บทที่ 24: เขากำลังขัดขวางทางหาเงินของข้า! ไอ้ตาเฒ่านี้ช่างชั่วร้ายยิ่ง!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 24: เขากำลังขัดขวางทางหาเงินของข้า! ไอ้ตาเฒ่านี้ช่างชั่วร้ายยิ่ง!
ราชสำนักช่วงรุ่งสางได้จบลงอย่างรวดเร็ว
ขณะที่หลินเป่ยฟานกำลังจะจากไป เขาก็บังเอิญเจอกับเหยาเจิ้งอีกครั้ง
เหยาเจิ้งมีสีหน้ามืดมนมาก “ท่านหลิน คราวนี้เจ้าโชคดีไป! เหอะ!”
หลินเป่ยฟานยิ้มประชดชันกลับไป “ท่านเหยา ข้าคิดว่าเจ้าจะกล่าวหาข้าว่ามีการยักยอกด้วยฐานะผู้ตรวจการจักรพรรดินีเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเข้าหอนางโลมเท่านั้นเอง! ถ้าท่านทำเช่นนั้นจริงๆ ข้าคงจะเคารพท่านในฐานะบุรุษ! ทว่าดูเหมือนท่านที่เป็นถึงผู้ตรวจการก็คงจะไม่สามารถรักษาชื่อเสียงของตนได้สินะ!”
ใบหน้าของเหยาเจิ้งพลันมืดมนขึ้นไปอีก
พวกเขาจะกล้าใช้เรื่องนี้เพื่อขัดขวางหลินเป่ยฟานได้ยังไงกัน?
ถ้าพวกเขายกเรื่องการโกงกินขึ้นมา หลินเป่ยฟานก็เรียบร้อย แต่พวกเขาก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ถ้าพวกเขาแพ้ มันจะยิ่งแย่ลงไปอีก!
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้แต่ต้องตัดสินใจทำแบบนี้!
“หลินเป่ยฟาน อย่าทะนงตัวเกินไป เดี๋ยวเราได้เจอกันอีกแน่”เหยาเจิ้งกล่าวขณะที่เขาจากไป
หลินเป่ยฟานโบกมือลาให้ “ท่านเหยา ไม่จำเป็นต้องรีบนะ ข้ารอการแสดงของท่านอยู่!”
หลังจากราชสำนักช่วงรุ่งสางได้จบลง หลินเป่ยฟานก็ไปที่สถาบันแห่งชาติเพื่อรายงานตัว วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกของเขา
เมื่อเขามาถึงสถาบันจักรพรรดิ ตามธรรมเนียม เขาต้องไหว้ผู้นำที่นี่ก่อน
เมื่อได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หลินเป่ยฟานก็เข้าไปในห้องทำงานที่โอ่อ่าและเห็นชายชราอายุประมาณ 60 ปี บุคคลนี้เป็นผู้นำของสถาบันจักรพรรดิชื่อ หลิวฮัวเย่ ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของเขาคืออินเบก เทียบเท่ากับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของสถาบันการศึกษาจักรพรรดิ เขาเป็นข้าราชการระดับสี่และดูแลสถาบันจักรพรรดิมานานกว่าสิบปี เขาได้รับการเคารพอย่างสูง ทั้งในด้านคุณธรรมและชื่อเสียงของเขา
หลินเป่ยฟานโค้งคำนับด้วยความเคารพ “ข้าคือหลินเป่ยฟาน ขอคารวะผู้อาวุโสหลิว!”
หลิวฮัวเย่ทักทายเขาด้วยเสียงหัวเราะอย่างร่าเริง “ข้าราชการระดับสูงได้มาถึงแล้ว! ไม่เลวจริงๆ เจ้าเป็นคนที่มีความสามารถมาก!”
หลิวเป่ยฟานกล่าวอย่างนอบน้อมกลับไปว่า “ท่านผู้อาวุโสหลิว ท่านพูดเกินจริงไปแล้ว!”
“ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก เชิญนั่งเชิญนั่ง!” หลิวฮัวเย่กล่าว
“ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโสหลิว!” หลินเป่ยฟานพูดขณะนั่งลง
ทั้งสองคนดื่มชาและพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนที่มีรูปลักษณ์สง่างามก็มาถึง
หลินเป่ยฟานพลันรู้สึกสับสน “ผู้ใดกันหรือ?”
“ท่านหลิน ให้ข้าแนะนำท่านเอง!” หลิวฮัวเย่ลูบเคราของเขาและยิ้มออกมา “คนผู้คือซุนเทียนเทา ผู้อำนวยการสถาบันจักรพรรดิอีกคนหนึ่ง เขาอยู่ที่นี่มานานกว่าสี่ปีและเป็นผู้ช่วยของข้าที่พึ่งพาได้มากที่สุด!”
หลินเป่ยฟานลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “สวัสดี ผู้อำนวยการซุน!”
“มิควร มิควร ท่านหลิน ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก!” ซุนเทียนเทากล่าวด้วยความเคารพ
เขาไม่สามารถทำให้หลินเป่ยฟานขุ่นเคืองได้เลย แม้ว่าหลินเป่ยฟานจะยังเด็ก แต่อีกฝ่ายก็เป็นข้าราชการที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดและเป็นที่ชื่นชอบของจักรพรรดินี อนาคตของเขาไร้สิ่งใดขวางกั้น!
ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร ไม่มีความไม่ลงรอยกันเลย
หลิวฮัวเย่ยิ้มและพูดว่า “ข้าแก่แล้ว คงไม่มีความสามารถเท่าที่ควร ดังนั้นงานเกือบทั้งหมดที่นี่จึงได้รับการดูแลโดยผู้อำนวยการซุน เนื่องจากภาระงานที่มหาศาล ผู้อำนวยการซุนจึงป่วยหลายครั้งและก็ทำให้ข้าต้องรู้สึกผิด ท่านหลิน ท่านมาถูกเวลาแล้ว มาแบ่งภาระงานให้ผู้อำนวยการซุนกันเถอะ!”
หลินเป่ยฟานพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ได้อยู่แล้ว!"
“น้องชายหลิน เจ้าเก่งเรื่องอะไรงั้นหรือ? บอกข้ามาเลย ข้าจะมอบหมายงานให้เจ้าเอง!” หลิวฮัวเย่กล่าว
จิตใจของหลินเป่ยฟานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง โอกาสในการทำเงินของเขาได้มาถึงแล้ว!
“ขอบคุณผู้อาวุโสหลิวที่ให้โอกาสข้าเช่นนี้! ข้ามีความเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ การบัญชีและการจัดการทางการเงิน ดังนั้นผู้อาวุโสหลิวสามารถมอบหมายงานบัญชีให้ข้าได้เลย!” หลินเป่ยฟานตอบกลับไปอย่างจริงจัง
"ดี! ข้าจะส่งมอบงานนี้ให้กับท่านหลินในภายหลังเอง!” ซุนเทียนเทากล่าวโดยไม่ลังเล
"ขอบคุณขอรับ ท่านซุน!" หลินเป่ยฟานยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ขณะที่หลิวฮัวเย่กำลังมองไปที่สีหน้าอันมีความสุขของหลินเป่ยฟาน ทันใดนั้นเขาก็จำข่าวลือได้ หลินเป่ยฟานไม่เพียงแต่เป็นข้าราชการชั้นนำที่ได้รับตำแหน่งใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นโคตรข้าราชการทุจริตที่โกงกินแบบเป็นกอบเป็นกำ เขาถูกจับได้สองครั้ง ทว่าไม่มีใครรู้ว่าเขาเอาเงินไปเท่าไร ถ้าเขาได้รับอนุญาตให้จัดการบัญชี เขาจะต้องขโมยเงินและเอามันไปหมดแน่
หลิวฮัวเย่จึงพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “ช้าก่อน!”
"มีอะไรงั้นหรือ?" หลินเป่ยฟานมองไปทางหลิวฮัวเย่
“ข้าคิดว่าท่านซุนควรรับผิดชอบงานบัญชีต่อไปเถิด! เขาเป็นผู้ใหญ่และทำงานมานาน คงมีโอกาสน้อยที่จะทำผิดพลาด! ท่านหลิน ทำไมท่านไม่เริ่มจากงานที่ง่ายกว่านี้ก่อนล่ะ!” หลิวฮัวเย่กระแอมไอออกมา
ดวงตาของหลินเป่ยฟานพลันเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เขาได้แต่คิดในใจว่า "เขากำลังขัดขวางทางหาเงินของข้างั้นหรือ! ไอ้ตาเฒ่านี้ช่างชั่วร้ายยิ่ง!"
“เนื่องจากท่านซุนจะยังคงรับผิดชอบด้านการบัญชีต่อไป เช่นนั้นข้าจะจัดการด้านการขนส่งเอง ข้าสัญญาว่าจะจัดการทุกอย่างให้มันถูกต้อง!” หลินเป่ยฟานเสนอที่จะทำหน้าที่ใหม่อีกครั้ง
“ตกลง ข้าจะส่งมอบงานด้านการขนส่งให้กับท่านหลินในภายหลัง!” ซุนเทียนเทากล่าว
“ขอบคุณครับท่านซุนสำหรับการสนับสนุนของท่าน!” หลินเป่ยฟานยิ้ม
“ช…ช้าก่อน!” หลิวฮัวเย่ไอออกมาอีกครั้ง “ข้ายังคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่ให้ท่านซุนรับผิดชอบงานด้านการขนส่ง ท่านหลิน ทำไมท่านไม่เลือกอย่างอื่นล่ะ?”
ดวงตาของหลินเป่ยฟานยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น เขาได้แต่คิดในใจว่า "เจ้านี้ขัดขวางเส้นทางหาเงินของข้าอีกแล้ว! ตาเฒ่าผู้นี้มีนิสัยที่แย่ยิ่งนัก!”
หลิวฮัวเย่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ภายใต้สายตาอันเคียดแค้นของหลินเป่ยฟาน ท้ายที่สุด หลินเป่ยฟานก็พูดงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินอีกหลายอย่าง แต่พวกมันทั้งหมดถูกหลิวฮัวเย่ปฏิเสธโดยไม่ลังเล
หลินเป่ยฟานรู้สึกโกรธมาก จนได้ตะโกนออกมา “ผู้อาวุโสหลิว ท่านทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ท่านขอให้ข้าเสนอขึ้นมา แต่เหตุใดถึงปฏิเสธทุกอย่างที่ข้าพูดกัน ท่านจงใจกลั่นแกล้งข้าหรือ?”
หลิวฮัวเย่รู้สึกอับอายเล็กน้อย จึงได้พยายามปลอบโยนเขา “ท่านหลิน ท่านสามารถรับผิดชอบวินัยของนักเรียน การศึกษาทางศีลธรรมและงานวิชาการได้ ในฐานะข้าราชการชั้นนำที่มีผลการสอบที่ยอดเยี่ยม ท่านคงเหมาะมากกับงานนี้! เช่นนั้นเราก็แบ่งหน้าที่กันชัดเจนแล้ว! ข้ามีเรื่องอื่นที่จะคุยกับท่านซุนต่อ ดังนั้นข้าคงจะไม่รั้งท่านหลินไว้อีกต่อไป ลาก่อน!”
ด้วยเหตุนี้ หลินเป่ยฟานจึงคล้ายกับถูกไล่ออกมาจากห้อง
หลินเป่ยฟานได้แต่เงียบกริบกับสิ่งที่เกิดขึ้น