ตอนที่ 25 สิ่งที่ชายฉกรรจ์ควรทำ
ทะลุมิติมาสร้างสวนสัตว์ในฝัน ตอนที่ 25 สิ่งที่ชายฉกรรจ์ควรทำ
เมื่อเห็นว่ามีคนมากมายสนใจมาสมัครงานก็ทําให้ฟางเย่มีความสุขมาก ทว่าข้อกําหนดของผู้เข้าสมัครควรมีการกําหนดไว้อย่างชัดเจน
“ข้อกําหนดของเราก็คือ คุณควรเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลินไห่หรือไม่ก็พร้อมที่จะย้ายที่อยู่มาอาศัยอยู่ที่นี่ ที่สวน แล้วโอกาสในการรับสมัครจะเพิ่มขึ้นถ้าคุณเรียนจบในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสัตว์สัตว์เรามีอาหารและที่พักอาศัยให้
หรือไม่ก็เป็นสัตวแพทย์ นักสัตววิทยา นักโภชนาการ หรือไม่ก็...”
คนหลายคนที่พิมพ์มาว่าตัวเองต้องการที่จะมาทํางานที่สวนสัตว์ต่างทําเพื่อความสนุก แม้ว่าเจ้าเสือน้อยจะน่ารักมากและงานของผู้ดูแลจะน่าสนใจแค่ไหน ทว่ามีเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่คิดจะมาสมัครงานที่นี่จริง ๆ
“สวนสัตว์หลินไห่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างกันดาร คุณต้องนั่งรถจากเมืองมาถึงที่สวนสัตว์ประมาณ 1 ชั่วโมง ทําให้มัน ไม่ค่อยจะสะดวกมากนัก ดังนั้นพวกคุณควรคิดให้ดีว่าพร้อมที่จะยอมสละชีวิตของคนเมืองจริงหรือเป็นเพียงแค่ความคิดชั่ว วูบ” ฟางเย่อธิบายข้อเสียของการมาทํางานที่นี่อย่างชัดเจน นั่นทําให้หลายคนที่อยากลองสมัครเล่นๆ ต้องยกเลิกความคิดไป
“ถึงแม้ว่างานในสวนสัตว์จะดูง่ายๆ แต่ความจริงแล้วมันกลับไม่ใช่ พวกคุณจะต้องมีความเข้าใจในสัตว์อย่างดีและรักในสัตว์เหล่านี้ รวมถึงมีความรับผิดชอบต่องานที่ทํา
เขายิ้มแล้วพูดต่อ “แน่นอนว่าพวกคุณสามารถดูและใกล้ชิดกับสัตว์น่ารักเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเสือน้อย สุนัขจิ้งจอกหรือแม้กระทั่งอัลปากา
“เห้อ ที่นั่นมันไกลเกินไป ฉันดูแค่ไลฟ์ของผู้อํานวยการก็พอแล้วล่ะ!”
“ฉันจบทางด้านคอมพิวเตอร์มาแต่มีหัวใจที่รักสัตว์ แต่เหมือนว่ามันจะไม่เข้าท่าแหะ~”
เหล่าผู้ชมที่ไม่สามารถมาได้ต่างพิมพ์มาด้วยความผิดหวัง แม้ว่าอันที่จริง ฟางเย่จะไม่ได้ตั้งความคาดหวังใดๆ ไว้ตั้งแต่ต้นก็เถอะ
นั่นเป็นเพราะผู้ชมที่อยู่ในห้องถ่ายทอดสดนี้ต่างมีมากจากทั่วประเทศ ดังนั้นการจะหาคนที่เป็นคนในท้องถิ่นนั้นยิ่งหาได้ยากกว่าเดิมเสียอีก
เขาจะต้องใช้ช่องทางอื่นในการรับสมัครพนักงานใหม่
ครั้งนี้เขาเพียงแค่ต้องการกระจายข่าวว่าสวนสัตว์หลินไห่ต้องการรับสมัครพนักงานใหม่เท่านั้น
เมื่อเขาหว่านแหออกไปแบบกว้างๆ แล้วหวังว่าจะมีปลาตัวเล็กบางตัวติดกลับมาบ้าง
ในขณะที่เจ้าเสือน้อยที่เดินไปมาก็ร้องออกมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เป็นเพราะมันเดินไปมาเยอะเกินไปจนทําให้มันหิว
ฟางเย่จัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็วและเจ้าเสือน้อยก็กินนมอย่างมีความสุข เหล่าผู้ชมที่ดูเสือน้อยกินนมต่างพิมพ์คําว่า “น่ารัก” กันเต็มไปหมด
หลังจากที่เขาให้มันกินนมเสร็จก็ลูบท้องของมันเพื่อให้มันเรอออกมา จากนั้นก็ปล่อยให้มันหลับอย่างสบายใจ
“เจ้าเสือขาวตัวน้อยกําลังอยู่ในช่วงเติบโต ถ้าถ้าว่าคุณไม่ได้สังเกตมันดีๆ อาจจะทําให้ตอนคุณรู้ตัวอีกครั้ง มันก็ โตขึ้นเยอะจนจําแทบไม่ได้แล้ว ผมหวังว่าพวกคุณจะมาช่วยกันดูการเติบโตของเจ้าตัวน้อยไปด้วยกันนะ!”
“ไลฟ์วันนี้ก็น่าจะจบลงเพียงเท่านี้” ฟางเย่บอกลาเหล่าผู้ชมด้วยรอยยิ้ม
“อ้อ แล้วถ้าใครสนใจก็สามารถช่วยเราตั้งชื่อให้แก่เจ้าตัวน้อยได้ สหายที่เข้าร่วมและได้รับเลือกอาจจะได้รับของขวัญสุดพิเศษจากเราด้วยนะ!”
เหมิงหูฟิตเนส 3 #51853: ฟิตเนสเสือ)
แม้ว่าชื่อของมันจะดูน่าเกรงขามทว่าความจริงแล้วมันกลับเป็นเพียงฟิตเนสธรรมดาที่อยู่ในเมืองเล็กๆ เท่านั้น
ฟิตเนสมีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตรและปูด้วยพื้นซีเมนต์ ไม่มีเครื่องปรับอากาศใดๆ และมีเพียงพัดลมเท่านั้น
เนื่องจากสภาพของฟิตเนสที่ค่อนข้างแย่ทําให้มีเพียงไม่กี่คนที่มาออกกําลังกายที่นี่ และในตอนนี้ก็มีเพียงลูกค้าประจําของฟิตเนสแห่งนี้กําลังพูดคุยกันอยู่
พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้สนสภาพที่ค่อนข้างทรุดโทรมของฟิตเนสแห่งนี้ ไม่แม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเก่าแล้วออกกําลังกายตามจังหวะของตัวเองเองอย่างสบายใจ
“พี่ชายเมิ่ง คุณกําลังดูอะไรอยู่เหรอ? ผมเห็นคุณดูมันตั้งนานแล้ว ทําไมไม่มาออกกําลังกายด้วยกันละ?”
ชายหนุ่มที่กําลังยกดัมเบลพร้อมกับออกกําลังแขนของตัวเองเองตะโกนขึ้นมา
“กําลังดูสิ่งที่ลูกผู้ชายทุกคนควรทํา!”
เพิ่งฉือที่กําลังนั่งอยู่บนเกำอี้พร้อมกับจ้องไปที่โทรศัพท์อย่างจริงจังตอบกลับชายหนุ่มคนนั้นโดยไม่หันหน้าไปมอง
เขาคือเจ้าของฟิตเนสเหมิ่งหูแห่งนี้ และเขาก็ยังเป็นชายที่แข็งแรงที่สุดในหมู่ชายฉกรรจ์เหล่านี้ ด้วยความสูง 2 เมตรและร่างกายที่บึกบึน กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขานั้นแข็งแกร่งราวกับหิน
เพียงแค่ให้เขาไปยืนอยู่หน้าใครสักคนก็ทําให้คนเหล่านั้นกลัวจนไม่กล้าขยับไปไหนแล้ว
“สิ่งที่ลูกผู้ชายทุกคนควรทํา? มันก็แค่เทคนิคการสร้างกล้ามเนื้อหรือไม่ก็การกินอาหารไม่ใช่เหรอครับ”
มีชายอีกคนพูดขึ้นซึ่งทําให้ทุกคนในฟิตเนสแห่งนี้คิดไปในทางเดียวกัน แต่ถ้าพวกเขามาดูที่หน้าจอโทรศัพท์ของ
เมิ่งฉือก็คงพูดไม่ออก
อ่าว! อ่าว!
บนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาคือภาพของเจ้าลูกเสือตัวน้อยที่ล้มลง แล้วพยายามลุกขึ้นพร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างน่า
เมิ่งฉือมองภาพดังกล่าวแล้วยิ้มออกมา
เขาชอบเสือมาตั้งแต่เด็กแล้ว!
เสือคือราชาแห่งสัตว์ป่า ผู้ปกครองผืนป่าและภูเขา!
เป็นสัตว์ที่เต็มไปด้วยพละกําลังอันแข็งแกร่ง
เมื่อเขาเรียนอยู่ชั้นประถม เขาได้ดูการ์ตูนจากทีวีซึ่งเกี่ยวกับสัตว์นานาชนิด นั่นทําให้เขาเก็บเงินจนนํามาซื้อตุ๊กตาเสือ
ที่เป็นตัวละครที่เขาชื่นชอบมากที่สุดในการ์ตูนเรื่องนั้น
น่าเสียดายที่เขาทํามันหายไปในตอนที่ย้ายบ้าน นั่นทําให้เขารู้สึกเศร้าใจอยู่นาน
ด้วยความที่เขาขอขอบในเสืออย่างมาก ทําให้เขาตั้งชื่อฟิตเนสของตัวเองว่าเหมิงหู (เสือ)
เมื่งฉือกดติดตามห้องถ่ายทอดสดของฟางเย่ตั้งแต่วันแรก ซึ่งนับได้ว่าเขาเป็นแฟนคลับกลุ่มแรกของสวนสัตว์หลินไห่
นั่นเพราะภาพของฟางเย่กําาลังเล่นกับเจียวเจียวอย่างมีความสุขทําให้เขารู้สึกอิจฉามาก
เจ้าแมวยักษ์นั่น!!
การเลี้ยงเสือชักตัวเป็นความฝันตั้งแต่วัยเด็กของเขาเลย
ยิ่งไม่นับเจ้าเสือขาวตัวน้อยที่แม้จะยังเด็ก แต่ดูจากท่าทางที่ร่าเริงของมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าในอนาคตมันจะต้องกลายเป็นเสือที่องอาจอย่างแน่นอน
ชิ!
มันคงจะดีถ้าเขาได้สัมผัสและเลี้ยงดูมันด้วยตัวเองเองได้...
เมื่อเขากําลังดูไลฟ์อยู่ก็ได้ยินคําพูดของฟางเย่เข้า “สวนสัตว์กําลังรับสมัครพนักงานใหม่?”
เขาฟังรายละเอียดอย่างตั้งใจ และพบว่าสวนสัตว์มีห้องพักและอาหารให้พร้อม อีกทั้งเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่ว่าเขาจะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างกันดารอยู่แล้ว
เขาเป็นคนประเภททําในสิ่งที่ขอบและจะตั้งใจทํามันอย่างถึงที่สุด
ส่วนเรื่องที่ว่าทําไปนานๆ แล้วเขาจะเบื่อ การนั่งดูคนยกดัมเบลและออกกําลังกายมันไม่น่าเบื่อยิ่งกว่าเหรอ?
การเป็นนักโภชนาการนั้นตัดทิ้งไปได้เลย
ส่วนผู้ดูแลสัตว์ นั่นคืออาชีพที่จะทําให้เขาได้เล่นกับเสือทุกวันไม่ใข่หรือไง?
เพิ่งฉือขบคิดอยู่ซักพักก่อนจะปรบมือพร้อมกับพูดกับเหล่าลูกค้าประจําที่กําลังออกกําลังกายอยู่
“พี่ชายน้องชายทุกคน! ผมมีอะไรจะบอก หลังจากนี้ผมจะเลิกทําฟิตเนสนี้แล้ว! เย็นวันนี้ขอให้ทุกคนมาร่วมกินมื้อ
เย็นครั้งสุดท้ายเพื่อรําลึกถึงมิตรภาพของพวกเราด้วย!!”
ชายหนุ่มที่กําลังยกดัมเบลอยู่พูดขึ้นอย่างตกใจ “เอ่อ...พี่ชายเมิ่ง พี่มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถ้าธุรกิจของคุณมีปัญหาก็มายืมเงินของผมได้นะ”
ชายวัยกลางคนที่ไม่ค่อยจะมีเส้นผมวางบาร์เบลหนัก 20 กิโลกรัมลงไปแล้วพูดอย่างกังวลใจ “เสี่ยวเมิ่ง ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันได้นะ”
เพิ่งฉือสะบัดมือไปมาเป็นการปฏิเสธ “สาเหตุหลักที่ผมเปิดฟิตเนสนี้เพราะผมต้องการฝึกร่างกาย อีกทั้งอยากรู้จักกับคนที่สนใจในการออกกําลังกายเหมือนกัน ผมไม่ได้ต้องการจะใช้ฟิตเนสนี้เพื่อหาเงิน”
“อันที่จริง ผมเห็นสวนสัตว์ประกาศรับสมัครผู้ดูแลสัตว์ แล้วผมก็ขอบเสื่อมากจริงๆ เลยอยากจะไปสมัครเป็นผู้ดูแลสัตว์” เมิ่งฉือพูดอย่างจริงจัง
ทํางานเป็นผู้ดูแลสัตว์?
แม้ว่าทุกคนในฟิตเนสแห่งนี้จะตกใจ แต่ก็สามารถเข้าใจความคิดของเพิ่งถือได้
ต่างคนต่างมีความฝันที่ต่างกัน
ชายหนุ่มคนหนึ่งรู้สึกเสียใจเล็กน้อย จึงยกมือขึ้นพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อไบเซบที่แข็งแรงของต้น “เห้อ....ผมได้คําแนะนําจากพี่ชายเมิ่งมาเยอะแยะเลย!”
เพิ่งฉือทําเพียงแค่หัวเราะ “ถ้าคิดถึงฉัน ก็ไปหาที่สวนสัตว์ได้!!”
ชายหัวล้านเงียบซักพักก่อนจะถามเพิ่งฉือ “เสี่ยวเมิ่ง ถ้าเธอไปทํางานที่สวนสัตว์แล้ว เธอให้ฟิตเนสนี้กับฉันได้ไหม?”
เมิ่งคือไม่คิดอะไรมากแล้วตอบตกลง เพราะพวกเขาเป็นคนคุ้นเคยกันอยู่แล้วและไม่ได้สนใจเรื่องเงินเล็กน้อยอะไร
สุดท้ายก็จบลงด้วยการทําข้อตกลงกันนิดหน่อย
ได้เวลาไปเจอเสือแล้ว!!!