นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 196 - เสน็กผู้สับสน
กระเป๋าที่เขาหยิบติดมือมาได้นั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มันมีขนาดเพียงครึ่งเดียวของใบเก่าที่เขามีเท่านั้น ที่เดวิดหนักใจเป็นอย่างมากในตอนนี้คือ เขาหาวิธีเปิดมันไม่ได้!!
แน่นอนว่าเดวิดลองทุกวิธีที่ตัวเองนึกได้แล้ว ไม่มีวิธีไหนได้ผลเลย แม้แต่การพยายามใช้กำลังในการเปิด ด้วยความกังวลว่ามันอาจจะมีกลไกทำลายตัวเองป้องกันอยู่ เขาไม่กล้าที่จะออกแรงมากเกินไปนัก
จนในที่สุดเจ้าเครื่องจักรหัก ๆ พัง ๆ ที่อยู่ด้านข้างก็ต้องกลายเป็นผู้รับเคราะห์ไป เดวิดหันไปใช้กำลังกับพวกมันแทน
และเขาก็ต้องทรุดตัวลงนั่งที่พื้นอย่างหมดแรง เดวิดหมดหนทางแล้วในตอนนี้
“นายไม่มีทางเปิดมันได้ด้วยตัวเองหรอก นี่เป็นระบบยืนยันตัวตนด้วยรหัสพันธุกรรม” ดูเหมือนว่าเฮเซลจะทนสงสารไม่ไหวแล้ว เธอกล่าวขึ้นมาในที่สุด
แต่มันทำให้เดวิดขมวดคิ้วอย่างไม่ยินยอมนัก “เธอกำลังจะบอกว่าฉันลงแรงไปเสียเปล่าอย่างนั้นใช่มั้ย? กว่าจะได้มันมาฉันต้องเสี่ยงชีวิตเลยนะ จะยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างนี้ได้ยังไงกัน?” เสียงเขาเข้มต่ำ มือกำแน่น ดวงตานั้นมีแต่ความไม่ยินยอมแสดงออกมาอย่างชัดเจน
“มันยังพอมีวิธีอยู่เหมือนกัน!” เฮเซลตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูลึกลับ
“หา! มีวิธีเหรอ? วิธีอะไร?” เดวิดตื่นเต้นขึ้นมาทันที ขอเพียงแค่เปิดเจ้ากระเป๋าบ้า ๆ ใบนี้ได้ เขาก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว คนที่แข็งแกร่งระดับนี้ คนที่มีชุดสกายวอคเกอร์ระดับสูงใช้ ของที่อยู่ในกระเป๋าติดตัวไม่น่าจะกระจอกแน่
“หาคนมาช่วยนายเปิดไง อาจจะเป็นแฮกเกอร์เก่ง ๆ สักคน นอกจากวิธีนี้แล้ว การที่นายเก็บกระเป๋านี้เอาไว้ ก็เหมือนกับการเก็บขยะเอาไว้กับตัวนั่นแหละ” ดูเหมือนว่าวิธีที่เธอกล่าวออกมาจะใช้ไม่ได้ทันทีในตอนนี้ แต่เฮเซลดูจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
แต่เดวิดสนใจ และเขารู้สึกผิดหวังกับคำตอบมาก แฮกเกอร์!? เขาจะไปหาแฮกเกอร์เก่ง ๆ ได้จากที่ไหนกัน?
หลังจากครุ่นคิดจนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่อีกพักหนึ่ง เดวิดก็ถอนหายใจออกมาได้ในที่สุด ดวงตาของเขาเป็นประกายออกมาเล็กน้อย แฮกเกอร์เก่ง ๆ มักจะซ่อนตัวอยู่ในโลกใต้ดิน ไม่ว่าจะเป็นโลกเก่าของเขาหรือที่นี่ และแน่นอน ที่สถาบันของเขาก็มีตลาดมืดของโลกใต้ดินอยู่ด้วย ที่นั่นเขาน่าจะหาคนที่สามารถเปิดกระเป๋าใบนี้ได้แน่
เดวิดหยิบกระเป๋าขึ้นมาเพื่อจะเก็บมันให้เรียบร้อย แต่เขาก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรับรู้น้ำหนักของมันได้อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก มันแทบจะไม่มีน้ำหนักเลย!
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะด้วยความตื่นเต้นหรือความรีบร้อน เดวิดไม่ได้สังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่ตอนนี้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันเบากว่าปกติมากเกินไป นี่เป็นเรื่องที่แปลกมา เขาพลิกกระเป๋าไปรอบ ๆ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และตัดสินใจเอ่ยปากถามขึ้นมาในที่สุด เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระเป๋า ไม่มีทางที่จะสังเกตอะไรเจอแน่
“เฮเซล! เธอรู้มั้ยว่าทำไมกระเป๋านี่ถึงได้เบาแบบผิดปกติอย่างนี้?” ที่พึ่งสุดท้ายของเขา เฮเซล! แม้ว่าจะไม่อยากจะพึ่งเธอมากนักก็ตาม
“ไม่! ฉันไม่รู้!” เป็นคำตอบที่เดวิดไม่คิดว่าจะได้ยินเลย
“หืม?? ไม่ใช่ว่าเธอได้แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมมาจากชุดรบนี่แล้วไม่ใช่หรือ ทำไมยังไม่รู้เรื่องง่าย ๆ แบบนี้อีกล่ะ?” เดวิดเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย แน่นอนมันมีความเย้ยหยันและแดกดันอยู่ในทีด้วย
“ใช่! ฉันได้รับฐานข้อมูลเพิ่มเติมมาจากชุดรบตัวนี้ แต่ทั้งหมดไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เลย ฉันน่าจะบอกนายไปแล้วนะว่าต้องใช้เวลาในการเรียบเรียงข้อมูลใหม่อีกสักพักหนึ่งน่ะ” น่าแปลก คราวนี้ดูเหมือนว่าเฮเซลจะมีความอดทนเป็นพิเศษ มันยอมอธิบายเรื่องราวออกมาแต่โดยดี
เดวิดสะกิดใจกับอาการของเฮเซลอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก
“แต่ถ้าให้ฉันคาดเดาจากข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนี้ ในกระเป๋าน่าจะมีเครื่องมือต้านแรงดึงดูดระดับสูงบางอย่างอยู่” เธอกล่าวเพิ่มเติมออกมา
ดวงตาของเดวิดกระพริบถี่ คิ้วเลิกสูงขึ้นอย่างประหลาดใจ อุปกรณ์ต้านแรงดึงดูด? มันเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพงมากเกินไปที่จะนำมาติดตั้งกับกระเป๋าสะพายหลังธรรมดาใบหนึ่ง นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!
สิ่งที่เดวิดไม่รู้ก็คือ สำหรับยอดฝีมือระดับสูงแล้ว น้ำหนักที่ลดลงแม้แต่นิดเดียวก็หมายถึงโอกาสการรอดชีวิตที่สูงขึ้นมาก มันสามารถเพิ่มความเร็วและความรุนแรงในการโจมตี รวมถึงการหลบหนีด้วย มันคล้ายกับเป็นอีกหนึ่งความลับที่รู้กันโดยทั่วไปในหมู่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง พวกเขาพยายามจัดการกับน้ำหนักที่ตัวเองต้องพกพา ให้ลดน้อยลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย
ไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้ เส้นทางของเดวิดบนโลกใบนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เขาเพิ่งก้าวเท้าเข้าสู่โลกแห่งการฝึกฝนได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น ไม่แปลกเลยที่เขาจะยังไม่รู้ถึงความสำคัญของสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้
เดวิดเก็บกระเป๋าใบนั้นเอาไว้ในเป้ของตัวเอง มันมีขนาดเล็กจนสามารถยัดเข้าไปได้อย่างสบาย แล้วยังเหลือพื้นที่สำหรับเก็บของอย่างอื่นอีกได้อีกไม่น้อย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เดวิดจะออกจากที่นี่แล้ว เขาเริ่มก้าวเท้าออกไปยังประตูทางเข้าห้องใต้ดินทันที
แล้วเดวิดก็ต้องหยุดตัวลงอย่างฉับพลัน ความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นอย่างค่อนข้างกะทันหัน มันแปลก! เพราะร่างกายของเขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่กลับรู้สึกเวียนหัว! เขาเอ่ยถามเฮเซลอย่างไม่ตั้งความหวังอะไรมากนัก แต่กลับได้คำตอบมาว่าเป็นอาการขาดเลือด เดวิดเสียเลือดมากเกินไปจนพลังงานหมุนเวียนได้ช้ากว่าที่มันควรจะเป็น
นั่นทำให้เขาต้องหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้ออกอีกครั้งเพื่อหยิบเอาลูกแก้วจีโนมระดับต่ำออกมา และโยนมันเข้าไปในปากเพื่อดูดซับของเหลวที่อยู่ด้านใน
หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาที เดวิดก็สามารถออกจากห้องใต้ดินแห่งนี้ได้แล้ว
...........................
สเน็กก็กระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลัก และยกมือขึ้นปาดเลือดที่ไหลออกมาตรงมุมปากของตัวเอง เธอแทบจะไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เป้าหมายของนั้นยุ่งยากกว่าที่คิดเอาไว้มากเกินไป
ตามข้อมูลที่เธอมี เด็กสาวคนนี้ควรจะเป็นสไปรเยอร์ธรรมดาที่มีอัตราหมุนเวียนเลือดอยู่ราว 100 รอบต่อนาที ต่อให้มันผิดพลาดไปบ้าง ก็ไม่น่าจะเกินไปกว่า 120 รอบต่อนาทีได้ แต่หลังจากที่ปะทะกันมา มันไม่ใช่ข้อมูลที่ใกล้เคียงเลยแม้แต่นิดเดียว
“ให้ตายสิ! เจ้าพวกหน่วยหาข้อมูลขี้หมาเอ้ย! 100 รอบต่อนาทีบ้านพวกแกน่ะสิ! ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ เจ้าพวกนั้นมันคิดจะทำอะไรกัน วางแผนจะส่งพวกเรามาตายกันหรือยังไง?” เสน็กรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก คำสาบแช่งจำนวนมากหลุดออกมาจากปากไม่หยุด แต่สายตายังจ้องแน่วแน่อยู่ที่เหยื่อผู้แข็งแกร่ง
แม้แต่การกระพริบตา สเน็กยังไม่กล้าทำเลยด้วยซ้ำ ทักษะและประสบการณ์ในการต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามนั้นสูงกว่าเธอ ถ้าให้พูดตามตรงจริง ๆ มันสูงกว่าเธออย่างลิบลิ่วเลยทีเดียว
แต่ถ้ามันเป็นเพียงแค่นั้น สเน็กก็ยังจะไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้เลย แต่เหยื่อของเธอยังดันสวมชุดรบอยู่กับตัวอีกด้วย พลังป้องกันของมันสูงมาก สามารถลดความรุนแรงของการโจมตีของเธอลงได้เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ต่อให้สเน็กโชคดีโจมตีเข้าเป้าหมาย มันก็แทบจะไม่ต่างจากการเอามือแตะเบา ๆ เลย
“ฉันต้องยอมรับว่านี่คือความผิดพลาด ฉันไม่ควรจะเลือกเธอเป็นเป้าหมายเลย ในฐานะที่เป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน ฉันคิดว่าพวกเราไม่ควรจทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากเกินไป การต่อสู้ครั้งนี้ถือว่าเสมอกันเถอะ เธอเห็นด้วยมั้ย?” ในฐานะที่เพิ่งยกระดับขึ้นมาเป็นเฟสเซอร์ได้ สเน็กหวงแหนชีวิตที่มีค่าของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เธอไม่คิดจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงโจมตีทั้ง ๆ ที่ไม่มีประโยชน์แน่
สเน็กต้องการเวลา ถ้าอยากจะทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ เธอต้องกระตุ้นใช้พลังเฟสเซอร์ออกมาให้ได้อย่างเต็มที่ ต้องกระตุ้นทักษะพิเศษของตัวเองขึ้นมาให้ได้ก่อน และมันต้องใช้เวลาเล็กน้อย!!