1072 - อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ
1072 - อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณคุกเข่ายอมรับความตาย!”
ในท้ายที่สุดหวังเฉิงเทียนก็ตะโกนคำเหล่านี้ด้วยตัวเอง เพราะเขาต้องการทำให้เย่ฟ่านจนต้องปรากฏตัวขึ้น
เขามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าหากเย่ฟ่านปรากฏตัวออกมาจะไม่มีทางรอดชีวิตได้ นั่นก็เพราะเขานำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับผู้อมตะติดตัวมาด้วย
“เจ้าจะไม่ออกมาใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกเจ้าในเรื่องนึง ก่อนหน้านี้พี่น้องของข้าไล่ฆ่าสหายของเจ้า พวกมันถูกปลิดชีวิตราวกับสุนัข วันนี้เจ้าก็ไม่มีทางรอดชีวิตเช่นกัน”
น้ำเสียงของหวังเฉิงเทียนก็กระจายไปทั่วเมืองจักรพรรดิ์และบอกเล่าถึงความตายที่เกิดขึ้นกับสหายเย่ฟ่านสร้างความโกรธแค้นให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
“เขากล้าท้าทายเจ้าถึงขนาดนี้แสดงว่ามีที่ถือดีอย่างแน่นอน” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว
ก่อนหน้านี้ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์โบราณจากภูเขาเทพและตระกูลหวังมากมายถูกฆ่าตาย ต่อให้หวังเฉิงเทียนแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่มีทางกล้าท้าทายเย่ฟ่านออกไปต่อสู้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนการอย่างไม่ต้องสงสัย
“เดี๋ยวข้าจะทำให้เขาประหลาดใจเอง”
เตาหลอมเซียนในฝ่ามือของเย่ฟ่านใสเหมือนผลึก ร่างของเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาเมืองจักรพรรดิอย่างรวดเร็ว
เอี๋ยนอี้ซีและหลี่เทียนติดตามอยู่ด้านหลัง ทั้งสามคนมีรอยยิ้มเย็นชาฉาบอยู่บนใบหน้า
…
ด้านนอกของเมืองจักรพรรดิหวังเฉิงเทียนเผชิญหน้ากับเย่ฟ่านอยู่คนละฟากฝั่งของเมือง เขากล่าวด้วยรอยยิ้มกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“หลังจากที่สังหารเจ้าแล้วข้าจะทำลายหมู่บ้านของพวกคนเถื่อนไปพร้อมกับเจ้าเอง!”
ในขณะนี้ค้อนสีม่วงทองที่เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันท่วมท้นได้ทุบลงมาจากด้านบนอย่างรุนแรง!
“เพียงรัศมีของมันก็สามารถบดขยี้ภูเขาและแม่น้ำที่อยู่ในบริเวณโดยรอบได้แล้ว!”
นี่คือพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังทรงพลังเพียงพอที่จะบดขยี้โลกทั้งใบได้อย่างแน่นอน!
แม้ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์โบราณชิ้นนี้จะได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่มันก็ยังเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุล้ำค่ามากมาย พลังของมันเพียงพอที่จะสังหารครึ่งเซียนทุกคนได้อย่างง่ายดาย
ในระยะไกล บรรดาผู้คนและสัตว์อสูรต่างหลบหนีออกจากสนามรบให้เร็วที่สุด พลังของค้อนกวาดไปทั่วสวรรค์พิภพและทำให้จิตใจของพวกเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง
ดวงตาของหวังเฉิงเทียนเต็มไปด้วยความเย็นชา เขายืนอย่างภาคภูมิใจโดยเอามือไพล่หลัง และปล่อยให้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือทุบทำลายเย่ฟ่านโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงควบคุม
อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตา ใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด และร่างของเขาไม่ทราบว่าถูกโจมตีอย่างไรจึงกระเด็นออกไปไกลกว่าร้อยวาโดยไม่มีโอกาสต่อต้าน
เบื้องหลังของเขาดวงตาของผู้คนจากตระกูลหวังก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่เหตุใดหวังเฉิงเทียนจึงได้รับบาดเจ็บทันทีที่เกิดการปะทะ
ปัง!
ค้อนสีทองม่วงกระเด็นออกจากร่างของเย่ฟ่านก่อนที่มันจะเข้าใกล้เขาในรัศมีสิบวา คลื่นพลังทำลายล้างที่รุนแรงของมันไม่อาจสร้างผลกระทบอะไรให้กับเย่ฟ่านได้เลย
“ค้อนหักของเจ้ายังกล้าเรียกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์อีกหรือ” หลี่เทียนเย้ยหยันจากด้านข้าง
หวังเฉิงเทียนและคนอื่นๆ ตกใจมาก แม้ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาจะไม่สมบูรณ์แต่มันก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน และการที่มันกระเด็นกลับมาแบบนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
ในหัวใจทางขวามือของเย่ฟ่านมีเตาทองแดงขนาดเท่ากำปั้น เปล่งประกายด้วยแสงสีสันสดใส หมอกแสงอ่อนๆ ที่ปล่อยออกมาทำให้ผู้คนจากตระกูลหวังเกิดความหวาดกลัวอย่างไม่สิ้นสุด
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ!”
หวังเฉิงเทียนร่างกายสั่นสะท้าน อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของฝ่ายตรงข้ามมีระดับเหนือกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างไม่อาจเปรียบเทียบกันได้
ในขณะนี้จิตใจของเขาหนาวเหน็บราวกับตกลงไปในหล่มน้ำแข็ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม การเผชิญหน้ากับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับดังกล่าว ต่อให้มีเขาอีกสิบคนก็ต้องตายทั้งหมด
ก่อนหน้านี้เขาเคยต่อสู้กับหวังเฉิงคุนเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูล และในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาเหนือกว่าอีกฝ่ายค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของเขายังคงห่างไกลจากหวังเถิงราวกับสวรรค์พิภพ นั่นทำให้เขาพลาดโอกาสในการเป็นประมุขตระกูลไป
ตอนนี้หวังเฉิงคุนถูกฆ่าตายแล้วและตัวเขาถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นประมุขตระกูลคนใหม่เพราะหวังเถิงไม่เคยสนใจตำแหน่งนี้
ดังนั้นหวังเฉิงเทียนในฐานะประมุขตระกูลหวังคนปัจจุบันจึงมีโอกาสหยิบเอาค้อนทองม่วงซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลออกมาใช้โดยพละการ
ก่อนที่จะมาที่นี่เขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจว่าสามารถจะสามารถจัดการกับศัตรูผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ได้อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดกลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน มิหนำซ้ำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายยังโดนเหมือนจะเป็นครึ่งก้าวอาวุธเต๋าสุดขั้วอีกด้วย
“เหลือเชื่อจริงๆ ก่อนหน้านี้พี่เย่ฆ่าคนไปไม่น้อยแต่พวกเจ้าก็ยังรนหาที่ตายด้วยการท้าทายเขาอย่างต่อเนื่อง” หลี่เทียนเย้ยหยัน
“อย่าฆ่าพวกเรา…”
ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังหวังเฉิงเทียนตัวสั่น ภายใต้อำนาจของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ มันไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาตัวรอดได้เลย
ภายใต้การปลดปล่อยแสงที่สว่างสดใสของเตาหลอมเซียนความว่างเปล่าสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงวาบในมือของเย่ฟ่านยิงเข้าหาค้อนสีม่วงและตรึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนั้นไว้กลางอากาศ
ภายใต้ความช่วยเหลือของเตาหลอมเซียน ค้อนสีม่วงทองถูกดึงเข้าหามือของเย่ฟ่านอย่างช้าๆ โดยที่หวังเฉิงเทียนไม่มีปัญญาต่อต้านได้
“น่าเสียดาย มันเป็นเพียงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่แตกหัก แม้กระทั่งตอนนี้รอยแตกของมันยังคงลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ อาวุธนี้ไม่เพียงทำจากวัสดุที่แย่เท่านั้น แต่ยังบริโภคพลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากอีกด้วย”
เอี๋ยนอี้ซีกล่าวว่า “พี่เย่ตอนนี้พวกเราค่อนข้างขาดแคลนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เก็บมันไว้เถอะ อย่างน้อยเราก็ยังสามารถใช้โจมตีเซียนเทียมระดับสองได้สักสองสามครั้ง”
“ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย” เย่ฟ่านกล่าว
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ค่อนข้างแย่ เมื่อเปรียบเทียบกับปีกสีดำของเผ่าอีกาทอง หรือแม้กระทั่งเตาหลอมเซียนที่อยู่ในมือของพวกเขา
“ไม่คิดว่าข้าจะพ่ายแพ้แบบนี้ แต่เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้!”
หวังเฉิงเทียนเกิดความท้อแท้สิ้นหวังเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เขามั่นใจอย่างยิ่งกลับกลายเป็นเพียงเศษขยะในสายตาของศัตรู
แต่ในฐานะประมุขตระกูลหวังคนใหม่ หวังเฉิงเทียนยังคงมีสมบัติมากมาย ดังนั้นเขากระตุ้นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ให้กลายเป็นม่านพลังสีทองที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาออกจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“ให้ตายเถอะ เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังคงดื้อรั้นอยู่อีก!”
หลี่เทียนกล่าว เขาหยิบเตาหลอมเซียนออกจากมือของเย่ฟ่าน จากนั้นเขาก็บินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อไล่ล่าหวังเฉิงเทียน
ปัง!
แสงที่ถูกยิงออกมาจากเตาหลอมเซียนพุ่งผ่านร่างร่างของหวังเฉิงเทียนและทำให้เขาตกลงมาจากท้องฟ้าโดยไม่อาจป้องกันตัวเองได้
“เจ้า…”
หวังเฉิงเทียนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความคิดทั้งหมดวิ่งผ่านสมองของเขา อย่างไรก็ตามด้วยอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่มีทางหลบหนีจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ได้อีกแล้ว
“เจ้าอะไร!”
หลี่เทียนสะบัดหลังมือตบหน้าหวังเฉิงเทียนก่อนจะใช้ฝ่าเท้าเหยียบศีรษะของฝ่ายตรงข้ามและกดลงไปบนพื้น
“อย่าฆ่าพวกเรา”
ผู้คนจากตระกูลหวังเริ่มคุกเข่าลงบนพื้นและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
“ข้ามีคำถามมากมายอยากถามพวกเจ้า” เย่ฟ่านยิ้ม
“ไอ้สารเลว…”
หวังเฉิงเทียนไม่เพียงดุด่าคนในตระกูล แต่ยังรวมถึงเย่ฟ่านและคนอื่นๆ ด้วย น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเขาดังก้องไปทั่วดินแดนโบราณแห่งนี้
“ปัง”
หลี่เทียนเหยียบย่ำศีรษะของหวังเฉิงเทียนจนบี้แบน จากนั้นเขาก็เริ่มจับตัวของผู้คนในตระกูลหวังมาค้นวิญญาณ
ไม่นานเย่ฟ่านก็ได้รับข้อมูลที่มีค่ามากมาย ในเวลาต่อมาเขาได้ส่งเฉลยทั้งหมดให้กับเผ่าคนเถื่อน
“คนเหล่านี้ล้วนเป็นศัตรูกลับหมู่บ้านของเราทุกคน แน่นอนว่าข้ามีวิธีการมากมายที่จะทำให้พวกมันเจ็บปวดจนรู้สึกเสียใจที่เกิดมาเป็นมนุษย์”
ภายใต้เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผู้คนจากตระกูลหวังถูกนำตัวเข้าไปในป่าลึกเพื่อใช้ป้อนเป็นอาหารของสัตว์อสูร
……