บทที่ 4 ระดับ 9

บทที่ 4 ระดับ 9

แม้ว่ารางวัลของการเก็บ 10% ของกำไรนั้นไว้ดูเหมือนจะน้อยมาก แต่จริงๆ แล้ว นี้ยังถือว่านิกายเจียงยางใจดีมากแล้ว

เพราะโดยปกติแล้วนิกายทั่วไปหรือแม้แต่นิกายเจียงหยางนี้ก็ตาม จะไม่อนุญาตให้ผู้ฝึกตนอิสระเก็บสิ่งใดในพื้นที่ของตัวเองไปเลยแม้แต่น้อย

มากที่สุด พวกเขาจะมอบหินวิญญาณหรือยาพื้นฐานให้กับพวกเจ้าก็พอแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอิทธิพลของนิกายเจียงยางในเทือกเขาเหอหยางแห่งนี้ หากพวกเขาต้องการให้เจ้าเข้าไปในซากปรักหักพัง เจ้าก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้

ยิ่งไปกว่านั้น ตามข่าวล่าสุดมีผู้ฝึกตนขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณที่ใช้สมบัติที่พวกเขาได้รับจากซากปรักหักพังเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นยาสร้างรากฐานจากสำนักเจียงหยางได้และทำการฝ่าทะลวงได้สำเร็จ

เป้าหมายสูงสุดของผู้ฝึกตนอิสระที่ในขั้นปรับแต่งพลังปราณเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อต่อสู้อย่างหนักเพื่อความหวังที่จะทะลวงไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานไม่ใช่หรือ?

ดังนั้น

ในขณะนี้ซูไห่ชวนและภรรยาของเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะชักชวนเจียงเฉิงซวนให้ไปที่ซากปรักหักพังพร้อมกับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่น่าดึงดูดสำหรับเจียงเฉิงซวนเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้เขาได้รับโอกาสที่จะทะลวงผ่านได้สำเร็จจากระบบแล้ว

ตราบใดที่การฝึกฝนของเขาทะลวงไปจนถึงระดับเก้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณ การทะลวงไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานเป็นเพียงเค้กชิ้นเดียวที่พร้อมเสิร์ฟอยู่ตรงหน้าแล้ว

เหตุใดเขาจึงต้องเสี่ยงชีวิตอย่างมากที่จะไปสู่สิ่งที่เรียกว่าซากปรักหักพังนั้นด้วย?

ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของเจียงเฉิงซวนไม่ว่าซากปรักหักพังจะล่อลวงเพียงใด พวกเขาซึ่งเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณที่เป็นระดับต่ำที่สุด ก็ไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมของการกลายเป็นอาหารสัตว์ดุร้ายได้

แม้ว่าเจ้าจะมีโชคที่ท้าทายสวรรค์จริงๆ และได้รับสมบัติล้ำค่าจากซากปรักหักพังนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วสมบัตินั้นก็อาจไม่ได้ตกอยู่ในมือเจ้า

นิกายเจียงยางจะไม่ปล่อยให้สมบัติที่แท้จริงในซากปรักหักพังตกไปอยู่ในมือของผู้ฝึกตนอิสระระดับต่ำเช่นพวกเขาอย่างแน่นอน

มีโอกาสมากที่พวกเขาจะถูกฆ่าด้วยเหตุนี้

ดังนั้น

ในขณะนี้ไม่ว่าซูไห่ชวนและภรรยาของเขาจะพูดอะไรก็ตาม เจียงเฉิงซวนก็ไม่ถูกล่อลวงเลยแม้แต่น้อย

เมื่อทำอะไรไม่ได้ ซูไห่ชวนและภรรยาของเขาทำได้เพียงจากไปอย่างเสียใจเท่านั้น

“สามี เจียงเฉิงซวนผู้นี้ดื้อรั้นมากและปฏิเสธที่จะสำรวจซากปรักหักพังนั้นกับเรา ตอนนี้เราควรทำอย่างไร?”

ด้านนอกถ้ำของเจียงเฉิงซวน เหมยหงหยานหันไปมองสามีของเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

ซูไห่ชวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และส่ายหัว

“ในเมื่อสหายเต๋าเจียง ไม่ต้องการที่จะไปกับเรา งั้นก็ลืมมันซะ แต่ต่อไปเราก็ต้องไปหาคนอื่น เพราะท้ายที่สุดแล้วเพียงแค่เจ้ากับข้าที่จะไปสู่ซากปรักหักพังนั้นไม่เพียงพออย่างแน่นอน”

ขณะที่ทั้งคู่พูด พวกเขาก็เดินไปอีกทางหนึ่งของตลาด

หลังจากส่งซูไห่ชวนและภรรยาของเขาออกไปแล้ว การแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในใจของเจียงเฉิงซวน

[ติ๊ง! ประกาศภารกิจความสำเร็จครั้งต่อไป โฮสต์โปรดทำการโคจรพลังให้ครบร้อยร้อย]

[หมายเหตุ: การโคจรพลังก่อนหน้านี้ไม่รวมอยู่ในภารกิจนี้]

นั่นก็สมเหตุสมผลแล้ว

เพราะเขาทำการบ่มเพาะมาเป็นเวลากว่าร้อยปีแล้ว หากรวมการโคจรพลังครั้งก่อนด้วย เขาคงจะทำมันมากกว่า 300 ครั้งไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าระบบจะไม่ทำผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดเหมือนแต่ก่อนแล้วหรือป่าว

อย่างไรก็ตาม ภารกิจที่ออกโดยระบบนั้นเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในปัจจุบันของเขา

และเขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อเข้าสู่ความสันโดษและทำการบ่มเพาะพลัง

เขาต้องการยกระดับการฝึกตนของเขาถึงระดับเก้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นเขาต้องเตรียมพร้อมและซื้อยาเพื่อให้เขาก้าวไปสู่ระดับที่เก้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณ

ในศาลาเมฆา

นี่ถือเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในตลาดเหอยางแห่งนี้ที่ขายยาและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ

ว่ากันว่าเจ้าของของสถานที่นี้คือนิกายเจียงยาง

แม้ว่าของที่ขายที่นี่จะไม่ถูกแต่ก็มีคุณภาพดีอย่างมาก ทำให้ผู้ฝึนตนหลายคนและผู้ฝึกตนอิสระชอบมาที่นี่เพื่อซื้อของต่างๆ

เมื่อเจียงเฉิงซวนมาถึง เขาก็ตระหนักว่าในปัจจุบันมีคนจำนวนมากอยู่ในศาลาเมฆาแห่งนี้

เมื่อมองดูคร่าวๆ เขาก็ตระหนักว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นผู้ฝึนตนอิสระเช่นเขา

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเจียงเฉิงซวนก็เข้าใจคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

มันควรจะเกี่ยวข้องกับซากปรักหักพังนั่น

ทุกคนคงคิดจะซื้อเครื่องมือช่วยชีวิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนจะเข้าไปสำรวจในซากปรักหักพัง

“สหายเต๋า ท่านมาที่นี่เพื่อซื้อสิ่งประดิษฐ์หรือยันต์อะไรหรือ?”

ในขณะนั้นเองก็มีผู้ฝึกตนหญิงที่ดูอ่อนหวานเธออยู่ในระดับที่ห้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณ ก็เข้ามาหาเจียงเฉิงซวนทันที

จากเสื้อผ้าที่เธอใส่ เห็นได้ชัดว่าเธอทำงานในศาลาเมฆาแห่งนี้

เจียงเฉิงซวนส่ายหัวและบอกผู้ฝึกตนหญิงคนนี้ถึงสิ่งที่เขาต้องการ

เมื่อผู้ฝึกตนหญิงได้ยินดังนั้น เธอก็พาเขาไปยังพื้นที่ขายยาทันที จากนั้นเธอก็หยิบขวดหยกออกมาแล้วยื่นให้เจียงเฉิงซวนด้วยรอยยิ้ม

“สหายเต๋า นี่คือยาชำระล้างวิญญาณที่ท่านกำลังมองหา มันสามารถช่วยผู้ฝึกฝนขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณทะลวงไปสู่ขั้นสุดท้ายได้ นี่ราคาหินวิญญาณ 100 ก้อน”

เจียงเฉิงซวนหยิบขวดหยกแล้วเปิดดู

เขาตระหนักว่าคุณภาพของเม็ดยาชำระวิญญาณนี้ไม่เลวเลย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจียงเฉิงซวนได้สะสมเงินจำนวนหนึ่ง

แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่การใช้หินวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนเพื่อซื้อยาชำระวิญญาณก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

ในไม่ช้าเจียงเฉิงซวนก็จ่ายหินวิญญาณไป

ครั้นเมื่อกลับไปถึงที่พักในถ้ำแล้ว เขาก็เริ่มปิดด่านบ่มเพาะ

การทะลวงจากระดับแปดถึงระดับเก้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณ จริงๆ แล้วเป็นกระบวนการของการสะสมและการขัดเกลาเท่านั้น

ตราบใดที่เจ้าสะสมพลังแก่นแท้ไว้ในร่างกายของเจ้าได้ เจ้าก็จะสามารถทำการทะลวงไปสู่ระดับที่เก้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณได้

สำหรับการขัดเกลามันจะทำให้แก่นแท้ของเจ้าเข้มข้นขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องใช้เวลามากในการสะสมและขัดเกลาแก่นแท้ในร่างกายของเขาจนถึงจุดที่เขาสามารถทำการทะลวงไปสู่ระดับที่เก้าของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณได้

ภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้ฝึกตนในระดับที่แปดของขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณด้วยรากจิตวิญญาณที่แท้จริงจะใช้เวลาประมาณแปดถึงสิบห้าปีในการทะลวงไปสู้ระดับที่เก้าได้

และเนื่องจากเจียงเฉิงซวนมีรากวิญญาณปลอมเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะใช้เวลานานกว่านี้อย่างมากแน่นอน

แต่โชคดีที่เจียงเฉิงซวนติดอยู่ในระดับนี้มาเป็นเวลานาน

โดยพื้นฐานแล้วมันทำให้เขาสามารถสะสมพลังของเขาได้เพียงพอแล้ว

เมื่อรวมกับยาชำระวิญญาณ เขามั่นใจว่าความก้าวหน้าของเขาจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นแน่นอน

ด้วยความรวดเร็วนั้น

เจียงเฉิงซวนได้ปรับตัวเองให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

เมื่อเขาหยิบยาชำระวิญญาณที่เขาซื้อมาออกมาดื่น ทำให้ปริมาณแก่นแท้ในร่างกายของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นในทันที

และโดยไม่ลังเลใจเลย เจียงเฉิงซวนก็โคจรเทคนิคหวนคืนต้นกำเนิดที่เขาทำการฝึนฝนอย่างรวดเร็ว และเริ่มโคจรซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ขณะเดียวกับนั้น ครึ่งเดือนต่อมาเจียงเฉิงซวนผู้ซึ่งจมอยู่ในความสันโดษจู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา

และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

ในที่สุดเขาก็บรรลุผลขอบเขตการปรับแต่งพลังปราณระดับที่ 9

ในขณะนี้ปริมาณแก่นแท้ในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนเกือบ 40%

มันทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน

เขาดูตัวเลขในหน้าจอสถานะของเขา

[ความคืบหน้าของภารกิจ: 15%]