางร้านขายของเก่า

สิ่งนี้ง่ายกว่าการปลอมตัวและการแต่งหน้าของ [จอมโจรคิด] มาก

เมื่อมองผ่านกระจกหน้าตู้ร้านขายของเก่าไปยังใบหน้าที่มีหนวดที่ดูคุ้นเคย ไรอันก็เลิกคิ้วแล้วยิ้มให้กระจก เขาเกือบจะคิดว่าโทนี่ สตาร์คอยู่ตรงหน้าเขา ถ้าเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตนกำลังใช้วิชาแปลงร่างอยู่

หลังจากลบวิชาแปลงร่างออกไป ไรอันก็ได้ลองใช้คาถาอีกทั้งสองแบบ คาถาแยกร่างและคาถาลอกคราบ

โดยรวมแล้ว [วิชาสามร่าง] ดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก [มิซึกิ] ได้รับการจัดอันดับให้เป็นการ์ดตัวละครระดับ C โดยระบบ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามันคงเป็นเพราะ [วิชาสามร่าง] นี้ ทว่าพอใช้ทั้งสามวิชาไปแล้ว จักระของไรอันก็ลดลงหนึ่งในสาม เขาถึงกับพูดไม่ออก สมควรแล้วที่นี้เป็นแค่ตัวประกอบ

หลังจากสบถในใจเงียบๆ ไรอันก็มองดูทักษะสุดท้ายของ [มิซึกิ] นั่นคือ [อักขระต้องสาป] ไรอันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนารูโตะมากนัก แต่เขารู้ว่าอักขระต้องสาปของ [มิซึกิ] คงมาจากความสามารถที่ได้รับมาจากโอโรจิมารุ

ไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ว่า [วิชาสามร่าง] เป็นเพียงแค่วิชาทั่วไปที่ไม่มีทางจะทำให้ [มิซึกิ] เป็นตัวละครระดับ C ดังนั้น [อักขระต้องสาปถูกทำลาย] ย่อมเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ตัวละครนี้มีระดับถึง C ได้

แต่ไอ้คำว่า 'ถูกทำลาย' มันทำให้ไรอันรู้สึกสับสนมาก เขาคาดเดาว่าอาจเป็นเพราะพลังคำสาปที่โอโรจิมารุปลูกฝังให้กับ [มิซึกิ] ในนารูโตะเป็นเพียงการทดลองอย่างหนึ่ง ดังนั้นมันจึงขึ้นมาว่า 'ถูกทำลาย'  ทว่าถึงสภาพของมันจะไม่สมบูรณ์ ไรอันก็อยากรู้มากว่าพลังของมันคืออะไรกันแน่

...

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด