ตอนที่ 533 มนุษย์ปะทะสัตว์เลี้ยงของเผ่ามาร
ตอนที่ 533 มนุษย์ปะทะสัตว์เลี้ยงของเผ่ามาร
ในที่สุดหนอนด้วงมิติก็ตื่นนอนขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน โดยที่บาดแผลทั่วทั้งร่างกายของมันได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ราวกับว่าหนอนตัวนี้ไม่จำเป็นจะต้องกินอะไรมันก็สามารถที่จะใช้การพักผ่อนเพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายของมันได้
การตื่นขึ้นของหนอนตัวนี้ทำให้เซี่ยเฟยสามารถสันนิษฐานได้อย่างรวดเร็วว่าการออกหากินของมันในครั้งต่อไปน่าจะเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว และก่อนที่เวลานั้นจะมาถึงเขาก็จำเป็นจะต้องเตรียมการทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อย
ท้ายที่สุดเขาก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเป้าหมายที่ต่อไปของหนอนตัวนี้คือที่ไหน บางทีมันอาจจะเป็นอวกาศอันกว้างใหญ่ ซึ่งเขาก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาล่วงหน้าได้จริง ๆ
แต่ไม่ว่าเป้าหมายของหนอนด้วงมิติจะเป็นที่ไหน เซี่ยเฟยก็จำเป็นจะต้องออกไปพร้อมกับมันอยู่ดี เพราะเขาจะไม่ยอมติดอยู่ในสถานที่อันมืดมิดแห่งนี้ตลอดไป
กาลเวลาผ่านไปเพียงแค่พริบตาก่อนที่ใครจะทันได้รู้ตัวเวลาก็ได้ผ่านพ้นไปถึง 3 วันแล้ว ซึ่งในช่วงเวลานี้เซี่ยเฟยก็กำลังฝึกฝนวิชากฎมิติระดับ 4 อย่างหมัดพายุคลั่ง
วิชาการต่อสู้นี้ค่อนข้างจะเป็นวิชาการต่อสู้ที่น่าสนใจมาก แล้วมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือวิชาการต่อสู้ที่บ้าคลั่งและส่งผลกระทบอย่างรุนแรง การจู่โจมด้วยวิชานี้จึงกลายเป็นการจู่โจมที่อันตราย
“ในเวลาแค่ 7 วันนายกลับสามารถพัฒนาจนกลายเป็นนักรบกฎขั้นที่ 4 และสามารถฝึกฝนวิชามิติระดับ 3 และระดับ 4 ได้สำเร็จ นี่ถ้าหากว่าพวกสมาชิกตระกูลหยูได้รู้ว่าแม้แต่ช่องว่างมิติก็ไม่สามารถหยุดการพัฒนาของนายได้ พวกเขาก็คงจะต้องตกใจจนตาค้างแน่ ๆ” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจกับพัฒนาการของเซี่ยเฟยในปัจจุบัน
“ระดับพวกนั้นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก เรื่องสำคัญจริง ๆ คือฉันจะสามารถจัดการกับหนอนตัวนี้ได้หรือเปล่าต่างหาก” เซี่ยเฟยกล่าว
แม้ว่าความสำเร็จของเขาจะฟังดูน่าอัศจรรย์ แต่ในความเป็นจริงคือเขาต้องฝึกฝนทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่มันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะมองเห็นแต่ความสำเร็จ โดยไม่เคยรู้มาก่อนว่าเบื้องหลังของคนที่พวกเขาเรียกว่าอัจฉริยะมักจะเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและความพยายามอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นเองหนอนด้วงมิติก็เริ่มส่งเสียงร้องคำรามออกมา ซึ่งหลังจากที่มันพักผ่อนมาเป็นเวลานานในที่สุดมันก็เริ่มที่จะเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เซี่ยเฟยรีบออกจากยานและหยิบแผ่นเกราะของยานในบริเวณนั้นเอามาใช้เป็นที่กำบัง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เคลื่อนที่ตามหนอนด้วงมิติไปอย่างช้า ๆ
ภายใต้การเคลื่อนไหวในดินแดนอันมืดมิด เซี่ยเฟยไม่รู้เลยว่าหนอนด้วงมิติกำลังเคลื่อนที่ไปทางไหน แต่เขากลับมีความรู้สึกแปลก ๆ ปรากฏขึ้นภายในใจ ว่าหนอนตัวนี้มันอาจจะกลับไปแก้แค้นตระกูลหยูที่เคยทำร้ายมันหรือเปล่า
“เดี๋ยวก่อนนะ! พลังงานของหนอนด้วงมิติดูเหมือนจะรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้มาก และพลังงานภายในร่างของมันก็กำลังผันผวนอย่างรุนแรงด้วย” อันธกล่าวอย่างจริงจัง
“มันกำลังพัฒนางั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากว่ามันจะไม่กลัวกองกำลังป้องกันของตระกูลหยูอีกต่อไป”
เซี่ยเฟยรู้สึกขนลุกอยู่พักหนึ่งและการสันนิษฐานครั้งนี้ก็ค่อนข้างจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเป็นกังวลมาก เพราะถ้าหากหนอนด้วงมิติเกิดการพัฒนาจริง ๆ โอกาสรอดชีวิตของเขาก็จะน้อยลงจากเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย และแม้แต่ตระกูลหยูก็อาจจะถูกทำลายหลังจากการพัฒนาของหนอนด้วงตัวนี้
—
ข้อสันนิษฐานของเซี่ยเฟยดูคล้ายจะเป็นจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพลังงานภายในร่างของหนอนด้วงมิติมีการผันผวนตลอดเวลา และในที่สุดร่างกายของมันก็สั่นอย่างรุนแรงพร้อมกับพลังงานที่กำลังรั่วไหลออกมาจากร่างกายของมันอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อคลื่นพลังงานถูกปลดปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่ง เซี่ยเฟยก็ถูกคลื่นพลังงานพวกนั้นพัดกระเด็นปลิวออกไปไกล โดยร่างกายของเขาก็กลิ้งไปมาท่ามกลางความว่างเปล่าเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร ก่อนที่เขาจะสามารถกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง
“แย่แล้ว! มันหานายเจอแล้ว!!” อันธอุทานอย่างตกใจ
เนื่องมาจากคลื่นพลังงานอันรุนแรงทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถซ่อนร่างกายของเขาเอาไว้ได้อีกต่อไป และร่างกายของเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าหนอนดูมิติ
ก่อนที่เขาจะทันได้มีเวลาคิดพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ตัดสินใจวิ่งหนีออกไปอย่างบ้าคลั่ง
น่าเสียดายที่ภายในรอยแยกมิติความเร็วของเขาแทบจะกลายเป็นพลังพิเศษที่ไร้ความหมาย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะออกแรงวิ่งอย่างเต็มที่ แต่ความเร็วที่เขาสามารถทำได้ก็เป็นเพียงแค่ประมาณ 1 ใน 5 ของความเร็วในก่อนหน้านี้เท่านั้น
ในเวลาเดียวกันหนอนด้วงมิติก็เริ่มจำได้ว่ามนุษย์คนนี้คือมนุษย์ที่เคยโจมตีมันมาก่อน และเขาก็คือศัตรูที่มันต้องกำจัด
อี๊ด!!
หนอนด้วงมิติส่งเสียงร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นมันก็หดร่างกายลงมาเหมือนสปริงและระเบิดพลังพุ่งออกไปเข้าหาเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว
พายุมิติปิดล้อม!
เมื่อไม่เหลือเส้นทางให้หลบหนีเซี่ยเฟยก็ถูกบังคับให้ต้องสู้กลับ คลื่นมิติอันบ้าคลั่งจึงถูกปลดปล่อยออกไปซ้อน ๆ กันถึง 3 ชั้นและถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะเพิ่มพลังของมันได้เพียงแค่หนึ่งระดับ แต่พลังทำลายของพายุมิติปิดล้อมก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
ท้ายที่สุดตอนนี้เขาก็พัฒนาขึ้นมาเป็นนักรบกฎขั้นที่ 4 ด้วยเหมือนกัน ความเข้าใจในการใช้วิชาการต่อสู้ของเขาจึงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยไปกว่า 2 เท่า
ปัง ปัง ปัง!
คลื่นมิติของเซี่ยเฟยปะทะเข้ากับร่างกายของหนอนด้วงอย่างรุนแรง จนทำให้มันต้องส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งมันก็คิดไม่ออกเลยว่ามนุษย์ที่เคยอ่อนแอเมื่อไม่กี่วันก่อน สามารถทำร้ายร่างกายของมันจนถึงระดับนี้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันได้ยังไง
สัตว์ประหลาดผู้อาศัยอยู่ในมิติมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของพลังงานมาก และในที่สุดหนอนด้วงมิติก็ตระหนักว่าเซี่ยเฟยมีพลังมากพอที่จะทำร้ายร่างกายของมันได้แล้ว
หมัดพายุคลั่ง!
เซี่ยเฟยพุ่งตัวออกไปเผชิญหน้ากับหนอนด้วงมิติโดยตรง เพราะเขาได้ข้อสรุปแล้วว่าเขาไม่มีทางหลบหนีภายใต้สถานการณ์ในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
สถานการณ์ของชายหนุ่มไม่ต่างไปจากหมาจนตรอก และเมื่อเขาถูกบีบบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เขาก็สามารถระเบิดพลังออกมาได้มากกว่าเดิม
หนอนด้วงมิติถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา มันจึงยืนงงอย่างไม่เข้าใจว่ามนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าสามารถเพิ่มพลังขึ้นมาในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้ได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์คนนี้ยังพยายามโจมตีอย่างบ้าคลั่งทั้ง ๆ ที่ตามปกติเซี่ยเฟยควรจะต้องพยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวังไม่ใช่เหรอ
ในระหว่างที่หนอนด้วงมิติเสียสมาธิ หมัดทั้งสองข้างของเซี่ยเฟยก็กระทบเข้ากับร่างกายของมันอย่างบ้าคลั่ง และด้วยการเพิ่มพลังของกฎแห่งความโกลาหล มันจึงทำให้พลังของวิชาหมัดพายุคลั่งแสดงความบ้าคลั่งออกมาได้มากกว่าเดิม
ตูม!
กำแพงมิติบนร่างของหนอนด้วงถูกหมัดของเซี่ยเฟยทำลายโดยตรง และหมัดของชายหนุ่มต่อจากนี้ก็จะปะทะเข้ากับร่างกายของมันตรง ๆ โดยไร้ซึ่งการป้องกันแล้ว
การจู่โจมของเขาทำให้หนอนด้วงมิติร้องโหยหวนขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง เนื่องมาจากมนุษย์ตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวกลับสามารถสร้างบาดแผลให้กับร่างกายของมันได้
ในเวลาเพียงแค่ไม่นานหมัดของเซี่ยเฟยก็สร้างรูขนาดใหญ่ขึ้นบนร่างกายของหนอนด้วงมิติ ทำให้มีเลือดสีดำไหลออกมาเหมือนกับก๊อกน้ำแตก
ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ได้ถือคริสตัลเหลืองเอาไว้ภายในมือ เขาจึงสามารถที่จะฟื้นฟูพลังงานกลับคืนมาได้ตลอดเวลา
ภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันเซี่ยเฟยเป็นเหมือนกับคนบดเนื้อที่โหดเหี้ยม เพราะเขาไม่เพียงแต่จะไม่หยุดจู่โจมหลังจากทำลายชั้นผิวหนังของหนอนด้วงมิติเท่านั้น แต่เขายังคงจู่โจมตรงเข้าไปภายในร่างของหนอนด้วงอย่างต่อเนื่อง
การปะทะในครั้งนี้คงจะไม่ได้เรียกว่าการต่อสู้แล้ว เพราะเซี่ยเฟยเป็นเหมือนกับคนงานเหมืองที่กำลังขุดเนื้อเข้าไปในร่างของศัตรู แล้วมันก็ดูเหมือนกับชายหนุ่มต้องการจะควักหัวใจของหนอนด้วงออกมาดูว่าหัวใจนั้นเป็นสีดำหรือสีแดงกันแน่
ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังได้ใช้สเปคคิวเลอร์ในร่างของหนอนด้วงโดยตรง มันจึงรีบปล่อยลำแสงสีฟ้าที่มีฤทธิ์กัดกร่อนออกมาอย่างรุนแรงเพื่อทำลายเนื้อเยื่อภายในร่างของหนอนด้วงมิติตลอดเวลา
ในที่สุดหนอนด้วงมิติก็พยายามตั้งสติและใช้พลังที่มองไม่เห็นพันธนาการร่างของชายหนุ่มเอาไว้ จากนั้นมันก็ใช้กลอุบายเดิมที่มันเคยใช้ในการดึงเขาเข้าไปภายในปากของมัน
“เปลี่ยน!”
เซี่ยเฟยเปลี่ยนดาบดราก้อนสเกลให้กลายเป็นดาบคู่ จากนั้นเขาก็ใช้ดาบทั้งสองเล่มปักลงไปในเนื้อของหนอนด้วงเพื่อพยายามต้านทานแรงดึงมหาศาล เพราะถ้าหากว่าเขาถูกหนอนด้วงกัดเข้าไปภายในปากจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คงจะเป็นเรื่องยากที่เขาจะรอดชีวิตจากปากอันน่าสะพรึงกลัวของมันไปได้
ภาพที่เกิดขึ้นคือหนอนด้วงมิติพยายามดึงร่างของเซี่ยเฟยออกไปจากร่างของมัน ขณะที่ชายหนุ่มก็ปักดาบทั้งสองเล่มฝังเข้าไปภายในร่างของมันอย่างสุดกำลังเช่นเดียวกัน ดังนั้นยิ่งหนอนด้วงมิติออกแรงดึงมากเท่าไหร่ ดาบทั้งสองเล่มของเซี่ยเฟยก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับมันมากขึ้นไปเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นหนอนด้วงมิติที่กำลังถูกเซี่ยเฟยทรมานก็ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดภายในร่างกายของมันเลย เพราะมันไม่เคยได้พบกับเรื่องน่าอับอายในชีวิตเช่นนี้มาก่อน ท้ายที่สุดมันก็เป็นถึงสัตว์เลี้ยงของเผ่ามารผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เผ่าพันธุ์ที่ปกครองดินแดนของผู้ใช้กฎ
ในที่สุดหนอนด้วงมิติก็สามารถดึงร่างของเซี่ยเฟยออกมาจากร่างของมันได้สำเร็จ โดยภายในมือของชายหนุ่มยังคงจับดาบทั้งสองเล่มเอาไว้ แล้วมันก็มีก้อนเนื้อหลุดติดมาพร้อมกับดาบทั้งสองเล่มภายในมือของเขาด้วย
อี๊ด!!
เมื่อร่างของเซี่ยเฟยลอยอยู่บนฟ้า หนอนด้วงมิติก็รีบดึงร่างของมนุษย์คนนี้เข้าไปภายในปากของมันทันที
เมื่อสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตอันธก็ไม่สามารถที่จะทนดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าได้อีกต่อไป เขาจึงหลับตาลงอย่างทำใจว่าเซี่ยเฟยคงจะเสียชีวิตในวันนี้แน่ ๆ
“จบแล้วงั้นเหรอ?”
“สุดท้ายฉันก็จะต้องตายวันนี้สินะ”
ในวินาทีแห่งความตายมันก็มีความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัว ซึ่งหนึ่งในความคิดเหล่านั้นก็คือความคิดที่บ้าคลั่งชนิดที่เขาไม่มีทางคิดแบบนี้ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่บนขอบเหวแห่งความตายจริง ๆ
“ฉันจะไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้จนกว่าชีวิตของฉันจะเดินทางไปถึงวินาทีสุดท้าย!”
ก่อนที่ร่างของเซี่ยเฟยจะถูกฟันของหนอนด้วงมิติบดขยี้ เขาก็เริ่มบิดร่างกายอย่างรุนแรง
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยเคลื่อนร่างหลบฟันซี่ 1 ที่กำลังจะตกลงมากระทบกับร่างของเขา แต่ถึงกระนั้นสถานการณ์ของเขาก็ยังไม่ถือว่าปลอดภัย เพราะภายในปากของหนอนด้วงมิติมีฟันซ้อน ๆ กันอยู่ถึง 6 ชั้น
ในเวลาต่อมาชายหนุ่มก็หยิบบลัดบิวเทียสออกมาจากแหวนมิติ ซึ่งครั้งหนึ่งเขารู้สึกไม่ชอบดาบเล่มนี้เลย เพราะมันทั้งมีรูปร่างน่าเกลียดและเป็นดาบที่แทบจะไม่เหลือความแหลมคมเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ในวันนี้เขากลับเลือกที่จะพึ่งพามันในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ฉึก!
เซี่ยเฟยใช้กำลังทั้งหมดแทงบลัดบิวเทียสเข้าไปในเหงือกของหนอนด้วงมิติ
กฎแห่งความโกลาหล!
พลังของกฎอันแปลกประหลาดถูกส่งเข้าไปภายในดาบรูปร่างน่าเกลียดภายในมือของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง
“เปลี่ยน!! ดูดเลือดของมันเข้าไป!!!”
***************
วินาทีแห่งความตาย(อีกครั้ง) พี่เฟยก็ระเบิดพลังไปเลย ย๊ากกกกกกกกกกกกก!!
จบแล้วสำหรับเนื้อหาของ E-Book เล่ม 9 หลังจากนี้จะเป็นการพัฒนาและการเอาชีวิตรอดในดินแดนกฎ ฝากติดตามกันด้วยจ้า!!
เราขออนุญาตประกาศแจ้งข่าว E-Book เล่ม 9 (ตอนที่ 487-533) จะวางขายวันที่ 9 ก.ย. 2566 นี้นะคะ สำหรับใครที่อยากอ่านแบบยาว ๆ หรือเก็บไว้สะสม เราก็ขอให้คิดพิจารณาพี่เฟยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ จ้า (´▽`).。o♡