ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 48
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 50

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 49


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 49

'ทำไมสายตาของเด็กนั่นถึง....'

เจคถึงกับหยุดหายใจ เขาอยากที่จะลุกขึ้นแต่เขาไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรแล้วก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้

"คุณเป็นคนจากหอคอยเวทมนตร์ใช่ไหม? ว้าว มาเร็วนะเนี่ย"

หน้าของเขาที่เคยถูกแช่แข็งก็หันไปมองตามเสียง มีเอลฟ์ผมสีแดงยกยิ้มให้เขา

"ห-หัวหน้าผู้ฝึกสอนริมเมอร์?"

"ถูกต้อง! ตามผมมาทางนี้หน่อยนะครับ ผมมีอะไรจะบอกก่อนเริ่มการฝึก"

ริมเมอร์แตะที่แขนของเจคแล้วชี้ไปที่ห้องพักของหัวหน้าผู้ฝึกสอน

"อะ โอเคครับ”

เขาตอบกลับและหันหน้าไปทางราอนอีกครั้ง เด็กผู้ชายคนนั้นกำลังฝึกซ้อมวิชาดาบอยู่ตามเดิมเหมือนกับเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น

“เฮ้อ...”

เจคหายใจเข้าลึกๆและลุกขึ้นยืน ถ้าริมเมอร์ไม่ได้เข้ามาหาเขาเมื่อสักครู่นี้เขาคงจะฉี่ราดกางเกงไปแล้วแน่ๆ

"คุณไม่สบายหรือเปล่า?”

"ม-ไม่ ไปกันเถอะครับ"

"โอเค!”

ริมเมอร์พยักหน้าเบาๆ จากนั้นเจคก็ตามริมเมอร์ไปที่ห้องพักของหัวหน้าผู้ฝึกสอน แตกต่างจากลักษณะภายนอกที่ดูเนี๊ยบๆของริมเมอร์ ภายในห้องมีของวางระเกะระกะและไม่มีที่ไหนให้นั่งลงได้เลย

"นั่งลงได้เลยครับ”

"แต่ว่ามันไม่มีที่ให้นั่ง..."

"อา...จริงด้วย"

ริมเมอร์ยิ้มน้อยๆและลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกของเขา

"งั้นผมจะไม่ใช้เวลานานมาก เรามายืนคุยกันเถอะ คุณรู้แล้วใช่มั้ยครับว่าคุณต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ออร์คด้วย?"

"รู้แล้วครับ"

"เพราะการสอนอันยอดเยี่ยมของผมแท้ๆเลย เด็กฝึกหัดถึงพากันแข็งแกร่งเกินกว่าที่ควรจะเป็น แล้วออร์คธรรมดาก็คงง่ายเกินไปสำหรับพวกเขาน่ะสิ”

“อ่า…”

การคุยโม้ของริมเมอร์ทำให้เจคถึงกับพูดไม่ออก

"ผมเลยมาบอกคุณว่าเด็กๆน่ะแข็งแกร่งอยู่แล้ว ดังนั้นใช้เวทมนตร์เสริมความแข็งแกร่งได้เลย โอเคไหม?"

"ผมเชี่ยวชาญในการอัญเชิญและควบคุมมอนสเตอร์อยู่แล้วครับ ดังนั้นมันไม่ยาก”

"ผมรู้อยู่แล้ว รองหัวหน้าของหอคอยเวทมนตร์เวอร์บินได้บอกเรื่องของคุณให้ฟังมาบ้าง..."

“อ่า…”

สีหน้าของเจคเริ่มบิดเบี้ยวเมื่อริมเมอร์พูดถึงรองหัวหน้าของหอคอยเวทมนตร์

"และก็อีกเรื่อง เกี่ยวกับเวทมนตร์ภาพหลอนที่ทำให้เห็นมอนสเตอร์เป็นมนุษย์...."

"อ๋อ ผมจะใช้สิ่งนี้ครับ"

เจคยกมือขวาที่มีแหวนบนนิ้วกลางของเขาขึ้นมา

"นี่คืออาร์ติแฟกต์ที่ผมได้มาจากท่านรองหัวหน้าครับ แค่มีแหวนวงนี้ก็จะสามารถร่ายเวทมนตร์ภาพหลอนได้ง่ายๆเลย”

"โอ้ ดีเลย"

ริมเมอร์ผิวปากอย่างพอใจ

"เช่นนั้นก็ช่วยดูแลการฝึกซ้อมของเด็กๆให้หน่อยนะ เสร็จงานนี้แล้วผมจะเลี้ยงเหล้าคุณกับรองหัวหน้าเอง"

หลังจากพูดจบเขาออกจากห้องไป

'นี่ยิ่งทำให้งานง่ายขึ้นไปอีก'

ในเมื่อตอนนี้ริมเมอร์ไว้ใจเขาแล้ว การใช้ออร์คเพื่อทำให้ราอนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วก็ค่อยหาข้อแก้ตัวหลังจากนั้น

"เด็กคนนั้น...."

เจคคิดถึงตอนที่เขาพึ่งเจอกับราอน ในตอนแรกเขาไม่ค่อยเต็มใจที่จะต้องทำร้ายคนที่เขาไม่เคยรู้จักสักเท่าไหร่...

แต่ไอ้เด็กเวรที่ทำให้เขาขายขี้หน้าก็สมควรที่จะโดนแล้ว

กรอดด

เจคกัดฟันกำหมัดแน่นแล้วเดินออกจากห้องไป

***

ราอนมองตามนักเวทวัยกลางคนที่ตามริมเมอร์เข้าไปในห้องพักผู้ฝึกสอน

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่เขาสามารถรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าจากนักเวทคนนั้น อาจจะไม่ถึงกับฆ่าจริงๆ แต่เขาต้องการให้ราอนบาดเจ็บสาหัสแน่นอน และนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครสัมผัสมันได้เลย

เจ้าโดนเกลียดตั้งแต่อายุเท่านี้เลยนะ นี่เจ้าทำอะไรกับเขาไว้เนี่ย? ถ้าหวนกลับไปในดินแดนปีศาจ ปีศาจทุกตนล้วนนับถือราชาแห่งแก่นแท้....

'หุบปาก’

ราอนใช้เท้าเตะราธที่กำลังหัวเราะเยาะเขาออกไป

'เขาน่าจะถูกส่งมา’

ดูเหมือนนักเวทคนนี้จะเป็นวิธีสกปรกของคารุนที่จูเดียลกล่าวถึง

นักเวทที่ซ่อนแรงกดดันของตัวเองเอาไว้ไม่ได้...เขามีฝีมือแย่กว่าลูกแมวซะอีก

'อย่างน้อยลูกแมวก็ยังน่ารัก แต่ผู้ชายคนนั้นมันไร้ประโยชน์สุดๆ'

ราอนเสยผมของตัวเอง แล้วหันกลับไปมองห้องพักของผู้ฝึกสอน

'เขาคงจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมอนสเตอร์’

นักเวทคนนั้นคงจะเพิ่มระดับความแข็งแกร่งในกับมอนสเตอร์ที่เขาต้องสู้ด้วย ตามคำสั่งของคารุน

'เขาพยายามที่จะฆ่าฉันไม่ก็ทำร้ายให้บาดเจ็บสาหัส’

เป็นวิธีที่น่าสมเพชจนราอนอยากจะหัวเราะออกมา เทียบกันแล้วลูกชายของเขายังเป็นคนดีกว่ามาก

'น่าสมเพช’

เขาหันไปรอบๆและเขาก็ได้พบกับรูนันที่อยู่ในลานฝึกกลางแจ้ง ดวงตาของเธอเป็นเหมือนเดิม เขารู้สึกว่าหัวใจถูกบีบด้วยเหตุผลบางอย่าง

"ท่านพ่อบอกกับฉันว่าการฝึกในวันนี้เป็นการต่อสู้กับมอนสเตอร์”

เธอเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการฝึกฝนวันนี้ทันที เหมือนกับไม่อยากพูดถึงเรื่องวันก่อน

"งั้นเหรอ?”

“อึ้ม”

รูนันพยักหน้า เธอพยายามทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องมีอะไรเกิดขึ้น เขาเลยไม่สามารถพูดอะไรขึ้นมาได้

หลังจากที่เธอบอกเขาว่าจะไปเตรียมตัว เธอก็ไปที่ห้องพักของเด็กฝึกหัด

เจ้าจะไม่ถามเธอเรื่องนั้นหน่อยเหรอ?

'ฉันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร มันเป็นปัญหาภายในครอบครัวของเธอ’

เขาจะให้คำแนะนำเธอได้ยังไง ในเมื่อเขาก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับอารมณ์ของตัวเองเลย

แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าไซเรียทำอะไรกับรูนัน เขาจะช่วยแก้ปัญหานั้นในจังหวะที่เหมาะสม

"ค-คุณชาย ทราบเรื่องนั้นหรือยังครับ?"

ขณะที่เขากำลังเม้มริมฝีปาก  ดอเรียนก็เข้ามาหาเขาพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วย

"เรื่องอะไร?”

"การฝึกในวันนี้ ม-มันไม่ได้มีแค่ต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างเดียว”

"แล้วต้องทำอะไรอีกล่ะ?”

"เราจะต้องฆ่ามอนสเตอร์! เราต้องฆ่ามันจริงๆ ร-เราจะทำยังไงดี?”

ดอเรียนกัดเล็บด้วยท่าทางกระวนกระวาย

"ต้องฆ่าเหรอ...?”

"ครับ! เป้าหมายของการฝึกครั้งนี้คือต้องจบชีวิตของพวกมัน! นี่มันบ้าไปแล้ว!”

"งั้นก็ดีสิ”

"เอ๋!”

เขาทิ้งดอเรียนที่กำลังกรีดร้องไว้ข้างหลัง แล้วมองไปทางห้องพักเด็กฝึกหัดที่รูนันพึ่งเข้าไป

ได้เวลาลบล้างคำสาปของไซเรียพอดี

* * *

* * *

"ทุกคน ฟังทางนี้!”

ริมเมอร์ออกจากห้องพักของตัวเองแล้วไปยืนอยู่บนเวที เขาปรบมือเพื่อดึงความสนใจของทุกคน

"จำได้ไหมว่าฉันบอกให้พวกเธอเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี เพราะจะมีการฝึกต่อสู้จริงในวันนี้?”

"ครับ/ค่ะ!”

ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนตอบหลังจากที่มารวมตัวกันที่กลางสนามฝึกเรียบร้อยแล้ว สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

"ดูเหมือนพวกเธอจะเริ่มเชื่อใจฉันแล้วล่ะสิ ดวงตาของพวกเธอเป็นประกายระยิบระยับเชียว”

ผู้ฝึกสอนพากันหัวเราะคิกคักกับมุกของริมเมอร์ ดูเหมือนเด็กๆจะเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ริมเมอร์ทำกับพวกเขา

"แม้ว่าพวกเธอส่วนใหญ่จะรู้อยู่แล้ว แต่ฉันจะขออธิบายอีกหน่อย การฝึกในวันนี้ก็คือการต่อสู้กับมอนสเตอร์”

น้ำเสียงซึ่งเคยขี้เล่นของเขากลายเป็นน้ำเสียงที่จริงจัง บรรยากาศของสนามฝึกเริ่มหนักอึ้ง

"การโจมตีของมอนสเตอร์จะไม่มีความปรานีเหมือนกับที่พวกเธอสู้กันเอง พวกมันจะโจมตีแบบไม่หยุดพัก อย่าประมาทหรือใจลอยเด็ดขาด พอได้เจอกับพวกมันแล้วต้องตั้งสติให้ดี”

"โอเค!”

เด็กฝึกหัดชูกำปั้นขึ้นและตะโกน

"นี่คือเจค นักเวทของหอเวทมนตร์ที่จะช่วยพวกเราระหว่างการฝึกในวันนี้ ทักทายเขาสิ”

"พวกเราต้องขอฝากตัวด้วยนะครับ/นะคะ!”

"อะ -ฉันก็ต้องขอฝากตัวด้วยเช่นกัน"

เจคโค้งตัวกลับไปและกวาดสายตามองหาราอนอย่างรวดเร็ว

'ไม่มีอะไรแล้ว’

สายตาแปลกๆของราอนที่ทำให้เขาหายใจไม่ออกก่อนหน้านี้ ไม่มีอีกต่อไป ตอนนี้สายตาของราอนเป็นสายตาปกติทั่วไปที่เขาไม่จำเป็นต้องสนใจ

'แต่ว่า...'

ไม่มีทางที่แรงกดดันก่อนหน้านี้จะเป็นสิ่งที่เขาคิดไปเอง ยิ่งคิดว่าเด็กนั่นเป็นเป้าหมายของคารุน ก็ยิ่งแสดงว่ามีบางอย่างที่พิเศษในตัวเด็กคนนั้น

"งั้น...ท่านนักเวท เชิญเลยครับ”

"ครับ"

เจคพยักหน้าให้ริมเมอร์ที่โบกมือให้ และเดินไปที่ด้านหน้าของเวที

"อัญเชิญมอนสเตอร์”

หลังจากที่ร่ายคาถาเจคก็ใช้ไม้คทาของเขาเคาะลงบนพื้น วงกลมเวทมนตร์ก็ส่องแสงสว่างวาบขึ้นมาบนสนามฝึกซ้อม จากนั้นก็มีแสงสีเขียวระเบิดออกมาจากตัวอักษรสีน้ำเงินในวงเวทย์

วูม!

แสงพวกนั้นค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ และก็มีมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นมา

ส่วนสูงมากกว่าสองเมตร มีร่างกายที่กำยำ ฟันหน้ายื่นออกมาและมีผิวหนังสีเขียว—นั่นคือออร์ค มอนสเตอร์ที่พบเห็นได้ทั่วไปแต่ก็มีความอันตรายงสูง

"กรรร!”

“เอ๋!”

“อ๊าก!”

ออร์คยกขวานของมันขึ้น เด็กฝึกหัดกลืนน้ำลายแล้วมองไปที่มอนสเตอร์จอมกระหายเลือดและมีกลิ่นเหม็น

"มันอยู่ในการควบคุมของฉัน พวกเธอไม่ต้องกังวล”

เจคลองหมุนนิ้วของเขาให้ดู แล้วออร์คหันไปในทิศทางเดียวกัน

"มอนสเตอร์ที่พวกเธอจะต้องต่อสู้ในวันนี้คือออร์ค”

"ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นออร์คแน่ๆ!”

"ในที่สุดมันก็ถึงเวลาสำหรับการต่อสู้ของจริง..."

“หึๆ”

เด็กฝึกหัดมองขึ้นไปที่เจค สีหน้าของพวกเขามีอารมณ์ที่ผสมกันระหว่างความกังวลใจและความตื่นเต้น

"เช่นเดียวกับที่อาจารย์ริมเมอร์พูด พวกเธอไม่ควรจะประมาทเพราะมันเป็นออร์ค บางทีฉันอาจจะหยุดมันไม่ได้ ดังนั้นพวกเธอก็ควรจะตั้งใจอยู่เสมอ แล้วก็..."

เจคใช้มือขวาที่มีแหวนชี้ไปที่ออร์ค

วือ!

วงเวทย์รอบตัวของออร์คถูกบิด แล้วลักษณะของออร์คก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไป

ฟันที่ยื่นออกมาของมันกลับเข้าไปในปาก และผิวสีเขียวเปลี่ยนไปเป็นสีขาว ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากออร์คกลายเป็นชายวัยกลางคนที่มีผมสีน้ำตาลที่ถือขวานเอาไว้

"ม-มนุษย์เหรอ?”

"อะไรเนี่ย!”

"ทำไมถึงเป็นคน...?”

"พวกเธอไม่ได้จะสู้กับออร์คธรรมดา แต่เป็นออร์คที่ถูกเปลี่ยนเป็นมนุษย์โดยใช้เวทมนตร์”

เจคยกขวานของออร์คให้ชี้ไปที่เด็กฝึกหัด

“เอ๋!”

“อ๊าก!”

"แต่นั่นมันคนธรรมดานะ!”

เด็กฝึกหัดต่างตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน และจ้องออร์คที่กลายเป็นมนุษย์

"ฉันจะบอกพวกเธออีกอย่างหนึ่ง”

ริมเมอร์เดินขึ้นมาด้านหน้าของเจค

"การต่อสู้ในวันนี้ไม่ได้ให้เอาชนะออร์คหรือเอาตัวรอดเฉยๆ การต่อสู้จะจบลงก็ต่อเมื่อพวกเธอตัดหัวของมันได้แล้วเท่านั้น”

เขาชี้ไปทางออร์คที่ภายนอกเป็นมนุษย์

“อ่า…”

"น-นั่นมัน..."

เด็กฝึกหัดที่ตื่นตระหนกมองหน้ากันและกัน

"ออร์คที่นักเวทจับมานั้นเคยฆ่าคนมาก่อนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเมตตามัน ทำให้ดีที่สุดแล้วฆ่ามันซะ”

ริมเมอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักผิดปกติ

'ข้อมูลของดอเรียนถูกต้อง’

ราอนพยักหน้า

'การฝึกแบบนี้ก็ไม่เลว’

นักดาบส่วนใหญ่มักจะพ่ายแพ้ในครั้งแรกของการต่อสู้จริงๆ ไม่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตาม

และมีหลายคนที่ต้องเสียชีวิต

เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น การฝึกซ้อมวันนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการให้ลองต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างเดียวแต่ยังเป็นการเตรียมใจให้พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้กับมนุษย์ในอนาคตด้วย

'แล้วก็…'

ราอนมองไปที่รูนันที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ปากของเธอสั่นระริก หลังจากที่ได้ยินว่าเธอต้องตัดหัวของมันออก

'นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะกำจัดความกลัวในใจของเธอ’

ดูเหมือนว่าการฝึกซ้อมครั้งนี้จะสามารถยกเลิกคำสาปของไซเรียได้

เจ้าไม่สนใจนักเวทชั้นต่ำนั่นเหรอ?

'ไม่อะ’

ราอนส่ายหน้า สิ่งที่เขาทำได้ก็มีแค่เสริมความแข็งแกร่งให้ออร์คที่ราอนต้องสู้ด้วยเท่านั้น ไม่มีค่าให้แม้แต่จะกังวลเลยด้วยซ้ำ

การกำจัดความกลัวที่ถูกแกะสลักในใจของรูนันสำคัญกว่า

"งั้นก็มาเริ่มกัน คนแรกที่จะออกไปสู้คือ..."

"ผมเองครับ”

เบอร์เรนยกมือขึ้นก่อนที่เจคจะพูดจบ

"คุณรู้จักเขาใช่มั้ย? เขาเป็นลูกชายของท่านหัวหน้าศูนย์บัญชาการกองทัพ เสริมความแข็งแกร่งให้ออร์คของเขามากๆน่อยล่ะ”

"ได้ครับ"

เจคเลียริมฝีปากของเขาเมื่อได้ยินคำอธิบายของริมเมอร์ แน่นอนว่าเขารู้เกี่ยวกับเบอร์เรน ในเมื่อเขาเป็นลูกชายของคนที่เขาทำงานให้

"เพิ่มความว่องไว เพิ่มความแข็งแกร่ง”

เมื่อเขาพูดคาถาเพื่อเพิ่มความว่องไวและความแข็งแกร่ง แสงสีฟ้าก็เข้าล้อมรอบออร์คแล้วดวงตาสีเหลืองของมันก็ดูดุร้ายมากขึ้น

"ออกมา”

เมื่อเจคผายมือของเขาไปข้างหน้า ออร์คก็ก้าวออกมาด้วยฝีเท้าหนักๆ

เขากำมือและแบมือสามครั้ง ส่วนเบอร์เรนก็กำลังเอาดาบของจริงออกจากฝัก เขาพยักหน้าไปที่เจคเพื่อส่งสัญญาณว่าเขาพร้อม

"เริ่มได้"

เมื่อเจคสะบัดนิ้ว ข้อความที่อยู่รอบๆออร์คก็หายไป

"กรรร!”

ออร์คส่งเสียงคำรามดังลั่นไปทั่วสนามฝึก มันวิ่งเข้าหาเบอร์เรนและยกขวานขึ้นเหนือหัวบอร์เรน

"ฉันอ่านการเคลื่อนไหวของแกออกน่า”

เบอร์เรนยกดาบและเรียกใช้ออร่าของเขา

แคร้ง!

ขวานที่เป็นสนิมและดาบเหล็กแวววาวปะทะกันจนมีประกายไฟออกมา

"ย๊าก!"

เบอร์เรนแหงนหน้ามองมัน มือที่ถือดาบของเขาสั่น

'ทำไมขวานถึงหนักขนาดนี้...?’

เขาไม่เคยเห็นและไม่เคยต่อสู้กับออร์คมาก่อน แต่เขาคิดว่าเขาคงสามารถตัดคอมันได้อย่างง่ายดายด้วยพลังของเขา

แต่น้ำหนักขวานของออร์คไม่ใช่สิ่งที่เขารับมือได้ง่ายเลย แต่มันก็ไม่ได้รับมือยากนักเมื่อเทียบกับตอนที่เขาสู้กับอัศวินฝึกหัดของอาณาจักรโอเว่น

“ย้า!”

เขาหักข้อมือตัวเองอย่างแรงเพื่อปัดขวานของออร์คออกไป

"กรร!"

ออร์คตัวนั้นเซไปด้านหลัง แล้วมันก็พุ่งกลับมาหาเขาอีกครั้ง มันคงจะอยากฉีกแขนขาของเขาให้เป็นชิ้นๆ

เด็กฝึกหัดที่เฝ้าดูรู้สึกตกใจกับความบ้าคลั่งของมัน แต่เบอร์เรนก็ไม่ได้กลัวมัน

"กล้าดียังไง!"

เบอร์เรนฟาดดาบออกไปอย่างเกรี้ยวกราด

วูม! วูม! วูม! วูม!

เมื่อออร์คทุ่มขวานของมันลงบนพื้น เบอร์เรนก็เข้าไปฟันดาบลงบนช่องว่างของมันทันที

ฉึก!

เลือดสีแดงออกมาจากไหล่และต้นขาของออร์ค

"อ้ากกกก!"

มันไล่ตามเขามาพร้อมส่งเสียงคำราม ในตอนนี้มันดูดุร้ายยิ่งกว่าเดิม

"ฉันจะจบชีวิตแก!”

เขาเข้าไปอยู่ใต้ตัวออร์ค และแทงดาบขึ้นไป

ฉับ!

ในขณะที่เขากำลังจะตัดหัวออร์ค เบอร์เรนก็หันดาบไปทางขวาแทน ดาบได้ตัดแขนของออร์คออกครึ่งหนึ่ง

“ฮึ่ม…”

เบอร์เรนกัดปาก เขาไม่กล้าตัดคอมันแม้จะมีโอกาสแล้ว

ออร์คยังคงพุ่งเข้ามาหาเขาเหมือนกับกระทิง แม้มันจะได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ไหล่และแขนแต่ความบ้าคลั่งของมันยังคงเหมือนเดิม

ฟึ่บ!

เบอร์เรนใช้จังหวะเท้าของเขาเคลื่อนไปที่ด้านหลังของมันอย่างรวดเร็ว แต่ตอนที่เขากำลังจะตัดหัวของออร์ค ดาบของเขาก็หยุดลงอีกครั้ง

“เวรเอ๊ย!”

เบอร์เรนถอยหลังและสบถออกมา ปลายดาบของเขาสั่น ราวกับว่าเขากำลังกลัว

"เบอร์เรน!”

ริมเมอร์ซึ่งเฝ้าดูการต่อสู้จากบนเวทีตะโกนเรียกสติของเขา

"ถึงจะรู้ว่ามันเป็นมอนสเตอร์ไม่ใช่มนุษย์ แต่ก็ไม่กล้าฆ่ามันใช่ไหม?”

เสียงของเขาเรียบนิ่ง ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น

"เธอใจดีเกินไป ถ้ายังมองมอนสเตอร์นั่นเป็นมนุษย์ก็คงเอาชนะมันไม่ได้หรอก แต่ว่า..."

ริมเมอร์ชี้ไปที่ออร์ค

"อย่างที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ ออร์คตัวนั้นเคยได้ลิ้มรสเลือดมนุษย์มาก่อนแล้ว มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่นักเวทมีก็ได้ฆ่ามนุษย์มาก่อนแล้ว”

"เขาพูดถูก”

เจคพยักหน้ายืนยันสิ่งที่ริมเมอร์พูด

"เธอจะไม่ฆ่ามันตอนนี้ก็ไม่เป็นไรเพราะนี่มันเป็นเพียงการฝึกซ้อม แต่ถ้าเธอหยุดดาบตอนอยู่ในสนามรบมันคงจะจบลงไม่สวยแน่”

“อึ่ก…”

เบอร์เรนเบี่ยงขวานของออร์คออกและฟังคำแนะนำของริมเมอร์ไปด้วย

"และถ้าเธอยอมแพ้เธอคงจะตามเป้าหมายของเธอไม่ทันหรอกนะ เธอจะสู้ต่อหรือเปล่า?”

ได้ยินดังนั้นเบอร์เรนก็หันหน้าไปทางราอน หลังจากได้สบตากับราอน เบอร์เรนก็ปล่อยออร่าออกไปบนดาบมากขึ้น

"กรรร!”

"แก!"

ขณะที่ขวานของออร์คฟาดลงมา เบอร์เรนก็ย่อตัวและเข้าไปใต้ตัวมันอีกครั้ง

“ย้า!”

ดาบของเขาวาดออกไปเป็นครึ่งวงกลม

ฉับ!

เลือดสีแดงพุ่งขึ้นไปบนอากาศ หัวของออร์คตกลงมาและร่างของมันก็ลงไปกองบนพื้น พอมันตาย ร่างมนุษย์ของมันก็กลับไปเป็นออร์คเหมือนเดิม

“แฮ่ก! แฮ่ก!”

เบอร์เรนหอบหายใจและปักดาบของเขาบนพื้นดิน แต่เขาไม่ได้หันหน้าหนี เขามองดูศพของออร์คที่เขาพึ่งฆ่า

"ทำได้ดีมาก”

ริมเมอร์ยิ้ม เบอร์เรนมองไปที่เขาพักหนึ่งแล้วหันหนี นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามองตากันแล้วเบอร์เรนไม่ขมวดคิ้ว

“...”

เบอร์เรนเหลือบมองราอนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วออกไปยืนกับเด็กคนอื่น

เป๊าะ!

เจคดีดนิ้วและศพของออร์คก็หายไป แต่เลือดบนพื้นสนามฝึกยังคงอยู่

"งั้นต่อไปคือ..."

"ฉันเอง!”

มาร์ธาลุกขึ้นยืนและยกมือของเธออย่างมั่นใจ เธอเดินขึ้นไปหาออร์คโดยไม่มีความลังเล

“อืม…”

ราอนมองตามหลังของมาร์ธาที่ดูมั่นใจ แล้วหันไปมองรูนัน

“อึ่ก…”

ขัดกับมาร์ธา ปากของรูนันสั่นในขณะที่เธอมองไปที่เลือดที่นองบนพื้น ใบหน้าของเธอซีดเซียว

ดวงตาของราอนพลันมืดขึ้นมา ที่ผ่านมารูนันมักจะหลีกเลี่ยงการเห็นเลือดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตอนที่เธอต่อสู้กับเด็กฝึกหัดและอัศวินฝึกหัด เธอจะเอาชนะพวกเขาโดยไม่ทำให้พวกเขาต้องมีบาดแผล

ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าที่เธอจะตัดสินใจที่จะต่อสู้แบบนั้นเพราะเธอกลัวเลือด

'เพราะเรื่องนั้น’

ไซเรีย ซัลเลียนแกะสลักความกลัวเข้ามาในตัวเธอโดยการหลั่งเลือดให้เธอเห็น การบีบกระรอกคงจะทำให้เธอนึกถึงความกลัวที่เธอมี

ความเยือกเย็นที่น่ากลัวปกคลุมดวงตาสีแดงของเรออน

'ไซเรีย ซัลเลียน'

'ฉันทำลายสิ่งที่แกทิ้งไว้ให้รูนัน'

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด