ตอนที่ 22 กินนม
ทะลุมิติมาสร้างสวนสัตว์ในฝัน ตอนที่ 22 กินนม
“ผู้อํานวยการ! ฉ-ฉันมาแล้วค่ะ!”
“ขอบคุณมาก! คุณไปนั่งพักซักหน่อยนะ!”
หลานลี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับถุงในมือ เหงื่อปกคลุมใบหน้าของเธอจนทําให้เธอต้องพักหายใจซักครู่
เธอเงยหน้าขึ้นแล้วลืมตาโตมองไปที่มือของฟางเย่ ในมือของผู้อํานวยการมีเจ้าตัวน้อยขนสีขาวดําอยู่ด้วย!
ลูกเสืองั้นเหรอ??
แถมยังเป็นเสือขาวอีกด้วย!?
“ผู้อำนวยการ...นั่นมัน....” หลานลี่รู้สึกตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ถูก
ฟางเย่รับถุงที่ผู้ช่วยของตัวเองยกมา พร้อมกับยื่นลูกเสือโคร่งขาวตัวน้อยไปให้เธอพร้อมกับพูดอย่างแผ่วเบา “ก็ลูก เสือขาวไง คุณตื่นเต้นเกินไปไหมเนี่ย? ผมฝากคุณดูแลมันหน่อย ไม่ต้องห่วงแค่ดูแลมันอย่างอ่อนโยนแล้วอย่าทําให้ มันกลัวก็พอ!”
หลานลี่รับลูกเสือตัวน้อยมาอย่างระมัดระวังราวกับกําลังถือวัตถุล้ําค่า
เธอแตะจมูกน้อยๆ อย่างแผ่วเบาแล้วรู้สึกราวกับมีสายฟ้าไหลผ่านทั่วร่างกาย “เสือโคร่งขาวจริงๆ ด้วย!”
เธอมองไปที่เจ้าตัวน้อยอย่างรักใคร่แล้วนึกขึ้นได้ “ผู้อํานวยการ คุณไปได้มันมาจากไหนคะ? ถ้าจําไม่ผิดมันมีเสือ โคร่งขาวแค่ไม่กี่ร้อยตัวบนโลกเองไม่ใช่เหรอคะ?”
ฟางเย่กําลังคนนมให้เข้ากับน้ำแล้วหยดน้ำยาผู้พิทักษ์ผสมลงไปพร้อมกับหยดนมหยดเล็กๆ ลงบนมือเพื่อเช็คความน่าจะอุ่นกำลัง
เมื่อเขาได้ยินคําถามของหลานลี่ เขาก็อธิบายไปด้วยคําอธิบายของระบบ “สวนสัตว์จากต่างประเทศบริจาคมาให้นะ”
“เสือโคร่งขาวเป็นสัตว์ล้ําค่าขนาดนี้ สวนสัตว์ที่ไหนถึงยอมบริจาคให้คะเนี่ย!?”
“ก็...สวนสัตว์นั้นเค้ามีปัญหาด้านการเงินอยู่....”
ฟางเยียกเหตุผลมั่วๆ ขึ้นมาเพราะมันไม่จําเป็นจะต้องอธิบายรายละเอียดมากมาย จนหลานลี่ก็พูดขึ้นมาราวกับเข้า ใจอะไรบางอย่าง “ผู้อํานวยการต้องบริจาคเงินให้แก่สวนสัตว์ เค้าเลยส่งเจ้าตัวน้อยมาเป็นข้อตอบแทนสินะคะ!”
“ใช่แล้ว!”
ฟางเย่พยักหน้าอย่างโล่งอกเมื่อไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม
หลานลี่หอมหน้าผากของเจ้าเสือน้อยอย่างระมัดระวัง “เจ้าตัวน้อย! เธอโชคดีมากเลย! ผู้อํานวยการรักสัตว์มาก ๆ
เพราะฉะนั้น เธอจะต้องโตมาอย่างมีความสุขแน่ๆ !!”
“เอาล่ะๆ ให้ผมให้นมมันก่อนที่นมจะเย็นเถอะ”
ฟางเย่ให้ลูกเสือน้อยนอนบนแขนของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้มันหล่น จากนั้นก็ใช้อีกมือหนึ่งหยิบขวดนมขึ้นมาป้อน จากนั้นก็ส่งจุกนมเข้าไปมันอย่างระมัดระวัง
มันกัดเบาๆ แล้วมีน้ำนมไหลออกมา ซึ่งเมื่อมันรู้สึกถึงน้ำนมที่ต้องการก็ใช้ฝ่าเท้าทั้งสองจับข้อมือของเขาไว้ ราวกับกลัวว่าเขาจะเอานมออกไป
แก้มทั้งสองข้างของมันบวมขึ้นอย่างน่ารัก และเสียงดูดที่ดังออกมาเป็นระยะพร้อมกับเสียงคํารามเบาๆ แสนน่ารักราวกับว่ามันกําลังมีความสุข
[อารมณ์ : มีความสุขมาก!]
หลังจากที่ให้นมไปครึ่งหนึ่ง ความเร็วในการดูดนมของมันก็เริ่มช้าลงและร่างกายของมันก็นอนบนแขนของเขาอย่างสบายใจ
ขาหน้าทั้งสองของมันไม่ได้จับข้อมือของฟางเย่อย่างแน่นหนาอีกแล้ว มันกลับใช้อุ้งเท้าเล็กๆ ของมันที่มีเล็บน้อยๆ
ผลักและก็ถอย ผลักแล้วถอยอย่างนั้นซ้ําๆ ไปมา
หลานลี่ที่มองอยู่ด้านข้างก็ยิ้มไปถึงดวงตา “เจ้าตัวน้อยนวดให้ผู้อํานวยการด้วย! น่ารักจัง!!”
คนที่เคยเลี้ยงแมวคงจะคุ้นกับพฤติกรรมนี้
เมื่อแมวอยู่บนหน้าห่มนุ่มๆ หรือบนตักของมนุษย์พวกมันจะนวดพร้อมกับส่งเสียงอย่างมีความสุข ซึ่งมันเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก!
ลูกแมวจะนวดให้แก่แม่แมวเพื่อกระตุ้นให้แม่แมวปล่อยน้ำนมออกมาให้มันมากกว่าเดิม และแม้ว่ามันจะ หยุดกินนมจากเต้าของแม่แล้วแต่พฤติกรรมเหล่านี้ของมันก็จะปรากฏขึ้นเมื่อมันรู้สึกมีความสุข อบอุ่นราวกับกําลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของแม่
ซึ่งนั่นทําให้เวลามันเจออะไรนุ่มๆ ก็จะนวดเพื่อนึกถึงความสุขในช่วงวัยเด็ก
ฟางเย่หัวเราะเบาๆ “เสือก็เป็นหนึ่งในตระกูลแมว ดังนั้น มันก็สามารถนวดได้เหมือนกัน!”
เขาให้อาหารมันอีกประมาณ 10 นาที ซึ่งตอนนั้นก็เหลือนมในขวดไม่มากแล้ว
เจ้าลูกเสือตัวน้อยเลียปากของตัวเองแล้วหยุดดื่มนม และเพราะดื่มนมไปเยอะทําให้พุงของมันกลมราวกับลูกบอล
พร้อมกับนอนหงานอยู่บนแขนของฟางเย่อย่างสบายใจ
อุ้งเท้าข้างหนึ่งว่างไว้บนพุงน้อยๆ ของมัน ในขณะที่อีกข้างห้อยอยู่ข้างตัวแล้วนอนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ฟางเย่ใช้นิ้วลูบไปที่ท้องของมันอย่างแผ่วเบาเพื่อช่วยย่อยอาหารให้มัน
เมื่อถูกฟางเย่นวดท้องให้ ทําให้มันเรอออกมาอย่างน่ารัก
มันขยับตัวไปมาพร้อมกับส่งเสียงร้องครั้งสองครั้ง ซึ่งถ้าเทียบกับการร้องในตอนแรกเพราะหิวแล้ว เสียงของมันดูพอใจอย่างมากหลังจากที่กินจนอิ่ม
หลังจากนั้นซักพัก มันก็หลับตาลงพร้อมกับนอนหลับอย่างสบายใจ
“เจ้าเสือน้อยหลับไปแล้ว~”
ฟางเย่ลูบหน้าผากของมันอย่างแผ่วเบาพร้อมกับพูดด้วยเสียงเบาๆ “หลานลี่ ไปเรียกคนให้มาทําความสะ
อาดห้องอนุบาลสัตว์ แล้วอย่าลืมถ่ายเทอากาศซักหน่อย ปูเสื่อไว้แล้วเตรียมตัวทํางานหนักซัก 2 เดือนนะ!”
“ไม่ลําบากเลยค่ะ! ฉันชอบเจ้าเสือตัวน้อยนี้มากเลย!”
ก่อนจะจากไป หลานลี่บีบมืออุ้งเท้าของมันอย่างแผ่วเบา
ห้องอนุบาลสัตว์ของสวนสัตว์หลินไห่ถูกปล่อยว่างไว้นานมาก ทําให้มันมีฝุ่นเกาะเป็นจํานวนมากจึงต้องมีการทําความสะอาดก่อนที่จะใช้งานได้
ทว่าสําหรับวันนี้คงสายไปแล้ว
ฟางเย่วางแผนที่จะนอนในออฟฟิศเพื่อคอยดูแลเจ้าตัวน้อยในเวลากลางคืน
2 วันถัดมา เขาก็ไปช่วยฝึกสอนการเลี้ยงลูกเสือกับหลานลี่เกี่ยวกับการเลี้ยงดูและการทําความสะอาดร่างกายของลูก เสือในกรณีที่มันขับถ่าย หลังจากนั้นพวกเขาก็ผลัดกันดูแลมันอย่างใกล้ชิด
จากความทรงจําของเจ้าของร่างเดิมและการที่เขาได้รู้จักผู้ดูแลในสวนสัตว์มาหลายวัน เขาพบว่าผู้ดูแลเหล่านั้นยังไม่มีความอดทนเลี้ยงสัตว์เหล่านี้มากพอ
เพียงแค่ดูจากการบันทึกประจําวันก็รู้แล้วว่าเขาเขียนมาแบบลวกๆ
การเขียนสามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจดบันทึกและเรียนรู้เองได้ ทว่าความรักและการอดทนเลี้ยงสัตว์เหล่านี้
อย่างระมัดระวังไม่สามารถสร้างขึ้นได้ในเวลาอันสั้น เพราะพวกเขาจะต้องรักพวกมันจากใจจริง
ให้ผู้ดูแลเหล่านั้นจัดการชีวิตประจําวันของสัตว์ก็เพียงพอแล้ว แต่ฟางเย่ไม่กล้ามอบลูกเสือโคร่งตัวน้อยให้พวกเขาดูแล เพราะถ้ามันเกิดหิวขึ้นมากลางดึกแล้วผู้ดูแลกลับหลับเป็นตาย อาจจะทําให้มันส่งเสียงร้องจนเจ็บคอจนแทบพูดไม่ได้ก็เป็นได้
“เหมือนจะได้เวลารับสมัครคนเพิ่มแล้วสิ!”
สวนสัตว์หลินให่แห่งนี้ต้องการพนักงานที่มีคุณภาพอย่างเร่งด่วน!!