(ฟรี)ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 743 ศาลาสวรรค์(3)
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 743 ศาลาสวรรค์(3)
ดวงตาของฉู่เซวียนเป็นประกาย หลังจากตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดบนร่างกายของอี้หลิงหลิง เขาก็พูดว่า “นี่เป็นสถานที่รกร้าง แม้ว่าศาลาสวรรค์จะมียอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างแท้จริง พวกเขาก็จะไม่ส่งยอดฝีมือดังกล่าวมายังที่แห่งนี้”
“ยิ่งกว่านั้น ศาลาสวรรค์ก็ไม่แข็งแกร่ง”
อี้หลิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นางกังวลว่าตนไปจะรุกรานขุมอำนาจใหญ่และสร้างความลำบากให้กับอาจารย์
“ตาเฒ่า เจ้าเห็นอะไร”
ฉู่เซวียนหยิบแผ่นศิลาหยกที่หมองคล้ำขึ้นมาแล้วมองดูมัน จากนั้นเขาก็โยนมันลงบนโต๊ะ
เลี่ยเทียนกำลังเฝ้าดูอักขระ
“อักขระนี้ทำให้ข้านึกถึงขุมอำนาจบางกลุ่ม” เลี่ยเทียนพึมพำ
“หากเจ้ารู้ก็บอกข้ามา”
ฉู่เซวียนสนใจ
พลังที่สามารถดึงดูดความสนใจของเลี่ยเทียนได้นั้นจะไม่อ่อนแออย่างแน่นอน
ในช่วงรุ่งโรจน์ของเขา เลี่ยเทียนเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเต๋าปฐมกาล
“กล่าวกันว่าศาลาไร้สวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยยอดฝีมือขอบเขตเหนือสูงสุด ซึ่งครอบครองสมบัติระดับเหนือสูงสุด นั่นคือศิลาไร้สวรรค์ มันสามารถตรวจสอบต้นกำเนิด ความแข็งแกร่ง และความสามารถอื่น ๆ ของสิ่งมีชีวิตได้”
“ว่ากันว่ามันสามารถสอดส่องมหาเต๋าได้ มีเฉพาะผู้ที่บรรลุขอบเขตเหนือสูงสุดเท่านั้นที่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ มันทรงพลังอย่างมาก”
สีหน้าของเลี่ยเทียนเคร่งเครียดในขณะที่เขาพูดต่อ “ศาลาไร้สวรรค์เคยมีสาขาอยู่ทั่วโลกตะวันสวรรค์ แต่ละสาขาจะมีศิลาไร้สวรรค์ฉบับจำลอง”
“ใครก็ตามที่ทำลายสาขาของศาลาไร้สวรรค์ พวกเขาจะถูกติดตามโดยอักขระ และถูกไล่ล่าโดยศาลาไร้สวรรค์”
ฉู่เซวียนเลิกคิ้วขึ้น ศาลาไร้สวรรค์นี้ฟังดูค่อนข้างน่าสะพรึง
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ อี้หลิงหลิงก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
ดูเหมือนว่านางจะสร้างปัญหาใหญ่แล้ว
“อักขระนี้ต้องได้รับสืบทอดมาจากศาลาไร้สวรรค์ แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์”
เลี่ยเทียนส่ายหัวและทำลายอักขระ
เขามองไปที่แผ่นหยกบนโต๊ะแล้วพูดว่า “มันก็เป็นศิลาไร้สวรรค์ฉบับจำลองเช่นกัน แต่มันก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับศิลาไร้สวรรค์ฉบับจำลองอื่น ๆ ได้”
“ศาลาสวรรค์นี้ต้องได้รับมรดกที่เหลืออยู่ของศาลาไร้สวรรค์”
ฉู่เซวียนเลิกคิ้ว
“ศาลาไร้สวรรค์ถูกทำลายแล้วรึ?”
เลี่ยเทียนกล่าวให้เขาดูน่าเกรงขาม แต่กลับมาพูดเช่นนี้ในตอนท้าย…
เลี่ยเทียนถอนหายใจ
“ในตอนนั้น ศาลาไร้สวรรค์มีส่วนร่วมในมหาสงคราม แม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นพยานในการต่อสู้ แต่ข้าได้ยินมาว่าผู้ก่อตั้งศาลาไร้สวรรค์ได้นำศิลาไร้สวรรค์เข้าร่วมการต่อสู้ ในท้ายที่สุด ศิลาไร้สวรรค์ก็พังทลายและเขาก็เสียชีวิตไป”
“ต่อมา ศาลาไร้สวรรค์ก็ได้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง”
เนื่องจากศาลาไร้สวรรค์ถูกทำลาย มีเพียงมรดกบางส่วนเท่านั้นที่ยังหลงเหลือ
อย่างมากที่สุด ศาลาสวรรค์นี้จะมีเพียงยอดฝีมือขอบเขตเต๋าปฐมกาลเท่านั้น
“เป็นไปได้ที่ศาลาสวรรค์จะได้รับมรดกที่เหลืออยู่ของศาลาไร้สวรรค์ แต่นั่นก็ยังด้อยกว่าศาลาไร้สวรรค์อยู่มากโข”
เขามองไปที่อี้หลิงหลิงแล้วพูดว่า “เสี่ยวอี้ พวกเขาเป็นเพียงมดปลวก การทำลายพวกเขานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เจ้าไม่ต้องกังวล”
“จริงหรือเจ้าคะ?”
อี้หลิงหลิงยังคงมีความกังวลเล็กน้อย
ฉู่เซวียนยิ้ม
“ไม่ต้องกังวล ข้าสามารถจัดการเรื่องเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อี้หลิงหลิงก็รู้สึกโล่งอกเป็นอย่างยิ่ง
ตราบใดที่ไม่ใช่ยอดฝีมือขอบเขตเหนือสูงสุด ฉู่เซวียนก็ไม่กลัว
หลังจากที่อี้หลิงหลิงกลับมาจากการแก้แค้น นางก็ดูมีชีวิตชีวาและสดใสมากขึ้น
ชีวิตก็กลับมาปกติเหมือนเดิมแล้ว
ฉู่เซวียนมักจะไปที่สวนและพาแมวของเขาไปเดินเล่นเป็นครั้งคราว เขาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและสงบสุข
เลี่ยเทียนยังคงปิดด่านต่อไป เขาทนไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตธรรมดาเช่นนี้
หากเขาไม่รู้จักฉู่เซวียน เขาก็คงจะคิดว่าคนผู้นี้เป็นคนธรรมดาด้วยซ้ำ
สิบปีต่อมา อี้หลิงหลิงได้บรรลุขอบเขตสวรรค์
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ในโลกตะวันสวรรค์บรรลุขอบเขตสวรรค์ พวกเขาต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ และจะต้องผ่าฝันมันไปให้ได้
เมื่ออี้หลิงหลิงบรรลุขอบเขตสวรรค์ ก็เกิดสายฟ้าบนท้องฟ้า
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดพวกมันก็ไม่สามารถทำร้ายนางได้
มันไม่สามารถตรวจจับการปรากฏตัวของอี้หลิงหลิงได้
หลังจากที่อี้หลิงหลิงบรรลุขอบเขตสวรรค์ นางยังคงฝึกฝนต่อไปและไม่ได้ออกจากหุบเขา
ฉู่เซวียนไม่รีบร้อน
เมื่อนางบรรลุขอบเขตเต๋า อี้หลิงหลิงจะต้องออกไปข้างนอกและหาประสบการณ์เพื่อสร้างรากฐานการฝึกฝนของนางให้แข็งแกร่ง และรับข้อมูลเชิงลึกเพื่อทะลวงคอขวดต่อไป
ไม่ว่าพรสวรรค์ของนางจะยิ่งใหญ่เพียงใด นางก็ไม่สามารถพึ่งพาการปิดด่านได้เสมอไป
ยิ่งก้าวหน้าไปมากเท่าใด ความเร็วการฝึกฝนก็จะยิ่งช้าลงเท่านั้น
ไม่นานก็ผ่านไปหนึ่งร้อยปี
อี้หลิงหลิงบรรลุขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดแล้ว
นางอยู่ห่างจากขอบเขตเต๋าเพียงก้าวเดียว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่สามารถสัมผัสมหาเต๋าได้จากที่นี่ อี้หลิงหลิงจึงไม่สามารถบรรลุขอบเขตเต๋าได้
ฉู่เซวียนและเลี่ยเทียนสามารถช่วยให้อี้หลิงหลิงทำความเข้าใจในมหาเต๋า อย่างไรก็ตามทั้งสองไม่ได้ทำเช่นนั้น
อี้หลิงหลิงต้องเดินไปในเส้นทางของตนเอง พวกเขาทำได้เพียงให้คำแนะนำแก่นางและเทศนาเต๋าให้นางเท่านั้น แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยให้นางทำความเข้าใจมหาเต๋าได้โดยตรง
หากสิ่งนั้นเกิดขึ้น อี้หลิงหลิงจะทำความเข้าใจเต๋าของพวกเขาแทนที่จะค้นหาของตนเอง และนางก็จะถูกจำกัดไว้ที่ขอบเขตเต๋าปฐมกาล
อี้หลิงหลิงออกจากหุบเขาอีกครั้ง
แคว้นต้าเชิ่งในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อน
มันทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งกว่านั้นยังมีความสงบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ศาลาสวรรค์ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง
จักรพรรดิแห่งแคว้นต้าเชิ่งก็ทำอะไรไม่ถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
อี้หลิงหลิงหายไปแล้ว
ศัตรูของนางว่านเจี๋ยต้องทนทุกข์ทรมานมานานแล้วและเสียชีวิตด้วยความเสียใจ
นางคงจะไม่ปรากฏตัวอีก
จักรพรรดิทำได้เพียงประนีประนอมและปล่อยให้ศาลาสวรรค์ทำสิ่งที่พวกเขาทำ โชคดีที่ขุมอำนาจที่เหลืออยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์
ศาลาสวรรค์ก็เหมือนเดิม พวกเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโลกหรือสร้างความขัดแย้งระหว่างขุมอำนาจ
การจัดอันดับทั้งสามที่หายไปในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แม้ว่าแคว้นต้าเชิ่งจะสงบสุข แต่คนที่อยู่ในอันดับร้อยบุปผาก็ยังต้องทนทุกข์ทรมาน
ในวันนี้ มีร่างที่งดงามปรากฏขึ้นในนครจักรพรรดิ
ไม่มีใครสังเกตเห็นนาง
แม้แต่อันดับสอดส่องสวรรค์ของศาลาสวรรค์ ซึ่งคอยติดตามโลกก็ไม่ได้สังเกตเห็นการมาถึงของหญิงสาว
ตามปกติแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากรวมตัวกันรอบ ๆ ศิลาหิน และพูดคุยเกี่ยวกับการจัดอันดับทั้งสาม ผู้ฝึกยุทธ์อาวุโสพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้เมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว เมื่อการจัดอันดับทั้งสามและศาลาสวรรค์ถูกทำลาย
ตอนนี้ศาลาสวรรค์ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว แต่คนผู้นั้นก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย
หลายคนคิดว่าอี้หลิงหลิงถูกสังหารโดยศาลาสวรรค์
อี้หลิงหลิงมองไปที่ศิลาหินและการจัดอันดับทั้งสาม
นางได้ยินผู้ฝึกยุทธ์คุยกันว่าสาวงามในอันดับร้อยบุปผาต้องผลัดจากคนที่ตนรัก และกลายเป็นของเล่นให้กับเหล่านายน้อยจากตระกูลชั้นสูง
หญิงสาวเหล่านั้นถูกบังคับให้รับใช้แขกคนสำคัญ
มีผู้ฝึกยุทธ์บางคนที่รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งนี้ พวกเขาต้องการประจบประแจงกับนายน้อยตระกูลเหล่านี้เพื่อที่จะได้มีโอกาสได้ลิ้มรสสาวงามจากอันดับร้อยบุปผา
ลำแสงกระบี่ปรากฏขึ้น และศิลาหินก็กลายเป็นฝุ่นผงในทันที
ใบหน้าของอี้หลิงหลิงเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะที่นางมองไปยังบ้านเรือนที่อยู่ไม่ไกล
เนื่องจากอาจารย์และผู้อาวุโสเลี่ยเทียของนางต่างก็กล่าวว่าศาลาสวรรค์นั้นไร้ค่า นางจึงไม่หวาดกลัวศาลาสวรรค์
ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่โดยรอบต่างตกตะลึง
ใครกล้าทำลายศิลาหินและเป็นศัตรูกับศาลาสวรรค์?
ผู้ฝึกยุทธ์อาวุโสบางคนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน
ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้าน
สตรีในตำนานกลับมาแล้ว!
ตามที่คาดไว้ ร่างที่งดงามปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าศาลาสวรรค์
ในขณะนี้ มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าศาลาสวรรค์
หนึ่งในนั้นคือชายชราผู้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสูงสุดขั้นที่ห้า
เขามองไปที่อี้หลิงหลิงอย่างเย็นชาพร้อมกับแผ่นหยกในมือ
“เจ้าเป็นคนที่ทำลายศาลาสวรรค์ในตอนนั้นหรือ?”
อี้หลิงหลิงจ้องมองเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า “ศาลาสวรรค์เป็นบ่อเกิดภัยพิบัติ วันนี้ มันจะต้องถูกทำลายอีกครั้ง”
นางตวัดกระบี่ของนางอย่างไร้ความปรานี
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย
ตู้ม!
ศาลาสวรรค์แตกสลายทันที
แผ่นศิลาหยกเปล่งประกายด้วยลำแสงที่ยิงไปทางอี้หลิงหลิง