ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปมาทำเพื่อหมู่บ้านกันเถอะ! NC

หญิงสาวผู้อาภัพ


ตอนที่ 1 หญิงสาวผู้อาภัพ

ภายในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยักษ์ใหญ่ยืนต้นสูงจำนวนมาก บรรยากาศที่นี่ดูร่มรื่น และเต็มไปด้วยสายลมอ่อนๆ ที่กำลังพัดโชยไปมา ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มชวนให้ง่วงนอน

ภายในป่าแห่งนี้ เต็มไปด้วยบ้านเรือนสวยงามมากมาย ที่สร้างติดอยู่ตามลำต้น หรือไม่ก็อยู่บนกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ยักษ์ พร้อมมีบันไดไม้พาดไปมาตามต้นไม้เป็นทางเชื่อมต่อกัน จนกลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาลึก ห่างไกลจากผู้คน ที่นี่เป็นดินแดนมายาที่สามารถหลบซ่อนสายตาจากผู้คนภายนอกได้เป็นอย่างดี

สถานที่นี้ห่างไกลจากสงคราม ปราศจากความขัดแย้ง ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความสงบสุข ราวกับกำลังอยู่บนสรวงสวรรค์

ชื่อของที่นี่ก็คือ... หมู่บ้านเอลฟ์ 

ใช่.. ถึงแม้ชื่อของมันจะดูธรรมดาไปสักหน่อย แต่ก็คงไม่มีชื่อไหนที่จะเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้ว

ความจริงแล้วตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนที่นี่ ก่อนหน้านี้ เขาเคยอาศัยอยู่ที่ดวงดาวสีฟ้า เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็เกิดอุบัติเหตุทำให้สะดุดล้มศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง..

เมื่อรู้ตัวอีกที เขาก็มาอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มชาวเอลฟ์ซะแล้ว แม้ตอนแรกเขาจะตกใจ แต่ไม่นานเขาก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างดี

“เอาเถอะ.. เรื่องแบบนี้ในนิยายก็มีให้เห็นออกจะบ่อยนี่นา แต่จะว่าไป เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้วเหรอเนี่ย” เขาพูดออกมาอย่างแปลกใจ ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนบันไดไม้ที่เชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ด้วยกัน

“แต่ว่านะ สร้างหมู่บ้านสูงขนาดนี้ไม่กลัวตกลงไปตายบ้างเหรอเนี่ย” เขาพูดอย่างหวั่นๆขณะก้มลงมองดูข้างล่าง คำนวณระดับความสูงน่าจะราวๆ 50 เมตร

“ก็เพราะมันปลอดภัยกว่าการสร้างหมู่บ้านอยู่ด้านล่างยังไงล่ะ” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมา

เขารีบหันไปมองทางต้นเสียงนั้นทันที จึงได้เห็นเด็กสาวอายุประมาณ 15 ปี รูปร่างเพรียวบางหน้า อกเล็ก เส้นผมยาวเงางามสีทอง

นัยน์ตาคู่สวยของเธอนั้น มีสีเหลืองปนทองดูช่างงดงาม ความงดงามของเธอนั้น มันมากยิ่งกว่ามนุษย์คนใดๆ ที่เขาเคยได้พบเจอมาในโลกเก่าของเขาเสียอีก

‘ก็นะ..เธอเป็นเอลฟ์นี่ ก็คงไม่แปลก’ เขาคิดในใจขณะที่สายตายังคงจ้องมองดูเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า

แต่ถึงจะบอกว่าเด็กก็เถอะ ที่จริงแล้วอายุจริงๆ ของเธอก็ปาเข้าไป 513 ปี แล้วล่ะนะ

‘นอกจากมีรูปร่างที่งดงามแล้ว เธอยังมีอายุยืนอีกต่างหาก ช่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าอิจฉาซะจริง แต่.. อ๊ะ! ตอนนี้เขาก็เป็นแบบเธอแล้วนี่หว่า!’

“เป็นไงบ้างนากิ ความทรงจำกลับมาบ้างแล้วหรือยัง” เด็กสาวเอ่ยถามและเรียกชื่อของเขา พร้อมจ้องมองมาที่เขาด้วยความเป็นห่วง

อาจเป็นเพราะร่างที่เขาเข้ามาสิงสู่อยู่ในตอนนี้ก็เกิดอุบัติเหตุหัวกระแทกพื้นจนทำให้สลบไปเช่นเดียวกัน

เมื่อตัวเขาได้เข้ามาสิงสู่ร่างนี้แล้ว พอฟื้นขึ้นมา เขาจึงได้หลอกทุกคนไปว่า เขาความจำเสื่อม และนั่นก็ทำให้เขารอดจากความสงสัยของทุกคนที่นี่ไปได้

ส่วนเด็กสาวที่เข้ามาทักเขานั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาเอง ไม่สินะ! ต้องบอกว่าเพื่อนสมัยเด็กของร่างนี้มากกว่า แม้เธอจะอายุห่างกว่าร่างนี้ถึง 57 ปี ก็เถอะ

ใช่ ร่างที่เขาได้มาอยู่นี้เพิ่งอายุได้ 456 ปี แต่ถึงจะบอกว่าอายุ 456 ปีแล้ว แต่รูปร่างนี้กลับเหมือนเด็กประถมซะอย่างงั้น

ส่วนเด็กสาวที่ทักเขานั้น เธอมีชื่อว่า "นานา" เป็นเอลฟ์ในโลกแฟนตาซีแท้ๆ แต่ชื่ออย่างกับคนญี่ปุ่น.. ต้องบอกว่าสมแล้วกับที่เป็นต่างโลกดีหรือเปล่านะ?

“ห่วงตัวเองเถอะ ต้องนั่งรถเข็นแท้ๆ แต่ยังกล้าข้ามสะพานไม้แบบนี้อีกนะ เฮ้อ..” เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ขณะมองจ้องไปที่เธอ

แม้เธอนั้นจะโชคดี เกิดมามีอายุยืน และยังมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามก็ตาม แต่กลับต้องเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สมประกอบ

ขาทั้งสองข้างของเธอนั้นแม้จะมีความรู้สึก แต่ก็ไม่สามารถที่จะขยับได้ และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องนั่งรถเข็นมาตลอดทั้งชีวิต..

เพราะแบบนี้ ตอนสมัยเด็กเธอจึงมาเล่นกับเขาอยู่บ่อยๆ อาจจจะเพราะเธอมีเวลาว่างเยอะด้วยละมั้ง.. จึงทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก

“ฉันข้ามสะพานนี่มา 500 กว่าปีแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า”

“คร้าบๆ แม่คนเก่ง” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเธอ เพื่อช่วยเธอเข็นรถและพาเธอไปยังที่พัก

‘แม้รถเข็นของเธอจะไม่ได้ทันสมัยเหมือนในโลกเดิมที่เขาอยู่ แต่อย่างน้อยมันก็ยังดีที่มีล้อให้เข็นรถล่ะนะ..ดีไปอย่าง’

เขาเข็นรถไปตามสะพานไม้ที่เป็นทางยาวเชื่อมต่อกันเหมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ ในระหว่างนั้นก็มองดูบรรยากาศรอบข้างที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจีของต้นไม้และบ้านเรือนต่างๆ ไปด้วย

“ช่างเงียบสงบจังเลยนะที่นี่ แต่จะว่าไป ก็ไม่มีคนเลยนะเนี่ย..” เขาอดที่จะพูดออกมาไม่ได้

“อื้ม ช่วงเวลาแบบนี้ คนอื่นมักจะไปที่โบสถ์กันทั้งนั้นแหละ”

“นั่นสินะ”

โดยเหล่าบรรดาเอลฟ์ที่นี่ ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนากัน ทำให้เวลาส่วนใหญ่นั้น พวกเขาก็มักจะเข้าไปในโบสถ์ ที่สร้างอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ เพื่อที่จะทำกิจกรรมร่วมกันและอธิษฐานจิตสวดภาวนา

โดยใจกลางหมู่บ้านนั้นจะสร้างเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ แล้วก็มีหมู่บ้านรายล้อมอยู่รอบๆ อีกมากมาย

ทำให้ในช่วงเวลากลางวันนั้น ในหมู่บ้านมักจะเงียบสงบ และไร้เสียงของผู้คน จะมีแค่เพียงแค่คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาเท่านั้น จึงจะอยู่ในหมู่บ้านเวลานี้..

“ว่าแต่ นานา เธอไม่นับถือศาสนากับพวกเขาด้วยเหรอ?”

“พูดอย่างกับว่าฉันจะเดินไปได้น่ะ?”

“เอ่อ...ก็นั่นสินะ”

“แล้วอีกอย่างถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ทำไมต้องให้ฉันเกิดมาในสภาพแบบนี้ด้วยล่ะ!” เธอพูดออกมาด้วยความน้อยใจ

“อืม...ก็พูดยากเหมือนกันนะ” เขาตอบเบาๆ ด้วยความเข้าใจ

พูดคุยกับเธออยู่สักพักหนึ่ง ไม่นานเขาก็เดินไปถึงบ้านของเธอ บ้านเธอเป็นบ้านไม้สร้างติดกับต้นไม้ขนาดใหญ่ ไม่ได้ต่างอะไรกับบ้านของคนอื่นมากนัก ส่วนที่ต่างออกไป ก็คงเป็นตัวบ้านที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ

เมื่อเข้าไปถึงจะเจอที่ถอดรองเท้า เดินตรงไปอีกหน่อยจะเป็นห้องนอนที่มีเตียงเล็กๆ ของเธออยู่ ส่วนด้านซ้ายมือนั้นจะเป็นห้องครัว และด้านขวาจะเป็นห้องน้ำ

เมื่อมาถึงที่ถอดรองเท้า เขาก็ได้อุ้มเธอขึ้นมา ก่อนจะพาไปที่เตียงนอน วินาทีที่เขาได้เข้ามาในห้องนอนของเธอนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ลอยเข้ามาแตะจมูก

“ขอบคุณนะ นากิ ช่วยได้เยอะเลย” นานายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ขณะกล่าวขอบคุณเขา

“อื้มไม่เป็นไรหรอก” เขาพูดพรางล้มตัวลงนอนข้างๆ เธอ

และเพราะเตียงนอนของเธอนั้นมีขนาดเล็กทำให้ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่ค่อนข้างใกล้ชิดกัน

และขณะที่เขาหันไปมองจ้องที่ร่างกายของเธอ มันก็ทำให้หัวใจของเขา ค่อยๆ เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

ก็นะ.. ตัวเขาเองก็เป็นเด็กหนุ่มสุขภาพดีคนหนึ่ง การที่ได้มานอนใกล้ๆ กับหญิงสาวสวยน่ารักแบบนี้ ถ้าไม่รู้สึกตื่นเต้นล่ะสิแปลก

แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ อาการแบบนี้ต่างหากที่เกิดขึ้นกับเขาต่างหาก.. เพราะจากที่เขาเรียนรู้มาตลอด 1 อาทิตย์ทำให้เขาได้รู้ว่า

แม้เอลฟ์นั้นจะมีอายุยืนและงดงามเพียงใด แต่ก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ.. อัตราการสืบพันธุ์และการให้กำเนิดของพวกเขานั้น... เข้าขั้นต่ำมาก

พูดง่ายๆ ก็คือพวกนี้เป็นพวกที่มีอารมณ์ทางเพศน้อยมาก การจะมีเซ็กส์กันแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นการทำเพื่อต้องการลูกเท่านั้น น้อยมากที่จะเกิดจากอารมณ์ทางเพศ

‘แต่ทำไม.. เขาที่อยู่ในร่างเอลฟ์ ถึงมีอารมณ์ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้หญิงล่ะเนี่ย!’ เขาคิดอย่างไม่เข้าใจขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยของนานา

“มีอะไรงั้นเหรอ ทำไมอยู่ๆ หน้าก็แดงเชียว” เธอถามออกมาอย่างสงสัย เมื่อมองมายังใบหน้าเขา

แม้ตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาพยายามอดกลั้นมาตลอด ที่จะไม่ทำอะไร ล่วงเกินกับหญิงสาวตรงหน้า เพราะยังไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่

แต่เมื่อเขาเริ่มเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ความรู้สึกที่กักเก็บเอาไว้มันก็เริ่มทะลักออกมา

เขาจ้องมองไปที่ร่างกายอันงดงามของเธอ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ และเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมสีเหลืองทองของเธอเบาๆ และนำมาดม

ทำให้เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับดอกไม้ ขณะนั้นเอง หัวใจของเขาก็เต้นรัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อคิดอย่างแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำนั้นไม่ได้ผิดอะไร เขาจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสกับแก้มนุ่มๆ ของเธอ

สายตาของเขาได้ประสานเข้ากับสายตาของเธอ ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา

“นี่.. นานา เรามา ทำเพื่อหมู่บ้านกันเถอะ..”

つづく

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด