CD บทที่ 398 ท่านจ้าวมุ่งหน้าสู่ป่าเขาลำเนาไพร
“จ้าวหยู่!” ท่ามกลางป่าอันเงียบสงบ เสียงตะโกนอันน่าสะพรึงกลัวของเหมี่ยวอิงดังก้องไปทั่ว “คุณสมองทึบหรือยังไง!? เราบอกให้คุณเอาเต็นท์มาสองหลังไม่ใช่หรือ!? นี่คืออะไร!?”
ก่อนออกเดินทางเหมี่ยวอิงเห็นอย่างชัดเจนว่าจ้าวหยู่ถือกระเป๋าสองใบ โดยคิดว่าเขานำเต็นท์มาใส่ในกระเป๋าแต่ละใบอย่างแน่นอน ซึ่งตรงตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ตอนนี้มีเต็นท์เพียงหลังเดียวในกระเป๋าใบเดียว ในขณะที่กระเป๋าอีกอันใส่แต่สิ่งของที่ไม่จำเป็นเอาไว้
“เออ…” จ้าวหยู่พยายามอธิบาย “เต็นท์นี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจากร้านขายอุปกรณ์กลางแจ้งนะ มันสามารถกางออกได้อัตโนมัติได้ แถมมันยังบรรจุคนได้ 4-5 คน ยิ่งไปกว่านั้น การนำอุปกรณ์น้ำหนักเบาติดตัวไปด้วยนั้นช่วยประหยัดพลังงานและใช้งานได้จริงซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางไกลเช่นนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วถุงนอนล่ะ!? ทำไมมีถุงนอนใบเดียว!? แล้วเสื่อกันความชื้นล่ะ!? พวกมันอยู่ที่ไหน!?”
ขณะที่เหมี่ยวอิงกำลังดุเขา เธอก็เปิดกระเป๋าอีกใบออก เผยให้เห็นกระป๋องเบียร์และขนมขบเคี้ยวมากมาย
"นี่…“ภาพที่เห็นทำให้เหมี่ยวอิงตกตะลึง”จ้าวหยู่! ทำไมคุณถึงนำของพวกนี้มาด้วย!? อย่าบอกนะว่าคุณเอาถั่วลิสงมาด้วย!? บอกฉันทีว่าคุณตั้งใจจะทำอะไรกับกระป๋องเบียร์มากมายพวกนี้!? หรือว่าคุณจะตั้งใจจะตั้งร้านขายของกลางป่างั้นเหรอ!?”
“เออ… ก็…” จ้าวหยู่อธิบายอย่างไม่เร่งรีบ “การเดินทางของเรานั้นยาวนานและเหน็ดเหนื่อย การดื่มเบียร์จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าได้”
“ฉันล่ะยอมคุณจริง ๆ! ไม่คิดเลยว่าคุณจะงี่เง่าขนาดนี้!” เหมี่ยวอิงดุเขาในขณะที่เธอยังคงค้นกระเป๋าต่อไป “เรามาที่นี่เพื่อสืบคดี แต่คุณไม่ได้เอาไฟฉาย เชือก หรือไฟแช็คไปด้วย! โอ้ พระเจ้า! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?”
เหมี่ยวอิงพบถุงยางอนามัยกล่องใหญ่หลายกล่องท่ามกลางข้าวของของจ้าวหยู่เช่นกัน
“มะ ไม่ใช่อย่างที่คิดคุณนะ!” ใบหน้าของจ้าวหยู่แดงก่ำด้วยความลำบากใจ “ฉันเคยเห็นในทีวีว่าแบรนด์นี้ทำจากวัสดุที่แข็งแรงและสามารถใช้บรรจุน้ำหรือผูกสิ่งของเข้าด้วยกันได้”
“ผูกมัดสิ่งของ? เช่นอะไร!? คุณต้องคิดไม่ซื่อกับฉันแน่ ๆ เลย!” เหมี่ยวอิงเดือดดาลด้วยความโกรธ “โชคดีที่ฉันไม่ไว้วางใจในตัวคุณอย่างเต็มที่ ฉันเลยพกของใช้ติดตัวมา ถ้าฉันหลงเชื่อคุณอย่างสนิทใจล่ะก็ พวกเราก็คงอดตายกันในป่าแน่เลย!”
จากนั้น เหมี่ยวอิงเดินไปตั้งเต็นท์อย่างชำนาญ
“เออ… ผู้กองเหมี่ยว… ฟังฉันก่อน…” จ้าวหยู่พยายามพิสูจน์ตัวเอง
“ไปเก็บฟืนมา! แล้วอยู่ห่างจากฉันด้วย!” เหมี่ยวอิงตะโกนด้วยความโกรธ "พระเจ้า! ฉันเชื่อหลงในตัวคุณได้อย่างไร!?”
“ก็ได้ ๆ ให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง!” จ้าวหยู่รีบออกไปรวบรวมฟืนอย่างช่วยไม่ได้
แม้ว่าจะยังไม่หนึ่งทุ่ม แต่ท้องฟ้าในป่าก็มืดลงแล้ว ทั้งสองเดินไปแต่ไกล มองหาที่ที่เหมาะแก่การพักแรมในคืนนี้
ก่อนออกเดินทางสู่ภูเขา เหมี่ยวอิงต้องการจ้างมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเพื่อช่วยนำทาง อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่ที่ไม่ต้องการให้คนอื่นมาเป็นกขค. เขาจึงติดสินบนอีกฝ่าย เพื่อให้เขาปฏิเสธรับงาน
นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับเทพธิดาเหมี่ยวอิงของเขา ดังนั้นเขาจะปล่อยให้คนอื่นมาทำลายมันได้อย่างไร? ก่อนเข้าป่า เขาอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกิจกรรมกลางแจ้ง และไม่จำเป็นต้องจ้างมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
แต่อนิจจา เมื่อพวกเขาเข้าไปในป่า จ้าวหยู่ไม่สามารถระบุทิศเหนือได้ด้วยซ้ำ โชคดีที่เหมี่ยวอิงมีประสบการณ์พักแรมกลางแจ้งมาบ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่หลงทาง
ในความเป็นจริงแล้ว จ้าวหยู่แสร้งทำเป็นหลงทิศหลงทาง เหตุผลเบื้องหลังการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมดนี้ เพื่อที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับเทพธิดาเหมี่ยวอิงของเขา เขาจึงสร้าง ‘สถานการณ์’ ต่าง ๆ นานาเพื่อให้พวกเขาแก้ไขร่วมกัน
เต็นท์ ถุงนอน ถุงยางอนามัย… ทั้งหมดนี้ดูชัดเจนมาก!
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังรวบรวมฟืน เขาฮัมเพลงตามทำนองของเพลง ‘ตือโป๊ยก่ายกับภรรยา’ และนึกภาพว่าได้ใช้เต็นท์ร่วมกับเหมี่ยวอิง เทพธิดาของเขาในคืนนี้
หลังจากการเดินทางที่ยาวนานมาทั้งวัน พวกเขาก็เข้าใกล้บริเวณที่นักโบราณคดีชราประสบกับน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสามสิบถึงสี่สิบกิโลเมตร
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ทั้งสองคนจะออกล่าโจรปล้นสุสาน ดังนั้นคืนนี้จึงเป็นโอกาสเดียวที่จ้าวหยู่จะได้ใกล้ชิดกับเหมี่ยวอิง แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยโอกาสที่ดีเช่นนี้หลุดลอยไป
แม้ว่าจ้าวหยู่จะมีแผนการที่ดีสำหรับคืนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้งานของเขาเสียหาย เขาใช้เครื่องตรวจจับล่องหนเวอร์ชั่นอัพเกรดที่ใช้งานได้สิบวัน เครื่องตรวจจับล่องหนนี้สามารถตรวจจับใครก็ตามที่ถืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในระยะใกล้ได้
*พรึ่บ…*
ฟืนถูกจุดในเวลาที่เหมาะสม ตรงกับท้องฟ้าที่มืดลงพอดี
เหมี่ยวอิงรอให้เต็นท์พร้อม ก่อนที่เธอจะหยิบอุปกรณ์ทำอาหารกลางแจ้งออกมาเพื่อทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินคนเดียว อาจเป็นเพราะเหมี่ยวอิงมองเห็นเจตนาชั่วร้ายของจ้าวหยู่ออก
"ว้าว! กลิ่นหอมมาก!“กลิ่นหอมโชยมาแตะจมูกของจ้าวหยู่ ทำให้เขารู้สึกหิว”ผู้กองเหมี่ยว คุณสนใจทำอาหารให้ฉันบ้างรึเปล่า?”
"ไม่มีทาง!" เหมี่ยวอิงกล่าวอย่างหนักแน่น “ฉันต้องเก็บเสบียงไว้ใช้เอง กินพวกขนมที่คุณขนมาสิ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณนำของไร้ประโยชน์มา…”
“ใครบอกว่าฉันนำของที่ไร้ประโยชน์มากันล่ะ!”
จ้าวหยู่เอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าหลังซึ่งมีถุงพลาสติกสองใบ ในถุงพลาสติกใบหนึ่งมีคุกกี้งา ในขณะที่อีกถุงมีไก่ทอดรสอร่อยที่ห่อด้วยกระดาษไข
"รับไปสิ ฉันไม่ได้ขี้เหนียวแบบคุณซะหน่อย ทานให้อร่อยด้วยนะ” จ้าวหยู่ฉีกน่องไก่ และส่งให้เหมี่ยวอิง
เหมี่ยวอิงแทบไม่เชื่อสายตาของเธอและพูดว่า
“จ้าวหยู่ คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญการพักแรมกลางแจ้งอย่างแท้จริง! ฉันยอมรับในตัวคุณแล้ว!”
“แหม่ก็พูดเกินไป! ฉันคือปรมาจารย์จ้าวที่มีชื่อเสียงในการพักแรมการแจ้ง” ขณะที่เขาพูด เขาก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหลังและหยิบถุงพลาสติกอีกใบออกมา เขาเสริมว่า “นี่คือไข่เป็ดเค็มสำหรับกินกับคุกกี้งา”
เหมี่ยวอิงถึงกับพูดไม่ออก!
เธออยากโยนน่องไก่เข้าไปในกองไฟ...
หลังอาหาร พวกเขาก็วางแผนการเดินทางและขอบเขตการค้นหาในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่รู้สึกอยู่ไม่สุข เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเหมี่ยวอิง ในขณะที่แสงจ้าของไฟส่องประกายทุกส่วนของเธอ หัวใจของเขาเต้นเร็วมาก
จ้าวหยู่มีประสบการณ์ในการเกี้ยวพาราสีมาบ้าง และมีความคิดที่จะเข้าใกล้เทพธิดาของเขาได้อย่างไร เขายืนขึ้นและสะบัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า แล้วพูดว่า
“ผู้กองเหมี่ยว เรามาแลกเปลี่ยนท่วงท่าศิลปะการต่อสู้ก่อนนอนกันไหม? ฉันลืมกระบวนท่าที่คุณสอนฉันครั้งสุดท้ายแล้ว คุณช่วยทบทวนให้ฉันได้มั้ย?”
“นี่คิดจะเล่นไม่ซื่ออีกแล้วเหรอ? ขอบอกไว้ก่อนว่ามันไม่ได้ผลหรอก” เหมี่ยวอิงถามในขณะที่เธอยืนขึ้นเพื่อแสดงศิลปะการต่อสู้
ทั้งสองคนเคยแลกเปลี่ยนกระบวนท่าศิลปะการต่อสู้มาด้วยกันมาก่อน และตอนนี้พวกเขากำลังประมือ ข้างกองฟืนที่ลุกโชน ขณะที่พวกเขากำลังทำเช่นนั้น จ้าวหยู่ดำเนินแผนการอันชั่วร้าย
เมื่อทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เขาคว้าไหล่ของเหมี่ยวอิงอย่างเร็วจนอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว และล็อคให้เธอขยับไปไหนไม่ได้
"เฮ้! คุณ!" เหมี่ยวอิงพยายามดิ้นรนเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการของจ้าวหยู่ แต่ก็ไม่เป็นผล
แผนของจ้าวหยู่ได้ผล เขาดึงเหมี่ยวอิงเข้ามาใกล้เขา แก้มทั้งสองได้สัมผัสกัน เขาพูดขึ้นว่า
“เฮ้ ผู้กองเหมี่ยว ดูสิว่าท่าล็อคของฉันทรงพลังแค่ไหน ตอนนี้คุณดิ้นหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ถ้าฉันเข้าไปจูบแก้มคุณ มันก็สำเร็จได้อย่างง่ายดาย”
“จ้าวหยู่! ไอ้บ้า! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เหมี่ยวอิงยังคงดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหลุดพ้น ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความอาย