บทที่ 110 - ศึกชิงจ้าวยุทธภพของชาวไซย่า
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 110 - ศึกชิงจ้าวยุทธภพของชาวไซย่า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาอีกสองปีก็ผ่านพ้นไป
ในวันนี้ ไม่ว่าเหล่าชาวไซย่าจะอยู่ที่แห่งหนใด พวกเขาก็ได้กลับมายังดาวเคราะห์เบจิต้า
นับเป็นครั้งแรกเลยที่เหล่าชาวไซย่าได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านเกิดของเขากันถ้วนหน้า
เหตุผลที่พวกเขากลับมาก็เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพที่จะจัดขึ้นในดาวเคราะห์เบจิต้าเร็วๆ นี้
เมื่อพูดถึงที่มาของศึกชิงจ้าวยุทธภพนี้ มันคงต้องย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน
หลังจากที่เขาฝึกฝนที่ดาวเคราะห์ไคโอเหนือเสร็จสิ้นและกลับไปที่ดาวเคราะห์เบจิต้า หลินเฉินก็ได้รับคำแนะนำจากบาร์ดัค
หลังจากได้ดูศึกชิงจ้าวยุทธภพของโลกมาสามครั้งติดต่อกัน เขาก็รู้สึกว่าการแข่งขันเช่นนี้สามารถจัดในดาวเคราะห์เบจิต้าได้
ความรักในการต่อสู้ได้ฝังลึกลงในกระดูกชาวไซย่า การแข่งขันเช่นนี้เหมือนดั่งสะกิดต่อมของชาวไซย่า
ดังนั้นบาร์ดัคจึงแนะนำเขา หวังว่าจะได้มีการจัดศึกชิงจ้าวยุทธภพบนดาวเคราะห์เบจิต้า
หนึ่งคือเป็นโอกาสให้ชาวไซย่าทุกคนได้ระบาย
ประการที่สองคือเป็นการตรวจสอบความแข็งแกร่งในปัจจุบันของชาวไซย่า
ในด้านของหลินเฉิน ตั้งแต่กลับมาที่ดาวเคราะห์เบจิต้า เขาได้กลับมาฝึกซ้อมอย่างน่าเบื่ออีกครั้ง เพื่อที่จะพัฒนาให้ระดับพลังสูงขึ้นไปอีก
ซึ่งเพื่อที่จะฆ่าเวลา เขาก็ยินดีที่จะทำตามคำแนะนำของบาร์ดัค
ในที่สุด ทั้งสองคนก็คิดทบทวนและตัดสินใจเกี่ยวกับกฎมากมายของการแข่งขันได้เสียที
ยกตัวอย่างเช่น หากจะมีการจัดศึกชิงจ้าวยุทธภพของดาวเคราะห์เบจิต้าอีกในอนาคต จะมีช่วงเว้นว่างระหว่างการแข่งขันเป็นเวลาสิบปี
กฎของศึกชิงจ้าวยุทธภพบนโลกส่วนหนึ่งก็ถูกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อกำหนดกฎของพวกเขาเอง ห้ามฆ่ากัน หากพวกเขาตกจากสังเวียนหรือตกอยู่ในอาการโคม่า พวกเขาจะถือว่าแพ้
สิ่งเดียวที่เป็นปัญหาคือรางวัล ศึกชิงจ้าวยุทธภพของโลกใช้เงินเป็นรางวัล แต่ชาวไซย่าไม่สนใจเงิน ดังนั้นหลังจากพูดคุยกันแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจใช้ผลของต้นไม้แห่งชีวิตเป็นรางวัล นอกจากนี้ ผู้ชนะจะมีโอกาสที่จะท้าทายซูเปอร์ไซย่าสามคนปัจจุบันบนดาวเคราะห์เบจิต้า
เดิมทีหลินเฉินคิดว่าด้วยรางวัลแบบนี้ มันคงเป็นเรื่องยากที่จะดึงดูดชาวไซย่าให้ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน
แต่เขากลับประเมินความปรารถนาของชาวไซย่าต่ำเกินไป แม้ว่าจะไม่มีรางวัล แต่ขอแค่มีการต่อสู้ มันก็ดึงดูดชาวไซย่าได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงซูเปอร์ไซย่าทั้งสามรวมถึงหลินเฉินจะไม่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่หากพวกเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ มันก็แสดงให้ทุกคนเห็นว่าคนผู้นั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด
ดังนั้นพอข่าวการแข่งขันได้ถูกประกาศออกมาในเวลาเพียงไม่กี่วัน ชาวไซย่ามากกว่าครึ่งหนึ่งบนดาวได้ลงทะเบียนสมัครแล้ว ส่วนชาวไซย่าที่ออกไปปฏิบัติภารกิจต่างก็กระตือรือร้นที่จะรีบกลับมาสมัครด้วย
เรียกได้ว่าชาวไซย่าผู้ใหญ่เกือบทั้งหมดได้ลงทะเบียนไปแล้ว
ศึกชิงจ้าวยุทธภพของโลกมีผู้ลงทะเบียนเพียงหนึ่งหรือสองร้อยคนในแต่ละการแข่งขัน ส่วนศึกชิงจ้าวยุทธภพของดาวเคราะห์เบจิต้ามีผู้ลงทะเบียนแข่งขันหลักพันคน
ด้วยเหตุนี้ มันจึงใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อเตรียมการสำหรับการแข่ง
การเตรียมการสำหรับการแข่งขันทั้งหมดนั้นถูกจัดโดยบาร์ดัค ซึ่งเขาได้ดัดแปลงทุกสิ่งที่ได้พบยังดาวโลกมาผสมเข้ารวมกับดาวเคราะห์เบจิต้า
นอกจากนี้ พวกเขายังได้ติดต่อเหล่าพันธมิตรการค้ามากมายให้มาช่วยสร้างสนามการแข่งขันบนดาวด้วย แต่ละสนามประลองยังติดตั้งโล่ป้องกันพลังงานที่มีกำลังสูง
ด้วยเหตุนี้เมืองหลวงของดาวเคราะห์เบจิต้าจึงครึกครื้นมากทีเดียว
ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้เลย กระทั่งราชาเบจิต้าและพารากัสก็สนับสนุนการแข่งขันแบบนี้มาก
เมื่อใกล้ถึงวันแข่งขัน ผู้คนมากมายต่างพากันฝึกซ้อมบนดาวเคราะห์เบจิต้าอย่างบ้าคลั่ง
ในช่วงเวลานี้ มีชาวไซย่าน้อยลงมากบนดาวเคราะห์เบจิต้าออกไปปฏิบัติภารกิจ เพราะชาวไซย่าส่วนใหญ่รวมตัวกันในสถานที่ฝึกขนาดใหญ่และขนาดย่อมบนดาว
ผู้ที่รวยหน่อยก็จะซื้อที่ฝึกแบบส่วนตัวของพวกเขาเอง
ยกตัวอย่างเช่นราชาเบจิต้า เขาซื้อห้องแรงโน้มถ่วงที่ปรับแรงโน้มถ่วงได้สูงสุด 50 เท่าและใช้มันเพื่อให้ลูกชายเอาไปฝึก
ในที่สุด วันที่การแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ไทต์ก็ได้เคลื่อนย้ายมาต่อหน้าหลินเฉิน
เมื่อไทต์มาถึง หลินเฉินและบาร์ดัคก็กำลังยืนยันรายละเอียดสุดท้ายของการแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพอยู่ เมื่อเห็นนางมาถึง เขาก็ถามไปว่า “เจ้ามาแล้วเหรอ? ทำไมเจ้าถึงมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
“อืม ก็ข้าไม่อยากพลาดสิ่งที่น่าสนใจเช่นนี้ไงล่ะ ข้าน่ะจะเอาสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไปเขียนลงนวนิยายของข้าด้วย” ไทต์หัวเราะออกมา
ในทุกวันนี้ ถึงไทต์จะอยู่บนโลกเป็นหลัก แต่นางก็มักมาที่ดาวเคราะห์เบจิต้าเพื่อมาพบกับหลินเฉินเป็นครั้งคราว ดังนั้นนางจึงรู้กำลังมีศึกชิงจ้าวยุทธภพจัดขึ้นในดาวเคราะห์เบจิต้า
“งั้นเราไปดูด้วยกันเถอะ อีกสักพักการแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
หลินเฉินพาไทต์เดินออกไปจากพระราชวัง
ทันทีที่พวกเขาออกมา ไซย่ารู้สึกถึงออร่าของชาวไซย่าบนดาว: “โอ้ มีแต่คนแข็งแกร่งมาก! ถึงข้าจะเคยมาที่นี่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้ารู้สึกถึงออร่าทรงพลังมากมายเช่นนี้”
“อืม ถึงคนบนโลกจะฝึกฝนกันอย่างหนักมาก แต่ท่านพูดถูก พวกเขายังอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับเหล่าผู้ที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้”
หลินเฉินหัวเราะและก็พาไทต์ไปยังสถานที่จัดการแข่งขัน
สนามแข่งขันขนาดใหญ่ทั้งหมด 65 แห่งได้ถูกสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์เบจิต้า สนาม 64 แห่งเป็นสนามแข่งขันของรอบคัดเลือก
จากประสบการณ์ที่ได้รับมาจากศึกชิงจ้าวยุทธภพของโลก ผสมผสานเข้ากับกฎของดาวเคราะห์เบจิต้า ในการแข่งขันรอบคัดเลือกจะใช้กฎการต่อสู้แบบตะลุมบอน
ผู้เข้าแข่งขันที่ลงทะเบียนหลายพันคนจะถูกแบ่งออกเป็น 64 กลุ่มและจะแข่งขันใน 64 สนามหลัก
ผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่อยู่จนจบในสนามแข่งขันจะเข้าสู่หกสิบสี่คนสุดท้าย
เมื่อได้ยินกฎนี้ ไทต์ก็สนใจในทันที: "สุดยอด! การแข่งขันแบบตะลุมบอนงั้นเหรอ? นี่น่าตื่นเต้นกว่าศึกชิงจ้าวยุทธภพเสียอีก! หลินเฉิน ท่านรู้หรือเปล่า? ข้าได้ยินมาว่าการศึกชิงจ้าวยุทธภพบนโลกได้ถูกหยุดลงเพราะปัญหาด้านเงินทุน”
แต่ละจุดของสนามตะลุมบอน มันจะมีความยาวและกว้าง 500 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าศึกชิงจ้าวยุทธภพของโลกมาก
แถมชาวไซย่าแต่ละคนสามารถบินได้บนท้องฟ้า การต่อสู้อาจขยายไปถึงท้องฟ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงได้มีการสร้างขดลวดพลังงานที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าถูกเพิ่มเข้ามาในสนาม ตามกฎคือ หากผู้เข้าแข่งขันออกจากพื้นที่การแข่งขันที่ถูกแบ่งแยกโดยขดลวดพลังงานเป็นเวลามากกว่าสามวินาที จะถือว่าพ่ายแพ้ การออกจากสนามแข่งขันจะทำให้ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน
“การแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพของดาวเคราะห์เบจิต้ารอบ 64 คนกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!”
“การแข่งขันทั้ง 64 รอบจะจัดขึ้นพร้อมกันในสนามแข่งขันทั้งหมดหกสิบสี่สนาม เฉพาะผู้ที่ยืนหยัดอยู่เป็นคนสุดท้ายเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมในรอบชิง!”
ชาวไซย่าไม่ชอบเสียเวลาเหมือนชาวโลก เมื่อเสียงของพิธีกรจบลง การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นในทันที
บนสนามแข่งขันทั้งหกสิบสี่แห่ง แสงวาบได้ปะทุออกมาในเวลาเดียวกัน
ในทุกสนามแข่งขัน มีผู้คนจำนวนมากมายกำลังบินชมอยู่เหนือสนามประลอง