บทที่ 43: ตัวต่อตัว
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 43: ตัวต่อตัว
ด้วยขาเหล็กอันยิ่งใหญ่ ในไม่ช้าไรอันก็มาถึงที่ตั้งของร้านอาหารจีนของจินหลินและคอนนี่
กลุ่มอันธพาลที่มีสีหน้าดุดันกำลังโวยวายอยู่นอกร้านอาหาร ล้อมรอบจินหลินและคุณนายคอนนี่ไว้
"บอกฉันมาว่าคนที่ปรากฏตัวในร้านของแกก่อนหน้านี้อยู่ที่ไหน?" เมื่อเอื้อมมือออกไปปิดปากลูกน้องที่ส่งเสียงดังรอบๆ ตัวเขา 'ไดมอนด์แบ็ค' วิลลิส ก็เดินเข้ามาหาทั้งคู่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาและพูดด้วยสำเนียงที่โดดเด่นของเขาพร้อมกับสีหน้าอันเย็นชาว่า "ในฐานะที่เป็นผู้อยู่อาศัยมานาน คุณควรตระหนักถึงกฎของเราเป็นอย่างดีนะ"
"ไอ้สวะ ย่านฮาร์เล็มก็เป็นแบบนี้แหละเพราะคนอย่างพวกแก" เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่เป็นอันตราย จินหลินผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารจีนก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงไปด้วยความกลัว แต่คำพูดของเขากล้าหาญอย่างมาก
รอยยิ้มที่เหยียดหยามของวิลลิสได้ปรากฏขึ้น เขายกนิ้วขึ้นและแหย่ใบหน้าของจินหลินพร้อมกับพูดว่า "ดูเหมือนคุณจะลืมไปแล้วนะว่าที่นี่คือย่านฮาร์เล็ม ตาแก่ ที่นี่คืออาณาจักรของเรา คนผิวเหลืองอย่างพวกคุณก็สามารถอยู่รอดได้ที่นี่เพียงเพราะพี่น้องของเราอนุญาตให้ ไม่ใช่เพราะว่าพวกคุณทำได้ดี อย่ามาทดสอบฉันเลย”
“แกกำลังเหยียดผิว แล้วเรื่องทั้งหมดมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย!”
เมื่อเผชิญหน้ากับวิลลิสที่ได้บิดเบือนความจริง จินหลินก็อดไม่ได้ที่จะสลัดความโกรธขณะที่เขาพูดว่า "ร้านอาหารจีนแห่งนี้เป็นสิ่งที่พ่อของฉันทำงานหนักมาตลอดชีวิต เราทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพในย่านฮาร์เล็มมาตลอด เราไม่เคยก่ออาชญากรรมอะไรเลย ไม่เหมือนพวกแก!”
"แกเหยียดผิวเหรอ?"
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายกำลังกล่าวหาตน วิลลิสก็มองไปยังฝูงชนรอบตัวเขาพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ไหนใครคิดว่าฉันเหยียดผิวบ้าง?"
ในฐานะบุคคลที่มีชื่อเสียงในฮาร์เล็ม ทุกคนล้วนกลัวชื่อ 'ไดมอนด์แบ็ค' กันหมด
แม้แต่คนที่เดินผ่านไปมาที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ต้องถูกเพื่อนๆ ของพวกเขาหยุดไว้
เมื่อกวาดสายตามองฝูงชนรอบตัว วิลลิสก็มองกลับไปที่คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา "ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครคิดว่าฉัน..."
"ฉันจะพูดเอง!"
ทว่าก่อนที่วิลลิสจะพูดจบ เสียงหมัดก็ดังมาจากด้านหลังเขา
สีหน้าของวิลลิสดูบูดบึ้งในทันทีขณะที่เขามองไปในทิศทางที่เสียงดังขึ้น เขาเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อกันฝนสีแดงยืนอยู่ตรงนั้น
"นั่นไง คนที่ผมเห็นในร้านตัดผม"
เมื่อเห็นไรอันปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ชาเมคก็จับบาดแผลที่อยู่บนใบหน้าของเขาและรีบไปที่ด้านข้างของวิลลิสเพื่อกระซิบบอก เมื่อสังเกตเห็นสายตาของไรอัน เขาก็ก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัวและหลบสายตา
พอเห็นชาเมค ไรอันก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ทว่าเขาไม่มีเจตนาจะปิดบังอะไรอีกแล้ว นอกจากนี้ เพื่อที่จะได้คะแนนชื่อเสียงเพิ่มขึ้น เขายิ่งต้องทำให้คนรู้จักตัวตนอาซิงมากขึ้นไปอีก ดังนั้นการที่ชาเมคทำแบบนี้ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายเลย แต่กลับเป็นการช่วยเขาด้วยซ้ำ
แต่ไรอันไม่ขอบคุรหรอกนะ
เมื่อได้ยินชาเมคระบุตัวว่าเป็นชายคนนั้น วิลลิสก็หรี่ตาลง
เพราะเขาจำสิ่งที่คอร์เนลล์อธิบายให้ฟังได้
เขาปล่อยสองคู่รักร้านอาหารจีนไว้ข้างหลัง วิลลิสเดินไปหาไรอันพร้อมกับมองไปที่อีกฝ่าย กลุ่มคนผิวดำที่อยู่ข้างหลังเขา ซึ่งเดิมทีล้อมรอบทางเข้าร้านอาหารไว้ก็เดินเข้ามาหาไรอันเช่นกัน "งั้นก็นายเป็นคนทำร้ายคนของเราเหรอ?"
"ถ้านายหมายถึงคนกลุ่มนั้นเมื่อคืนนี้" ไรอันหันศีรษะและเหลือบมองกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังวิลลิส เขาดูไม่สนใจท่าทางของคนพกวนั้นเลย เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า "ใช่ ฉันเป็นคนทำเอง"
"พวกเขากำลังทำสิ่งที่ผิดกฎหมายและพยายามที่จะปล้นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นพวกเขาก็ต้องได้รับบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ "
"ผิดกฎหมาย?"
คำพูดของไรอันได้ดังขึ้นเข้าหูของทุกคน ราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก พวกเขาทั้งหมดมองหน้ากันและเริ่มหัวเราะออกมา
หลังจากที่เขาหัวเราะเสร็จ วิลลิสก็มองตาไรอันและพูดคำต่อคำว่า "ในย่านฮาร์เล็ม เราเป็นกฎหมายและช่างโชคร้ายที่นายทำผิดกฎหมายของเรา"
"ถ้าอย่างงั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก"
"อะไรล่ะคราวนี้? จะร้องขอความเมตตางั้นเหรอ? โชคร้ายหน่อยนะ ฉันสัญญากับคอตตอนเมาธ์แล้วว่าจะนำหัวของนายมาเป็นของขวัญให้”
“ใครคือคอตตอนเมาธ์เหรอ?” อีกชื่อหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ไรอันจึงได้ถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ
"นายไม่รู้กระทั่งชื่อของคอร์เนล แต่กลับมาสร้างเรื่องในย่านฮาร์เลมเนี่ยนะ" วิลลิสมองไรอันราวกับว่าเขากำลังมองไปยังคนที่ตายแล้ว
'ถ้าอย่างนั้นคอตตอนเมาธ์คือคอร์เนล สโตกส์สินะ'
คำตอบของวิลลิสก็เหมือนกับช่วยไรอันไขปัญหาที่เขาคิดไม่ตกในคืนก่อนได้แล้ว
'ถ้าอย่างนั้นคอร์เนล สโตกส์คงเป็นเจ้านายของคนพวกนี้'
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่มึนงงของไรอัน วิลลิสก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ลืมว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนของเขาก่อนหน้านี้ เมื่อนึกถึงสิ่งที่มาร์ตินและคนอื่นๆ พูด เขาก็เหลือบมองไปที่รองเท้าผ้าใบที่ฉีกขาดบนเท้าของชายคนนั้นโดยไม่รู้ตัว เขาถอยหลังเล็กน้อยและถอยห่างจากไรอันไปในระยะที่ปลอดภัย เอนหลังพิงฝูงชนหนาแน่นที่อยู่ข้างหลังก่อนที่จะพูดต่อว่า "บางทีนายคงคิดว่านายยอดเยี่ยมและสามารถเอาชนะคนของฉันได้ง่ายๆ แต่นายสามารถเอาชนะคนสิบคน ยี่สิบคน สามสิบคน ร้อยคนได้เหรอ? ย่านฮาร์เล็มทั้งหมดเป็นของเรา นายไม่สามารถหนีไปจากเราได้หรอก"
"เลิกพล่ามได้แล้ว"
เขาข่มขู่วิลลิสกลับไป
ไรอันขยับแขนและขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาขยับคอจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง สะบัดมือและก็อ้าแขนในท่ากังฟู "เข้ามาพร้อมกันเลย"
เมื่อเห็นไรอันที่อยู่คนเดียวกำลังท้าทายพวกเขาทั้งหมด ก็ทำให้มีคนในกลุ่มบางคนใจร้อนจนไม่อาจหักห้ามใจได้ ท่ามกลางความโกลาหล ชายผิวดำร่างกำยำสูงกว่า 2 เมตรไม่สนใจคำสั่งของวิลลิสและเดินไปหาไรอัน เขามองลงมาที่ชายร่างเล็กตรงหน้าเขา ไอ้บ้านี้ไม่ได้สูงถึงหน้าอกของเขาด้วยซ้ำ เขายิ้มและยกกำปั้นขนาดใหญ่ขึ้น
“ว้าว กำปั้นขนาดเท่าหม้อปรุงอาหารเลยแฮะ นายสร้างมันขึ้นมายังไงงั้นเหรอ?”
ไรอันไม่ได้สนใจการโจมตีจากชายตรงหน้าเลย เขากลับสนใจร่างกำยำของอีกฝ่ายมากกว่า
น่าเสียดายที่ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม ชายร่างกำยำจึงไม่เข้าใจคำพูดของไรอัน
เมื่อไม่สนใจการหยอกล้อของไรอัน คู่ต่อสู้ของเขาก็ยกกำปั้นขึ้นสูงและพุ่งเข้าโจมตีใส่ไรอันโดยไม่ลังเล
....