ตอนที่แล้วบทที่ 28: ข้าถึงขั้นยักยอกเงินของจักรพรรดินี ทำไมข้าต้องกลัวเสนาบดีด้วย?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 – ต่อให้ยกเรื่องไปถึงพระราชวังทอง สิ่งที่ข้าพูดก็มิมีผิดเพี้ยน!

บทที่ 29: แกะอ้วนเป็นฝูง คงได้เวลาตัดขนแกะแล้ว!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 29: แกะอ้วนเป็นฝูง คงได้เวลาตัดขนแกะแล้ว!

การโจมตีครั้งนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างแท้จริง มันทำให้ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะที่ผิวหนังและเนื้อของเขาผลิแตกออก

ทุกคนถึงกับตื่นตะลึง

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลินเป่ยฟานจะลงมือทำจริง!

แถมเขาใส่สุดเต็มเหนี่ยวด้วย!

เขาไม่กลัวที่จะทำให้เสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือนขุ่นเคือง ไม่กลัวความตายเลยหรือ?

หลินเป่ยฟานถือไม้ไว้ในมือ เขาหันศีรษะไปหานักเรียนคนอื่นๆ และพูดว่า “และเจ้าผู้ที่ทำผิดพลาดเช่นเดียวกับเขา ก็จะถูกตีด้วยไม้โบยสี่ร้อยครั้ง! เจ้าจะเลือกเงินหรือชีวิต?”

เหล่าศิษย์ที่เหลือต่างกลัวจนน้ำตาไหลพราก

แน่นอนว่าพวกเขาเลือกชีวิต แต่ปัญหาคือพวกเขาไม่เหลือเงินกันแล้ว! เงินบางส่วนถูกมอบให้กับลูกของเจ้ากรมครัวเรือนไป!

พวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาเองก็จะต้องโดนลงโทษด้วย!

“พวกเราขอติดท่านไว้ก่อนได้หรือไม่?” พวกเขาถามออกมาอย่างน่าสงสาร

หลินเป่ยฟานโบกไม้โบยและแค่นเสียงออกมา “เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

พวกเขาดึงเหรียญเงินออกจากกระเป๋าอย่างเงียบๆ

ในท้ายที่สุด หลินเป่ยฟานก็ได้อีก 600,000 ตำลึงจากกลุ่มศิษย์พวกนี้ เขาดูพึงพอใจมาก “ฝูงแกะอ้วนหากจะให้ได้ค่ามากที่สุดต้องอย่าฆ่าในคราวเดียว ต้องถอนขนมันไปเรื่อยๆ!”

จากนั้นหลินเป่ยฟานก็บังคับใช้กฎของโรงเรียน

เขาไม่ได้ตีแรงเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังจะตายจนร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด

“อย่ากรีดร้อง! เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อข้าตีเจ้า มันก็ทำให้ข้าเจ็บปวดเช่นกัน?” หลินเป่ยฟานพูดขณะทุบตีพวกเขาด้วยหัวใจของเขาที่กำลังรู้สึกเจ็บปวด

“แล้วท่านจะตีเราทำไมเล่า?” เหล่าศิษย์ผู้เป็นลูกหลานของข้าราชการต่างรู้สึกทั้งเจ็บปวดและเสียใจ

“เพราะข้าชอบความรู้สึกปวดใจ!” หลินเป่ยฟานพูดออกมาอย่างทะเล้น

เหล่าศิษย์ของข้าราชการต่างก็คิดกับตนเองว่า: เจ้าคนผู้นี้ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจเสียนี่กระไร!

หลังจากบังคับใช้กฎของโรงเรียนแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้านเขาเลย

พวกเขาทั้งหมดนอนอยู่บนพื้นอย่างไร้ชีวิต

หลินเป่ยฟานโยนไม้โบยลงไปและพูดว่า “ข้าหวังว่าเจ้าจะจำบทเรียนนี้และปรับปรุงตัวเองด้วย! จงมาเรียนพรุ่งนี้ตรงเวลา แม้ว่าเจ้าจะนอนอยู่ก็ต้องมา! มิฉะนั้นข้าจะลงโทษพวกเจ้าอย่างรุนแรง! เข้าใจไหม?”

"เราเข้าใจแล้ว!" เหล่าศิษย์ผู้เป็นลูกของข้าราชการต่างก็ตอบอย่างอ่อนแรง

“นอกจากนี้ บอกศิษย์ผู้อื่นที่ไม่เข้าเรียนรู้ด้วย! ถ้าพวกเขาไม่มาพรุ่งนี้ ข้าจะบอกให้พวกเขารู้ว่าทำไมบุปผาถึงสีแดงได้ขนาดนี้!” หลินเป่ยฟานกล่าว

"ขอรับ!" พวกเขาตอบกลับอีกครั้ง

ในขณะนั้นเอง หลิวฮัวเย่และซุนเทียนเทาก็วิ่งเข้ามาอย่างกังวล

หลิวฮัวเย่น่าสงสารมาก เขาทั้งแก่ ผอมและอ่อนแอ พอวิ่งแบบนี้ มันก็เหมือนร่างกายของเขาแทบจะทรุดได้ทุกเมื่อ

พวกเขาที่เห็นภาพนองเลือดตรงหน้าก็แทบจะเป็นลมกันอยู่แล้ว เสียงของหลิวฮัวเย่ถึงกับสั่นสะท้าน “ท่านหลิน ท่าน…ท่านตีพวกเขาทำไม?”

หลินเป่ยฟานโค้งมือของเขาและพูดอย่างใจเย็นว่า “รายงานอาจารย์ใหญ่หลิว กลุ่มศิษย์พวกนี้รังแกผู้อื่น! ไม่เพียงแต่พวกเขามักจะมาสายและโดดเรียน แต่พวกเขายังไม่แสดงความสำนึกผิดหลังจากถูกตักเตือน ทั้งยังคิดดูถูกและทุบตีข้า ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงมาก! ดังนั้นตามกฎระเบียบของสถาบันการศึกษาจักรพรรดิ ข้าจึงลงโทษพวกเขา โปรดตรวจสอบด้วยครับอาจารย์ใหญ่!”

หลิวฮัวเย่กลัวมากจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว! เขาจะตรวจสอบเรื่องนี้ได้ยังไงกันเล่า? เขาตอนนี้อยากจะบีบคอหลินเป่ยฟานด้วยซ้ำ!

“ท่านหลิน ท่านรู้สถานะของพวกเขาหรือไม่?”

"แน่นอนว่าข้ารู้!”

หลินเป่ยฟานกล่าวอย่างใจเย็นว่า “คนผู้นี้มีชื่อว่าเกาเทียนหยู บุตรชายของเสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือน เกาเทียนเย่า! ส่วนคนผู้นี้คือลูกของรองเจ้ากรมครัวเรือน...”หลินเป่ยฟานแนะนำพวกเขาทีละคน

พอจบแล้ว เขาก็พูดอย่างชอบธรรมว่า “ในฐานะที่เป็นลูกชายของข้าราชการราชสำนัก พวกเขาควรมุ่งเน้นไปที่การเรียนอย่างหนักและรับใช้ราชสำนัก แต่พวกเขากลับฝ่าฝืนกฎ เพิกเฉยและทำลายกฎระเบียบของสถาบันการศึกษาจักรพรรดิ ข้าจึงต้องลงโทษพวกเขาอย่างเคร่งครัด! ทว่าข้าจะปล่อยพวกเขาไปในครั้งนี้ เนื่องจากพวกเขาเป็นศิษย์ของข้า และข้าก็จะไม่ขับไล่พวกเขาออกจากสถาบันจักรพรรดิด้วย”

“ท่านหลิน ท่านสับสนและเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิงเลย…” หลิวกล่าวอย่างเป็นห่วง หลินเป่ยฟานจึงถามว่า “พวกเขาทำผิดและข้าลงโทษพวกเขาตามกฎระเบียบของสถาบันจักรพรรดิ มันมีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?”

“ไม่มี…” หลิวฮัวเย่ตอบ หลินเป่ยฟานถามอีกครั้งว่า “ในฐานะผู้อำนวยการของสถาบันการศึกษาจักรพรรดิ ข้าต้องรับผิดชอบต่อความประพฤติระเบียบวินัยและผลการเรียนของเหล่าศิษย์ทั้งหลาย มันผิดกฎของสถาบันจักรพรรดิที่จะลงโทษพวกเขาในความผิดของพวกเขาด้วยหรือ?”

“ไม่ …” หลิวฮัวเย่ตอบอีกครั้ง

“ในเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วท่านจะโทษข้าทำไม?” หลินเป่ยฟานถามอย่างมั่นใจ

“แค่กๆ ข้าไม่เถียงท่านแล้ว ข้าแค่จะบอกว่าสิ่งต่างๆ ที่ทำไปแม้นจะดูถูกต้อง แต่ใช่ว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป ท่านน่ะยังเด็กเกินไป!”

หลิวจากไปพร้อมกับโบกแขนเสื้อของเขา “ข้าจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว ท่านรับผิดชอบทุกอย่างและอย่าดึงข้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ล่ะกัน!”

“ไม่ต้องห่วงท่านอาจารย์ใหญ่!” หลินเป่ยฟานกล่าวเสียงดัง

เมื่อมองไปที่ร่างที่จากไป เขาก็ดูหมิ่นอีกฝ่ายภายในใจ “ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งขี้ขลาดมากขึ้นเท่านั้น!” ในท้ายที่สุด เหล่านายน้อยพวกนี้ก็ถูกแบกไปโดยลูกน้องของพวกเขา

หลินเป่ยฟานยังคงทำงานต่อไป ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและหลังเลิกงาน เขาก็กลับเรือนไปอย่างมีความสุข

ในมื้อค่ำ หลี่ซือซือถามด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้เป็นวันแรกในการทำงานของท่าน เป็นเช่นไรบ้างหรือ? บอกข้าทีได้ไหม?”

"ได้อยู่แล้ว!" หลินเป่ยฟานแตะตำลึงในหน้าอกของเขาและพูดอย่างมีความสุขว่า “เพื่อนร่วมงานของข้าที่สถาบันจักรพรรดิเป็นคนดีมาก เหล่าศิษย์ทั้งหลายเองก็กระตือรือร้นพอสมควร ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับข้ามาก เหมาะเป็นอย่างยิ่งเลย!”

"ถ้างั้นก็ดีแล้ว เช่นนี้ซือซือวางใจได้เสียที" หลี่ยิ้มเล็กน้อย หลังจากกินสองคำแล้ว นางก็วางตะเกียบลงด้วยความไม่สบายใจและมองไปทางหลินเป่ยฟาน

นางลังเลและถามว่า “ที่จริงข้ามีเรื่องไม่สบายใจบางอย่างอยากจะบอกท่านมาโดยตลอด แต่ถ้าข้าไม่พูด ข้าก็จะรู้สึกผิด ดังนั้นข้าจึง…”

"เรื่องะไรหรือ? อย่าเก็บไว้ในใจของเจ้าเลย หากเก็บมันไว้ เจ้าอาจจะรู้สึกปวดใจก็ได้นะ!” หลินเป่ยฟานถามขณะรับประทานอาหารลงไป

"เจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้น...!" ในที่สุดหลี่ก็รวบรวมความกล้าและกำลังพูดมันออกมา

 

 

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด