ตอนที่แล้ว1076 - ร่างศักดิ์สิทธิ์ผู้บรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แห่งตระกูลหวัง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1078 - ราชาคนเถื่อนผู้ยิ่งใหญ่ 

1077 - การต่อสู้ของราชามังกรดำ 


1077 - การต่อสู้ของราชามังกรดำ

ภายในส่วนลึกของตระกูลหวังมีเสียงแตรยาวดังขึ้น คลื่นของพลังศักดิ์สิทธิ์กวาดไปทั่วสนามรบและทำให้ลูกศิษย์ของตระกูลหวังหยุดความเคลื่อนไหวก่อนจะเริ่มถอยกลับเข้าแนวป้องกันอย่างรวดเร็ว

เรือรบทั้งหมดล่าถอย และรถศึกหลายคันล่าถอยไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของตระกูล ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและเลือดที่ไม่มีวันล้างออก

“สมกับที่เป็นตระกูลอมตะโบราณ มาถึงขั้นนี้แล้วเรายังไม่มีทีท่าว่าจะชนะได้แม้แต่น้อย!”

เย่ฟ่านถอนหายใจ เขารู้ว่าเวลาสำหรับการต่อสู้ชี้ขาดความเป็นและความตายมาถึงแล้ว มันเป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งสองฝั่ง

“ฆ่า!”

เย่ฟ่านพุ่งไปข้างหน้าราวกับลูกศรศักดิ์สิทธิ์ ทหารม้าเก้าพันนายส่งเสียงดังกึกก้องและควบคุมสัตว์อสูรของพวกเขาให้บุกตะลุยเข้าไปในตระกูลหวัง

เมื่อร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหวังปรากฏตัวออกมา แน่นอนว่าเจตนาของฝ่ายตรงข้ามคือการท้าประลองกับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของฝ่ายคนเถื่อน

อย่างไรก็ตามเท่าที่เย่ฟ่านมองเห็น ไม่มีใครในฝ่ายเขาที่สามารถต่อสู้กับชายชราคนนี้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงนำกำลังทั้งหมดบุกไล่ล่าลูกหลานของตระกูลหวังแทน

เมื่อเย่ฟ่านและคนอื่นๆ มาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของตระกูลหวัง เหล่าชายชราทั้งสิบสามคนร่างกายอาบไปด้วยเลือด นี่ไม่ใช่เลือดของพวกเขาแต่เป็นเลือดของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหวังทั้งสิ้น

ด้านหน้าคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหวัง และจากนั้นเสียงแตรยาวก็ดังขึ้นอีกครั้ง นักรบของตระกูลหวังทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในกำแพงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายของตระกูล

กองทัพคนเถื่อนล้อมสถานที่แห่งนี้ไว้อย่างแน่นหนา กองทัพทั้งสี่ทิศทางมาบรรจบกันโดยสมบูรณ์ พวกเขาพร้อมที่จะทำการโจมตีครั้งสุดท้ายเช่นกัน

“ไม่คิดว่าทายาทของจักรพรรดิคนเถื่อนผู้ยิ่งใหญ่มั่งกู่จะยังอยู่ในหนานหลิง ข้าคิดว่าพวกเจ้าตายไปตั้งแต่เมื่อสามพันปีก่อนแล้ว”

เสียงที่แก่ชราดังออกมาจากปากของร่างศักดิ์สิทธิ์ผู้ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แห่งตระกูลหวัง สมาชิกทุกคนในตระกูลหวังที่แก่ชราหลายสิบคนติดตามอยู่ด้านหลังของเขาด้วยความนอบน้อม

“ร่างราชันศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหวัง!”

ยอดฝีมือระดับผู้อาวุโสของเผ่าคนเถื่อนตกตะลึงเป็นอย่างมาก

นี่คือบรรพชนแห่งตระกูลหวังเขามีชีวิตอยู่มานานกว่าสี่พันเจ็ดร้อยปี แม้ว่าร่างกายของเขาจะเหี่ยวเฉาเหลือแต่กระดูก แต่ดวงตาคู่นั้นยังคงเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับเตาหลอมสองลูก

คนเถื่อนที่แข็งแกร่งหลายคนรู้สึกว่าปากของพวกเขาแห้งผาก ร่างกายของพวกเขากำลังจะระเบิด และวิญญาณของพวกเขากำลังจะมอดไหม้ นี่คือพลังเหนือธรรมชาติของราชาผู้ยิ่งใหญ่

มีตำนานกล่าวไว้ว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้จะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับสิ่งมีชีวิตอมตะ

แม้ว่าคำพูดนี้จะเป็นการยกย่องมากเกินไป แต่ในความเป็นจริงพลังของร่างศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็อ่อนแอกว่าสิ่งมีชีวิตอมตะเล็กน้อยเท่านั้น

ในขณะเดียวกันร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหวังที่ถือขวานโบราณอยู่ในมือนั้นได้ปลดปล่อยคลื่นพลังทำลายล้างให้แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายตลอดเวลา ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้เทียบได้กับสิ่งมีชีวิตอมตะที่เย่ฟ่านเห็นจากเรือรบทองแดงอย่างแน่นอน

หัวหน้าคนเถื่อนยกขวานหินขึ้นและปล่อยให้มันแขวนอยู่เหนือกองทัพคนเถื่อนทั้งหมด พลังของอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วของพวกเขาปลดปล่อยอำนาจออกมาเพื่อต้านทานแรงกดดันของฝ่ายตรงข้าม

“ทหารม้าเหล็กหลายหมื่นคนของเจ้าสามารถบุกตะลุยเข้าสู่ส่วนลึกของดินแดนบรรพชนตระกูลหวังได้ ความสำเร็จนี้คู่ควรให้พวกเจ้าภาคภูมิใจแล้ว”

ชายชราที่น่ากลัวของตระกูลหวังกล่าวอย่างเฉยเมย ชื่อของเขาคือหวังลี่ เขาเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ตั้งแต่เมื่อสามพันเจ็ดร้อยปีก่อน เมื่อบวกกับอายุที่แท้จริงมันทำให้เขากลายเป็นเซียนเทียมที่มีอายุเกือบห้าพันปีแล้ว

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จะทำให้อาณาจักรทั้งห้าสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน แม้แต่เย่ฟ่านก็ยังนึกไม่ถึงว่าในโลกนี้จะยังมีราชาผู้ยิ่งใหญ่ซ่อนตัวอยู่อีกมาก

“เราจะเทียบกับเจ้าได้อย่างไร นั่งอยู่บนที่ราบทางตอนเหนือแต่กลับส่งกำลังไปที่หนานหลิงเพื่อชำระล้างผู้คนของเราด้วยเลือดแน่นอนว่าเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อถกว่าผู้ใดถูกผู้ใดผิด หากกองทัพของเราไม่ถูกทำลายจนหมดสิ้น ในวันนี้ตระกูลหวังจะต้องถูกลบล้างออกไปจากโลก” คนเถื่อนอาวุโสกล่าว

เวลานี้ไม่ต้องกล่าวอะไรมากแล้ว เพราะการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว มันเลยจุดที่สามารถถอยกลับได้อีกแล้ว

“ถ้าเช่นนั้นก็แสดงให้ข้าดูทีว่าพวกเจ้ามีความสามารถแค่ไหน!” ราชาหวังไม่มีความผันผวนทางความรู้สึกแม้แต่น้อย

ภายใต้แสงสีฟ้าที่สาดส่องออกไปทุกทิศทาง ราชามังกรดำได้ร่อนลงมาที่พื้นก่อนจะเปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นชายวัยกลางคนที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง

ในบรรดาคนเถื่อนทั้งหมดที่นี่ไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหวังได้อย่างแน่นอน ดังนั้นในฐานะผู้พิทักษ์แห่งเผ่าคนเถื่อน ราชามังกรดำจึงจำเป็นต้องเข้าปะทะกับฝ่ายตรงข้ามแทน

“ผู้อาวุโสฉางหลงระวังตัวด้วย!” หัวหน้าคนเถื่อนเตือน

“เด็กๆ ไปเล่นกับพวกมันสักหน่อย เมื่อข้าตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่มีศัตรูคนใดสามารถรอดชีวิตออกจากที่นี่ได้!” ราชาหวังส่งเสียงคำรามดังกึกก้อง

ในขณะนี้ ราชาหวังถือขวานโบราณก้าวไปข้างหน้าอย่างดุร้าย พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุออกมาจากร่างของเขานั้นทำให้เหล่าคนเถื่อนเกิดความหวาดกลัวอย่างรุนแรง

ฉางหลงมีสายเลือดแห่งมังกรที่สูงศักดิ์ ร่างของเขาแข็งแกร่งไม่แตกต่างจากร่างศักดิ์สิทธิ์ที่บรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มิหนำซ้ำกรงเล็บแต่ละข้างนั้นยังแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุดอีกด้วย

ภายใต้เสียงระเบิดที่ดังขึ้นกลางสนามรบ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองพุ่งเข้าหากันด้วยความเร็วน่าทึ่ง พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขากวาดออกไปรอบทิศทางและทำให้สนามรบปั่นป่วนอย่างรุนแรง

การเปลี่ยนแปลงของมังกรบรรพกาล!

ทักษะลับของเผ่ามังกร ร่างของฉางหลงวูบไหวกลายเป็นเงาติดตา กรงเล็บที่แหลมคมข้างนั้นพุ่งเข้าหาลำคอของหวังลี่ด้วยความเร็วที่ไม่แตกต่างจากสายฟ้า

“เจิ้ง…”

หวังลี่อ้าปากและพ่นอักขระเต๋าสีทองออกมา อักขระนั้นปะทะกับกรงเล็บของฉางหลงและกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ที่พยายามกลืนฝ่ายตรงข้ามเข้าไป

ด้วยแสงสีฟ้าสว่างวาบร่างของฉางหลงถอยห่างออกจากสนามรบ ความเร็วที่เขาแสดงออกมานั้นไม่มีผู้ใดเทียบได้ ปรมาจารย์ทั้งสองต่อสู้กันหลายร้อยกระบวนท่าโดยที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะปรากฏผลแพ้ชนะออกมา

ในเวลาเดียวกันผู้บ่มเพาะของตระกูลหวังได้ยืนอยู่ในลักษณะของค่ายกลโบราณ พวกเขากำลังท่องบทสวดลึกลับเพื่อสร้างเป็นการกระตุ้นค่ายกลสังหารและเตรียมจะกวาดล้างคนเถื่อนออกไปในครั้งเดียว

คลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์สีแดงฉานถูกดึงดูดมาจากทั่วทุกมุมโลก พวกมันก่อตัวขึ้นเป็นค่ายกลที่มีความซับซ้อนอย่างยิ่ง และคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากค่ายกลนั้นเพียงพอจะทำให้สีหน้าของคนเถื่อนทุกคนบิดเบี้ยวโดยสิ้นเชิง

แต่สำหรับยอดฝีมือที่แท้จริงอย่างเย่ฟ่านสีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย เขารู้ดีว่าค่ายกลเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าค่ายกลของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

สิ่งสำคัญที่สุดคือการต่อสู้ที่อยู่บนท้องฟ้า ขอเพียงฉางลงได้รับชัยชนะต่อให้ตระกูลหวังมีค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในมือจริงๆ พวกเขาก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ได้

เสียงระเบิดบนท้องฟ้ายังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หวังลี่อ้าปากพ่นอักขระสีทองออกมาหลายสิบตัว อักขระเหล่านั้นมีพลังทำลายล้างที่น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง การต่อสู้ดำเนินไปหลายร้อยกระบวนท่า แต่ฉางหลงยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใกล้ร่างของหวังลี่ได้แม้แต่น้อย

“ฆ่า!”

ในขณะนี้หวังลี่ตะโกนเสียงดัง การล่อลวงสิ้นสุดลงแล้ว อักขระที่เขาพ่นออกมาและถูกทำลายด้วยมือของฉางหลง จู่ๆ ก็ไหลมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว พวกมันหลอมรวมกลายเป็นวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่หมุนวนอยู่รอบตัวของหวังลี่ทำให้ร่างของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทองราวกับดวงอาทิตย์

ดวงตาซ้ายของหวังลี่มีภาพของดวงอาทิตย์สีทองปรากฏขึ้น ในขณะที่ดวงตาคล้ายของเขาก็มีแสงสว่างจ้าของดวงจันทร์ปรากฏออกมา!

นี่คือทักษะลับสุริยันจันทรานิพพาน เมื่อถูกใช้ออกแล้วดวงตาทั้งสองข้างของผู้บ่มเพาะจะถูกทำลายทันที อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาได้รับมาก็คือพลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ผู้บ่มเพาะแข็งแกร่งเทียบเท่าสิ่งมีชีวิตอมตะ

ฉางหลงมีร่างกายสูงใหญ่ไม่แตกต่างจากคนเถื่อนทั่วไป มีเพียงปีกสีดำเท่านั้นที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนเถื่อนคนอื่นๆ กรงเล็บในมือทั้งสองข้างของเขาวูบไหวอยู่กลางอากาศ

ในตอนนี้เขากำลังพุ่งเข้าหาหวังลี่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า เขารู้ดีว่าไม่อาจปล่อยให้หวังลี่แสดงทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้ เพราะนี่จะไม่ใช่ความตายของเขาเพียงคนเดียว มันจะเป็นผลกระทบอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อลูกหลานคนเถื่อนที่อยู่ด้านล่างด้วย

…..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด