บทที่ 53 ราชาอสูรกินเหล็ก อีเลฟเว่น
ในวันที่ 4 เดือนสิงหาคม ในตอนเช้าตรู่ ความหิวโหยได้ปลุกซืออวี๋ให้ตื่นขึ้นมา
เมื่อผู้ที่อยู่ในสภาพอ่อนแออดอาหารหนึ่งมื้อ ความหิวโหยก็เกินกว่าที่จะทนไหว พวกเขาต้องกินให้อิ่มทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น
“ฮ่าวววว—” ซืออวี๋หาวและบิดขี้เกียจก่อนที่จะลุกจากเตียง
ซืออวี๋สวมรองเท้าแตะแมวและเปิดประตูห้องนอน
ในลานบ้าน ซืออวี๋ไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนอีเลฟเว่นได้นอนหลับหรือไม่ เมื่อเขาเดินออกจากห้องนอน เขาก็บังเอิญเห็นอีเลฟเว่นนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ราวกับกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับชีวิตแพนด้า
ในกรงบนต้นไม้ หนอนไหมเขียวมองดูอีเลฟเว่นอย่างเงียบเชียบเพราะมันนอนไม่หลับซึ่งต่างจากซืออวี๋ สาเหตุที่มันนอนไม่หลับเป็นเพราะเจ้าแพนด้าตัวนี้
“จิ๋—”
หนอนไหมเขียวหลั่งน้ำตา ไม่เพียงแค่มันจะเห็นอีเลฟเว่นฝึกฝนการตกเท่านั้น แต่มันยังเห็นอีเลฟเว่นปล่อยกระแสไฟฟ้าอีกด้วย!
ภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน สายฟ้าก็ส่งเสียงกับนกนับพันตัว มันจะนอนหลับได้ยังไงกัน!
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
ซืออวี๋เอ่ยถามอีเลฟเว่นอย่างตั้งใจ
“อู๋!”
อีเลฟเว่นหันมามองและยื่นมือของมันออกมา มันบอกว่าการผสานฝ่ามือสายฟ้าและการเคลือบแข็งเป็นเรื่องยากมาก…
ดูเหมือนว่าการผสานฝ่ามือสายฟ้าขั้นช่ำชองและการเคลือบแข็งขั้นชำนาญจะยากเล็กน้อย
มันศึกษาตลอดทั้งคืน มันกินอาหารเย็น + การหลับลึก + พยายามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุทักษะผสานได้
“ถ้าเช่นนั้นความเชี่ยวชาญทักษะก็ยังขาดอยู่เล็กน้อย ไม่เป็นไร กินอาหารกันก่อน ข้าจะเพิ่มแต้มให้เจ้าอีกในภายหลัง”
“เจ้าสามารถทำมันได้หลังจากที่เจ้าขยันมากพอ”
ช่างเป็นนักฝึกสัตว์อสูรที่เข้าใจอสูรกินเหล็กของเขาได้ดี
…
ซืออวี๋ได้ให้อีเลฟเว่นและหนอนไหมเขียวกินทรัพยากรอาหารที่เหลืออยู่ในบ้านด้วยการใช้อาหารเช้ามื้อนี้
หลังจากนั้น เขาก็ไปที่ศูนย์ฝึกศิลาไผ่เพื่อกิน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ฝึกศิลาไผ่อยู่ไกลเกินไป การไปที่นั่นทุกวันนั้นเสียเวลามาก ท้ายที่สุด เขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ฝึกฝนของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ทุกวัน…
เอาล่ะ เขาจะถามทีหลังว่าเขาสามารถซื้ออุปกรณ์ฝึกฝนกลับบ้านได้ไหม
ในวันนั้น
ซืออวี๋ได้มายังศูนย์ฝึกศิลาไผ่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในคราวนี้ ไม่เพียงแค่รุ่นพี่แพนด้าจะไม่อยู่เท่านั้น แต่หลินฮงเหนียนก็กำลังเตรียมที่จะออกไปข้างนอกเช่นกัน
นี่เป็นเรื่องปกติ รุ่นพี่แพนด้าใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาอสูรกินเหล็กในฐานเพาะพันธุ์ ในขณะเดียวกัน ในฐานะนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ การที่หลินฮงเหนียนจะอยู่ในศูนย์ฝึกตลอดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้
“ซืออวี๋”
“เจ้าได้เข้าร่วมการประเมินที่ภูเขาเทียนหมัง ดังนั้นเจ้าก็อาจต้องการสำรวจซากปรักหักพัง”
ก่อนที่จะออกไป หลินฮงเหนียนได้เอ่ยถาม
“ใช่แล้ว” ซืออวี๋พยักหน้า
“ตามคำแนะนำของนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดในกองทัพนักฝึกสัตว์อสูร ซากปรักหักพังนี้เหมาะสำหรับการฝึกฝนมาก ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าอาจได้รับผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิด”
“เจียงรุ่ยและคนอื่นก็จะสำรวจซากปรักหักพังในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน พวกเจ้าสามารถแข่งขันกันได้อีกครั้ง”
หลินฮงเหนียนมองไปทางภูเขาหิมะและถอนหายใจเล็กน้อย “ข้าจะออกจากเขตผิงเฉิงสักพักหนึ่ง หากเจ้ามีอะไรที่เจ้าไม่เข้าใจในศูนย์ฝึกแห่งนี้ เจ้าสามารถไปถามซิ่วจูได้โดยตรง”
ปรมจารย์หลินจากไปอย่างเร่งรีบ และซืออวี๋ก็ยังไม่ได้ถามว่ามีบริการส่งอุปกรณ์ฝึกที่ศูนย์ฝึกศิลาไผ่ไหม… ช่วยไม่ได้ เขาทำได้เพียงแค่วิ่งไปที่โรงอาหารเพื่อถามคนอื่น
ในโรงอาหาร ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “แน่นอน อาหารเสริมที่มีสารอาหารสูงและอาหารของอสูรกินเหล็กส่วนใหญ่ในเขตผิงเฉิง ไม่สิ ในเมืองทุ่งน้ำแข็งถูกสั่งจากที่นี่ ดังนั้นมีบริการจัดส่งแน่นอน”
“ปรมจารย์หลินกล่าวว่าเจ้าสามารถใช้ทรัพยากรบ่มเพาะของศูนย์ฝึกและบริการจัดส่งได้อย่างอิสระ เจ้าเพียงแค่บอกเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ และเวลาจัดส่งให้แก่ข้า”
“ตกลง ขอบคุณมาก”
เมื่อเขาได้ยินว่าสามารถส่งไปที่บ้านของเขาได้ ซืออวี๋จึงรู้สึกสบายใจในทันที ถ้าเช่นนั้น… เขาก็จะสั่งอาหารของอสูรกินเหล็กสามเวลาทุกวัน
อย่างไรก็ตาม จากลักษณะแล้ว ตระกูลของรุ่นพี่แพนด้าใจกว้างยิ่งกว่าที่เขาคาดไว้มาก!
นั่นสมเหตุสมผล ตระกูลธรรมดาจะซื้อฐานเพาะพันธุ์อสูรกินเหล็กส่วนตัวได้ยังไงกัน?
หลังจากสั่งทรัพยากรอาหารสำหรับสามวันแล้ว ซืออวี๋ก็ออกจากศูนย์ฝึกศิลาไผ่ทันที
“เหลืออีกสามวัน”
ยังมีเวลาเหลืออีกสามวันก่อนการสำรวจซากปรักหักพังที่ถูกจัดขึ้นโดยสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร
ในวันที่ 7 เดือนสิงหาคม ซืออวี๋จะติดตามคนกลุ่มใหญ่เข้าไปในซากปรักหักพัง
เพราะเขาได้ยินว่ามันเป็นซากปรักหักพังประเภทบททดสอบ ซืออวี๋จึงตัดสินใจใชช้ประโยชน์จากสามวันที่เหลือเพื่อมเพิ่มความแข็งแกร่งของอีเลฟเว่นอีกครั้งโดยการใช้สารบัญทักษะ
เมื่อเขามีอาหารเสริม อาหาร และอาหารเสริมที่มีสารอาหารสูงจำนวนมากแล้ว ความแข็งแกร่งของอีเลฟเว่นจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ซืออวี๋ก็ได้เตรียมอาหารเสริมทั้งหมดและเริ่มสอนอีเลฟเว่นถึงวิธีใช้การปราบปราม!
เขาวางแผนที่จะสอนทักษะระดับสูงให้หมดก่อนที่จะช่วยอีเลฟเว่นในการเพิ่มความเชี่ยวชาญของการเคลือบแข็งและฝ่ามือสายฟ้าเพื่อให้ทักษะผสานเสร็จสมบูรณ์
อีเลฟเว่นเอามือของมันขึ้นมาปิดตาและเหลือกางฝ่ามือออกเล็กน้อยเพื่อมองดูอย่างเงียบเชียบ
[ทักษะ] : การปราบปราม
[ระดับทักษะ] : สูง
[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะประเภทจิตวิญญาณ มันสามารถข่มขู่ ครอบงำ และสั่งสัตว์อสูรด้วยออร่าของมัน มันสามารถทำให้สัตว์อสูรที่อ่อนแอกว่าตัวมันหมาดสติได้ มันเป็นสัญลักษณ์ ‘ศักยภาพแห่งราชันย์’
[สถานะ] : สามารถสอนได้
ในจุดหนึ่ง ทักษะการปราบปรามอาจกล่าวได้ว่าเป็นทักษะทั่วไป สัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่าราชันย์จะสามารถปลุกมันได้โดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาสัตว์อสูรระดับปลุกตื่น ระดับเหนือธรรมชาติ และระดับผู้บัญชาการ หากพวกมันสามารถเชี่ยวชาญการปราบปรามได้นั้นจะน่าประทับใจมาก
มันไม่ได้เติบโตจนถึงระดับราชันย์ แต่มันก็สามารภเข้าใจการปราบปรามได้ล่วงหน้า เรื่องนี้แทบจะแสดงให้เห็นว่าสัตว์อสูรตัวนี้มีศักยภาพแห่งราชันย์
ในฐานะที่เป็นฐานเพาะพันธุ์อย่างเป็นทางการที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทุ่งน้ำแข็ง มีเสือหมอบและมังกรซ่อนยู่ทุกหนแห่ง สัตว์อสูรที่ทรงพลังทั้งหมดอยู่ล้อมรอบพวกเขา ดูเหมือนว่าเจ้าของหมาป่าหิมะตัวนั้นจะไม่เรียบง่ายเลย
ซืออวี๋ไม่รู้เกี่ยวกับทักษะการปราบปรามมากนัก
เขารู้เพียงแค่สัญลักษณ์ความเชี่ยวชาญสามขั้นแรกของการปราบปรามเท่านั้น
ขั้นเริ่มต้น : ข่มขู่คู่ต่อสู้ ทำให้จิตวิญญาณของคู่ต่อสู้อ่อนแอลง และเพิ่มเจตจำนงให้กับตัวเอง มันมีผลส่วนหนึ่งในการสั่งสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ขั้นช่ำชอง : มันสามารถทำลายเจตจำนงของคู่ต่อสู้โดยตรงและทำให้คู่ต่อสู้มึนงง สร้างความเสียหายทางจิตใจ
ขั้นชำนาญ : สามารถใช้การปราบปรามวงกว้าง การเหลือบมองเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้สัตว์อสูรนับไม่ถ้วนหมดสติด้วยออร่าจิตวิญญาณ
สำหรับความเชี่ยวชาญขั้นสมบูรณ์และขั้นเหนือธรรมชาติ เขาไม่สามารถหาเรื่องนี้ได้ในโทรศัพท์ของเขาได้เลย อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋สามารถคาดเดามันอย่างเรียบง่ายได้
กล่าวโดยย่อ การจะถูกจัดว่าเป็นทักษะระดับสูง ศักยภาพทักษะนั้นจึงสูงมาก
“สอน”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าคือราชาอสูรกินเหล็ก อีเลฟเว่น!”
ซืออวี๋แตะไปที่หัวของอีเลฟเว่น
เมื่อแสงลอยออกไป ซืออวี๋ก็กลืนถั่วเซียนด้วยความยากลำบากก่อนที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในเวลานี้…
ในลานบ้านที่ว่างเปล่า เมื่อซืออวี๋สอนเสร็จ อีเลฟเว่นก็หลับตาลงเพื่อย่อยประสบการณ์ เวลาดูราวกับจะหยุดลง
หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที…
สักพักหนึ่ง อีเลฟเว่นก็ลืมตาขึ้นมา ใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นสั่น แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีลม และใบไม้ทุกใบเริ่มแห้ง ฉากนั้นผิดปกติมาก
บูม!!!
ราชาแห่งสัตว์อสูรน้อยก็ยังคงเป็นราชา
ดวงตาของอีเลฟเว่นเปล่งประกาย ทุกการเคลื่อนไหวเผยให้เห็นถึงออร่าที่ครอบงำ เต็มไปด้วยความดุร้ายที่ทำให้หัวใจของคนอื่นสั่นไหว
“แค่นั้นแหละ???”
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าซืออวี๋ก็อดไม่ไหวอีกต่อไปและเอ่ยถามอีเลฟเว่น
ซืออวี๋มองไปที่อสูรกินเหล็กที่แปลกประหลาดและน่ารักตรงหน้าเขา เขาไม่รู้สึกถึงออร่าอะไรเลย
บัดซ* รูปร่างหน้าตาของทารกอสูรกินเหล็กนั้นดูไร้เดียงสามากเกินไป!!!
แม้ว่าด้วยการสนับสนุนจากการปราบปราม แต่ผลก็มีจำกัดในขณะนี้
ดูเหมือนว่าอีเลฟเว่นจะต้องเติบโตอีกเล็กน้อยหรือใช้การทวีคูณเพื่อทำให้ศัตรูหวาดกลัวอย่างแท้จริง
“อู๋”
อีเลฟเว่นยกเลิกทักษะการปราบปรามที่ไม่สามารถควบคุมได้และแสดงสีหน้าไม่พอใจ
ทักษะนี้ไม่รู้สึกว่ามีประโยชน์เลย… มันไม่เข้าใจผลของทักษะนี้เลย
“จิ๋—”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซืออวี๋และอีเลฟเว่นกำลังบ่นว่าทักษะการปราบปรามต้องรอคอยการพัฒนา หนอนไหมเขียวที่ตอนนี้ดวงตาของมันกลายเป็นสีขาวก็ตกลงมาจากต้นไม้ มันได้รับผลจากการปราบปราม
เมื่อมองไปที่หนอนไหมเขียวที่หมดสติบนกองใบไม้ ซืออวี๋และอีเลฟเว่นก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
ซืออวี๋กล่าวว่า “ทักษะการปราบปราม… ไม่ใช่แค่ขั้นช่ำชองถึงจะมีผลสร้างความเสียหายทางจิตใจหรอกเหรอ??”
แต่หนอนไหมเขียวตัวนี้…
มุมปากของเขากระตุกอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาเข้าใจ สัตว์อสูรที่อ่อนแอที่สุดในโลกใบนี้… ตามที่คาดไว้ เจ้ายังกลัวกับแค่อสูรกินเหล็กตัวน้อยที่น่ารักเหรอ?
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน