ตอนที่แล้วตอนที่ 108 ส่งจดหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 110 หรืออาจจะต้องยอมแพ้

ตอนที่ 109 ปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ทดลองทำ


ตอนที่ 109 ปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ทดลองทำ

  เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอไม่ได้ถูกเรียกว่าพี่ นางโจวจึงเดินตามชุนหยาซือหยินและพูดด้วยความรู้สึกตำหนิว่า: "ทำไมไม่เรียกพี่ว่าพี่สาว พวกเจ้าไม่รู้ว่าใครเป็นพี่หรือเป็นน้องอย่างนั้นเหรอ?"

  "ใช่..ชุนหยาเป็นน้องสาวของข้าแต่ข้าว่ามันน่ารักกว่าที่พวกเราจะเรียกแบบนั้นและข้าก็ชอบเรียกแค่ชื่อของพวกนางเหมือนกัน" ซือมิน น้องชายอีกคนยังคงพูดตามความคิดของเขาด้วยรอยยิ้ม

  เมื่อเห็นว่าซือหยินกำลังต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่ถูกนางโจวและคนอื่น ๆ ทำให้เสียจังหวะในการพูดนั้นไป ชุนหยาจึงกระแอมในลำคอของเธอ เพื่อให่ทุกคนหยุดฟังซือหยิน : "อะแฮ่ม อะไรนะซือหยิน ทุกคนอย่าเพิ่งคุยเรื่องอื่นเลยค่ะ มาฟังซือหยินก่อน ก่อนนางจะพูดอะไร นางมีความมั่นใจที่จะเป็นนักบัญชีหรือไม่?”

  ในเวลานี้นางหลี่รีบออกตัวอีกครั้งและต้องการจะพูด นางจางจึงยื่นมือห้ามเธอไว้ : "อาหลี่เจ้าอย่างเพิ่งพูดให้หลานพูดก่อนเถิด"

  นางจางก็อยากให้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ พูดแสดงความคิดเห็นของพวกเธอ แต่สำหรับลูกสาวของเธอนั้นมักจะพูด

  ซือหยิน ผู้ได้รับการเสนอชื่อ มองไปรอบ ๆ ฝูงชน รวบรวมความกล้าและพยักหน้าในที่สุด : "แม้ว่าข้าจะยังไม่รู้วิธีว่าบัญชีนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง แต่ชุนหยาบอกว่านางจะสอนข้ากับหยานซี ถ้าหากนางสอนข้าก็จะทำได้"

  ชุนหยา ได้ยินสิ่งที่ซือหยิน พูดและกอดซือหยิน ด้วยรอยยิ้มและตะโกนอย่างดุเดือด : "อาหยินของเราเก่งมาก ซือหยินของเราเก่งที่สุด"

  แม้แต่นางไค่ก็ยิ้มตามเมื่อเห็นหลานมีความกล้ามากขึ้น ส่วนนางหลี่ก็คิดว่ามันอาจจะเกินไปซักหน่อยในอารมณ์ของชุนหยาตอนนี้แต่เธอก็มั่นใจว่าซือหยินนั้นจะทำได้จริง ๆ

  อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบัญชีจะถูกคิดไปแล้ว แต่ก็ยังมีที่ไม่ดีก็ยังไม่ได้รับการบันทึกเช่นกัน เพื่อให้ ซือหยิน เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น ชุนหยา โบกมือเล็ก ๆ ของเธอไปทางซือหยินและหยิบบัญชีเปล่าที่เธอสร้างขึ้นเองออกมา

  การคิดเงินเดือนของบ้านหลังเก่านี้ขึ้นอยู่กับการผลิตไก่ 35 ตัวต่อวัน ชุนหยา และนางจางไม่สนใจมากนักเกี่ยวกับความสูญเสียเล็กน้อย และพวกเขาให้นางไค่เพียง 150 เหวิน สำหรับการนับและเก็บไข่เท่านั้น นางจางยังได้จัดการตามส่วนที่หลายคนจะได้รับอย่างถูกต้องแล้ว

  "ไก่ เป็ด และไข่ที่มีอยู่จะถูกนับอีกครั้งในครั้งต่อไป บัญชีก่อนหน้าได้ถูกนับทั้งหมดแล้วและบัญชีใหม่จะเริ่มต้นการบันทึกหลังจากนี้ ซือหยิน รับผิดชอบการนับขณะขนส่งไก่ เป็ดและไข่รายวัน รวมถึงจำนวนไข่ที่ฟักเป็นลูกไก่ ฯลฯ เจ้ายังต้องรับผิดชอบในการบันทึกการซื้ออาหารสัตว์ที่แม่ของข้าจ่ายทุกครั้ง นั่นคือการบันทึกทั้งหมดในรายรับและรายจ่ายของแต่ละวันที่ฟาร์ม"

  "นอกจากนั้นยอดเงินทั้งหมดสำหรับการซื้อและขายไก่และเป็ดเหล่านี้ได้ส่งมอบให้กับ ซือหยิน เพื่อจัดการบัญชี และซือหยินจะเป็นผู้ที่จ่ายค่าตอบแทนรายเดือนให้กับทุกคนในบ้านเก่าจากนั้นจึงจะส่งเฉพาะรายได้คืนให้กับท่านแม่"

  เมื่อชุนหยาพูดจบ ทุกคนก็มองไปที่ซือหยิน มันไม่ใช่แค่การจดบันทึกไก่และไข่เท่านั้น หากต้องการทำบันทึกที่ถูกต้องทั้งหมดและคำนวณกำไรและค่าใช้จ่ายด้วย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กและซือหยินจะทำได้จริงไหม?

  ซือหยิน ตื่นตระหนกหลังจากถูกทุกคนจับตามอง แม้ว่าเธอจะพูดว่าเธอสามารถเรียนรู้อะไรได้ แต่เมื่อเธอได้ฟังชุนหยาพูดตอนนี้ ว่าเธอต้องคิดผลกำไรและเป็นผู้จ่ายเงินให้กับทุกคนในครอบครัว ความรับผิดชอบนี้ เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำได้หรือไม่

   ซือหยินจึงพูดด้วยความตื่นตระหนก : "ชุนหยา ข้าไม่รู้ว่าข้าจะทำอย่างที่เจ้าว่ามาได้หรือเปล่า"

  

"โอเค ข้าเข้าใจเจ้า มันอาจฟังดูซับซ้อนสำหรับเจ้าตอนนี้ แต่อันที่จริง ข้าจะช่วยเจ้าทำรายการค่าใช้จ่ายและรายรับด้วยในช่วงแรกที่เจ้ายังทำไม่เก่ง จนกว่าเจ้าสามารถแยกประเภทและกรอกข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ตราบใดที่บันทึกถูกต้องและตรงเวลา บัญชีจะไม่ผิดอย่างแน่นอน ตอนแรก ๆ เราจะช่วยกันก่อนจะได้ไม่ผิดพลาด ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้านะซือหยิน และเจ้าก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเองด้วย ข้าจะคุยกับเจ้าในรายละเอียดทีหลังก็แล้วกัน เอาเป็นว่ามันง่ายมากเชื่อข้า” ชุนหยา พูดอย่างเรียบง่ายแม้จะเลินเล่อเล็กน้อย

  ซือหยิน ลอบถอนหายใจ เนื่องจากชุนหยา บอกว่ามันไม่ยาก ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและพูดว่า "ตกลง! ข้าจะเชื่อใจและฟังเจ้าเหมือนกัน"

  แต่นางหลี่ก็ยังไม่อยากวางใจมากนัก : "พี่สะใภ้ หรือให้ชุนหยาดูแลบัญชีไปเลยดีกว่าไหม ข้าเกรงว่าซือหยินของเราจะทำไม่ได้นะ"

  "เด็ก ๆ ตกลงกันแล้ว งั้นให้พวกเขาลองทำดู นอกจากนี้ ชุนหยาก็อายุเพียง 8 ขวบ และซือหยินก็อายุห่างกันเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หากชุนหยาทำได้ซือหยินก็ทำได้อย่าห่วงไปเลย"

  นางจาง รู้สึกว่าเนื่องจากชุนหยา มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับซือหยินเธอจะต้องมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่นางจางไม่ได้รับผิดชอบบัญชีที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ด้วยตัวเอง เธอก็ยินดีหากใครก็ได้จะเป็นผู้รับผิดชอบมัน

  "แต่พวกนางยังอายุไม่ 9 ขวบเลยนะ และมีบัญชีจำนวนมากสำหรับไก่และเป็ดทุกเดือน ถ้ามีอะไรผิดพลาดล่ะเราจะทำอย่างไร" สิ่งที่นางหลี่คิดก็คือหากเด็ก ๆ คิดเงินผิดพลาดไปอาจเกิดความสูญเสียกับอย่างมากมายกับครอบครัว

  นางจางรู้ว่าสิ่งที่นางหลี่กลัวคือการคำนวณของซือหยิน นั้นจะผิดและต้องสูญเสียเงิน เพราะโถ่วจินลูกของเธอเพิ่งคำนวณบัญชีในร้านผิดพลาดไปเมื่อไม่กี่วันนี้

ดังนั้นนางจางจึงปลอบโยนนางหลี่ว่า : "อย่ากังวล ข้าคิดว่าเรื่องนี้ชุนหยาจะช่วยซือหยินจัดการได้และจะสอนนางจนกว่านางจะเก่ง"

  ส่วนค่าจ้างของโถ่วจิน ที่ซือต๋าบอกว่าจะหักเพราะว่าคิดเงินผิดพลาดนั้น ก็เพียงแค่พูดไปเล่น ๆ เพื่อให้โถ่วจิน สนใจการคำนวณมากขึ้นกว่านี้เราจะหักค่าจ้างของคนในครอบครัวได้อย่างไร? และไม่ต้องห่วงเรื่องที่ชุนหยาจะสอนซือหยินทำบัญชี ปล่อยให้พวกเด็ก ๆ ได้เรียนรู้เองพวกเขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอน "

  "เอาล่ะ ทุกคนอย่าพูดอย่ากลัวว่าเสียเงินในตอนนี้ เรารีบรับเงินแล้วกลับกันดีกว่า มีงานอีกเยอะ" นางไค่ทนฟังสะใภ้พูดคุยกันอยู่นานและเธอยังไม่ได้รับเงินจากการเก็บไข่และเวลานี้ก็ต้องรีบกลับไปทำงานที่บ้านแล้วเช่นกัน

  เมื่อนางไค่ พูดเช่นนั้น นางหลี่ ก็ไม่มีอะไรจะพูด ในที่สุดนางจาง ก็มอบเงินให้นางนางไค่ มากกว่า 5 ตำลึง ซึ่งรวมถึงเงินสำหรับค่าผักประจำวันด้วย และแอบให้นางหลี่ และนางโจวด้วย ยังให้ค่าจ้างของโถ่วจินไว้กับนางหลี่ด้วย และกล่าวว่าตั้งแต่เดือนหน้าซือหยิน ก็จะได้รับเงินสด 100 เหวินเช่นกัน

  นางหลี่ต้องการซ่อนเงินจากนางไค่ เธอเก็บเงินที่ได้รับจากนางจางอย่างรวดเร็ว และมองนางไค่แม่สามีเดินนำออกจากบ้านของนางจางไป

  หลังจากที่ทุกคนในบ้านหลังเก่าออกไปแล้วชุนหยา ก็แนะนำให้นางจาง ดูบัญชีของครอบครัวกับร้านเหอเซี่ยจูอีกครั้งบางทีอาจมีอะไรคลาดเคลื่อนไปจากตัวเลขจริง ส่วนบัญชีของร้านอาหารชุนหลันนั้นถูกบันทึกโดยฉื้อโถวทุกวัน ดังนั้นจึงชัดเจนมาก เขาจดรายละเอียดทั้งหมดหลังจากที่เคยผิดพลาดเขาก็รอบคอบมากขึ้น

  เมื่อนางจางคิดบัญชีทั้งรวมสองรายการเข้าด้วยกัน ครอบครัวของพวกเขาได้รับ 66 ตำลึงในเดือนนี้ สูงเป็นประวัติการณ์ หากพวกเขาเพิ่มไก่ที่เหอเซี่ยจูขึ้นอีกในเดือนหน้า รายได้ต่อเดือนของพวกเขาน่าจะอยู่ที่ 70 ตำลึงซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีมาก

  แต่นางจางดูไม่มีความสุขขณะถือกล่องเงิน เมื่อเห็นแม่ของเธอเป็นแบบนี้ ชุนหยาจึงถามว่า : "แม่คะ เป็นอะไรไป เรามีกำไรนะไม่ดีใจเหรอ?"

  “แม่แค่ลำบาก หากเราไม่จ่ายค่าคุ้มครองให้กับเฉากัง เราอาจเจอปัญหาที่รับมือได้ยากมากกว่าที่เราคิด” นางจางถอนหายใจหลังจากพูดจบ สมัยโบราณนั้นยากเกินไปจริง ๆ นอกจากจะไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยแล้ว ​​ผู้คนก็ต้องมีความอดทนต่อการเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างมากจากกลุ่มคนที่มีอิทธิพล

  ชุนหยายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ : "อย่ากังวลไป ข้าให้อาจารย์ตั่วซุนศิษย์น้อง ส่งจดหมายให้ภรรยาของเจ้าเมือลลู่แล้ว พรุ่งนี้เราจะเจอกันที่วัดอันหยวนหกโมงเย็น"

  แม้ว่าเธอจะรู้อยู่แล้วว่าหากเธอช่วยให้นางลู่ตั้งครรภ์ได้แล้วนางลู่จะต้องช่วยเธอ แต่นางจางก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน: "ชุนหยา เราจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีในการลดน้ำหนักของนาง ให้อยู่ในระดับปกติ บวกกับการเตรียมตัว เพื่อตั้งครรภ์อีกมันเป็นเวลานานมาก แต่เฉากังให้เวลาเราสามวันรวมถึงวันนี้ด้วย แม้ว่าเราจะเกลี้ยกล่อมนางลู่สำเร็จ เราก็ต้องการรอจนกว่าจะให้เธอตั้งครรภ์ มันก็สายเกินไปอยู่ดี"

  “ท่านแม่ ท่านเคยได้ยินคำว่าข้อตกลงหรือไม่?” ชุนหยา ตอบอย่างไม่สนใจเรื่องอื่น

  นางจาง ส่ายหัวและชุนหยาอธิบายว่า: "พูดง่าย ๆ มันคือการสัญญาเพื่อทำข้อตกลงว่าหากทำได้เราต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนและหากเราไม่ได้เราจะชดใช้อย่างไร"

  เมื่อได้ยินสิ่งที่ชุนหยาพูด นางจางก็ผงะ : "แลกเปลี่ยนและชดใช้เหรอ? เจ้าคิดเรื่องนี้ได้อย่างไร อย่างนั้นเราไปหานางลู่กันเลยได้ไหม?"

"ยังค่ะ เรานัดกันไว้พรุ่งนี้ และยังมีเวลา" ชุนหยา ยังคงมั่นใจว่านางลู่จะยอมทำตามข้อตกลงกับเธอ แม้ว่านังไม่รู้ว่าเวลานี้นางจะเปิดอ่านจดหมายหรือไม่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด