เล่มที่ 3 บทที่ 16 – เจ้าหญิงเปลือยกาย
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 3 บทที่ 16 – เจ้าหญิงเปลือยกาย
(วอลสัน)
เมื่อข้าตื่นขึ้นจากการหลับใหลและลืมตาขึ้น แสงจากดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างก็ทะลุม่านเข้ามาในดวงตาของข้า แสงจ้าทำให้ข้ารู้สึกปวดศีรษะมาก
ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น แต่แสงแดดในตอนต้นยังส่องลงบนผิวที่สวยงามของเกรซผ่านหน้าต่าง ทำให้ผิวของนางเปล่งประกายขึ้นอีก นางยังคงหลับอยู่ ร่างกายของนางค่อยๆ ขยับขึ้นลงไปมาตามลมหายใจ
ข้าอดไม่ได้ที่จะลูบผมของนางเบาๆ ด้วยความรัก
ตอนนี้ทั้งเกรซและข้านอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง แม้จะนอนอยู่บนเตียง แต่เกรซก็ยังสูงกว่าข้าเล็กน้อย
ความสูงของนางเกินเกณฑ์ 175 ซม. ไปแล้ว
เมื่อคืนข้าสำรวจร่างกายของนางอย่างละเอียด ถึงส่วนที่ลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนนางหมดแรงหลังจากรอบที่สิบสองได้ผ่านพ้นไป
ขอโทษด้วยนะเกรซ เจ้าคงเหนื่อยมาก
เมื่อคืนนี้เราได้รุดหน้าความสัมพันธ์ของเราไปอย่างมาก
…ในชีวิตก่อนหน้านี้ของฉัน…แม้ว่าข้าจะเดทกับผู้หญิงบางคนเป็นเวลานาน แต่ข้าก็ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนเลย
อืม วันเหล่านั้นจากชาติก่อนของข้าดูเหมือนจะนานมากแล้ว…ยามนี้ข้าแทบจะจำไม่ได้เลยว่าแฟนเก่าและครอบครัวของข้าเป็นมีหน้าตายังไง
ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ข้าค่อยๆ ยกผ้าห่มที่คลุมทั้งร่างของข้าและร่างของเกรซออก จากนั้นจึงลุกขึ้นจากเตียง พยายามไม่รบกวนการนอนของเกรซ...ทันใดนั้น ข้าก็สังเกตเห็นร่างเปลือยเปล่าของเกรซใต้ผ้าคลุม...
อืม ไม่ไม่ ข้าควรปล่อยให้นางพักผ่อนต่อสิ ดูเหมือนข้าจะต้องทำให้ความต้องการทางเพศอันเร่าร้อนของข้าสงบลงอีกคราแล้ว
ความต้องการทางเพศของร่างกายนี้มีมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ มันมีมากมายจนแค่ได้กลิ่นของเพศตรงข้าม ก็สร้างความลำบากให้ข้าแล้ว
หลังจากคิดเช่นนั้น ข้าก็สวมผ้า หมุนลูกบิดประตูช้าๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่รบกวนเกรซจนตื่น และจึงได้ออกจากห้องชั้นสามไป
เมื่อข้าลงมาที่ชั้นหนึ่ง ไม่มีคำทักทายเช่น “อรุณสวัสดิ์นายท่าน” มาจากเมล่อน คงเพราะนางยามนี้ไม่ได้อยู่ที่บบ้านสุนัขกระมัง
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งสองสัปดาห์ เมล่อนจึงหยุดไปทำภารกิจผจญภัยกับปาร์ตี้สี่คนนั้น…โอ้ พอพูดเรื่องนี้แล้ว ข้าก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
แทนที่จะเรียกสิ่งที่นางทำว่าเป็นภารกิจ มันเหมือนกับการจัดแฟนมีตติ้งมากกว่า
ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาที่ "บ้านสุนัข" ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาหาเมล่อนโดยเฉพาะ บางคนถึงขั้นพยายามที่จะรับนางเข้าร่วมปาร์ตี้ของพวกเขา...แต่เพราะเป็นเวลางาน เมล่อนจึงไม่คิดสนใจพวกเขาเลย
ดังนั้นคนพวกนี้จึงได้เข้าไปที่สถาบันการศึกษา พยายามพูดคุยกับเมล่อนที่นั่นและรับนางเข้าร่วมปาร์ตี้ของพวกเขา เพื่อไปทำภารกิจบางอย่าง แต่เมล่อนก็ไม่ได้สนใจคำเชิญของพวกเขาเช่นเดียวกัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางเลือกเดียวที่เหลือคือการลงทะเบียนกับสมาคมนักผจญภัยและได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมปาร์ตี้สี่คนของทีมนัยน์ตาแห่งแมวรัตติกาลเพื่อเข้าใกล้นาง... และล่าสุดข้าได้ยินมาว่าแต่ละการเข้าร่วมภารกิจด้วยมีราคาประมาณ 20 หรือแม้แต่ 30 เหรียญทอง เรียกได้ว่ามันแพงอย่างไม่น่าเชื่อเลย
แต่ประเด็นหลักคือ มีใครหลายคนพยายามแข่งขันกันเพื่อที่จะจ่ายมันให้ได้!
ต้องขอบคุณเมล่อน กลุ่มสี่คนของนัยน์ตาแห่งแมวรัตติกาลจึงร่ำรวยกันแล้ว!
…จากที่ข้าได้ยินมา รายได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่พวกเขาได้รับจากกลุ่มที่ต้องการเข้าใกล้กับเมล่อนได้ถูกส่งไปยังเมลอน
ขณะที่กำลังคิด ข้าก็เดินลงบันไดและเปิดประตูไปยังห้องรับรอง
"หืมม?" "หืมม?"
สิ่งที่เข้ามาในสายตาของข้าเป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในชีวิตนี้
มันเป็นร่างเปลือยของเดริชา
ผิวของนางไม่ได้ดำหรือขาว มันมีสีข้าวคล้ายต้นสาลีอ่อนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ร่องรอยของการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มานานหลายปีและศิลปะหอกได้แกะสลักเป็นรูปตัววีที่ค่อนข้างเย้ายวนบนหน้าท้องของนาง
ด้วยความสูง 1.7 เมตร เดริชจึงมีขาที่เรียวยาวละเอียดอ่อนมาก นางยามนี้สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน พอผสมเข้ากับผมหางม้ายาวสีเงินของนางแล้ว...
‘นี่มันวาลคิรีชัดๆ!' บรรยากาศคล้ายกับอยู่ในสรวงสวรรค์ถึงกับทำให้ข้าต้องอ้าปากค้างด้วยความชื่นชม
ชุดชั้นในผ้าไหมสีดำทำมือของข้าอยู่บนร่างกายที่เปลือยเปล่าและเย้ายวนของนาง ภูเขาที่อวบอิ่มและแน่นขนัดพวกนั้นกำลังเด้งตามลมหายใจแต่ละครั้งขององค์หญิงอันดับสองประเทศนี้...
.
“ฮ่าว วอลสัน อรุณสวัสดิ์” เดริชาทักทายข้าด้วยการโบกมือพร้อมรอยยิ้ม ในขณะที่มืออีกข้างของเธอกำลังยุ่งอยู่กับการสวมบราของนาง นางทำตัวเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติทั้งๆ ที่มีผู้ชายกำลังเห็นร่างเปลือยเปล่าครึ่งตัวของนางอยู่
“อรุณสวัสดิ์ก็บ้าแล้ว!” ข้าปิดประตูห้องทันที ใบหน้าของข้ามีเหงื่อมากมายหยดไหลลงมา..
โอ้ ไม่ โอ้ไม่ ความต้องการทางเพศของข้าที่มีต่อร่างกายของผู้หญิงที่กำลังหดลงกลับผงาดง้ำค้ำโลกอีกแล้ว
“เจ้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่ได้ยังไง!?”
แม้ว่าข้าจะปล่อยให้นางนอนในห้องรับแขก แต่นี่คือทางเดินจากชั้นสองไปยังชั้นหนึ่งนะ! นางมาเปลี่ยนชุดที่นี่ได้ยังไง!?
“ข้าก็แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังจากออกจากห้องอาบน้ำเท่านั้นเอง” นางพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ
เจ้าจะบอกว่าเจ้าเดินด้วยร่างเปลือยเปล่าจากชั้นสองมายังชั้นหนึ่งเนี่ยนะ!? เฮ้อ น่าเสียดายที่ข้าไม่เห็นมัน - เดี๋ยวก่อนสิ!!
“ทำไมเจ้าไม่เปลี่ยนชุดในห้องน้ำเล่า!?”
“อ้อ ข้าลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามาข้างในด้วยน่ะสิ”
แล้วเจ้าออกมาด้วยสภาพแบบนั้นเหรอ?
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าควรสวมเสื้อผ้าเก่าของเจ้าก่อนสิ!”
“ข้าถอดเสื้อผ้าเก่าออกก่อนขึ้นไปอาบน้ำข้างบน จึงไม่ได้เอามาด้วยน่ะ”
ไม่ใช่แค่เจ้าเดินลงมาที่นี่ในสภาพเปลือยเปล่า แต่เจ้ายังเดินขึ้นชั้นบนในสภาพเปลือยเปล่าเนี่ยนะ...
นี่ไม่ใช่บ้านของเจ้านะเฮ้ย! แถมเจ้ายังเป็นผู้หญิง อย่างน้อยก็มีสามัญสำนึกบ้าง ยัยเจ้าหญิงงี่เง่า!!!
แต่ตามปกติ ข้าควรเป็นฝ่ายผิดใช่ไหม? นี่ข้าต้องรีบเตรียมหลบ ก่อนที่นางจะขว้างปาสิ่งของใส่ข้าหรือเปล่า!?
…อา ช่างมันเถอะ
“วันนี้เจ้าไม่ควรไปที่พระราชวังหรือ?”
“ข้ากำลังคิดที่จะกลับไป แต่เมื่อไปถึง ก็พบว่าคนที่ข้าตามหาไม่ได้อยู่ที่นั่น ข้าจึงได้กลับมาจากทางเข้าหลัก มันมีพิธีการอะไรไม่รู้ยุ่งยากไปหมด กว่าจะกลับมาที่นี่ก็ดันดึกเสียแล้ว” เดอิชาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็กำลังนั่งกินอาหารเช้าที่เมล่อนทิ้งไว้อยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ทำไมเจ้าไม่ค้างคืนที่พระราชวังล่ะ?”
“ข้าตกหลุมรักโซฟาที่นี่แล้วน่ะสิ ฮิฮิ”
“…” เฮ้อ อย่าไปสนใจยัยเจ้าหญิงนี้เลยดีกว่า
ข้าเคี้ยวแซนด์วิชเบคอนที่อยู่บนโต๊ะ
...มันก็นานแล้วที่ข้าได้กินอะไรแบบนี้ พักหลังมานี้ ข้ากินอาหารเช้าที่ทำโดยฝีมือบาเรลล่ามาโดยตลอด
ตอนนี้นางอาศัยอยู่ในหอพักของสถาบันและนางมักจะมาที่บ้านสุนัขช่วงเช้าตรู่
โดยปกติเมื่อข้าตื่นขึ้นมา นางก็จะอยู่ที่นี่ โต้เถียงกับข้าในขณะที่เตรียมอาหารเช้าแสนอร่อย
ในเมื่อนางไม่ได้มาในวันนี้ ข้าคิดว่านางคงจะพักผ่อนอยู่กระมัง?
จากที่เกรซบอกข้ามา ดูเหมือนว่าบาเรลล่าจะเจอกับปัญหามากมายในระหว่างการตามหาข้าด้วย
“เฮ้ นี่เจ้าจะให้หอกเล่มนี้แก่ข้าจริงๆ เหรอ? ข้าสามารถจ่ายเป็นงวดได้นะหากเจ้าต้องการ …” หลังจากไม่กี่วินาทีที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความเงียบ ในที่สุดเดริชาก็พูดขึ้นมา
อ่า ข้าเข้าใจแล้ว นางกำลังพูดถึงเรื่องนั้นสินะ
“ไม่เป็นไร มันเป็นของเจ้าแล้ว อาวุธนี้เหมาะกับเจ้ามาก”
"หา? อาวุธที่ทรงพลังนี้ เจ้าคิดว่า… มันเหมาะกับข้าหรือ?” ข้าสังเกตเห็นว่าแก้มของเดริชาพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ในสายตาของข้า เจ้าเป็นเหมือนองค์หญิงที่รักประชาชน ด้วยนิสัยของเจ้า อาวุธชิ้นนี้ย่อมเหมาะสมกับเจ้าแล้ว”
ทุกสิ่งที่ข้าพูดไป ย่อมหมายความตามที่ข้าจะสื่อ
นอกเหนือจากบุคลิกที่เลอะเทอะและไม่สนโลกของนางแล้ว นางถือได้ว่ามีชื่อเสียงในหมู่ประชาชนพอสมควร นางเป็นที่รู้จักในเรื่องของความเอื้ออาทรและความยุติธรรม ความเป็นมิตรของนางที่แทบไม่สนใจมารยาทเลย อีกทั้งนางยังสวยมากด้วย
ถึงแม้เดริชาจะงดงามได้ไม่เท่ากับพี่สาวน้องสาวของนาง แต่ในหมู่ประชาชนของเมืองเตกิตตัน นางถือได้ว่าเป็นที่นิยมมากที่สุด
ถึงนางจะดูเป็นเช่นนี้ แต่เดริชาก็เป็นเจ้าหญิงที่เป็นแบบอย่างมาก นางใจดีและสุภาพกับคนอื่น ไม่ว่าพวกเขาจะมีฐานะแบบใดก็ตาม
“…ถ้าเจ้าพูดแบบนั้น…ข้า…”
ทำไมเจ้าถึงเขินอายกับเรื่องแค่นี้กัน ข้าล่ะสงสัยชะมัด
“มันเป็นของเจ้าไปแล้ว” ข้าหาวออกมา “ข้าจะไปที่สมาคม เจ้าอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
หลังจากพูดแบบนั้นกับนาง ข้าก็หันหลังกลับและออกจาก [บ้านสุนัข] ไป
…ทว่าในอนาคต ข้ากลับไม่รู้เลยว่าการที่ข้ามอบอาวุธให้นาง จะกลับกลายเป็นของหมั้นเสียอย่างนั้น...