บทที่ 100 - การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกครั้งที่ 23
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 100 - การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกครั้งที่ 23
“100 เท่า?”
บาร์ดัครู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาตระหนักได้เลยว่าความแตกต่างระหว่างเขากับหลินเฉินนั้นเหมือนสวรรค์และโลกาจริงๆ
แต่คำพูดของหลินเฉินก็ชี้ให้เห็นถึงวิธีที่บาร์ดัคจะแข็งแกร่งขึ้นได้
ถึงเขาจะไม่มีพรสวรรค์ในการพัฒนาความแข็งแกร่งต่อไป แต่สิ่งที่เขาได้ยินในวันนี้อาจช่วยลูกชายของเขาในอนาคตได้
“เช่นนั้น บาร์ดัค ฮันนาห์ โจมตีได้!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหลินเฉิน พวกเขาก็รู้สึกตัว
"สู้!"
บาร์ดัคคำรามออกมาด้วยความโกรธ แต่คราวนี้เขาไม่ได้ยับยั้งอะไรเลยและพลังงานทั้งหมดในร่างกายของเขาก็ปะทุออกมา
ฮานาเซียก็พร้อมเช่นกัน ทันทีที่นางรวบรวมพละกำลังทั้งหมดของนาง นางก็ยิงคลื่นพลังงานเข้าหาหลินเฉิน
ในยามนี้ พลังงานที่เพิ่มขึ้นรอบๆ ตัวหลินเฉินกำลังพุ่งสูงขึ้น พื้นดินและอากาศพลันสั่นสะเทือน
ตู้ม!
บนดาวนี้ เสียงดังกึกก้องได้ดังขึ้นในทันทีและทุกอย่างก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทองที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน
อึก...
เมื่อแสงหายไป ฮานาเซียและบาร์ดัคก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติไปแล้ว
…….
หลังจากนั้นไม่นาน ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่มีบ้านหลังหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่ทราบ หลินเฉินได้ให้กาแฟร้อนแก่ฮานาเซียและบาร์ดัคคนละแก้ว
“ขอโทษด้วย ดูเหมือนว่าข้าจะใช้พละกำลังมากเกินไปหน่อย”
“ฝ่าบาท ท่านรังแกข้า…” ฮานาเซียกล่าวด้วยความโศกเศร้า
ส่วนบาร์ดัคได้แต่ลูบศีรษะของเขาด้วยความเจ็บปวด
"ฮ่าฮ่าฮ่า" หลินเฉินหัวเราะออกมา
แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ในการลดความแข็งแกร่งของเขาแล้ว แต่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นใหญ่เกินไป ซึ่งทำให้ฮานาเซียและบาร์ดัคถูกทุบตีฝ่ายเดียว
“ต้องขอบคุณเจ้า ตอนนี้ข้าเชี่ยวชาญการเปลี่ยนร่างใหม่อย่างเต็มที่แล้ว”
ด้วยการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หลินเฉินจึงรับรู้ว่าเขาสามารถควบคุมรูปร่างซูเปอร์ไซย่า 2 ในตำนานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยพลังจิตในปัจจุบันของเขา
เขารู้สึกสงสัยเหลือเกินว่ามันจะมีการเปลี่ยนร่างอื่นนอกจากซูเปอร์ไซย่าร่าง 2 ในตำนานอีกไหม? หรือจะเป็นซูเปอร์ไซย่าร่าง 3 ในตำนาน? หรือเป็นแบบอื่นไปเลย?
หลินเฉินสูดหายใจเข้าลึกด้วยความรู้สึกคาดหวัง
ทว่าด้วยความเร็วในการฝึกของเขายามนี้ ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไปถึงระดับเทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง
“ว่าแต่ยามนี้ปีไหนแล้ว?”
ทันใดนั้นหลินเฉินก็ตระหนักว่าเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัวเลย
“ฝ่าบาท เวลาของโลกคือปี 756 แล้ว ประมาณเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม” บาร์ดัคกล่าวตอบ
เมื่อเห็นว่าเขาจำเวลาโลกได้ชัดเจนเพียงใด ก็เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสนใจกับโลกหรือโกคูลูกชายของเขามาก
“ถ้าอย่างนั้นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้โลกครั้งที่ 23 จะถูกจัดขึ้นเร็วๆ นี้สินะ? ข้าจำได้ว่าข้านัดกับไทต์ว่าจะดูด้วยกัน…ฮันนาห์ ช่วงนี้เจ้าได้พบนางบ้างหรือเปล่า?” หลินเฉินเอ่ยถาม
ฮันนาห์ส่ายศีรษะตอบ: “ไทต์ปิดประตูเขียนนวนิยายไม่ต้อนรับใคร ข้าเองก็ไม่ได้เจอนางนานแล้วเช่นกัน”
“ถ้าอย่างนั้นคราวนี้เราไปดูด้วยกันเลยดีกว่า แล้วเจ้าล่ะบาร์ดัค?”
บาร์ดัคชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะไปด้วย”
“ไปด้วยกันเถอะ! แต่เราจะกลับไปยังดาวเคราะห์เบจิต้ากันก่อนนะฮันนาห์!”
"ทราบแล้วเพคะฝ่าบาท!"
“คือว่าฝ่าบาท ข้ามีบางอย่างอยากจะถามความเห็นของท่าน…” บาร์ดัคได้พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?"
บาร์ดัคลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ฝ่าบาท เพราะเรามีผลของต้นไม้แห่งชีวิต ระดับพลังโดยเฉลี่ยของชาวไซย่าบนดาวเคราะห์เบจิต้าจึงเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขากับคาคารอทกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ”
“ข้าจึงกำลังพิจารณาว่าควรไปให้คำแนะนำแก่ลูกชายของข้าหรือไม่ แต่ข้าจำได้ว่าท่านเคยบอกว่าไม่ควรรบกวนการฝึกของคาคารอทบนโลก ดังนั้น …”
อืม...
หลินเฉินเข้าใจดีว่าบาร์ดัคกำลังจะพูดอะไร
ยามนี้เมื่อมีวิชาสัมผัสพลังบนดาวเคราะห์เบจิต้า ระดับพลังโดยเฉลี่ยของชาวไซย่าจึงแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน
ในทางตรงกันข้าม โกคู ซึ่งเป็นชาวไซย่าได้เติบโตขึ้นและห่างไกลจากเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของเขา
หลินเฉินชอบโกคูและตัวละครต่างๆ จากงานต้นฉบับมาก เขาย่อมไม่ต้องการรบกวนผู้คนบนโลก เพราะเขาไม่ต้องการเปลี่ยนเนื้อเรื่องมากเกินไป
แต่ตอนนี้ เนื้อเรื่องจากงานต้นฉบับอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป คงถึงเวลาที่หลินเฉินจะต้องเข้าไปแทรกแซง
ดังนั้นหลินเฉินจึงกล่าวกล่าว "ได้! บาร์ดัค หลังจากการแข่งขันนี้จบลงแล้ว เรามาฝึกสอนคาคารอทกันเถอะ แต่เจ้าต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ บาร์ดัคก็รู้สึกยินดีมาก: “หากฝ่าบาทยินดีที่จะช่วย นั่นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับข้าแล้ว”
เวลาของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้โลกใกล้เข้ามาทุกวัน หลินเฉินและอีกหลายคนได้ไปที่โลกก่อนเวลา เพื่อดูการแข่งขัน
วันที่ 7 พฤษภาคม ณ เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับ ท้องฟ้ามีเมฆหนาทึบและมีฝนตกไหลลงมาอย่างแผ่วเบา
หลังจากพบกับครอบครัวของดร.บรีฟ บูลม่า อูลอน ปูอัลและคนอื่นๆ ก็มาถึงทางเข้าหลักของสถานที่ด้วยกัน
ทันทีที่พวกเขาลงจากรถ พวกเขาก็เห็นผู้เฒ่าเต่าและรันจิถือร่มอยู่
“ไง! บูลม่า! อูลอน ปูอัล!” รันจิทักทายพวกเขาในขณะที่โบกมืออย่างกระตือรือร้น
เมื่อมองไปที่ชุดของบูลม่า เลือดของผู้เฒ่าเต่าก็เดือนพล่านจนพุ่งออกมาจากจมูก
แต่ทันใดนั้น ผู้เฒ่าเต่าก็รู้สึกว่าเส้นขนบนร่างกายของเขาหยุดนิ่ง
เพราะเขาได้เห็นหลินเฉินผู้น่ากลัว
“ผู้เฒ่าเต่า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หลินเฉินยิ้มและโบกมือให้
“ฮ่าๆ ไม่ได้เจอกันนานเลย” ผู้เฒ่าเต่าหัวเราะอย่างเชื่องช้าและหันไปหาบูลม่ากับคนอื่นๆ ทันทีเพื่อทักทายพวกเขา
เขาไม่กล้าสร้างความขุ่นเคืองให้กับหลินเฉินที่เป็นสัตว์ประหลาดได้จริงๆ
โชคดีที่หลังจากทักทายกันเสร็จแล้ว หลินเฉินและไทต์ก็เริ่มพูดคุยกัน
“หลินเฉิน บาร์ดัคและกิเนมาที่โลกกับท่านไม่ใช่เหรอ พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน?”
“ข้าบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ? ยามนี้โกคูโตขึ้นมาก เขาเกือบจะเหมือนกับบาร์ดัคแล้ว เขาไม่กล้าที่จะมาที่นี่เพราะกลัวว่าจะถูกรู้เข้า” หลินเฉินอธิบาย
"เอาจริงเหรอเนี่ย! ชาวไซย่านี้มันอะไรกัน! พ่อกับลูกชายพบกันไม่ใช่เรื่องอะไรผิดปกติสักหน่อย" ไทต์พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
ในยามนั้นเอง ไทต์ได้หยุดพูดและหันกลับมามองไปที่ด้านหนึ่ง หลินเฉินและฮานาเซียก็มองไปในทิศทางนั้นด้วยเช่นกัน
“มีพลังออร่ากำลังพุ่งมาห้าจุด” ไทต์กล่าว
“ระดับพลังงานเฉลี่ยมากกว่า 400 ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลัง 500…ใช่ คาคารอทกับคนอื่นๆ หรือเปล่า?” ฮานาเซียคาดเดา
ส่วนหลินเฉินก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าโกคูและคนอื่นๆ จะแข็งแกร่งกว่างานต้นฉบับมากขนาดนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างทั้งห้าก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและหยุดอยู่ตรงหน้าผู้เฒ่าเต่าและคนอื่นๆ
“คุริริน เทนชินฮัง หยำฉา เจาสึ พวกเจ้ามากันแล้วสินะ!” ผู้เฒ่าเต่าและบูลม่าเองก็มารวมตัวกันรอบๆ พวกเขา
“ทุกคนไม่ได้เจอกันนาน เลย!”
ทั้งสี่คนทักทายพวกเขาพร้อมด้วยรอยยิ้ม
"โอ้ ในที่สุดพวกเจ้าก็กลับมาเสียที! ข้าไม่ได้พบเจอพวกเจ้ามาสามปี พวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้เลยหรือ?” ผู้เฒ่าเต่ามองไปที่พวกเขาทั้งสี่และพูดออกมาด้วยความยินดี
“หลังจากที่เราไปยังหอคอยคารินร่วมกับโกคู เราก็ฝึกที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งปีและจากนั้น เราจึงมีคุณสมบัติเข้าไปสู่วังพระเจ้า” คุริรินพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
"วังพระเจ้า? น่าทึ่งมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเจ้าทั้งสี่แข็งแกร่งขึ้นพอสมควร“ผู้เฒ่าเต่ากล่าวด้วยความชื่นชมจากใจจริง”ว่าแต่แล้วโกคูล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่มากับพวกเจ้า?”
"โกคู? เขาอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?” คุริรินชี้ไปข้างหลังเขาด้วยความประหลาดใจ
จากนั้นผู้เฒ่าเต่าและคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นว่าด้านหลังของพวกเขาทั้งสี่คือชายหนุ่มที่ดูคุ้นเคย
บูลมาขยี้ตาและมองไปที่ชายหนุ่มผู้นั้นอย่างสงสัย นางกลืนน้ำลายและถามอย่างไม่อยากจะเชื่อไปว่า “เอ่อ เป็นไปได้ไหมว่า…เจ้าคือโกคู?”
"เป็นข้าเอง! เจ้าจำข้าไม่ได้เหรอ นี่ผ้าพันรอบหัวข้าไง?”
โกคูพูดและถอดผ้าที่พันรอบศีรษะของเขาออก
“นั่นมันโกคูจริงๆ ด้วย!”
ผู้เฒ่าเต่าและคนอื่นๆ พลันรู้สึกตกตะลึงกันเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าเด็กน้อยตัวเล็กผู้นั้นจะเติบโตเป็นชายที่หล่อเหลาและสูงใหญ่เช่นนี้
.