ตอนที่แล้วบทที่ 36: ท่านหลิน เรื่องพวกนี้มันหนักหนาเกินไป!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38: เสน่ห์ที่ควบคุมไม่ได้ของข้า!

บทที่ 37 – เอาใจข้าราชการระดับสูง จักรพรรดินีผู้โง่เขลา!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 37 – เอาใจข้าราชการระดับสูง จักรพรรดินีผู้โง่เขลา!

ณ ห้องโถงจักรพรรดิทองคำยามรุ่งสาง ทุกพื้นที่ต่างแออัดไปด้วยคนมากมาย

“ขอคำนับฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเป็นหมื่นปี!” ข้าราชการทุกคนคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ได้โปรดลุกขึ้นเถิด เสนาบดีทุกท่าน” จักรพรรดินีที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของนางกล่าวออกมาพลางชำเลืองมองทั่ว

เมื่อนางเห็นหลินเป่ยฟานยืนอยู่ด้านหลัง ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นและนางจึงยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน “เสนาบดีหลิน ท่านซ่อนตัวอยู่ทำไมกัน? ก้าวออกมาข้างหน้าเถิด”

หลินเป่ยฟานก้าวออกมาและโค้งคำนับ “ฝ่าบาท ท่านมีอะไรให้ข้าจัดการหรือ?”

“ข้าแค่อยากเจอเจ้าเท่านั้นเอง” จักรพรรดินียิ้มอีกครั้ง “เสนาบดีหลิน ท่านรับใช้ข้ามาสักพักแล้ว ท่านปรับตัวกับตำแหน่งของท่านได้หรือยัง? มีอะไรที่ท่านไม่เข้าใจหรือเปล่า?”

“ฝ่าบาท ทุกอย่างเรียบร้อยดี ข้าซาบซึ้งในความห่วงใยของท่าน” หลินเป่ยฟานตอบพร้อมกับโค้งคำนับอีกครั้ง

“แล้วงานของท่านในสถาบันจักรพรรดิเป็นเช่นไรบ้าง? ท่านคุ้นเคยกับมันหรือไม่?”

“ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากสหายร่วมงานของข้า ข้าจึงปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีและงานต่างๆ ก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นขอรับฝ่าบาท” หลินเป่ยฟานตอบอย่างหนักแน่น

"ข้าเข้าใจแล้ว นั่นแหละเป็นเหตุผลที่ท่านเป็นข้าราชการระดับสูงที่ข้าชื่นชม ข้าจึงได้ให้รางวัลท่านเป็นคฤหาสน์ การอยู่อาศัยในที่นั่นสะดวกสบายดีหรือไม่?”

“ฝ่าบาท ข้าอยู่อย่างสบายมาก ขอบพระทัยความกรุณาของท่าน” หลินเป่ยฟานกล่าว

“เจ้ากินดีอยู่ดีหรือไม่? เจ้าดูผอมแห้งลงกว่าเดิมมาก”

“ฝ่าบาท...”

หลินเป่ยฟานรู้สึกปลาบปลื้มและเป็นเกียรติกับความสนใจที่ผิดปกตินี้ของจักรพรรดินีเหลือเกิน ว่าแต่เหตุไฉนนางถึงดูกังวลกับชีวิตของเขามากขนาดนี้? มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกอายมากพอสมควร

ในทางกลับกัน ข้าราชการคนอื่นๆ ก็มองหน้ากันด้วยความรำคาญ รบกวนท่านช่วยพูดเรื่องสำคัญ แทนที่จะมาพูดคุยหยอกล้อเช่นนี้ได้หรือไม่? นี่คือห้องโถงจักรพรรดิทองคำ เป็นสถานที่สำหรับการพูดคุยเรื่องประเด็นสำคัญของจักรวรรดิ!

ทว่าพวกเขาทั้งหมดก็ยังคงนิ่งเงียบ เพราะรู้ดีว่าการที่จะขัดแย้งกับจักรพรรดินีเป็นสิ่งที่มิควรทำ

หลังจากการถามตอบไปรอบหนึ่ง หลินเป่ยฟานก็ได้ตอบคำถามทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้องค์จักรพรรดินีรู้สึกไม่พอใจยิ่ง สาเหตุที่นางได้ถามสารทุกข์สุกดิบของเขา ก็เพื่อดูว่านางจะสามารถตอบแทนเขาที่ทำดีเช่นนี้อย่างไรดี ทว่าเขากลับตอบมาว่าไม่มีสิ่งใดมีปัญหาเลยสักนิดเดียว

“เกิดอะไรขึ้นกับท่านเสนาบดีหลิน? ท่านต้องมีปัญหาสักเรื่องบ้างสิ บอกมาตามตรง ไม่อย่างนั้นข้าจะตั้งข้อหาหลอกลวงข้า!” จักรพรรดินีตะโกนขึ้น

หลินเป่ยฟานตัวสั่นด้วยความกลัว เขาไม่รู้เลยว่าจะพูดเช่นไรออกไปดี “ข้าต้องบอกฝ่าบาทจริงหรือ?”

"เจ้าต้องบอก!"

หลินเป่ยฟานได้แต่ถอนหายใจ "คือว่าข้ามีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง..."

"มีปัญหาอะไร? คายออกมาเดี๋ยวนี้!"

“ข้าต้องดิ้นรนหาเงินอย่างหนักเพื่อที่จะจุนเจือให้รอดไปถึงสิ้นเดือน! เงินเดือนของข้าน้อยมาก ค่าครองชีพในเมืองหลวงก็สูงเกินไป ข้าแทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว” หลินเป่ยฟานพูดพร้อมกับหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย

ข้าราชการคนอื่นๆ ที่ห้องโถงจักรพรรดิทองคำได้แต่กลอกตา เอาจริงหรือ? เจ้ากำลังร้องไห้เพราะความยากจนเนี่ยนะ?

ตั้งแต่เจ้าเป็นข้าราชการ เจ้าก็ยักยอกเงินไปนับล้านตำลึงแล้ว! แถมเจ้ายังยักยอกเงินจากบุตรของพวกเราอีก นี่เจ้ากล้าร้องไห้เพราะความยากจนจริงเหรอ? ช่างเลวร้ายไร้ยางอายอะไรเช่นนี้!

ทว่าจักรพรรดินีก็พยักหน้าเห็นด้วย หลินเป่ยฟานไม่ได้มาจากตระกูลสูง ฐานะข้าราชการแค่ระดับนี้ก็ทำให้เบี้ยเงินเดือนของเขามีอยู่อย่างจำกัด นอกจากนี้ เขายังได้กระจายเงินยักยอกของเขาไปทั่วและยังต้องเลี้ยงดูครอบครัวของเขาในเมืองหลวงที่จำเป็นต้องใช้เงินอย่างมากอีก มันเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับเขาจริงๆ

ดังนั้นจักรพรรดินีจึงกล่าวออกมาอย่างเห็นอกเห็นใจ “ท่านทำงานหนักมากจริงๆ ท่านเสนาบดี! ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้เสนบาดีคลังเพิ่มเงินเดือนเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินของท่าน! เอาเป็นเงินเดือนของข้าราชการระดับสี่ให้ท่านเลยดีไหม?” หลินเป่ยฟานถึงกับตกตะลึง

“ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย นางมาเพิ่มเงินเดือนให้ข้าทำไม? นี่มันหมายความว่าอะไรกัน?”

เหล่าข้าราชการก็ไม่อาจสงบได้เช่นกัน เขาไม่ได้มาทำงานสองสามวันด้วยซ้ำ แต่เจ้าหมอนี้กลับได้รับเพิ่มเบี้ยเงินเดือนงั้นหรือ? แถมจู่ๆ ก็ได้เงินเดือนระดับข้าราชการขั้นสี่เนี่ยนะ? มันไร้ระเบียบเกินไปแล้ว!

เสนาบดีคลังได้เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนและพูดเสียงดังว่า “ฝ่าบาท นี่ไม่เหมาะสม! นับตั้งแต่การก่อตั้งจักรวรรดิอู๋อันยิ่งใหญ่ เสนาบดีคลังได้กำหนดกฎว่าข้าราชการต่างๆ จะต้องได้รับเงินเดือนในระดับระดับของตน เราจะรักษาเสถียรภาพในราชสำนักได้อย่างไรหากเรามีผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎ? เราไม่สามารถทำผิดกฎและละเมิดความตั้งใจของบรรพบุรุษได้ ได้โปรดทวนพระทัยเถิดฝ่าบาท!”

“ทวนพระทัยเถิดฝ่าบาท!” เหล่าข้าราชการพูดพร้อมเพรียงกัน

เมื่อเห็นข้าราชการกลุ่มนี้ต่อต้านนาง ความโกรธของจักรพรรดินีก็เพิ่มสูงขึ้น “ตกลง ข้าจะไม่เพิ่มเงินเดือนของท่านหลินแล้ว! เช่นนั้นข้าจะให้เงินรางวัลแก่เขาหนึ่งหมื่นตำลึงเงิน แค่นี้พอหรือยัง?”

เสนาบดีคลังก็กล่าวอีกครั้งว่า “ฝ่าบาท รางวัลนั้นมาจากส่วนคลังของชาติและเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของชาติ เราไม่สามารถใช้มันอย่างหุนหันได้เช่นนี้ ท่านหลินไม่ได้มีบุญญานุภาพใด การให้รางวัลโดยไม่ไตร่ตรองจะถือเป็นการละเมิดกฎหมายและเหตุผล ได้โปรดทวนพระทัยเถิดฝ่าบาท!”

“ทวนพระทัยเถิดฝ่าบาท!” เหล่าข้าราชการได้ประสานเสียงกันอีกครา

จักรพรรดินีโกรธมากจนหน้าอกของนางหนักอึ้ง นางต้องการที่จะตอบแทนข้าราชการที่ซื่อสัตย์เพียงคนเดียวในราชสำนัก แต่ทำไมมันถึงยากเย็นนัก? ไอ้พวกข้าราชการโลภมาก! วันหนึ่งข้าจะประหารพวกเจ้าทั้งหมดให้สิ้น!

“ก็ได้ ข้าจะไม่ใช้เงินของคลังชาติ ถ้าอย่างนั้นใช้เงินส่วนตัวของข้าดีไหม? มันเป็นเงินของข้า ข้าจะให้ใครก็ได้ตามใจข้าปรารถนา!” จักรพรรดินีตวาดออกมาด้วยความโกรธ

“ฝ่าบาท...”

“ไม่ต้องพูด ข้าได้ตัดสินใจแล้ว!” ข้าราชการทั้งหลายมองไปทางจักรพรรดินีที่ตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น พวกเขาได้แต่ส่ายศีรษะอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยความเอือมระอา พวกเขาทั้งหมดต่างคิดเช่นเดียวกัน ช่างเป็นผู้ปกครองที่โง่เขลานัก!

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด