ตอนที่แล้วตอนที่ 11 คำสัญญา ❤ NC
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 ฉันรักนาย NC

ตอนที่ 12 ฟ้าหลังฝน


ตอนที่ 12 ฟ้าหลังฝน

สาวน้อยน่ารักคนนี้เธอมีชื่อว่า "นานา" เธอเป็นหญิงสาวธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่เกิดมาในหมู่บ้านแห่งนี้.. ไม่มีอะไรแตกต่างหรือพิเศษกว่าคนอื่น

สิ่งเดียวที่แตกต่างจากคนอื่น ก็คงจะเป็นการที่เธอเกิดมาแล้ว ไม่สามารถที่จะเดินได้เหมือนกับคนอื่น เธอไม่สามารถดูแลตัวเองได้..และเป็นได้แค่เพียงภาระของคนอื่น

ในตอนที่เธออายุได้ 100 ปี เธอก็ได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่า ไม่สมควรที่จะได้เกิดมา

เธอมักจะถูกคนอื่นมองด้วยสายตาเวทนาสงสาร ที่เธอเกิดมาไม่สมประกอบ เธอเกลียดสายตาพวกเขา สายตาที่มองเธอราวกับตัวประหลาด..

ในชีวิตของเธอ มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนั้น นั่นก็คือคุณแม่ของเธอ คุณแม่มักจะมองมาที่เธอด้วยสายตาที่แสนอบอุ่นและห่วงใยอยู่ตลอดเวลา

“แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ลูกเกิดมาแล้วไม่สามารถที่จะเดินได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่มาจะลดคุณค่าในตัวของลูกหรอกนะ การที่แม่ได้ให้กำเนิดลูกออกมานั้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับแม่แล้ว” คุณแม่พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น

“อย่างนั้นเหรอคะ แต่หนูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี การที่เกิดมาแล้วไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เป็นได้แค่ภาระของคนอื่น มันดีแล้วจริงๆ เหรอคะ?” เธอถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ กับเหตุผลที่ต้องมีชีวิตอยู่ของตัวเอง

เมื่อได้ยินอย่างนั้นคุณแม่ก็ได้เข้ามาลูบศีรษะของเธออย่างเอ็นดู

“อย่ากังวลไปเลย การที่สามารถดูแลตัวเองได้หรือไม่ก็ตาม มันไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่ลูกสามารถให้กำเนิดชีวิตใหม่ออกมาได้” คุณแม่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมวางมือลงบนไหล่ของเธอ

การให้กำเนิดบุตรนั้น ถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญของหญิงสาวทุกคน มันไม่สำคัญหรอกว่าจะอยู่ในฐานะหรือสังคมใด

แต่ถ้าเราสามารถให้กำเนิดทายาทออกมาได้ คนนั้นคือคนพิเศษ ยิ่งให้กำเนิดทายาทได้มากเท่าไหร่ คนๆ นั้นก็ยิ่งมีความพิเศษมากขึ้นเท่านั้น..

ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้เรื่องนี้ แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะทำมันได้สำเร็จ นอกจากจะรู้สึกทรมานมากในทุกครั้งที่ต้องทำมันแล้ว

การที่จะถูกรับเลือกจากฝ่ายชายเพื่อที่จะเป็นคนได้สร้างทายาทนั้น นั่นก็เป็นเรื่องยากมากเช่นกัน อัตราส่วนของผู้ชายต่อผู้หญิงในหมู่บ้านนี้คือ ผู้ชาย 1 คน ต่อผู้หญิง 9 คน

เพราะอย่างนั้นเวลาฝ่ายชายจะคัดเลือกหญิงสาวสักคน เพื่อที่จะมาทำเรื่องอย่างว่าเพื่อหมู่บ้านนั้น พวกเขาจะต้องเลือกคนที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

“ใครเขาจะมาเลือกคนที่ไม่สมประกอบอย่างหนูกันล่ะคะ” เธอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

‘ดอกไม้งดงามเต็มทุ่ง คงไม่มีใครมาเอาดอกไม้เหี่ยวเฉาข้างทาง อย่างเราหรอก’ เธออดคิดในใจอย่างเศร้าใจไม่ได้

“อย่าคิดดูถูกตัวเองแบบนั้นสิจ๊ะลูก แม่เชื่อว่าลูกของแม่น่ะ เป็นคนที่พิเศษยิ่งกว่าใครเลยนะ อีกอย่างลูกของแม่ก็น่ารักซะขนาดนี้ อีกไม่นานจะต้องมีชายหนุ่มในหมู่บ้านสักคนที่มองเห็นความน่ารักของลูกสาวแม่แน่นอน” แม่พูดขึ้นพร้อมลูบหัวของเธอไปด้วยอย่างเอ็นดู

นานามองแม่ของเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา แม้เธอจะรู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่ แต่ลึกๆ ในหัวใจของเธอก็รู้สึกเสียใจอยู่เช่นกัน

การที่จะถูกรับเลือกจากฝ่ายชาย ให้ได้เป็นผู้ให้กำเนิดทายาทนั้น มันก็เป็นไปได้ยากแล้ว แต่การที่จะทำภารกิจทำให้สำเร็จนั้นมันช่างยากยิ่งกว่า

ในวินาทีที่บิดาของเธอนั้น รู้ว่าตัวเธอเกิดมาไม่สมประกอบ คุณพ่อก็ได้ทิ้งคุณแม่และเธอไปในทันทีโดยไม่มีการกล่าวลาใดๆ

จะให้โทษว่าเป็นความผิดของคุณพ่อของเธอฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เธอเองก็เข้าใจว่าการการให้กำเนิดทายาทของพวกเอลฟ์นั้น มันจะต้องใช้ความพยายามมากมายขนาดไหน

พวกเขาพยายามจะให้กำเนิดทายาทที่สมบูรณ์ แต่สุดท้ายเด็กที่คลอดออกมา กลับเป็นเด็กผู้หญิงที่พิการคนหนึ่ง ไม่ว่าเป็นใครในหมู่บ้านเอลฟ์ที่เจอสถานการณ์แบบนี้ก็คงรับไม่ได้ทั้งนั้น และคุณพ่อก็คงเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงได้ทิ้งเธอไปแบบนี้

‘แล้วคุณแม่ล่ะคะ หนูอยากรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณแม่รู้สึกยังไง ในวินาทีแรกที่คุณแม่รู้ว่าหนูเป็นเด็กพิการ คุณแม่รู้สึกยังไงกันแน่...

ภายใต้รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นนั้น คุณแม่คงซ่อนความเสียใจ และความผิดหวังเอาไว้มากมายสินะ’ เธออดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้

หลังจากที่คุณพ่อทิ้งพวกเราไป คุณแม่ก็ดูแลเธอเพียงลำพังมาโดยตลอด คุณแม่รักและเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี

แต่อยู่มาวันนึง เมื่อเธออายุได้ 200 ปี คุณแม่ก็ได้ถูกคำสาปสีดำ...

มันเป็นคำสาปที่ 1000 ปี คนในหมู่บ้านจะได้พบเจอสักครั้ง และใครก็ตามที่โดนคำสาป จากเส้นผมสีทองก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำ จากผิวพรรณเนียนขาวก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้ทำให้พวกเขาเจ็บป่วย พิการ หรือเสียชีวิตลงไปได้ แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น

ใครก็ตามที่โดนคำสาปนี้ จะถูกเหล่าบรรดาคนในหมู่บ้านรังเกียจ และจะโดนขับไล่ให้ออกไปอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้าน และผู้ที่โดนคำสาปนั้นจะถูกทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดาย โดยไม่มีใครสนใจ และสิ่งนี้มันโหดร้ายยิ่งกว่าตายลงไปเสียอีก

เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ผู้คนในหมู่บ้านเชื่อว่าคนเหล่านั้นไม่บริสุทธิ์ อาจจะเกิดจากร่างกายหรือจิตใจ

และหากใครเข้าไปใกล้ หรือเข้าไปคุยด้วยแล้ว อาจทำให้โดนคำสาปตามไปด้วย

แม้คนในหมู่บ้านจะไม่รู้ว่า คำสาปจะโดนกันได้ง่ายแบบนี้หรือเปล่า แต่พวกเขาก็เลือกที่จะตัดขาดและไม่ติดต่อกับเธอ

ด้วยนิสัยรักสงบและขี้กลัวของเผ่าเอลฟ์ คงไม่มีเอลฟ์ตนไหนกล้าเอาตัวเองไปพิสูจน์กับเรื่องอาถรรพ์เช่นนี้

เพราะแบบนั้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นานาจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวคนเดียว แม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเธอ เพราะขาที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ แต่เธอก็ยังคงจะพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้

ส่วนเรื่องอาหารการกินของเธอ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จะมีคนนำมาส่งให้เธอทุกอาทิตย์

หลังจากที่เธอใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังได้ไม่กี่ปี เธอก็รู้สึกเหงา และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เธอคิดอยากจะมีเพื่อนคุยด้วยสักคน

เธอพยายามมองหาใครสักคน ที่จะมาเป็นเพื่อนของเธอ แต่ด้วยความที่เธอไม่เคยเข้าสังคมมาก่อน การที่จะต้องเข้าไปคุยหรือสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเธอ

อีกอย่างผู้คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนั้น จะไม่ค่อยอยู่บ้านกันในช่วงเวลากลางวัน พวกเขามักจะพากันไปรวมตัวที่โบสถ์ ซึ่งเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะไปได้

เธอเคยมองดูพวกเขา ที่กลับมาจากโบสถ์ช่วงตอนเย็น เห็นพวกเขาเดินเกาะกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน เธอเองก็อยากจะเข้าไปคุยกับพวกเขา แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปแทรกอยู่ตรงจุดนั้นได้อย่างไร

เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า ทุกคนก็จะแยกย้ายกันไปเข้าบ้าน พูดคุยทำอาหารทานรับประทานกันในครอบครัว ถ้าจะให้เธอไปเคาะประตู เพื่อขอพูดคุยกับพวกเขา มันก็เหมือนเป็นการไปรบกวนเวลาพักผ่อนของครอบครัว

“เฮ้อ! การจะหาเพื่อนสักคนมันยากขนาดนี้เลยหรอ” เธอมักจะบ่นกับตัวเองด้วยความรู้สึกท้อแท้

แต่อยู่มาวันหนึ่งเหมือนพระเจ้าจะเห็นใจเธอ จึงทำให้เธอได้มาพบกับเด็กหนุ่มคนนั้น...

หนุ่มน้อยคนนั้นเขามีชื่อว่า "นากิ" เขาเป็นเด็กผู้ชายรูปร่างหน้าตาน่ารัก ท่าทางขี้เล่น และมีอุปนิสัยร่าเริง

และด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ช่วงเวลากลางวัน เขาไม่ได้ไปที่โบสถ์เหมือนกับคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน

เขามักจะเดินสำรวจหมู่บ้านด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นและซุกซนตามประสาเด็ก  และทันทีที่เธอเห็นโอกาส เธอก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับเขาทันที

ด้วยความไร้เดียงสาของเขา พร้อมกับท่าทางที่เป็นมิตร เธอใช้ความพยายามอยู่ไม่นาน ในที่สุดเขาก็ยอมเป็นเพื่อนกับเธอ

ตั้งแต่วันที่เธอมีเขาเป็นเพื่อน ความรู้สึกเหงาและเดียวดายของเธอก็ได้จางหายไป แล้วมันก็ทำให้เธอกลับมีความต้องการบางอย่างขึ้นมาแทน

‘ฉันต้องการเขา’ นั่นคือความรู้สึกของเธอเมื่อมองไปที่เขา

‘ด้วยความไร้เดียงสาของเขาในตอนนี้ หากเราถือโอกาสตีสนิทไปเรื่อยๆล่ะก็.. สักวันหนึ่ง เมื่อเขาโตเป็นหนุ่มเขาอาจจะสนใจเราขึ้นมาก็ได้’ ความคิดชั่วร้ายเริ่ม ผุดขึ้นมาในหัวเธอ

‘ไม่สิ แค่นั้นมันอาจจะยังไม่พอ เราคงจะต้องใช้มารยาสร้างสถานการณ์ให้ได้ใกล้ชิดกับเขาให้ได้มากที่สุด เพื่อที่วันหนึ่งเขาจะได้เลือกเรา’ เธอคิดพร้อมพยักหน้า เมื่อมั่นใจว่าแผนการของตัวเองมีความสำเร็จสูง

‘คุณแม่คะ หนูจะไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หนูจะต้องทำให้เขาเลือกหนูให้ได้’ เธอคิดในใจอย่างแน่วแน่

วันเวลาได้ผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ เธอเองก็พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมมากมายเพื่อที่จะตีสนิทและใกล้ชิดกับเขามากขึ้น

และดูเหมือนว่า สิ่งที่เธอทำนั้นค่อนข้างจะได้ผลดีเลยล่ะ ความสัมพันธ์เธอกับเขาเริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพยายามอดทนทำมาตลอดก็ต้องสูญเปล่า

เมื่ออยู่มาวันหนึ่งนากิประสบอุบัติเหตุล้มหัวกระแทกพื้นอย่างแรง และนั่นก็ทำให้เขาได้สูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป

ในวินาทีที่เธอได้รู้ว่าเขาสูญเสียความทรงจำ และจำเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเขากับเธอไม่ได้ มันทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังอย่างแรง ความพยายามที่เธอได้ทำมาในช่วงเวลา 200 กว่าปี กับมลายหายไปในพริบตา

หลังจากที่ผิดหวังอย่างรุนแรง เธอก็ได้เอาแต่ขังตัวเองไว้ในห้อง เธอได้แต่เก็บตัวและได้แต่ร้องไห้ราวกับคนที่สูญสิ้นทุกอย่าง เธอใช้เวลาอยู่นานเป็นอาทิตย์กว่าจะทำใจได้

และเมื่อเธอคิดได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามชีวิตของเธอก็ยังคงจะต้องดำเนินต่อไป เธอจึงได้ตัดสินใจ ที่จะเริ่มใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

เธอได้ข่าวมาว่า ตอนนี้เขาอาการดีขึ้นมากแล้ว เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะไปหาเขา

แม้ในใจลึกๆ เธอจะยังคงรู้สึกเสียใจ ที่เขาได้สูญเสียความทรงจำระหว่างเขากับเธอไป

แต่ความสนิทสนม และเป็นเพื่อนกันมากกว่า 200 ปี มันก็ทำให้เธอรู้สึกอดที่จะเป็นห่วงเขาไม่ได้ เธอยอมรับว่าในใจลึกๆ แล้ว เขามีความสำคัญและเธอก็รู้สึกเป็นห่วงเขาจากใจจริง

เธอยังคงไปหา พูดคุยและปฏิบัติตัวกับเขาเหมือนในอดีต แต่ก็อาจจะไม่บ่อยและมากมายเหมือนเมื่อก่อน

และสิ่งที่ต่างไปจากเดิมนั่นก็คือ การที่เธอกลับมาสร้างความสัมพันธ์กับเขาใหม่ในครั้งนี้ เธอไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยาและแผนการอะไรอีกแล้ว

เธอรู้สึกเหนื่อยและไม่อยากจะเริ่มต้นอะไรใหม่ ที่เธอต้องการคุยกับเขาก็เพื่อคลายเหงาแค่นั้น..

เมื่อความหวังที่ได้พยายามทำอย่างยาวนานได้สูญหายไป ความรู้สึกไร้ค่าและไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ก็เริ่มเกิดขึ้นมาในสมองของเธอ

แล้วบางเวลาเธอรู้สึกอยากจะสร้างความสัมพันธ์ของเธอกับเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่เธอก็รู้สึกว่า ตัวเองนั้นไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงที่จะทำมันต่อไปอีกแล้ว..

และหลังจากนั้นเธอก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ เรื่อยเปื่อย แม้ในบางครั้งเขาจะเข้ามากอด หรือทำตัวสนิทสนมกับเธอต่างจากเมื่อก่อน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจในการกระทำที่เปลี่ยนไปของเขา จนกระทั่งวันนั้น วันที่เขาได้พูดประโยคเชิญชวนออกมา..

“นี่.. นานา เรามาทำเพื่อหมู่บ้านกันเถอะ...”

つづく

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด