ตอนที่ 21 ไม่ร้องนะ ฉันจะให้นมแกเอง
ทะลุมิติมาสร้างสวนสัตว์ในฝัน ตอนที่ 21 ไม่ร้องนะ ฉันจะให้นมแกเอง
ฟางเย่หยิบฝากล่องออกมาอย่างระมัดระวังแล้ววางมันไว้ข้างๆ อย่างแผ่วเบา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงเพราะกลัวว่าเจ้าลูกเสือตัวน้อยจะตกใจตื่น
บนขนสีขาวของเจ้าลูกเสือตัวน้อยมีลายสีดําพาดอยู่ราวกับถูกน้ำหมึกเปื้อน มันเป็นเสน่ห์ที่ทําให้คนที่มองไม่อยากจะละสายตาไปจากมัน
ฟางเย่มองเจ้าตัวน้อยที่กําลังหายใจอย่างแผ่วเบาก็รู้สึกตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็น!
เขายื่นมือเพื่อจะไปจับมันแต่ก็นึกขึ้นได้ จากนั้นก็รีบวิ่งไปล้างมือของตัวเองอย่างระมัดระวังและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
เมื่อมั่นใจว่ามือของเขาสะอาดดีแล้วยื่นมือเข้าไปหาเจ้าลูกเสือตัวน้อยพร้อมกับลูบขนของมันอย่างรักใคร่ เจ้าลูกเสือยังคงนอนหลับตาอยู่ในความฝันซึ่งท่าทางของมันช่างน่ารักจนใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก
[เสือโคร่งเบงกอล : ไม่มีชื่อ
อายุ : 8 วัน (ทารก)
อารมณ์ : หลับลึก/สงบ]
ฟางเย่สอดมือเข้าไปใต้ท้องของมันพร้อมกับนํามืออีกข้างคอยประคองส่วนเองของมันไว้แล้วยกมันขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
“จากสายตา น่าจะยาวประมาณ 40 เซนติเมตรใช่ไหมนะ? น้ำหนักก็น่าจะประมาณ 1 กิโลกรัม?”
การวัดนํ้าหนักและขนาดตัวของสัตว์จะต้องใช้อุปกรณ์ที่ระมัดระวัง ซึ่งเขาก็มีมันอยู่ในออฟฟิศอยู่แล้ว
ความยาวตัวของสัตว์หมายถึงขนาดความยาวตั้งแต่ปลายจมูกของมันจนถึงปลายหาง, ปลายจมูกถึงโคนหางหรือคอถึงโคนหางหรือปลายหางก็ได้ ขึ้นอยู่ที่สถานการณ์
ฟางเย่วัดขนาดของมันตั้งแต่ปลายจมูกถึงปลายหาง แล้วพบว่ามันมีขนาดความยาวถึง 47 เซนติเมตร!!
มันยาวกว่าการกะขนาดด้วยสายตาของเขาเล็กน้อย แต่นั้นก็เป็นเพราะแค่หางของมันก็ยาวถึง 15 เซนติเมตรซึ่งนับเป็น 1 ใน 3 ส่วนของความยาวของมันแล้ว
หางของเสือที่โตเต็มวัยแล้วจะหนาและแข็งแรงมาก ซึ่งมันไม่ได้ใช้หางเพียงแค่ปรับสมดุลของร่างกายแต่ยังสามารถใช้มันในการโจมตีได้อีกด้วย
ทว่าหางของเจ้าลูกเสือตัวน้อย ช่างบอบบาง ราวกับตะเกียบบางๆ อันหนึ่ง
เขาวางผ้าขนหนูบนเครื่องวัดน้ำหนักแล้วค่อยๆ วางมันอย่างระมัดระวัง ทําให้ทราบว่ามันหนักประมาณ 1,330 กรัม
สําหรับลูกเสืออายุ 8 วัน น้ำหนักตัวและขนาดประมาณนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี!
ฟางเย่หอมหน้าผากเจ้าเสือน้อยอย่างอื่นโยนด้วยรอยยิ้ม “เจ้าตัวน้อยน่ารัก ฉันจะตั้งชื่อแกว่าอะไรดี?”
เมื่อคิดถึงเรื่องชื่อแล้วเขาก็มองไปที่บริเวณโคนหางของมัน
โอ้ เป็นลูกเสือเพศผู้สินะ!!
“เจ้าหนุ่มน้อย จะเอาชื่ออะไรดีนะจะได้เป็นเสือที่แข็งแกร่ง...ยากจังแฮะ ให้ผู้ชมมาช่วยคิดดีไหมนะ? แต่ถ้าพวก เขาคิดชื่อแปลกๆ ขึ้นมามันจะแย่เอาแฮะ...”
ฟางเย่ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองเอง
คิดชื่อนี่มันยากชะมัด!
แต่ในขณะที่เขากําลังคิดอยู่นั้น
เอะ? (ผมจะพิมพ์เสียงลูกเสือร้องยังไงดี5555+ เอาเป็นว่าเป็นเสียงลูกเสือร้องแล้วกันนะ)
ฟางเย่หันไปที่ต้นเสียงแล้วพบว่าเจ้าลูกเสือตัวน้อยตื่นแล้วและกําลังดิ้นไปมาอย่างกังวล
เสียงร้องของลูกเสือนั้นคล้ายกับเสียงร้องของเด็กทารก
เมื่อมองลงไปก็พบว่ามันลืมตาขึ้นมาครึ่งหนึ่ง พร้อมกับหันไปมองซ้ายขวาอย่างสับสนราวกับกําลังหาอะไรบางอย่าง
ดวงตาของมันเป็นสีฟ้าเทา ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเนื่องจากลูกเสือนั้นต้องอายุ 8 - 10 วันก่อนที่พวกมันจะลืมตาได้ ซึ่งในระหว่างนั้นพวกมันก็จะอยู่ในสถานะราวกับกําลังตาบอดนี้ไปก่อน
“เจ้าตัวน้อยเป็นอะไร? หิวแล้วเหรอ?”
เอะ มันส่งเสียงร้องอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง
ฟางเย่ไม่รีรอแล้วใช้ทักษะเพื่อตรวจสอบสถานะของมันทันที
[เสือโคร่งเบงกอล : ไม่มีชื่อ
อารมณ์ : หิว! หิว!
สถานะสุขภาพ : หิว ต้องการดื่มนม (คําแนะนํา)]
(คําแนะนําที่ 1 : หาแม่สุนัขขนาดกลางที่พึ่งมีลูก เพื่อเป็นแม่ให้นมลูกเสือ]
[คําแนะนําที่ 2 : ใช้นมผง ผสมนมผง 1 ช้อนต่อน้ำ 30 มิลลิกรัม และนํามันมาใส่ขวดนมให้แก่ลูกเสือ แนะนําให้ ใช้นมแพะผงสําหรับลูกสุนัข ซึ่งมีโปรตีน ไขมันและทอรีน วิตามิน E และอื่นๆ ที่ดีกว่านมผงทั่วไป โดยควรมีสารอาหารที่ เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูกเสือ หางได้รับนมผงเด็กนานเกินไปอาจจะเกิดอาการขนร่วงได้
[คําแนะนําที่ 3 : เลือกห้องที่อากาศถ่ายเทได้ดีและมีแสงแดดเป็นห้องสําหรับเลี้ยงดู ปรับอุณหภูมิห้องไว้ประมาณ 28 องศาเซลเซียส ทําความสะอาดและฆ่าเชื้อในทุกๆ วัน...
คําแนะนําต่างๆ มีราวละเอียดยิบย่อยมากมาย รวมไปถึงการให้อาหาร การรักษาโรค สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดูและอื่นอีกมากมาย
“โชคดีที่มีทักษะดวงตาสังเกตการณ์...” ฟางเย่ถอนหายใจอย่างโล่งอก การเลี้ยงลูกสัตว์ต้องใช้ความรู้และประ สบการณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าเขาให้นมสําหรับทารกเป็นอาหารให้มันก็ไม่เพียงแต่ทําให้ขนมันร่วง แต่ยังรวมถึงทําให้ลูก เสือตัวน้อยรู้สึกทรมาณอีกด้วย ซึ่งนั่นจะทําให้เขารู้สึกผิดมาก
หน้าจอของระบบมีแจ้งเตือนขึ้นมา
ติ้ง! [ตรวจพบว่าโฮสต์มี “น้ำยาผู้พิทักษ์” ซึ่งคุณสามารถผสมให้แก่ลูกเสือเป็นปริมาณ 3 มิลลิลิตรต่อครั้งเพื่อให้มัน เติบโตขึ้นอย่างสุขภาพดีได้!]
ฟางเย่รู้ว่าลูกเสือที่พึ่งเกิดใหม่นั้นต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี อีกทั้งตอนนี้มันยังมีขนาดที่เล็กมากซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานน้ำยาผู้พิทักษ์
ตามจริงแล้ว สําหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดไม่เว้นแม้กระทั่งมนุษย์ ควรดื่มนมแม่เพื่อพัฒนาภูมิคุ้มกันของลูกเสือ
ทว่าเขาไม่สามารถหาแม่หรือสัตว์มาให้นมกับเจ้าลูกเสือตัวน้อยนี้ได้
ทว่าถึงแม้นมแม่จะมีประโยชน์ต่อลูกอย่างมาก ทว่าสัตว์หลายตัวก็ไม่ยอมให้ลูกของมันกินนม เนื่องจากสําหรับสัตว์แล้ว โดยเฉพาะสัตว์ที่เป็นแม่ครั้งแรกนั้นยังไม่สามารถเลี้ยงลูกของมันได้ดีพอ
เช่นบางครั้งที่มันหลับ มันก็อาจจะพลิกตัวไปทับลูกของมันจนกระทั่งขาดใจตาย ซึ่งเป็นเหตุที่น่าเศร้าอย่างมาก
หรือบางครั้ง เวลาที่มันกัดคอลูกเพื่อที่จะยกไปมา แต่ไม่สามารถควบคุมแรงของมันได้จนทําให้ใช้แรงมากไปจนกัดทะ ลุคอของลูกของมัน ในขณะที่บางตัวรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อให้นมลูก ทําให้มันไม่อยากให้ลูกมาดื่มนมจากเต้าของมัน
สัตว์ป่าที่เติบโตขึ้นมาได้เองตามธรรมชาตินับเป็นสิ่งมีชีวิตที่โชคดีอย่างมาก ซึ่งการให้นมแบบทางเลือกของสวนสัตว์จึงเป็นการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของลูกสัตว์เหล่านั้น
เอะ เอะ
เจ้าลูกเสือตัวน้อยรู้สีกหิวมาก ทําให้มันส่งเสียงร้องจนกระทั่งเสียงของมันแหบแห้ง
ฟางเย่รีบโทรหาผู้ช่วยของตัวเองแล้ว “เห้ หลานลี่ใช่ไหม? ช่วยไปเอานมผงที่โกดังมาให้ผมหน่อย! ขอเป็นนมแพะนะ! เอามาที่ออฟฟิศของผมแล้วอย่างลืมขวดนมด้วย!”
“ค่ะ!” หลานลี่รู้สึกสงสัยเพราะตัวเองได้ยินเสียงร้องของทารกดังขึ้นจากปลายสาย “มีลูกสัตว์เกิดใหม่เหรอเนี่ย?”
ทว่าสวนสัตว์ของเราไม่ได้มีสัตว์ที่ตั้งครรภ์อยู่ไม่ใช่เหรอ?
แม้ว่าเธอจะสงสัยแต่ก็รีบวิ่งไปหยิบของตามคําสั่งของหัวหน้าของตัวเอง ในขณะที่ฟางเย่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแล้วต้มน้ำ
เตรียมไว้ ซึ่งโชคดีที่เขาต้มน้ำไว้ก่อนหน้าแล้วและทําให้เขาต้องทําเพียงอุ่นมันขึ้นมาเท่านั้น
เขาไม่จําเป็นจะต้องทําให้น้ำเดือด เพียงแค่ให้มันอุ่นซักเล็กน้อยก็พอแล้ว
เขาจุ่มนิ้วลงไปในกาต้มน้ำเพื่อวัดความร้อนของน้ำ เมื่อพบว่ามันเริ่มร้อนแล้วปิดไฟทันที
“เจ้าตัวน้อย ไม่ต้องร้องนะ ฉันจะให้นมแกเอง”
ฟางเย่ลูกลูกเสือตัวน้อยพร้อมกับพูดปลอบโยนมันอย่างอ่อนโยน
ทว่าเจ้าลูกเสือตัวน้อยกลับกัดนิ้วมือของเขาอย่างสับสน
จ๊วบ!
หน้าผากของมันย่นจนทําให้ลายบนหน้าผากเบี้ยว หน้าของมันเต็มไปด้วยความจริงจังพร้อมกับดูดนิ้วของฟางเย่อย่าง
แต่ไม่ว่ามันจะดูดไปเท่าไหร่ก็ไม่มีน้ำนมออกมา
ด้วยความที่มันพึ่งเกิดมาได้ไม่กี่วันทําให้อารมณ์ของมันยังไม่ซับซ้อนมากนัก ไม่อย่างนั้นความรู้สึกของมันในตอนนี้คงต้องตั้งคําถามกับตัวเองในชีวิตว่ามันเกิดอะไรขึ้น