นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 198 - คุณหนูนิกซ์
‘นิกซ์’ สาวน้อยที่มัดผมสีแดงยาวเอาไว้ที่ด้านหลังอย่างเรียบร้อย กำลังใช้ดวงตาสีแดงสวยงามคู่นั้นจับจ้องอยู่บนร่างของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่นอนกองอยู่กับพื้น เท้านั้นก้าวเข้าไปอย่างไม่เร่งร้อนนัก
กลุ่มผู้คุ้มกันพากันเปิดทางให้เธอเดินผ่านไปได้อย่างสะดวก และนิกซ์ก็พาเรือนร่างที่สวยงามสมส่วนเข้าไปยืนชิดติดกับซากของสัตว์ขนาดใหญ่ได้ในที่สุด มือที่สวยงามเรียบเนียนถูกยื่นออกไปอย่างรวดเร็ว มันลูบไล้สัมผัสเขาของแกะ 3 เขาไปทั่วอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่สัมผัสความรู้สึกแปลกใหม่สักพัก ริมฝีปากสีแดงสดที่ยั่วยวนก็เผยรอยยิ้มที่แสดงถึงความพึงพอใจออกมา ดวงตาสีแดงเข้มราวกับเลือดของเธอนั้นเป็นประกาย
“นี่มันเหมือนกับจับต้นไม้จริง ๆ เลย! น่าแปลกจริง ๆ ทำไม่สัตว์ตัวหนึ่งถึงได้งอกต้นไม้ออกมาเป็นเขาได้กันนะ?” เสียงที่พึมพำออกมา มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นจริง ๆ
‘ฟอสซ์’ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นผู้นำของชุดคุ้มกันนี้ยิ้มออกมาเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง
“คุณหนู! ระวังตัวด้วยนะครับ แกะตัวนี้อาจจะแกล้งตายอยู่ก็ได้ อย่าประมาทไปจะดีกว่า” รอยยิ้มนั้นแฝงความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แต่น้ำเสียงนั้นยังอ่อนโยน ฟอสซ์รู้ดีว่าเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ตายสนิทแล้วอย่างแน่นอน เขาเป็นคนลงมือต่อยทำลายหัวใจของมันจนแหลกไปด้วยตัวเอง ไม่มีทางที่มันจะมีชีวิตรอดอยู่แล้วแน่นอน
“โอ้! มันแกล้งทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ?” คุณหนูคนสวยรีบดึงมือของตัวเองกลับ และขยับกลับเข้ามาอยู่ในวงล้อมของผู้คุมกันทันที หน้าอกที่อวบอิ่มสมบูรณ์นั้นกระเพื่อมอย่างน่ามองตลอดระยะเวลาที่เธอเคลื่อนไหวอย่างรีบร้อน
“คุณหนู! อย่าไปฟังที่เขาพูดเลย เขาแค่จะขู่ให้คุณหนูกลัวเล่นแค่นั้นเอง” เด็กสาวอีกคนที่ยืนมองอยู่ด้านข้าง เอ่ยปลอบขึ้นมาเบา ๆ
นิกซ์หันไปเบ้ปากกลอกตาใส่ฟอสซ์ทันที ก่อนจะขยับตัวไปยืนอยู่ใกล้ ๆ กับเด็กสาวที่เอ่ยปากออกมา
“ยังคงเป็น ‘แครี่’ ที่ดีกับฉันที่สุดอยู่เหมือนเดิม ส่วนพวกนายล้วนแต่เป็นคนใจร้ายกันทั้งนั้น” ในขณะที่กล่าวคำพูดออกมา อ้อมแขนของเธอก็โอบร่างของแครี่เอาไว้แน่น ไม่ได้สนใจมือไม้ของตัวเองว่าสัมผัสกับจุดไหนบนร่างกายของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
นั่นทำให้แครี่พูดอะไรไม่ออก คุณหนูของพวกเธอยังมีความคิดที่ไร้เดียงสาอยู่ไม่น้อยเลยจริง ๆ แต่บางครั้งการกระทำของเธอก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรออกมาในที่สาธารณะเลย น่าเสียดาย มันไม่ใช่สิ่งที่แครี่จะบ่นหรือดิ้นรนขัดขืนได้ เธอปล่อยให้คุณหนูตัวน้อยกอดรัดไปตามใจชอบ และหวังว่ามันคงจะไม่นานนัก
เด็กหนุ่มในทีมพากันหันหน้ามองออกไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ทำตัวเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย ในขณะที่สาว ๆ ที่เหลือพากันหัวเราะคิกคัก พวกเธอดูดีใจที่เห็นแครี่ทำหน้าลำบากใจ และดีใจที่คราวนี้ไม่ใช่ตัวเองที่ต้องรับเคราะห์
จนพอใจ นิกซ์ปล่อยมือของตัวเองจากตัวของแครี่ในที่สุด รอยยิ้มบนใบหน้านั้นดูมีความสุขและสะใจ แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากอะไรออกมา ‘อัลวิน’ คนที่รับหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ของทีมก็กระซิบออกมาด้วยเสียงต่ำ ๆ เสียก่อน
“ทุกคนระวังตัวเอาไว้ ดูเหมือนว่ามีคนกำลังมุ่งมาที่นี่!”
คำเตือนนั้นทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที สีหน้าของทุกคนกลายเป็นเคร่งเครียดจริงจังขึ้นมา และเริ่มขยับตำแหน่งของตัวเองให้ล้อมอยู่รอบตัวของนิกซ์อย่างไม่มีช่องว่างให้จู่โจมเธอได้ในทันที
“ระยะห่างเท่าไร?” เสียงเข้มต่ำของฟอสซ์เอ่ยถามขึ้น
“ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่น่าจะอยู่ระหว่าง 100-200 เมตร” อัลวินตอบกลับมาอย่างไม่มั่นใจนัก
“โอเค! ระดับความแข็งแกร่งล่ะ?” ฟอสซ์ถามต่อ
“หืม? โปรแกรมกำลังประเมินอยู่ มันยังไม่แสดงผล” นิ้วของอัลวินไล่กดอยู่บนจอโฮโลแกรมของตัวเองอย่างวุ่นวาย คนอื่นได้แต่เห็นเป็นแสงวาบออกมาไม่หยุดเท่านั้น
ไม่นานนัก เหงื่อเม็ดเป้งก็ผุดออกมาจากหน้าผากของอัลวิน สีหน้าของเขากลายเป็นซีดเผือด ตัวเริ่มสั่นเล็กน้อย
“ร-ระดับสูงสุด อันตรายระดับสูงสุด!” เสียงที่กระซิบออกมานั้นติดขัดไปไม่น้อยเลย
“ให้ตายเถอะ! ทำไมที่นี่ถึงได้มีเฟสเซอร์โผล่ออกมาได้กัน!?” สีหน้าของฟอสซ์กลายเป็นดำคล้ำ เขาสบถออกมาอย่างหยาบคาย โชคของเขานั้นไม่ดีเลยจริง ๆ
และคำพูดของเขา! มันทำให้สมาชิกคนอื่นในทีมหน้าซีดลงไปพร้อม ๆ กัน
..................
“หือ?? พวกเขารู้ตัวแล้ว??” เดวิดอึ้ง!
เขายังอยู่ห่างจากคนพวกนั้นอีกไม่น้อย และไม่คิดว่าตัวเองจะถูกค้นพบเร็วขนาดนี้
“นายไม่ได้เก่งเรื่องปิดบังความโดดเด่นอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?” เฮเซลแดกดันออกมาด้วยน้ำเสียงซื่อ ๆ
“หืม?? นั่นก็จริง คนมันเด่นจะปิดไปตลอดได้ยังไงล่ะ? เอาเถอะ ในเมื่อพวกนั้นรู้ตัวแล้ว ก็คงต้องเล่นตามน้ำไปเท่านั้น ด้นสดไปเลยดีกว่า!” เดวิดพยักหน้ารับคำ ‘ชม’ ของเฮเซล ก่อนที่จะตัดสินใจยกเลิกแผนทั้งหมด
เขากระโดดออกจากป่าทึบที่ซ่อนตัวออกไปอย่างง่าย ๆ เผยโฉมหน้าและสภาพที่ดูไม่ได้ของตัวเองให้สาธารณะชนได้เห็นเป็นครั้งแรก สภาพของเขานั้นดูไม่ได้จริง ๆ
บนตัวของเดวิดนั้นไม่มีเสื้อสวมอยู่อีกต่อไปแล้ว กางเกงที่เขาใส่อยู่นั้นก็ขาดวิ่น มันกลายเป็นกางเกงขาสั้นที่ยาวไม่ถึงเขาเสียด้วยซ้ำ ถ้าจะมีสิ่งที่น่าชื่นชมอยู่บ้าง มันก็คงจะเป็นกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแกร่งได้รูปนั่น เมื่อประกอบเข้ากับสีผิวที่เข้มขึ้นเป็นอย่างมาก มันเปล่งประกายสะท้อนแสงอาทิตย์ราวกับเป็นรูปปั้นที่งดงามก็ไม่ปาน
เดวิดดูจะไม่รีบร้อนนัก เขาก้าวเข้าไปหากลุ่มคนที่กำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียดนั่นอย่างช้า ๆ
“สวัสดีทุกคน! ฉันชื่อเดวิด และฉันมาดี!” ใบหน้าของเขาประดับเอาไว้ด้วยรอยยิ้มกว้าง พยายามแสดงอย่างเต็มที่ว่าตนเองนั้นไม่มีผิดมีภัยอะไร ผมเผ้าที่รุงรัง รอยยิ้มที่ดูพยายามจนเกินเหตุ มันทำให้หน้าตาของเขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นที่น่าดึงดูดใจอะไรมากนัก ตรงกันข้ามกับกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ นั่น มันค่อนข้างจะมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามไม่น้อยเลย
แต่มันไม่ได้ผลกับสาว ๆ ที่อยู่ในกลุ่มตรงหน้านี้ พวกเธอนั้นยังมีสีหน้าที่ซีดเผือด ดวงตากลอกกลับไปมาอย่างฉุนเฉียว จะมีแต่ก็เพียงคุณหนูนิกซ์เท่านั้น! ดวงตาของเธอลูกโชนเป็นประกายราวกับแสงตะเกียงในยามค่ำคืนที่มืดมิด ไม่รู้ว่ามีอะไรยับยั้งเอาไว้ แต่เธอยังไม่ได้พุ่งเข้ามาซุกในอ้อมอกของเดวิดอย่างทันทีทันใดเลย!
เมื่อเหลือระยะอยู่เพียงไม่กี่เมตร เดวิดก็หยุดเดินลงในที่สุด
ฟอสซ์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ขยับตัวให้อยู่ในท่าที่เตรียมพร้อมสำหรับการลงมือมากขึ้น ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มต่ำออกมา
“นายต้องการอะไร?” เขายอมรับกับตัวเองว่าสภาพของคนที่อยู่ตรงหน้านี้ดูไม่น่าจะทำอันตรายอะไรได้ ถ้าโปรแกรมของอัลวินไม่สามารถตรวจสอบระดับความแข็งแกร่งของเป้าหมายได้ ฟอสซ์คิดว่าตัวเองคงจะถูกหลอกไปแล้วอย่างแน่นอน
“ฉันไม่ใช่คนอันตราย! จริง ๆ นะ” เดวิดรีบกล่าวออกไปอีกครั้ง หลังจากที่เห็นว่าท่าทางจริงจังของพวกเขาไม่มีท่าทีที่จะลดลงเลย และผลที่ได้กลับเป็นตรงกันข้าม ยิ่งเดวิดพยายามยืนยันความบริสุทธิ์ใจมากขึ้นเท่าไร สีหน้าและแววตาของพวกเขายิ่งแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนว่าทั้งทีมจะคิดตรงกัน ‘เจ้าเฟสเซอร์หน้าไม่อาย ถ้าแกไม่อันตราย ก็ไม่เหลือใครอันตรายแล้ว’
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เดวิดก็ได้แต่ขมวดคิ้ว และกระซิบถามขึ้นเบา ๆ
“ทำไมพวกเขาดูเหมือนว่าจะไม่เชื่อฉันเลยล่ะ การแสดงของฉันไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?”
“พวกเขาน่าจะมีเครื่องมือบางอย่างที่สามารถวัดระดับความแข็งแกร่งของเป้าหมายได้ ทุกอย่างที่นายกำลังแสดงอยู่ตอนนี้เป็นเหมือนเรื่องตลกในสายตาพวกเขาเท่านั้น อ้อ! นี่เป็นคำแนะนำ นายควรจะหาเวลาเรียนการแสดงบ้างนะ มันห่วยเกินว่าที่คิดเลยล่ะ” เฮเซลตอบกลับมาอย่างจริงจัง
เดวิดถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพยายามทำตัวเหมือนกับว่าเฮเซลไม่ได้พูดประโยคช่วงสุดท้ายออกมา ในเมื่อพวกเขาจับได้แล้ว เดวิดก็ไม่คิดที่จะแสดงอะไรต่อไปให้ขายหน้าอีก รู้ความแข็งแกร่งของเขาแล้ว? ดีสิ! จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเกลี้ยกล่อมมากนัก
“เอาล่ะ! ทุกคนก็แค่ต้องโอนคะแนนการล่า กับคะแนนจีโนที่มีทั้งหมดมาให้ฉันเท่านั้นเอง แล้วฉันจะไม่เป็นอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว และจะเป็นฝ่ายจากไปอย่างสงบ” เสียงที่เอ่ยออกไปนั้นราบเรียบ ยกมือซ้ายของตัวเองขึ้นแสดงให้เห็นว่าเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมรอเอาไว้แล้ว...เดวิดกำลังรอให้พวกเขาโอนคะแนนมาอย่างเชื่อฟัง..