นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 51
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 51
เจคเลียริมฝีปากมองดูราอนเดินเข้าสู่ลานต่อสู้
'ในที่สุด!'
ช่วงเวลาที่น่าเบื่อได้สิ้นสุดลงแล้วและช่วงที่สำคัญที่สุดของวันก็มาถึง
วือ!
เขาหมุนวงเวทย์รอบหัวใจของเขา แบบที่ไม่มีทางที่ริมเมอร์จะสังเกตเห็น
'ฉันต้องซ่อนเวทมนตร์พวกนั้นเอาไว้'’
เขาจำเป็นต้องใช้เวทมนตร์ทับซ้อนหลายอย่างเพื่อจะทำให้ออร์คหลุดไปทำร้ายราอน
"คุณนักเวท”
ในขณะที่เขาคิดถึงคาถาหลายอย่างในหัวของเขา ริมเมอร์ก็เดินเข้ามาใกล้เขา
"เขาเป็นเด็กที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่ เอาออร์คที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณออกมาได้เลย”
"ได้ครับ"
เจคพยักหน้า
'โล่งอกไป ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สังเกตเห็น’
เพราะริมเมอร์ขอให้เอาออร์คที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา เขาจึงใช้เวทมนตร์ที่เตรียมไว้ได้ง่ายขึ้น เขากลั้นเสียงหัวเราะด้วยความยากลำบากแล้วเขาก็เริ่มร่ายเวทย์
"อัญเชิญ”
เจคยกมือขึ้นเพื่อเรียกออร์คจากเทือกเขาดอลแลนที่ได้มาจากคารุน
ครืน!
พื้นสนามสั่นไหว มันเป็นออร์คที่ตัวใหญ่ที่สุดในการฝึกซ้อมครั้งนี้
ฟันเขี้ยวแหลมคมที่ยื่นขึ้นไปจนถึงหู กล้ามเนื้อที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง และสายตาของมันก็ดุร้ายพอที่จะกินคนทั้งเป็นได้
"กรรร!”
เด็กฝึกหัดได้ยินเสียงคำรามอันน่าเกรงขามของออร์ค
"โอ้! ออร์คตัวนี้ดูแข็งแกร่งมาก”
ริมเมอร์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
"แล้วผมจะก็เสริมสร้างมันด้วยเวทมนตร์”
"อ้า โอเค"
"ความแข็งแกร่ง ความทนทาน”
ขณะที่ใช้เวทมนตร์เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางกายภาพของมัน เขายังแอบใช้เวทมนตร์เพื่อเพิ่มความคลั่งของมันเข้าไป
เวทย์บ้าคลั่ง เป็นเวทย์ที่สามารถเพิ่มความสามารถทางกายภาพได้ถึง 1.5 เท่าจากปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น ออร์คจากเทือกเขาดอลแลนก็ไม่ได้เป็นระดับที่เด็กฝึกหัดจะสามารถต่อสู้ด้วยได้
ด้วยความดุร้ายของมัน อย่างน้อยราอนก็คงแขนขาขาดไปซักข้างก่อนที่จะมีคนเข้าไปช่วยได้ทัน
เจคทำให้ออร์คดูเหมือนมนุษย์เสร็จแล้วก็พยักหน้า
"เตรียมตัวให้พร้อมก่อนล่ะ”
ราอนพยักหน้าและเริ่มที่จะยืดหยุ่นร่างกาย เจคเปิดใช้เวทมนตร์บ้าคลั่งที่เขาแอบร่ายมันไว้แล้ว
"กรรร!”
เมื่อใช้เวทย์นั่นแล้ว กล้ามเนื้อของออร์คก็พองตัวขึ้นมาแล้ววงเวทย์ที่กักขังมันก็แตกออก
"กรรร!”
ออร์คกระโจนใส่ราอนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดตามสัญชาตญาณ
ตึงๆๆๆ!
ออร์ควิ่งเข้าใส่ราอน มันกระหายเลือดเนื้ออย่างมากและเป้าหมายของมันก็คือราอน
'ทำได้แล้ว!’
ราอนยังไม่ได้เอาดาบออกจากฝักด้วยซ้ำ และด้วยความบ้าคลั่งของออร์ค ราอนจะต้องเสียแขนไปอย่างแน่นอน
เจคเบิกบานใจตอนที่ได้เห็นออร์คพุ่งเข้าหาราอน
ฉึบ!
ดาบที่เรืองแสงสีทองตัดผ่านพื้นที่ที่มืดสลัว
"กรร...."
ร่างของออร์คหยุดนิ่ง และหัวของมันก็ตกลงไปบนพื้น
"อ-อะไร!"
เกิดอะไรขึ้น?!
นี่มันออร์คจากเทือกเขาดอลแลนที่ถูกร่ายเวทย์บ้าคลั่งเชียวนะ
ราอนตัดคอของมันลงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่มีความลังเล,ความกลัวหรือความไร้เดียงสาในการโจมตีของเขาเลย มันเป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบราวกับว่าเขาเป็นนักดาบชั้นสูง
แม้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น แต่เขาเองก็ยังคิดว่ามันเป็นภาพสวยงาม
เมื่อร่างของออร์คล้มลง เขาได้สบกับสายตาของราอน หัวใจของเขาหยุดเต้นเมื่อได้พบกับดวงตาสีแดงอันแผดเผาของราอน
“อั่ก!”
เขาทรุดลงและกุมคอตัวเอง เขาหายใจไม่ออกเพราะแรงกดดันของเด็กฝึกหัด... รู้สึกเหมือนกับว่าปอดของเขาหายไป
'ป-ปีศาจ'
เขาพยายามที่จะหนีแม้ว่าจะยังคุกเข่าอยู่บนพื้น เขากำลังจะฉี่ราดกางเกงของเขาอยู่แล้ว แต่ในที่สุดแรงกดดันที่น่ากลัวก็หยุดลง
"เฮือก..."
ถึงแม้รังสีอำมหิตจะหยุดลงแล้วแต่ความน่ากลัวก็ยังคงอยู่ เจคตัวสั่นเทา ริมเมอร์เดินเข้ามาข้างๆเขา
"คุณนักเวทดูเหนื่อยมากๆแล้ว คุณคงจะใช้พลังเวทย์ในการอัญเชิญออร์คออกมาเยอะเกินไป”
ริมเมอร์ยิ้มและพยุงเขาขึ้น
"ยังเหลือเด็กอีกคนหนึ่งและเธอดูมีความมุ่งมั่นมาก ดังนั้นช่วยอัญเชิญอีกครั้งหนึ่งนะครับ”
นิ้วของริมเมอร์ชี้ไปที่รูนันที่ยืนอยู่ในสนามต่อสู้
"ผ-ผมเข้าใจแล้ว”
เจคพยักหน้าในขณะที่ตัวสั่น เขายอมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นถ้ามันหมายความว่าเขาไม่ต้องเจอกับสายตาของราอนซีกฮาร์ทอีก
เขาสูดลมหายใจ เตรียมตัวสำหรับการอัญเชิญครั้งสุดท้าย
* * *
* * *
"รูนัน เธอเป็นอะไรไหม? คิดว่าทำได้หรือเปล่า?”
"ค่ะ"
รูนันพยักหน้าตอบคำถามของริมเมอร์ และเข้าสู่สนามต่อสู้
พื้นดินเปียกโชกไปด้วยเลือดแต่เธอไม่ได้ตัวสั่นอีกต่อไป ดวงตาสีม่วงของเธอมองตรงไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด
"เตรียมตัวให้พร้อมนะ”
"ข-เข้าใจแล้วค่ะ”
เจคยกมือสั่นๆขึ้นและอัญเชิญออร์คออกมา แม้ว่าเขาจะยังตกอยู่ในอาการหวาดกลัวแต่เขาก็สามารถร่ายคาถาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
"ง-งั้นเริ่มได้เลย”
หลังจากใช้เวทย์ภาพหลอนเพื่อให้ออร์คมีลักษณะเหมือนมนุษย์เรียบร้อยแล้ว เขาก็เอาวงเวทย์ที่กักขังออร์คออกไป
"กรรร!”
เมื่อออร์คเริ่มวิ่งเข้าหาเธอ รูนันก็เอาดาบของเธอออกจากฝัก
ครืน!
พร้อมกับแรงกดดันสีฟ้าบางๆ และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยหมอกควันสีเงิน
"กรรร!”
น้ำแข็งแผ่กระจายไปทั่วสนามแต่ก็ไม่สามารถหยุดออร์คได้ ส่วนหนึ่งของมันปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งแต่ก็ยังเล็งการโจมตีมาที่เธอ
“โฮฮฮฮ”
รูนันอึ้งเล็กน้อยและเริ่มใช้จังหวะเท้าของเธอ เธอเคลื่อนไหวไปซ้ายและขวาเพื่อหลบขวานของออร์ค
ออร์คไม่ยอมล้มลงแม้ว่าจะโดนแช่แข็ง มันก็ยังเหวี่ยงขวานของมันต่อไป มันมุ่งมั่นที่จะฆ่าเธอเพียงอย่างเดียว
“อึ่ก”
รูนันยังคงหลบขวานต่อไป เธอยังไม่สามารถหาจังหวะโจมตีมันได้ น้ำแข็งที่เธอปล่อยออกไปอย่างต่อเนื่องแช่แข็งออร์คได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
“อืม...”
ราอนเดาะลิ้น มองดูรูนันที่กำลังใช้พลังน้ำแข็งค่อยๆแช่แข็งมันและวิ่งหนีไปด้วย
'เธอยังไม่หายกลัวสินะ?’
รูนันยังไม่ได้ตวัดดาบของเธอแม้แต่ครั้งเดียว เธอแค่แช่แข็งออร์คและวิ่งหนีไปเรื่อยๆ
'เธอมีจิตใจที่ดีเกินไป’
การที่ไซเรียล้างสมองเธอจึงเป็นเรื่องง่าย
เพราะเธอเป็นคนใจดี
เพราะเธอได้เจอกับการตายตั้งแต่อายุยังน้อย เธอจึงกลัวเลือดมาก
เธอแตกต่างกับราอนในชีวิตก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง เขาเคยฆ่าทุกคนตามคำสั่งเพื่อที่ตัวเองจะได้อยู่รอด
การแสดงออกที่เย็นชาของเธอทำให้รูนันถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนหยิ่งยโส แต่นิสัยจริงๆของเธอเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามไปเลย
'การต่อสู้ของเธอบ่งบอกมันทั้งหมดแล้ว’
การกวัดแกว่งดาบของเธอในระหว่างการประลองและการที่เธอใช้น้ำแข็งแช่แข็งศัตรู หมายความว่าเธอไม่ต้องการให้ใครได้รับบาดเจ็บ
รูนันเป็นคนที่อ่อนโยนและใจดีที่สุดแล้วในสนามฝึกหัดที่ห้า และไซเรียได้ใช้งานเด็กที่ใจดีคนนี้โดยการผูกมัดหัวใจของเธอเอาไว้
'รูนัน'
เหตุผลที่รูนันเข้ามาหาเขาในครั้งแรกอาจจะไม่ได้เข้ามาเพื่อยั่วโมโหหรือเลียนแบบการฝึกของเขา แต่เป็นเพราะเธอรู้สึกสงสารที่เขาอยู่คนเดียว
"รูนัน!”
"ตัดคอมันเลย!”
"รูนันสู้ๆ!”
ผู้ฝึกสอนและเด็กฝึกหัดตะโกนชื่อของรูนัน แต่เธอก็วิ่งไปเรื่อยๆเพื่อหลบการโจมตีของออร์ค
“อึก…”
การเคลื่อนไหวของรูนันเริ่มช้าลง อาจเป็นเพราะเธอใช้ออร่ามากเกินไป ออร์คยังคงแกว่งขวานของมันแม้ร่างกายส่วนใหญ่ของมันจะถูกแช่แข็งไปแล้ว
“เฮ้อ”
ราอนเลียริมฝีปากของเขาและลุกขึ้นยืน เธอไม่ควรแช่แข็งออร์คจนกว่าจะตายแบบนั้น เธอต้องฆ่ามัน เธอจะได้หลุดการล้างสมองของไซเรียเสียที
"รูนัน!”
รูนันหันหน้ากลับมามองเป็นครั้งแรก
"มันจะไม่เป็นไร"
ราอนยิ้มและบอกเธอว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไร จากนั้นสายตาของรูนันที่สั่นกลัวก็หยุดลง ดวงตาสีม่วงเรืองแสงสีเงินเข้มเกมือนกับทุ่งหิมะ
ความมืดมิดในดวงตาของเธอหายไป
"โอกกก!”
เมื่อนั้นที่ออร์คเหวี่ยงขวานของมันลงมา รูนันก็ขยับหลบ แล้ววิถีของดาบสีเงินก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ
ฉึก!
ดาบที่ส่องประกายสีเงินตัดขวานให้หักครึ่งแล้วทะลุเข้าไปในอกของออร์ค
"อาา..."
ดวงตาของออร์คที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งหายไป
พรูดด
เลือดพุ่งออกมาจากหัวใจของออร์คซึ่งยังไม่ถูกแช่แข็ง แม้ว่ามือของรูนันจะเปียกโชกไปด้วยเลือดของออร์ค แต่เธอยังคงสงบ
เธอหันไปมองราอน เธอพยักหน้าถามเขาว่าเธอทำได้ดีหรือยัง แล้วเขาก็พยักหน้ากลับมา
เธอหลุดมาจากมันได้แล้ว
'แน่นอนสิ’
ราอนหัวเราะ ไม่มีความกลัวในการแสดงออกของรูนันอีกต่อไป
เธอกำลังแสดงรอยยิ้มที่สดใสออกมา
อาจจะต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการลบสิ่งที่ไซเรียทำกับเธอไว้ให้หมด แต่การล้างสมองของเขาไม่ส่งผลต่อรูนันอีกต่อไปแล้ว
'ฉันเข้าใจเรื่องแบบนี้ดี’
เพราะในชีวิตที่แล้ว เวลาชีวิตส่วนใหญ่ของเขาถูกล้างสมองโดยเดรุส เขาเข้าใจเธอดี
"ว้าว..."
"น-นั่นอะไรน่ะ?”
"นี่ราอนคุยอะไรกับเธอ เธอถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้?”
"น-น่ากลัว”
ทุกคนอ้าปากค้างกับการต่อสู้ของรูนัน การแช่แข็งออร์คและโจมตีเพียงครั้งเดียว และความจริงที่ว่าราอนเป็นคนทำให้เธอทำแบบนั้นได้
แม้แต่เบอร์เรนกับมาร์ธาก็มองไปที่ราอนอย่างประหลาดใจ
"น-นายบอกเธอว่าอะไรเหรอ?”
ดอเรียนเข้ามาหาเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
"ไม่มีอะไรเลย”
ราอนยิ้มและส่ายหัว
"เธอทำมันด้วยตัวเอง”
เขาตอบตามจริง แล้วราอนก็มองขึ้นไปบนเวที เจคสบสายตากับเขาแล้วอ้าปากค้างและก้าวถอยหลัง
'งั้นทีนี้ก็...’
ถึงเวลาที่จะฝังความกลัวไว้ในชายคนนั้นแล้ว เขาจะได้ไม่กล้ามายุ่งกับเขาอีก
ขณะที่เขากำลังจะส่งแรงกดดันขึ้นไปยังเวที ริมเมอร์ก็เข้ามายืนบัง
"คุณดูไม่ดีเลย รีบจบการฝึกนี้เถอะ"
ริมเมอร์ยิ้มและพยุงเจคขึ้น
“เฮอะ”
ราอนต้องหยุดแรงกดดันของเขาเพราะริมเมอร์
'แต่ฉันยังไม่ได้...’
เขายังไม่ได้ฝังความกลัวใส่เจค แต่อย่างน้อยเจคคงจะไม่กล้าเจอหน้าเขาอีกครั้งหรือคงไม่ทำอะไรโง่ๆอีกแล้ว แต่ราอนอยากจะเห็นเจคฉี่ราดกางเกงจริงๆ
"ทำได้ดีมากทุกคน"
ริมเมอร์ยิ้มในขณะที่เขาพยุงเจคเอาไว้
"มันเป็นการฝึกที่ยากมาก แต่ทุกคนก็ทำได้ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลย”
เขายกนิ้วโป้งให้ทุกคน
"ประสบการณ์ในวันนี้จะช่วยพวกเธออย่างมากในการต่อสู้ของจริง ดังนั้นเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นก็อย่าลังเล ความลังเลจะทำให้เกิดการสูญเสีย เข้าใจใช่มั้ย?”
"ครับ/ค่ะ!”
เด็กฝึกหัดตอบเสียงดังชัดเจน
"เสียงดังชัดดีนี่ ดูเหมือนพวกเธอจะพร้อมสำหรับภารกิจแล้วนะ”
"โอ้!”
"ภ-ภารกิจ?”
"จริงมั้ยเนี่ย?”
เด็กๆดูตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่าภารกิจ
"ใช่แล้ว พวกเราเริ่มเตรียมไว้บ้างแล้วล่ะ ในเมื่อการฝึกวันนี้ก็จบลงแล้วก็ขอเสียงปรบมือให้กับนักเวทเจคที่ทำงานอย่างหนักในวันนี้ด้วย!”
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”
หลังจากสิ้นเสียงปรบมือของเด็กฝึกหัด ริมเมอร์ก็ออกจากสนามฝึกซ้อมไปพร้อมกับเจค
***
“อึก…”
เจคออกจากสนามฝึกที่ห้าด้วยการพยุงของริมเมอร์ เขาอยากเดินด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เขาไม่มีแรงแล้วเมื่อได้เจอกับรังดีอำมหิตของราอน
"คุณคงจะทำงานหนักเกินไปแล้ว”
ริมเมอร์พยุงเขาเดินต่อไปเหมือนไม่รู้อะไรเลย และพาเขาไปทางหอคอยเวทมนตร์
“เฮ้อ...”
เขาเริ่มเรียกสติตัวเองกลับมาได้นิดหน่อยหลังจากที่ได้สูดเอาอากาศหายใจจากลมเย็นๆเข้าไป
"ผ-ผมไม่เป็นไรแล้วครับ เดี๋ยวผมเดินเอง"
ตอนนี้พวกเขาหยุดอยู่ที่ด้านข้างสนามฝึกที่สาม เขาต้องไปที่ศูนย์บัญชาการกองทัพก่อนเพื่อรายงานการล้มเหลวของแผนการ
"โอ้ะ! เข้าใจแล้ว”
ริมเมอร์พยักหน้าแล้ววางเขาลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ
"ขอบคุณที่ช่วยนะครับ”
เจคโค้งหัวให้ริมเมอร์ขณะที่นั่ง และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
ลมแรงพัดเข้ามาราวกับพายุจนเขารู้สึกหนาบเหน็บไปถึงข้างใน แต่แค่พักเดียว แล้วมันก็ได้หายไป
เหลือเพียงรังสีอำมหิตอันน่ากลัวที่ทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว ออกมาจากคนที่อยู่ด้านหน้าของเขา
เขาไม่กล้าขยับตัว แต่เพราะแรงกดดันแปลกๆทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง
เป็นเขานั่นแหละ....
นักดาบที่เคยพูดว่าจะอยู่เคียงข้างเกล็นซีกฮาร์ท ผู้เป็นดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท มองลงมาที่เขาด้วยดวงตาสีเหลืองเข้ม
"อะ- อั่ก...."
แล้วคอของเขาก็ถูกบีบแน่น จมูกของเขาเริ่มมีเลือดออก เขาขยับร่างกายไม่ได้เลย
'ฉ-ฉันได้ยินว่าเขาสู้ไม่ได้แล้ว...'
เขาได้ยินมาว่าดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ทต้องเลิกเป็นนักดาบพราะศูนย์พลังงานของเขาแตกไปแล้ว แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นเลย เขาอาจจะอ่อนแอกว่าเดิมแต่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่แข็งแกร่ง
"ออกไปจากที่นี่ซะ”
เสียงเย็นชาของริมเมอร์
"จะลูกชายของเกล็นหรือใครก็ตาม ไปบอกเขาว่าอย่ามาแตะต้องลูกศิษย์ของฉัน ไม่งั้นฉันจะตัดคอแก"
ริมเมอร์ปล่อยคอเขา แม้จะไม่ได้ใช้แรงกดดันแต่เหงื่อของเจคก็ไหลออกมาเต็มหน้าและผิวหนังที่แตกออก ริมเมอร์สามารถฆ่าหั่นศพเขาในตอนนี้ได้เลย
"แค่กๆ”
ชายคนนี้รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว แม้จะรู้ทุกอย่างแต่เขาก็แค่มองดูว่าเจคจะทำอะไร
"อึก..."
เจครู้สึกเหมือนหัวใจของเขาหยุดเต้น ความกลัวทำให้ร่างกายเขาถูกแช่แข็ง
ตูม!
ลมสีเขียวเข้มระเบิดออกมาจากพื้นดินตรงที่ริมเมอร์กำลังยืนอยู่
“อ๊าก!”
เจคหลับตาแน่นนึกว่าริมเมอร์จะโจมตีเขาอีก แต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงไหนเลย
เขาจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นริมเมอร์อยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่รังสีอำมหิตที่เขาปล่อยไว้ยังเหลืออยู่ในอากาศเล็กน้อย
“อะ...อะ.. อาจารย์กับลูกศิษย์เป็นเหมือนกัน....พวกเขาเป็นปีศาจเหมือนกัน.....”
เจคทรุดตัวลงกับพื้น น้ำมูกน้ำตาไหลออกมาจากทั้งตาจมูกปากของเขา ตัวของสั่นเหมือนกับคนบ้า
"อ้าากกก!”
ถึงราอนจะไม่รู้ แต่ริมเมอร์ได้สลักความกลัวลงไปในใจของเจคให้แทนแล้ว