นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 50
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 50
"ของเด็กผู้หญิงอวดดีคนนั้น...ช่วยทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อกี้นะ”
ริมเมอร์ชี้ไปทางมาร์ธาเดินออกไปอย่างมั่นใจ
"ครับ"
เจคพยักหน้าและอัญเชิญออร์คออกมา มันใหญ่กว่าและดูดุร้ายยิ่งกว่าตัวที่ต่อสู้กับเบอร์เรน
"เพิ่มความว่องไว เพิ่มความแข็งแกร่ง”
เขาต้องใช้พลังเวทย์มากกว่าของเบอร์เรนนิดหน่อย หลังจากร่ายเวทย์เสร็จก็ปล่อยมันออกจากการควบคุม
"อาาาาา!"
ออร์คคำรามและกระโจนใส่เธอเหมือนกับกระทิงเจอผ้าสีแดง
"ไอ้ออร์คน่ารังเกียจ!"
มาร์ธาพุ่งตัวออกไปทันที เธอรับดาบใหญ่ของออร์คเอาไว้ได้ด้วยดาบของเธอ
"คู อู!”
ออร์คยังเหวี่ยงดาบใหญ่ของมันด้วยความเร็วที่พอจะมองเห็นได้
เคร้ง! เคร้ง!
ดาบปะทะกันอยู่หลายครั้ง
"อาาาา!”
มาร์ธาเรียกใช้ออร่าไททันแล้วหมุนตัวออก
"กรร!"
เธอเบี่ยงตัวแล้วใช้เกราะที่ไหล่รับดาบใหญ่ของออร์ค และตวัดดาบออกไปทันที
ฉับ!
ดาบของมาร์ธาฟันไปที่จุดอ่อนก่อนแล้วค่อยตัดหัวของออร์คจนกลิ้งลงกับพื้น
“เฮ้อ”
หลังจากได้จ้องมองที่ศพของออร์ค มาร์ธาก็ยืดตัวขึ้นและถอนหายใจ
"นี่น่ะเหรอที่นายใช้เวลาเกือบทั้งวันเพื่อที่จะฆ่ามัน? อย่าไปบอกใครนะว่านายมาจากที่เดียวกับฉัน นายมันอ่อนเกินไป”
“อึ่ก”
เบอร์เรนสะอึกเมื่อได้ฟังสื่งที่มาร์ธาพูด เขาพูดไม่ออกหลังจากที่เห็นเธอบุกเข้าไปหาออร์คและฆ่ามันตายได้ทันที
"มาร์ธา”
ราอนเรียกชื่อมาร์ธาขณะที่เธอเดินกลับมา
"หลังจากนี้ไปทำแผลที่ไหล่ด้วย”
“……”
มาร์ธาทำหน้าบึ้งแล้วหันหน้าหนีทันที
เขาแค่ให้คำแนะนำในฐานะตัวแทนเด็กฝึกหัด ดังนั้นส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเธอ
เป๊าะ!
ศพของออร์คหายตัวไปด้วยการดีดนิ้วของเจค แต่กองเลือดสีแดงฉานได้ไหลลึกลงไปในพื้นดินและส่งกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วพื้นที่ฝึกซ้อม
“อึ่ก…”
อาการของรูนันกำลังแย่ลงเรื่อยๆ ริมฝีปากสีชมพูของเธอกลายเป็นสีซีด
ทำไมเจ้าไม่ทำอะไรเพื่อหยุดคำสาปของเธอเลย?
'เพราะมันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม’
ราอนเคาะนิ้วนั่งดูเจคเรียกออร์คตัวที่สาม
มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะกำจัดมัน เขาและเธอต้องรอเวลา
***
การต่อสู้จนกว่าจะตายกันไปข้าง ระหว่างเด็กฝึกหัดกับออร์คดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
และเพราะเบอร์เรนกับมาร์ธาเปิดฉากได้ดี เหล่าเด็กฝึกหัดจึงไม่ได้วิ่งหนีกลับไปก่อน
แม้ว่าบางคนจะต้องใช้เวลาพักใหญ่ แต่พวกเขาทั้งหมดก็สามารถเอาชนะออร์คโดยการตัดหัวได้
ราอนนั่งดูการต่อสู้จนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มตกดิน ตอนนี้ดอเรียนกำลังใช้จังหวะเท้าของเขาวิ่งหนีออร์คและกรีดร้องไปพร้อมกัน
"ฮาาาา!”
ออร์คไล่ตามเขาด้วยเสียงร้องที่น่ากลัว แต่มันไม่สามารถจับดอเรียนได้เพราะดอเรียนวิ่งเร็วมาก
“ย้าก!”
ในที่สุดดอเรียนก็หันกลับมาเหวี่ยงดาบ แต่ดาบฟันลงกลางหลังของมันแทนที่จะเป็นคอ
“เอ๋!”
"ฮาาาาา!”
ดอเรียนตกใจยิ่งกว่าออร์คที่พึ่งได้รับบาดเจ็บซะอีก เขาเริ่มวิ่งหนีไปอีกครั้ง ออร์คโกรธและกระโจนเข้าใส่เขาด้วยเสียงร้องที่น่ากลัว
"อะไรของเขาน่ะ?”
"เมื่อไหร่มันจะจบเนี่ย?”
"นี่มันสามสิบนาทีแล้วนะ ตั้งสามสิบนาที!”
"พละกำลังและความเร็วของเขาก็พอดูได้อยู่หรอก แต่...."
"ตอนนี้เหลือแค่ราอนกับรูนันที่ยังไม่ได้ไปสู้ พวกเขาน่าจะเสร็จเร็วอยู่นะ”
เด็กฝึกหัดถอนหายใจและนั่งชมการไล่ล่าระหว่างดอเรียนกับออร์คอย่างเบื่อหน่าย
ราอนเลียปากของเขาในขณะที่มองดูการเคลื่อนไหวที่เท้าของดอเรียน
'ถ้าเขามีความกล้ากว่านี้ซักหน่อย....'
เท้าของดอเรียนว่องไวมากและเทคนิคดาบของเขาก็ดีทีเดียว แต่เขาขี้ขลาดเกินไป ถ้าเขาสามารถแก้ไขความขี้กลัวของเขาได้เขาคงจะถูกจัดอันดับให้อยู่รองจากจากมาร์ธา,รูนันและเบอร์เรนเท่านั้น
กึด!
เขาหันไปมองที่มาของเสียง รูนันกำลังกำทรายในมือแน่น จนมือของเธอเริ่มมีเลือดออก
“อึก…”
ใบหน้าของเธอซีดสนิท ริมฝีปากของเธอเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากการถูกขบกัด มือและเท้าของเธอสั่นราวกับว่ามีแผ่นดินไหว
มันเป็นลักษณะของคนที่กำลังกลัวอย่างสุดขีด
ริมเมอร์ยืนอยู่บนเวทีและมองไปที่รูนันอย่างเป็นห่วง เขาคงกำลังคิดว่าเขาควรจะพาเธอออกไปเลยดีหรือเปล่า
'นั่นไม่ดีหรอก’
เขาต้องรอให้เวลามาถึง เพื่อที่จะรักษาความกลัวของรูนันได้อย่างถาวร
ราอนลุกขึ้นและย้ายไปนั่งข้างรูนัน เธอสั่นน้อยลงเล็กน้อย
"เธอคงจะกลัวสินะ”
“……”
รูนันไม่ได้หันหลังกลับหรือตอบกลับอะไร
"เลือดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กฝึกหัดหรือนักดาบที่ผ่านสนามรบมาเป็นร้อยครั้งก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน"
รูนันค่อยๆเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
"ฉันก็กลัวเหมือนกัน ดอเรียนที่กำลังต่อสู้ตอนนี้ และคนที่สู้ก่อนหน้านี้ก็กลัวเหมือนกัน”
"...จริงเหรอ?"
รูนันตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"ใช่แล้ว แต่เธอรู้ไหมว่าอะไรที่น่ากลัวกว่านั้น?"
เธอส่ายหน้า
"การกลัวเกินไปจนไม่ยอมทำอะไรเลย”
ราอนเหลือบมองเธอเล็กน้อย ความรู้สึกของนักฆ่าที่ชื่อราอนถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
"ถ้าฉันยืนนิ่งเพราะฉันกลัวมันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย การนิ่งเฉยไม่ช่วยให้อะไรเกิดขึ้น"
เขาเองก็กลัวมาก
เขากลัวว่าความปรารถนาที่จะแก้แค้นเดรุส โรเบิร์ตจะหายไปเพียงเพราะเขาพอใจกับชีวิตปัจจุบันมากพอแล้ว
และเขาก็ยังกลัวว่าการแก้แค้นของเขาจะส่งผลกระทบต่อซิลเวียและเหล่าแม่บ้านในอาคารรอง
เขากลัว แต่เขาจะไม่ยอมล้มเลิกเป้าหมายของเขาทั้งสองอย่างนั้น
เขาจะแก้แค้นเดรุสให้ได้ และจะหาทางทำให้ซิลเวียและสาวใช้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ราอนหันกลับไปหารูนันอีกครั้ง
"เธอคงจะรู้สึกแบบนั้น”
ราอนยกนิ้วขึ้นมากัดเพื่อสร้างบาดแผล
กึด
เลือดสีแดงของราอนไหลออกจากนิ้วโป้งและหยดลงบนพื้น รูนันรีบถอยหนีและกัดฟันแน่น
"อ๊ะ..."
"อย่าพึ่งหนี เธอต้องเอาชนะมันให้ได้ในตอนนี้"
"รา-ราอน! ราอน!"
"ฉันรู้ว่าเลือดมันน่ากลัว แต่ว่า..."
ราออนขยับไปหารูนันและจับมือเธอเอาไว้ เธอร่นตัวหนีจนหลังแทบจะติดพื้นอยู่แล้ว ทีนี้เลือดจากนิ้วของเขาก็ค่อยๆไหลไปที่มือขาวๆของเธอ
"เห็นมั้ย ไม่เห็นมีอะไรเลย เลือดมันไม่ได้ทำอันตรายเธอสักหน่อย"
“อือ?”
ดวงตาของรูนันเบิกกว้างขึ้นหลังจากเห็นหยดเลือดไหลลงพื้นจากมือของเธอ เธอดูสบายใจขึ้นเล็กน้อยเพราะว่าเลือดไม่ได้ทำอันตรายเธอ และก็ไม่ได้ทำให้เธอต้องเศร้า
"ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่พี่ชายทำกับเธอคืออะไร แต่ยิ่งเธอกลัวมากเท่าไหร่ พี่ชายของเธอก็จะยิ่งมาหลอกหลอนในหัวของเธอมากขึ้นเท่านั้น"
“อา…”
มือของรูนันค่อยๆสั่นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
"ถ้าเธอมัวแต่วิ่งหนีเพราะเธอกลัว เธอจะไม่เหลือทางเลือกอะไรเลยยกเว้นให้เขาครอบงำเธอไปตลอดชีวิต....รูนัน ซัลเลียน เธอคือคนเดียวที่จะปกป้องเธอเองและครอบครัวของเธอได้"
นี่เป็นคำแนะนำจากใจจริงของราอน เพราะรูนันเหมือนกับราอนในชีวิตที่แล้วที่ถูกเดรุสควบคุมมาตลอด
"อ๊ากกกก! ฉันคิดว่าฉันจะตายซะแล้ว!”
ดอเรียนที่พึ่งกลับมาจากการต่อสู้ทรุดตัวลงทันที
"นี่มันยากมาก ฉันเกือบจะตายแล้วแน่ะ ฮึก!"
เขาพูดพร้อมกับใช้แขนของเขาเช็ดน้ำตา
"นายมีกระรอกมั้ย?”
ราอนยืนขึ้นและหันไปที่ดอเรียน
"กระรอกเหรอ? ฉันก็ไม่ได้มีทุกอย่างหรอกนะ... เดี๋ยวก่อน! ฉันมีอยู่ตัวหนึ่ง!"
ดอเรียนเอากระรอกไม้แกะสลักออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องของเขา มันเป็นกระรอกน่ารักน่าชังที่มีดวงตาสีแดงแวววาว
"เอาไปสิ”
ราอนยื่นกระรอกที่พึ่งได้มาจากดอเรียนไปให้รูนัน เธอรับกระรอกไปด้วยมือสั่นๆ
"นี่คือส่วนหนึ่งของคำแนะนำของฉัน ส่วนที่เหลือฉันจะบอกเธอด้วยดาบ"
หลังจากพูดจบ ราอนก็เดินขึ้นไปบนเวที
* * *
* * *
น่าแปลกใจนะที่เจ้ายื่นมือเข้าไปช่วย
ราธหัวเราะ
'จะคิดแบบนั้นก็เรื่องของแก’
ราอนพยักหน้า เหมือนกับที่ราธพูด มันเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่เขาทำแบบนั้น
อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นคนแปลกหน้าคนแรกในชีวิตของเขาที่มีน้ำใจต่อเขา แต่นั่นไม่ได้เป็นเหตุผลเดียว
เธอทำให้เขานึกถึงชีวิตก่อนหน้าของเขาด้วย
เพราะเธอดูคล้ายๆกับตัวเขาในชีวิตก่อนหน้านี้ ที่เดรุสโรเบิร์ตล้างสมองเขาด้วยคำพูดและการกระทำโดยที่เขาแทบไม่รู้ตัว
'นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย’
เขาอธิบายเธอด้วยคำพูดเสร็จแล้ว และเขากำลังจะแสดงให้เธอด้วยดาบของเขา ถ้าเธอไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองในตอนนี้ได้มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอีกต่อไป
เจ้าโง่ กังวลเรื่องตัวเองก่อนเถอะ เจ้าก็จะต้องดิ้นรนเอาชนะเช่นเดียวกับหนอนตัวอื่นๆ
'หืม?'
พอได้ฟังราธเขาก็มีความคิดดีๆผุดขึ้นมา
'งั้นเรามาเดิมพันกันดีไหม?’
เดิมพัน?
'ใช่ และแกอาจจะได้ประโยชน์ด้วย’
มันคืออะไรล่ะ?
'ถ้าฉันไม่สามารถตัดคอของออร์คได้ในการโจมตีครั้งเดียวแล้วฉันจะยอมรับความโกรธจากแก... โจมตีแค่ครั้งเดียวเลยนะ!'
โจมตีครั้งเดียว? เจ้าพูดจริงหรือเปล่า?
'แน่นอนสิ’
ตอนแรกก็ให้คำแนะนำเธออย่างดี แต่ตอนนี้กลับมาสนใจแต่การฆ่าซะแล้ว
ราธหัวเราะคิกคักจนสร้อยข้อมือสั่น
ก็ได้ โจมตีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ถ้าครั้งที่สองเมื่อไหร่คือเจ้าแพ้ทันที
ข้อความปรากฏขึ้นหลังจากราธหยุดหัวเราะ
['ราธ' เสนอการเดิมพันครั้งที่สาม]
เงื่อนไข: ตัดคอออร์คที่ถูกเสริมความแข็งแกร่งด้วยการโจมตีครั้งเดียว
สำเร็จ: แต้มสถานะทั้งหมด+2 , คุณสมบัติของราธแบบสุ่ม
ล้มเหลว: อารมณ์โกรธจากราธ +10
'ฉันยอมรับ'
ราธเสนอการเดิมพันครั้งนี้เพราะมันไม่รู้ว่าเขาเคยเป็นนักฆ่ามาก่อน
'ขอบคุณที่ให้ของฟรีกับฉันอีกครั้งนะ’
เขาแอบยิ้มเกี่ยวกับเรื่องราธ แล้วก็เดินไปที่สนามต่อสู้
"โอ้ รอบนี้เธอไม่ได้ลงสู้เป็นคนสุดท้ายแฮะ”
ริมเมอร์ผิวปากแซว ดวงตาของริมเมอร์ดูมีความสุขมาก เขาคงได้ยินทุกอย่างที่ราอนพูดกับรูนัน
"เขาเป็นเด็กที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่ เอาออร์คที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณออกมาได้เลย”
"ได้ครับ"
เจคเม้มริมฝีปาก เขาเริ่มร่ายคาถาด้วยท่าทีปกติ
วือ!
วงกลมเวทมนตร์สีฟ้าบนพื้นสว่างวาบ จากนั้นออร์คก็ได้ปรากฏขึ้นมา รูปร่างของมันคล้ายกับออร์คตัวอื่นๆ แต่กล้ามเนื้อของมันใหญ่กว่าตัวอื่นมาก ทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น
"กรร!"
แม้ว่ามันจะยังไม่หลุดออกจากวงเวทย์ที่ควบคุมมันไว้ แต่มันก็แสดงสัญชาตญาณดุร้ายของมันออกมา
วือ!
วงเวทย์สีเขียว แดง และน้ำเงินขึ้นมาล้อมรอบตัวมัน แรงกดดันของมันเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
ซือ!
เมื่อเจคยื่นมือออกไป ลักษณะของออร์คก็เปลี่ยนไปเป็นคนที่มีร่างกายกำยำ
"เตรียมตัวให้พร้อมก่อนนะ”
ราอนพยักหน้า เขากำลังยืดหยุ่นข้อมือขวาของเขาและกำลังจะยืดหยุ่นส่วนอื่นๆ
แกร๊ก...แกร๊ง!
อยู่ๆ วงเวทย์ของเจคก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ออร์คหลุดออกมาจากการควบคุมทันที
"กรรรรรร!”
มันคำรามและวิ่งมาหาราอน ในมือของมันถือขวานที่เปื้อนเลือดเอาไว้ พลังและความเร็วของมันอยู่ในระดับที่แตกต่างออกไปจากออร์คตัวอื่นๆอย่างสิ้นเชิง
"อะไรน่ะ!”
"หยุดมันเดี๋ยวนี้!"
"บ้าเอ๊ย!”
ทุกคนล้วนตื่นตระหนก แต่สายตาของราอนยังคงสงบนิ่ง
'เพราะฉันรู้อยู่แล้วไงล่ะ'
เขาเห็นสายตาของเจคที่ดูตื่นเต้น เขาก็รู้ได้เลยว่าเรื่องกำลังจะเกิดขึ้น
ฟึ่บ
ราอนเอาดาบออกมาจากเอวของเขา ดอกไม้ดอกหนึ่งเบ่งบานขึ้นที่บนดาบ มันเป็นดอกไม้สีทองที่ส่องแสงเหมือนกับสีท้องฟ้าในตอนนี้
'หมื่นเปลวเพลิง', เปลวเพลิงลำดับที่หนึ่ง
วิญญาณเปลวเพลิง
ดาบดอกไม้ตวัดออกไปและตัดผ่านอากาศ
ภายใต้แสงแดดยามเย็นและดอกไม้บนดาบที่มีสีเดียวกัน และการเคลื่อนไหวของออร์คก็หยุดลง
"กรร...."
มันยังไม่ทันได้ยกขวานขึ้น แต่หัวของมันตกลงบนพื้นเสียก่อน
ฟุ่บ!
เลือดสีแดงพุ่งออกมาทับซ้อนกับภาพของดวงอาทิตย์ยามเย็น ร่างกายหนักๆของออร์คก็ทิ้งลงกับพื้น
เป็นภาพที่ดูสวยงามแต่โหดร้าย...
เหล่าผู้ฝึกสอนที่กำลังวิ่งเข้ามาเพื่อหยุดออร์ค เด็กฝึกหัดที่ยืนขึ้นด้วยความประหลาดใจ และแม้กระทั่งเจค-ผู้ควบคุมออร์ค-ก็ต่างพูดไม่ออกและหยุดชะงัก
เขาใช้ประสบการณ์จากชีวิตที่แล้วหยุดความตั้งใจของเจคไว้ได้
แล้วเมื่อเจคได้เจอกับแรงกดดันของนักฆ่าที่ผ่านการฆ่าคนมานับไม่ถ้วน เจคก็จับคอตัวเองและทรุดตัวลงทันที
"อะ---”
ดวงตาของเจคเหลือกขึ้นจนกลายเป็นสีขาวทั้งหมด เขาอยากจะทำต่อไปแต่ยังมีการต่อสู้ของรูนันรออยู่ หลังจากได้ข่มขู่เขาพอประมาณ ราอนก็ลบแรงกดดันออก
ซูม
เขาสะบัดเอาเลือดออกจากดาบแล้วหันไปรอบๆ
"กรอด!"
"บ้าเอ๊ย…"
เบอร์เรนกัดฟันแน่นจนมีเสียงออกมา ส่วนมาร์ธาก็สบถออกมาแล้วทำหน้าบึ้งตึง ทั้งคู่ดูหงุดหงิดมาก
"อู้ว”
"ว้าว...”
เด็กฝึกหัดอ้าปากกว้างมากจนแมลงสามารถบินเข้าไปได้ พวกเขาสั่นอย่างรุนแรงราวกับถูกตีด้วยคลื่นทะเล
"บ-บ้าน่ะ”
"เมื่อกี้มันคือทักษะอะไร?"
"ตวัดดาบเพียงครั้งเดียว...."
แม้แต่ผู้ฝึกสอนก็ยืนตะลึง
หลังจากกวาดตามองทุกคนอย่างรวดเร็ว เขาก็มองไปที่รูนันที่ยืนอยู่ข้างหลังสุด
สายตาของเธอไม่ได้มืดมิดอีกต่อไปแล้ว เขาเลยพยักหน้าให้เธอ
'ถึงตาของเธอแล้วล่ะ'
***
รูนันกอดกระรอกไม้เอาไว้แล้วมองดูราออนที่เดินเข้าไปในสนามต่อสู้
'เขารู้งั้นเหรอ?’
เธอจงใจหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายราอน เธอพยายามแกล้งทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไร และในเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามเดิม เธอก็คิดว่าเรื่องคงจะจบแล้ว
แต่เมื่อสักครู่นี้เขาเข้ามาคุยกับเธอเหมือนกับเขารู้เรื่องของเธอทุกอย่าง
เสียงที่เรียบนิ่งของราอน มันค่อยๆช่วยลบสิ่งที่ติดอยู่ในใจของเธอ
ตอนที่เขาให้เธอดูมือของเขาที่เลือดออก เธอกลัวมาก เธออยากจะวิ่งหนีทันที
'แต่ว่า...'
พอเธอได้จับมือกับเขา แม้ว่ามือของเธอจะชุ่มไปด้วยเลือดแต่เธอก็ไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไป มือของเขาให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับกองไฟกองเล็กๆ
ในที่สุดเธอก็ได้รู้ เลือดไม่ได้น่ากลัวเพราะมันเป็นเลือด เงาสีดำที่บีบหัวใจของเธอไว้ได้เบามากขึ้น
รูนันมองไปที่ราอนที่ยืนอยู่ในสนามต่อสู้ด้วยความสงบ เขาตัวเล็กแต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เขาดูตัวใหญ่กว่าคนอื่น
วือ!
ขณะที่เธอกำลังจ้องแผ่นหลังของราอน วงเวทย์ที่ขังออร์คอยู่ก็พังลงอย่างกระทันหัน
"ฮาาา!”
ออร์คกระโดดใส่ราอนพร้อมด้วยเสียงร้องคำราม
"ไม่นะ!”
เธอลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึง แล้วราอนก็ควักดาบของเขาออกมา
ดอกไม้สีทองเบ่งบานอยู่ด้านบนของใบดาบสีเงิน ดอกไม้สวยๆดอกนั้นสะท้อนไปกับแสงดวงอาทิตย์
ช่วงเวลาที่ดอกไม้และแสงอาทิตย์ทับซ้อนกันนั้น เลือดจากคอของออร์คพุ่งออกมาเหมือนกับน้ำพุ
เป็นภาพที่สวยงามมาก
เลือดที่เธอกลัวมาตั้งแต่เด็กไหลลงบนพื้นอย่างสวยงาม
ราอนสะบัดดาบของเขาและหันมองรอบๆ เขาส่งสายตามาแทนคำพูดให้เธอ
'ถึงตาเธอแล้วนะ’
“อึ้ม”
รูนันลุกขึ้นยืน มือของเธอไม่ได้สั่นอีกต่อไปแล้ว