ตอนที่ 528 ศัตรูของมวลชน
ตอนที่ 528 ศัตรูของมวลชน
“เซี่ยเฟย นายสังเกตเห็นไหม? คนพวกนั้นจะต้องมีแผนการร้ายอะไรบางอย่างกับนายแน่ ๆ” อันธกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างรับรู้แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนพวกนั้นถึงได้จ้องมองเขามาอย่างมุ่งร้าย เพราะเขาไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยใบหน้าของคนพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
กลุ่มคนที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาอันมุ่งร้ายเป็นกลุ่มคนประมาณ 7-8 คนที่มีอายุห่างจากเขาไม่มากนัก แต่เซี่ยเฟยคาดการณ์ว่าคนพวกนี้น่าจะได้รับโอกาสเข้าแอ่งน้ำเป็นครั้งที่ 2 หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่มีระดับพลังเหนือกว่าค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 2 ระดับ
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะท้ายที่สุดแอ่งน้ำก็เป็นพื้นที่ปิด แล้วมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีถ้าหากว่าเขาต้องถูกล้อมรอบด้วยนักสู้ที่มีระดับสูงกว่าเขา และถึงแม้ว่าเขาจะสามารถหนีเอาชีวิตรอดจากคนกลุ่มนี้ได้ แต่มันย่อมส่งผลกระทบต่อการหาวิชาการต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นานหยูลู่ซวนก็เดินเข้ามาในลานกว้าง ซึ่งหลังจากที่เขาชำเลืองมองทุกคนแล้วเขาก็เริ่มวาดมือออกเป็นวงกลมสร้างเส้นวงกลมขึ้นมาบนพื้นดิน
“อีก 15 นาทีฉันจะเปิดแอ่งน้ำแล้ว แต่เนื่องจากว่าคนส่วนใหญ่เดินทางเข้าไปในแอ่งน้ำเป็นครั้งแรก ดังนั้นฉันจะขอพูดย้ำเรื่องกฎอีกครั้ง”
ทันใดนั้นมันก็ได้มีลูกบอลแสงสีแดงปรากฏขึ้นในมือของหยูลู่ซวน
“เมื่อทุกคนเข้าไปในแอ่งน้ำ พวกนายก็จะได้พบกับลูกบอลแสงแบบนี้อย่างมากมาย ซึ่งในลูกบอลแสงแต่ละลูกก็จะบรรจุวิชาการต่อสู้เอาไว้”
ทันใดนั้นลูกบอลแสงก็แตกออกเผยให้เห็นแผ่นโลหะสีดำที่ถูกซ่อนอยู่ด้านใน
“นี่คือแผ่นป้ายที่บรรจุวิชาการต่อสู้เอาไว้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราส่งกระแสจิตเข้าไปเราก็จะสามารถเรียนรู้วิชาการต่อสู้ที่ถูกบันทึกเอาไว้ด้านในได้”
หยูลู่ซวนเริ่มสะบัดข้อมืออีกครั้งเผยให้เห็นลูกบอลแสง 4 ลูกที่มีสีสันแตกต่างกัน ตั้งแต่สีแดง, สีม่วง, สีขาวและสีเหลือง
“ลูกบอลแสงในแอ่งน้ำแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ตั้งแต่ระดับที่ 1 คือสีแดง, ระดับที่ 2 คือสีม่วง, ระดับที่ 3 คือสีขาวและระดับที่ 4 คือสีเหลือง”
“ระบบภายในแอ่งน้ำจะประเมินคุณสมบัติโดยรวมของผู้เข้าร่วมการประเมินในรอบนั้น ๆ เอง ซึ่งถ้าหากว่าผู้เข้าร่วมการประเมินมีคุณสมบัติที่เพียงพอ ระบบก็จะสุ่มเกิดลูกบอลแสงสีขาวและสีเหลืองขึ้นมาให้ แต่ใครจะได้รับลูกบอลแสงพวกนั้นไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของทุกคนแล้ว”
“กฎเพียงข้อเดียวของแอ่งน้ำคือไม่มีกฎ ดังนั้นทุกคนสามารถใช้วิธีการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการปล้นชิงหรือการฉกฉวยก็ไม่ถือว่ามีความผิดใด ๆ ทั้งนั้น ส่วนความตายก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะต้องมานั่งรับผิดชอบให้เหมือนกัน เพราะในฐานะของนักสู้ ทุกคนย่อมรู้ดีว่าความตายมีอยู่ทุกที่แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนจะมีโอกาสสัมผัสความตายตั้งแต่เนิ่น ๆ”
หลังจากกล่าวคำแนะนำสั้น ๆ หยูลู่ซวนก็ให้นักสู้รุ่นใหม่กว่า 200 คนเดินเข้าไปในวงกลมที่เขาวาดเอาไว้บนพื้น
“เอาล่ะได้เวลาเข้าไปในแอ่งน้ำแล้ว จำเอาไว้ว่าหลังจากที่ทุกคนเข้าไปจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกมาภายใน 72 ชั่วโมง ขอให้ทุกคนโชคดีกับการผจญภัยในครั้งนี้”
ทันทีที่หยูลู่ซวนพูดจบนักสู้รอบ ๆ ตัวเซี่ยเฟยก็ค่อย ๆ หายตัวไปทีละคน ก่อนที่เซี่ยเฟยจะเริ่มสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าใต้เท้าเช่นเดียวกัน จากนั้นเขาก็ถูกวาร์ปไปยังแอ่งน้ำในพริบตา
เมื่อชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเขาก็ได้พบกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสว่างไสว พื้นดินใต้เท้าของเขาเป็นพื้นดินสีดำที่แห้งแล้ง และมันก็มีภูเขาและหินรูปร่างแปลก ๆ อยู่ล้อมรอบ
“นี่น่ะเหรอที่ที่เรียกว่าแอ่งน้ำ ทำไมมันถึงไม่มีน้ำเลยสักหยด?”
พื้นที่บริเวณรอบไม่มีใครอาศัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ชายหนุ่มจึงสันนิษฐานว่าทุกคนคงจะถูกกระจายตัวกันออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในระหว่างที่พวกเขาถูกวาร์ปมาที่นี่
เซี่ยเฟยรีบเคลื่อนที่ไปยังยอดเขาในทันทีเพื่อที่เขาจะได้มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้จากระยะไกล
ทันใดนั้นเขาก็ได้พบกับลูกบอลแสงสีแดงที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝน และในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีทั่วทั้งพื้นที่ก็ถูกห้อมล้อมด้วยลูกบอลสีแดงพวกนั้น
ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงเรียกว่าแอ่งน้ำ เพราะว่ามันคือสถานที่ที่เอาไว้รองรับลูกบอลแสงพวกนั้นนี่เอง
เซี่ยเฟยรีบเคลื่อนที่ลงมาจากเนินเขาและหยิบลูกบอลแสงสีแดงลูกหนึ่งขึ้นมาจากพื้น ต่อมาเขาก็ใช้กฎมิติที่มือซ้ายเพื่อตบทำลายลูกบอลแสงสีแดงภายในมือของเขา
พลังของกฎแห่งมิติทุบทำลายลูกบอลลูกนี้ลงได้อย่างง่ายดาย เผยให้เห็นแผ่นโลหะสีดำที่ซ่อนอยู่ด้านใน
“วิชาต่อสู้ด้วยมิติเบื้องต้น: ตัดขวาง” เซี่ยเฟยอ่านชื่อวิชาหลังจากที่เขาได้ส่งกระแสจิตเข้าไปตรวจสอบแผ่นป้ายโลหะสีดำ
“ตัดขวาง? มันน่าจะเป็นวิชาที่พอใช้ได้เลยนะเนี่ย” อันธกล่าวอย่างตื่นเต้น แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบเซี่ยเฟยก็ได้โยนแผ่นป้ายโลหะนั้นทิ้งไปโดยไม่สนใจมันอีกเลย
“นั่นนายกำลังทำอะไร?” อันธถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเซี่ยเฟยโยนวิชาต่อสู้ทิ้งไปโดยไม่คิดจะลองใช้วิชาการต่อสู้นั้นด้วยซ้ำ
“นายลองดูดี ๆ มันมีลูกบอลแสงสีแดงอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งมันก็หมายความว่าวิชาต่อสู้เบื้องต้นเป็นวิชาดาด ๆ ที่สามารถหาพบได้ทั่วไป หยูลู่ซวนก็ได้บอกตั้งแต่พวกเราได้เข้ามาแล้วว่ามันมีโอกาสสุ่มเกิดวิชาต่อสู้ระดับสูงกว่านี้ แล้วมันก็ยังมีเวลาอีกตั้งสามวัน ดังนั้นพวกเราจึงไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อน”
“นั่นสินะ ถึงยังไงนายก็เป็นผู้ใช้พลังสายความเร็ว นายย่อมมีความได้เปรียบมากกว่าคนอื่น ๆ ในการแย่งชิงลูกบอลแสงที่ตกลงมาจากท้องฟ้าอยู่แล้ว” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
—
หลังจากที่หยูลู่ซวนได้ส่งนักรบกลุ่มใหม่ไปยังแอ่งน้ำ มันก็มีหน้าจอแสงปรากฏขึ้นที่กลางลานแสดงให้เห็นภาพที่กำลังเกิดขึ้นด้านในแอ่งน้ำเหมือนกับหน้าจอถ่ายทอดสด
ต่อมาเหล่าบรรดาครูฝึกและนักรบอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เข้าไปในแอ่งน้ำก็ได้หันไปมองเส้นแสงสี ๆ ที่ปรากฏอยู่ตรงบริเวณมุมของหน้าจอ
“มีวิชาระดับ 2 เกิดขึ้นมา 15 ชุดกับวิชาระดับ 3 เกิดขึ้นมาอีก 2 ชุดงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่านักสู้กลุ่มนี้จะค่อนข้างมีศักยภาพที่ดีเลยทีเดียว” ครูฝึกคนหนึ่งกล่าว
“ดูนั่น! มันมีวิชาระดับ 4 สุ่มเกิดขึ้นมาด้วย” เสียงหนึ่งอุทานดังขึ้นมาจากกลางฝูงชนเมื่อเขาสังเกตเห็นเส้นแสงสีเหลือง
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก เพราะการที่มันได้มีวิชาระดับ 4 สุ่มเกิดขึ้นมา มันก็หมายความว่าหนึ่งในนักสู้ทั้ง 200 คนจะต้องมีนักสู้ที่มีศักยภาพที่ไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะไม่มีวิชาระดับ 4 สุ่มเกิดขึ้นมาแบบนี้
“ใครจะเป็นคนได้มันไปนะ?” อาจารย์คนหนึ่งลูบเคราอย่างใช้ความคิด
“ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร แต่มันก็ทำให้การแข่งขันครั้งนี้น่าสนใจมากกว่าเดิมใช่ไหมล่ะ” หยูลู่ซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หลบไป ๆ ฉันขอดูหน่อย” หยูชิชิผลักคนที่ขวางทางออกไปอย่างโหดเหี้ยม เพื่อที่เธอจะได้เห็นภาพด้านในแอ่งน้ำอย่างถนัดตา
“คุณหนูเจ็ดทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หยูลู่ซวนกล่าวถาม
“ทำไม? ฉันมาไม่ได้รึไง?” หยูชิชิถามกลับอย่างยอกย้อน
การมาของเธอต่างก็ทำให้ทุกคนรู้สึกปวดหัว แต่มันก็ไม่มีใครในตระกูลหยูกล้าที่จะยั่วยุปีศาจน้อยตัวนี้ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะปรากฏตัวขึ้นที่ไหนคนบริเวณโดยรอบก็จะรีบหนีห่างออกจากเธอไปในทันที
“เอ๊ะ! มันมีวิชาระดับ 4 สุ่มเกิดขึ้นมาด้วยงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าการแข่งขันครั้งนี้น่าจะพอมีเรื่องตื่นเต้นให้เห็นบ้างสินะ” หยูชิชิกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากพูดจบหยูชิชิก็หยิบเก้าอี้ออกมาจากแหวนมิติ ก่อนที่เธอจะนั่งลงจ้องมองไปยังภาพหน้าจอโดยไม่คิดที่จะลุกไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว
“วิชาต่อสู้ระดับ 4? ใครอยากจะเอาไปก็เอาไป ขอแค่คนคนนั้นไม่ใช่เซี่ยเฟยก็พอแล้ว…”
—
“ดูนั่น! นั่นมันลูกบอลแสงสีม่วง” อันธร้องอุทานพร้อมกับชี้นิ้วไปยังทิศทางที่มีลูกบอลแสงสีม่วงตกอยู่
เมื่อเซี่ยเฟยมองไปยังทิศที่อันธกำลังชี้ เขาก็สังเกตเห็นลูกบอลแสงสีม่วงที่อยู่ในรอยแยกของหินขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่สังเกตให้ดี ๆ พวกเขาก็อาจจะไม่เห็นลูกบอลแสงที่ซ่อนอยู่ใต้ซอกหินลูกนี้เลย
เซี่ยเฟยหยิบลูกบอลแสงขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่เขากลับไม่ได้เปิดมันในทันที แต่เลือกที่จะเก็บมันเอาไว้ในแหวนมิติของเขาก่อน
“ตรงนั้นก็มีความผันผวนของพลังงานที่ผิดปกติเหมือนกัน” อันธกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปอีกด้านหนึ่ง
เมื่อเซี่ยเฟยเก็บลูกบอลแสงเข้าไปในแหวนมิติแล้ว เขาก็รีบวิ่งออกไปตามทิศที่อันธชี้ในทันที
อันธมีประสาทสัมผัสพลังงานที่เฉียบคมมาก ดังนั้นตราบใดก็ตามที่มันมีลูกบอลแสงสีม่วงอยู่ใกล้ ๆ อันธจะสามารถสัมผัสถึงลูกบอลแสงนั้นได้อย่างว่องไว ด้วยเหตุนี้ภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเซี่ยเฟยจึงได้รับลูกบอลแสงสีม่วงมาแล้วถึง 6 ลูก
ก่อนที่คอปเปอร์จะจากไปเขาเคยเตือนให้เซี่ยเฟยเลือกวิชาการต่อสู้ที่เขาต้องการ ดังนั้นชายหนุ่มจึงจดจำคำแนะนำครั้งนั้นเอาไว้ในใจ มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงยังไม่รีบร้อนฝึกฝนวิชาการต่อสู้ที่ได้รับมา
ยิ่งไปกว่านั้นภายในแอ่งน้ำยังมีถ้ำเล็ก ๆ เอาไว้ให้ทุกคนได้หลบซ่อนตัว ซึ่งถ้าหากว่าใครได้วิชาที่ตัวเองพึงพอใจแล้ว พวกเขาก็สามารถหนีเข้าไปซ่อนภายในถ้ำและปิดสวิตช์เพื่อขังตัวเองเอาไว้ภายในนั้นได้
เมื่อถึงเวลาที่แอ่งน้ำปิดตัวลงพวกเขาก็จะสามารถเดินทางกลับไปได้อย่างปลอดภัย เซี่ยเฟยจึงคิดจะใช้โอกาสนี้รวบรวมวิชาการต่อสู้ให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยนำวิชาพวกนั้นกลับไปเลือกภายในถ้ำอย่างช้า ๆ ทีหลัง
“18 กิโลเมตรข้างหน้ามีความผันผวนของพลังงานแตกต่างจากลูกบอลแสงสีม่วง มีความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นลูกบอลแสงสีขาวหรืออาจจะเป็นลูกบอลแสงสีเหลือง” อันธกล่าวอย่างตื่นเต้น
เซี่ยเฟยตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงต่อสู้มาจากระยะไกล และได้เห็นลูกบอลแสงสีขาวตกอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีนักสู้ประมาณ 20 คนกำลังต่อสู้รอบ ๆ ลูกบอลแสงลูกนี้อยู่
แอ๊ก!
นักสู้คนหนึ่งถูกพลังซัดขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะตกลงมาต่อหน้าเซี่ยเฟย หลังจากนั้นเขาก็ส่งเสียงคร่ำครวญออกมาอย่างเจ็บปวดคล้ายกับว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากการสังเกตอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มก็ได้พบว่ากลุ่มคนที่กำลังต่อสู้กันถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีสมาชิกอยู่กลุ่มละประมาณ 12 คน
แต่ในระหว่างที่ทั้งสองกลุ่มกำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงลูกบอลพลังงานสีขาวนั่นไปนี่เอง เซี่ยเฟยก็ได้ฉวยโอกาสในระหว่างที่พวกเขากำลังทุ่มสมาธิไปกับการต่อสู้ ในการฉกฉวยเอาลูกบอลแสงสีขาวออกไปอย่างรวดเร็ว
“ขโมย!!”
“ผนึก!!”
ก่อนที่เซี่ยเฟยจะทันได้คว้าลูกบอลแสงสีขาวลูกนั้นไว้ มันก็ได้มีพลังของกฎปรากฏขึ้นมาห้อมล้อมลูกบอลแสงลูกนั้นเอาไว้เสียก่อน
“หายไปซะ!!”
เซี่ยเฟยเริ่มรวบรวมพลังเข้าไว้ในกำปั้นของตนเองเช่นเดียวกัน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะทะลวงกำแพงที่ปิดผนึกและฉกฉวยลูกบอลแสงสีขาวลูกนั้นไป
ตูม!
ฝ่ามือของเซี่ยเฟยกระแทกเข้ากับวิชาปิดผนึกอย่างรุนแรง แต่สิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจนั่นก็คือวิชาของนักรบคนนี้ค่อนข้างจะมีระดับสูง ดังนั้นร่างของเขาจึงถูกแรงสะท้อนกลับอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างกายกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรและรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งแขนขวา
ชายหนุ่มพยายามตั้งหลักกลับมาอีกครั้ง แต่เขาก็ได้ยินเสียงจากนักสู้ที่กำลังสู้กันดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เขาคือเซี่ยเฟย! ตราบใดก็ตามที่เราฆ่าเขาได้ พวกเราก็จะได้รับความเอ็นดูจากคุณหนูเจ็ด”
“คุณหนูเจ็ด? คุณหนูเจ็ดเกี่ยวอะไรด้วย?” เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองอย่างสับสน
“แกกล้าดียังไงมาปล่อยสัตว์อสูรไปกัดคุณหนู!”
จู่ ๆ นักสู้ทั้ง 20 กว่าคนที่กำลังต่อสู้กันก็หยุดมืออย่างฉับพลัน พร้อมกับมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร
“คุณหนูประกาศออกมาแล้วว่าถ้าหากใครฆ่าเซี่ยเฟยได้เธอจะยอมแต่งงานกับคนนั้น” จู่ ๆ ชายหนุ่มผู้ไว้หนวดเคราคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ห๊ะ!!
นักสู้ทุกคนต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถออกตามหาวิชาการต่อสู้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่พวกเขาย่อมไม่มีทางเจอโอกาสที่จะได้แต่งงานกับหยูชิชิแบบนี้อีก
ก่อนที่เซี่ยเฟยจะทันได้รู้ตัว จู่ ๆ เขาก็ได้กลายเป็นศัตรูของมวลชนไปเรียบร้อยแล้ว
***************