บทที่15
จางเซว่เฟิง (หรือเสวี่ย แต่ไปฟังจากเสียงจีนแล้วมันเป็น เซว่) เป็นชายวัยกลางคนที่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียนนี้
แน่นอนว่าจางเซว่เฟิงดึงแขนหลิวเฉิงหลบไปด้านข้างให้ห่างจากหลินเสวี่ยและนักเรียนคนอื่น “น้องชาย นายบอกว่ามีผีในโรงเรียนของเรา ขอถามหน่อยว่านายจับมันได้ไหม?”
หลิวเฉิงเกือบสำลัก ตอนนี้เขาคิดว่าอีกฝ่ายไม่ใช่อาจารย์ใหญ่แต่เป็นคนขับแท็กซี่เมื่อสักครู่นี้ด้วยซ้ำ
หลิวเฉิงอดถอนหายใจไม่ได้ “ผมชื่อหลิวเฉิง อาจารย์ใหญ่ เรียกผมว่าหลิวเฉิงเฉย ๆเถอะ”
“ได้สิน้องชายหลิวเฉิง สรุปว่านายเห็นผีได้ใช่ไหม?”
“………..”
ผมให้มีดคุณเลยไหม เอามาแทงผมเลยดีกว่า!
อาจารย์ใหญ่ ช่วยเป็นคนที่จริงจังกว่านี้สักหน่อยเถอะ
หลิวเฉิงพูดไม่ออกจริง ๆ
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลิวเฉิงก็ยอมพยักหน้ายอมรับ
“ใช่ครับ ผมเห็นพวกสิ่งลึกลับได้ เพราะว่าผมเคยเรียนเรื่องนี้มาจากพวกนักพรตที่เคยเจอบนภูเขาน่ะ”
หลิวเฉิงสร้างเหตุผลของตัวเองขึ้นมา
เมื่อเจอเข้ากับคนแปลกหน้า เหตุผลนี้ไร้ที่ติ เพราะไม่สนิทกันเท่าไหร่อีกฝ่ายน่าจะไม่ถามลึกไปกว่านี้
แน่นอนว่าดวงตาของจางเซว่เฟิงเป็นประกาย เขาตบไหล่หลิวเฉิงอย่างตื่นเต้น “น้่องชาย นายรู้วิธีจับผีจริง ๆเหรอ ไม่ต้องกังวละ ต้องการอะไรบอกมาได้เลย ฉันจะจัดหามาให้ทุกอย่าง”
“………….”
ถ้าหากว่ามันเป็นแบบที่พูดจะดีมาก ทว่ามันไม่ใช่ เขาไม่ต้องการของอะไร อีกอย่าง วิธีการพูดสนิทสนมแบบนี้ นี่เป็นท่าทางของคนเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่ใหญ่แบบนี้เหรอ?
จางเซว่เฟิงคนนี้เป็นคนพูดอะไรโดยไม่คิด
“อาจารย์ใหญ่ครับ ให้ผมลองดูก่อนก็ได้” หลิวเฉิงดึงมือของจางเซว่เฟิงออกอย่างรุนแรงและกล่าวกับอีกฝ่ายไป
“ได้ ได้เลย ลองได้เลย ในเมื่อน้องชายพูดแบบนี้ ฉันก็เชื่อ ลองคืนนี้แหละ ฉันจะแจ้งคนคุมหอพักให้ทราบเอง คืนนี้หลังไฟหอพักดับ นักเรียนทุกคนก็คงจะนอนหมดแล้ว เราค่อยไปลองตอนนั้นก็ได้”
“ตกลงครับ แต่มีบางอย่างที่ไม่เหมาะกับคนธรรมดานะ”
หลิวเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย เขายอมรับคำขอของอาจารย์ใหญ่ แต่เขาไม่ต้องการภาระไปเพิ่ม
เรื่องนี้มันทำให้หลิวเฉิงแปลกใจไม่น้อย อาจารย์ใหญ่คนนี้ทำไมเขาพูดแค่ไม่กี่คำว่ามีผีก็เชื่อแล้ว?
อาจารย์ใหญ่คนนี้จะมองเห็นอะไรบางอย่างหรือเปล่า หรือว่าอาจมีเหตุผลอื่น?
ไม่อย่างนั้นด้วยคำพูดของหลิวเฉิงแค่สองสามคำ อีกฝ่ายจะปล่อยให้เขาเข้าหอพักหญิงได้เลยจริง ๆเหรอ?
“ไม่เป็นไร ๆ น้องชาย ฉันจะกลับไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ก่อน ฉันไม่รบกวนนายแล้ว” จางเซว่เฟิงแย้มรอยยิ้มที่มีความหมายบางอย่างพร้อมกับตกไหล่ของหลิวเฉิงแล้วหันหลังจากไป
หลิวเฉิงมองไปที่แผ่นหลังของอาจารย์ใหญ่อย่างพูดไม่ออก
ดูไม่มีสง่าราศีเลย
มันเหมือนกับว่าชายที่เพิ่งจากไปเป็นนักแสดงทอร์คโชว์
“คิกคิก นั่นพี่คิดว่าอาจารย์ใหญ่ไม่เหมือนคนเป็นอาจารย์ใช่ไหม จริง ๆแล้วอาจารย์ใหญ่น่ะเป็นนักพูดทางโลกออนไลน์ด้วยนะ ลองค้นหาชื่อจางเซว่เฟิงสิ จะมีวีดีโอบรรยายของเขาอยู่ เขาเป็นที่รู้จักกันในนามอาจารย์ใหญ่ที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ต” หลินเสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แบบนี้นี่เอง” หลิวเฉิงอดส่ายหน้าไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอาจารย์ใหญ่แบบนี้ เขาพูดอะไรไม่ออกเลย
“จะว่าไปแล้ว นี่พี่เจออาจารย์ใหญ่ได้ยังไงน่ะ แถมเมื่อกี้กระซิบคุยอะไรกัน?” หลินเสวี่ยถามออกมาอีกด้วยความสงสัย
เธอรู้จักหลิวเฉิงมาหลายปีแล้วแต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้จักอาจารย์ใหญ่ด้วย แม้ว่าอาจารย์ใหญ่จะเป็นคนดังในอินเทอร์เน็ตก็ตาม
ด้านข้างนั้น เพื่อนร่วมห้องสองคนของหลินเสวี่ยก็มองไปที่หลิวเฉิงเช่นกัน พวกเธอสงสัยว่าพี่ชายของรูมเมทเธอรู้จักกับอาจารย์ใหญ่ได้ยังไง
การรู้จักกันและกระซิบกระซาบกันแบบนี้ ดูเหมือนจะสนัทกันไม่ธรรมดา
ทั้งสองอดคิดไม่ได้ว่าพี่ชายของหลินเสวี่ยเป็นเพียงพนักงานธรรมดาจริง ๆหรือเปล่า
“ไม่มีอะไรหรอก เราเข้าไปในโรงเรียนกันเถอะ!” หลิวเฉิงส่ายหัวแล้วไม่อธิบายอะไรให้ทุกคนรับรู้อีก เขาไม่อยากเสียเวลากำจัดผีเอาแต้มบุญเลย
พูดถึงเรื่องผี หลิวเฉิงยังไม่คิดว่าเรื่องนี้ให้หลินเสวี่ยและเพื่อนอีกสองคนรู้ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ทั้งสี่คนและหนึ่งผี รีบเดินเข้าไปในโรงเรียนแล้วตรงไปยังหอพักหญิง
เป็นเพราะอาจารย์ใหญ่ที่เข้ามาก่อนได้บอกอาจารย์คุมหอพักแล้ว อีกฝ่ายเลยไม่คิดจะหยุดหลิวเฉิง
ขณะที่หลิวเฉิงคุยกับหลินเสวี่ย เขาก็ได้รู้ว่าเพื่อน ๆของเธออีกสองคนชื่อหม่าเสี่ยวฉิงและอีกคคนชื่อซูหลิง พวกเธอคือสาวงามที่หลินเสวี่ยบอกเขาตอนคุยโทรศัพท์
ความสวยไม่ต้องพูดถึง มันใหญ่ ใหญ่และใหญ่มากเลยทีเดียว อายุเองก็ไล่เลี่ยกับหลิวเฉิงและไม่รู้ว่าพวกเธอที่อายุมากกว่าหลินเสวี่ยหลายปีมาเป็นน้องใหม่พร้อมกับหลินเสวี่ยได้ยังไง
ส่วนสูงของซูหลิงก็ใช้ได้ แต่ความน่ารักของเธอ จาก100 หลิวเฉิงให้ 67 ซึ่งเป็นการผ่านที่คาบเส้น
ส่วนหม่าเสี่ยวฉิงนั้นได้น้อยกว่าหน่อย คือ 60 แต้ม
หลิวเฉิงและแฟนผีเซี่ยว่านชิวของเขาอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้วและเขาก็ได้คุ้นเคยกับเซี่ยว่านชิวแล้วด้วย พอเจอเธอทุกวัน สาว ๆสองคนนี้ก็กลายเป็นธรรมดาไปเลย
แม้แต่น้องสาวของเขาหลินเสวี่ย ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำโรงเรียน ในสายตาหลิวเฉิงตอนนี้ เขาก็ยังไม่เห็นว่าเธอจะสวยสักเท่าไหร่
เมื่อเทียบกับเซี่ยว่านชิว ที่หน้าตาสวยสดงดงามเต็มร้อย เรียวขายาวและรูปร่าง หน้าอกที่ดูเซ็กซี่แล้ว ทุกคนในสายตาหลิวเฉิงต่างก็ดูธรรมดาไปหมด
แน่นอนว่าถึงอย่างนั้น หลินเสวี่ยก็ยังคงเป็นเทพธิดาของเหล่าเด็กหนุ่มนับไม่ถ้วนอยู่ดี