ตอนที่ 26 โลลิน้อยที่ถูกล่อลวง NC EP.1
ตอนที่ 26 โลลิน้อยที่ถูกล่อลวง NC EP.1
สวนสมุนไพร...
เช้าวันต่อมา ทั้งคู่กำลังยืนอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูทางเข้าสวนสมุนไพร บรรยากาศที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ จะมีก็เพียงแค่เสียงของเขาและเธอที่กำลังพูดคุยกันอยู่
“นี่นายจะไปจากฉันแล้วจริงๆ เหรอ” น้ำเสียงของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความเศร้าได้ดังออกมาจากริมฝีปากของเธอ ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูเศร้าหมอง เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะไปจากเธอ
“ใช่ครับ ผมคงต้องไปแล้วล่ะนะ พี่สาวอย่าทำหน้าแบบนี้สิ คนสวยและเก่งแบบพี่เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าจะทำหน้าเศร้าแบบนี้นะครับ” เขาพูดพร้อมเอื้อมมือไปจับที่แก้มของพี่สาวสวมแว่นเบาๆ
"เฮ้อ! ก็ฉันไม่อยากให้นายไปนี่นา" เธอถอนหายใจ พร้อมตอบกลับเขาเสียงเบา เมื่อรู้ว่าไม่สามารถยื้อคนตรงหน้าไว้ได้
"ถึงไม่ไปตอนนี้ แต่ต่อไปผมก็ต้องไปอยู่ดี วันนี้ผมสนุกมากๆ เลยนะครับ ขอบคุณนะพี่สาว ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีกนะครับ” เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ
“เฮ้อ ยังไงนายก็ต้องไปสินะ เอ่อ.. ฉันเองก็ต้องขอบคุณนายมากๆ เหมือนกัน เพราะนายเองก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ขึ้นมาอีกเยอะเลย ฉันมั่นใจว่าต่อไปฉันจะต้องคิดค้นผลิตยาใหม่ๆ ออกมาได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน”
แม้ใบหน้าของเธอนั้นยังคงจะดูเศร้าหมองอยู่ แต่น้ำเสียงและความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอ มันทำให้เขาเชื่อว่าซักวันเธอนั้นจะต้องประสบความสำเร็จอย่างที่เธอคาดหวังไว้อย่างแน่นอน
"โชคดีนะครับพี่สาว" เขาพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ แม้ใบหน้าของเธอยังคงมีความรู้สึกโศกเศร้าอยู่บ้าง แต่เธอก็คงยังยิ้มตอบเขาออกมาได้อย่างงดงาม
“โชคดีเช่นกันนะ” เธอได้แต่พยักหน้า ให้กับคำอวยพรของเขา ก่อนจะยกมือขึ้นโบกลา พร้อมกับมองแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินจากไปจนลับสายตา
......
เขาเดินออกมาได้สักพัก เขาก็ขบคิดในใจขึ้นเงียบๆ
‘ขอโทษทีนะ ที่ผมไม่ได้อยู่กับพี่ต่อ ผมเองก็เริ่มรู้เหตุผลที่ตัวเองถูกส่งตัวมาที่นี่แล้วล่ะนะ
ผมมาก็เพื่อที่จะช่วยเหลือหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะฉะนั้นผมจะมัวชักช้าอีกต่อไปไม่ได้แล้ว' เขาพูดพึมพำกับตัวเองคนเดียวเบาๆ ขณะกำลังเดินไปตามทางเรื่อยๆ
‘ใช่แล้วล่ะ! ไม่ใช่เพราะเราอยากจะไปหาสาวสวยคนอื่นต่อหรอกนะ! ที่เราต้องทำแบบนี้ ก็เพื่อหมู่บ้านนี้ต่างหาก ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองสักหน่อย’ คิดได้อย่างนั้น เขาก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดที่ดีของตัวเอง
เดินไปสักพักเขาก็หยุดเดิน เมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
“ว่าแต่.. พี่สาวคนนั้นชื่ออะไรนะ? เรายังไม่ได้ถามชื่อเลยนี่นา แต่ช่างเถอะ ไม่รู้จักชื่อก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง” พูดจบเขาก็ออกเดินต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ส่วนพี่ๆ สาวใช้หน้าอกโตทั้งสามคน ที่ก่อนหน้านี้เอาแต่คอยเดินติดตามเขา พวกเธอได้แยกจากเขาไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
เหตุผลนั่นก็คือ พวกเธอต่างก็มีหน้าที่การงานที่จะต้องไปจัดการ ทำให้ไม่มีเวลาว่างมาคอยเดินตามเขาทั้งวัน
ถึงจะรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีของนุ่มนิ่มให้จับให้บีบเล่นช่วงเวลาเดินเที่ยวในคฤหาสน์หลังนี้ แต่การเดินคนเดียวมันก็ดีและสะดวกไปอีกแบบ
เขาเดินชมนู่นชมนี่อยู่พักใหญ่ ไม่นานเขาก็เดินออกมาถึงส่วนด้านนอก ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ มีทั้งสระน้ำ ต้นไม้ และดอกไม้นาๆ ชนิด ปลูกเอาไว้อยู่ภายในสวนอย่างวิจิตรสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของได้เป็นอย่างดี
“ว้าว สวนนี้สวยจังเลยแฮะ นี่ถ้าเรารับข้อเสนอของนาริ สถานที่ทั้งหมดนี้มันคงจะตกเป็นของเราสินะ”
เขานึกถึงข้อเสนอของนาริ ที่เธออยากจะให้เขามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจมัน เพราะสำหรับเขาแล้ว เพราะความร่ำรวยมักจะนำพาปัญหามากมายตามมาทีหลังเสมอ
เขาเดินเข้าไปในสวน พร้อมชมนู่นชมนี่ไปเรื่อยเปื่อย และแล้วสายตาของเขาก็มองไปเห็นสิ่งที่น่าสนใจจนได้
“โลลินี่นา!!” เขาอุทานออกมาทันที เมื่อได้เห็นสาวน้อยน่ารักขนาดตัวเท่าเด็กอนุบาล หน้าตาน่ารัก เธอมีเส้นผมยาวสีเทา และมีดวงตาสีทับทิมดูสวยงามมาก
สาวน้อยโลลิกำลังนั่งเหม่อลอยด้วยสีหน้าท่าทางเบื่อๆ ริมฝีปากเล็กๆ ของเธอก็เหมือนกำลังบ่นพึมพำอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว
เมื่อเขาเห็นสาวน้อยที่มีท่าทางเหมือนต้องการความช่วยเหลือ ด้วยการที่เขาเองก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง เขาจึงไม่รอช้ารีบเดินตรงเข้าไปหาเธอทันที
“สวัสดีครับสาวน้อย กำลังทำอะไรอยู่เหรอ” เขากล่าวทักทายเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นมิตร ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยน และเมื่อเธอได้ยินเสียงเขา เธอก็หันมามองด้วยใบหน้าและสายตาที่ดูเฉยชา
“หือ? นายมัน.. แขกของพี่นี่?” เธอพูดออกมาราวกับว่าเธอเองก็รู้จักเขา
‘พี่งั้นเหรอ? แสดงว่าเธอก็เป็นน้องสาวของนาริสินะ’ เขาคิดในใจเมื่อได้ยินคำพูดของสาวน้อยโลลิ
"ใช่ครับ ผมเป็นแขกของพี่นาริ ส่วนเราก็คงจะเป็น.." เขาตอบกลับ แต่ยังไม่ทันจะพูดจบสาวน้อยโลลิก็ได้พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ใช่แล้วล่ะ เราเป็นน้องสาวของพี่นาริ อ๋อ! เราคงต้องแนะนำตัวก่อนสินะ งั้นเอาเป็นว่า..
เราชื่อนายะ เป็นน้องสาวของพี่นาริ อายุ 440 ปี สิ่งที่ชอบกินที่สุดคือของหวาน สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือการถูกขังอยู่ที่นี่
ส่วนที่นายถามว่า กำลังนั่งทำอะไรอยู่น่ะเหรอ ก็อย่างที่เห็นล่ะนะ ฉันก็กำลังนั่งสังเคราะห์แสงอยู่คนเดียวแบบนี้ไง ฮุฮุ.. ” พูดจบเธอก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์
แม้ดูเหมือนเธอจะใส่มุกตลกเข้าไปในคำพูด แต่บรรยากาศรอบตัวเธอ มันกลับดูไม่ตลกเลยแม้แต่น้อย
“ผมชื่อนากินะครับ ดูสีหน้าเธอเหมือนจะไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาผมได้นะ เดี๋ยวผมจะช่วยหาทางแก้ปัญหาให้เอง” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันเป็นมิตร ราวกับทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย
นายะหันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาที่ไม่แตกต่างไปจากเดิม ก่อนจะถอนหายใจออกมา และเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองทั้งหมดอย่างไม่คิดจะปิดบังให้เขาได้ฟัง
ขณะเล่า ใบหน้าของเธอก็ได้เปลี่ยนไปมาตามความรู้สึกที่มีในใจ มีทั้งโกรธ มีทั้งเบื่อหน่าย บางทีก็ดูเศร้า บางทีก็ดูอ้างว้างสับสน
เขาเองก็ตั้งใจฟังเธอพูดระบายความในใจอออกมาจนจบ และที่สรุปเรื่องราวโดยย่อได้ก็คือ
ด้วยกฎของตระกูลที่บรรพบุรุษของเธอได้เคยบัญญัติไว้ มันทำให้เธอไม่สามารถออกไปสู่โลกภายนอกได้ จนกว่าเธอจะมีอายุครบ 500 ปี
และถึงที่นี่มันจะดูกว้างใหญ่ และสะดวกสบายสักเพียงไหน แต่มันก็ดูน่าเบื่อสำหรับเธอ 400 กว่าปีที่ผ่านมา เธอได้แต่เดินวนเวียนอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ ปลูกต้นไม้ ปลูกดอกไม้ จัดสวน ทำอะไรไปเรื่อย
และสิ่งที่เธอทำมันไม่ได้สร้างความบันเทิงหรือความตื่นเต้น ให้กับตัวเธอเลยแม้แต่น้อย และด้วยความรู้สึกเบื่อแบบสุดๆ นั่นเอง เธอก็เลยมานั่งทำท่าหมดอะไรตายอยากอยู่คนเดียวที่นี่
"ชีวิตของฉัน ก็เป็นอย่างที่เล่าให้นายฟังทั้งหมดนั่นแหละ เฮ้อ..!" โลลิตัวน้อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย พร้อมกับถอนหายใจออกมา
"ถ้าผมต้องอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ ไม่ได้ออกไปไหนเลยสัก 500 ปี ผมเองก็คงต้องรู้สึกเบื่อเหมือนกัน" เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจความรู้สึกของเธอ ก่อนจะหันไปมองเธอและแอบแสยะยิ้มออกมา เมื่อคิดแผนการอะไรบางอย่างได้
"จริงสิ ในเมื่อชีวิตมันน่าเบื่อแบบนี้ เราก็มาหาอะไรสนุกๆ ทำด้วยกันดีกว่าไหมครับ"
"อะไรสนุกๆ อย่างนั้นหรือ? ที่นี่จะมีอะไรสนุกๆ ให้ทำจริงๆ เหรอ?" เธอหันมาถามเขาอย่างสนใจ
"จริงสิครับ มีบางเรื่องถ้านายะได้ทำแล้วจะต้องรู้สึกสนุก และรู้สึกดีแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ"
"เอ๋!?"
"เรามาลองมาเล่นดูไหมครับ ผมเชื่อว่าถ้านายะได้ลองแล้ว..จะต้องชอบมันแน่นอน” เขาพูดพร้อมกับยิ้มอ่อนโยนให้กับเธอ
"งั้นก็เอาสิ ถ้ามีเรื่องสนุกให้ทำอย่างที่นายพูดจริงๆ มันก็คงจะดีเหมือนกัน ถ้างั้นพวกเราไปทำกันเลยเถอะ” ด้วยความที่เธอกำลังเบื่ออยู่พอดี เธอเลยตอบรับคำชวนของเขาทันทีโดยไม่มีลังเล
“งั้นพวกเราก็ไปเล่นที่พุ่มไม้ตรงนั้นกันเถอะ” เขาพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่ด้านหลังพุ่มไม้หนา แม้เธอเองก็สงสัยเหมือนกันว่า ทำไมต้องไปเล่นตรงนั้น แต่เธอก็ลุกขึ้นเดินไปตรงนั้นกับเขาโดยที่ไม่ได้ถามอะไร
つづく