นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 181 - แผนการลอบสังหาร
ผู้ชายคนที่พวกเขาเรียกว่าหัวหน้า ‘ไพธ่อน’ เป็นชายหนุ่มที่มีผมยาวสีม่วง มันถูกมัดรวบเป็นหางม้าเอาไว้อย่างดีที่ด้านหลังของศีรษะ
เขายังจ้องรายละเอียดข้อมูลของเป้าหมายบนหน้าต่างโฮโลแกรมเงียบ ๆ ใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยปากออกมาในที่สุด
“จากเวลาที่พวกเรามีอยู่ ฉันคิดว่า 7 เป้าหมาย! พวกเราน่าจะจัดการได้ 7 เป้าหมายเท่านั้น!”
และด้วยการยกมือขึ้นโบกอย่างง่าย ๆ รายละเอียดที่อยู่บนหน้าต่างโฮโลแกรมก็เริ่มเปลี่ยนไป มันเหลือแสดงภาพของนักเรียนเพียงคนเดียวเท่านั้น ‘สเติร์ม’ มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาปรากฏอยู่พอสมควร แต่ที่สำคัญที่สุด มันมีตำแหน่งปัจจุบันแสดงเอาไว้ด้วยอย่างชัดเจน
สีหน้าของไพธ่อนนั้นเรียบเฉย น้ำเสียงที่กล่าวสั่งการออกมาก็ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาแม้แต่นิดเดียว “เจ้าคนนี้คือเป้าหมายของนาย จากข้อมูลที่มี ความแข็งแกร่งของเขานั้นสูงพอสมควร แต่มันไม่น่าจะเกินความสามารถของนายหรอก” เขาหันหน้าไปทางสแปรโรว์ และระบุเป้าหมายให้เขาเป็นคนแรก
แต่ดูเหมือนว่าสแปรโรว์จะไม่ชอบใจนัก เข้ารีบโต้แย้งออกมาทันที “หัวหน้า! เจ้าหมอนี่อ่อนที่สุดในหมู่เป้าหมายครั้งนี้แล้ว ทำไมหัวหน้าไม่....” เสียงของเขาเริ่มเงียบลงเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดลงในที่สุด เหงื่อเย็น ๆ ผุดออกมาจากหน้าผาก และรีบก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องเข้ามาอย่างเย็นชาอย่างไม่เต็มใจนัก
ดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับเป้าหมายที่ได้รับมอบมาแล้ว แม้ว่าจะไม่เต็มใจมากนัก สังเกตได้จากฟันที่กัดกันแน่น และแววตาที่ไม่ยินยอม
ไพธ่อนไม่สนใจกับท่าทางที่เขาแสดงออกมาเลย เมื่อสแปรโรว์เงียบเสียงลงไปแล้ว เขาก็สะบัดมืออีกครั้ง ภาพบนหน้าต่างโฮโลแกรมก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
คราวนี้รูปของ ‘จานีน’ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว ทั้งทักษะการเสริมสร้างร่างกาย ทักษะการต่อสู้ หรือแม้กระทั่งทักษะการเคลื่อนไหว และแน่นอนที่สุด ตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของเธอ มันเป็นข้อมูลที่มีรายละเอียดอย่างน่าเหลือเชื่อทีเดียว
ไพธ่อนใช้เวลาตัดสินใจไม่นานนัก หลังจากใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลแค่ไม่กี่วินาที เขาก็หันหน้าไปทางผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่ม ก่อนจะเอ่ยมอบหมายออกไป “สาวน้อยคนนี้! ยกให้เป็นหน้าที่ของเธอก็แล้วกัน”
สเน็กพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “ได้เลยหัวหน้า ฉันจะทำให้ดีที่สุด” ไม่เพียงแต่เธอจะไม่โต้แย้งเท่านั้น สายตาที่มองไปยังชายหนุ่มหัวล้านที่ชื่อสแปรโรว์นั่น มันเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยอย่างชัดเจน นี่ยิ่งทำให้สีหน้าของเขายิ่งเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
และดูเหมือนว่าเขาจะเอ่ยอะไรสักอย่างที่เลวร้ายออกมาเบา ๆ เป็นการตอบโต้ แม้ว่าจะได้ยินไม่ชัดเจนนัก แต่มันก็ทำให้ให้สีหน้าของสเน็กเปลี่ยนเป็นดำมืด และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโหโกรธา ลมหายใจแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันชัดเจนเลยว่าถ้าไพธ่อนไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ด้วย สเน็กน่าจะลงมือโจมตีสแปรโรว์ไปเรียบร้อยแล้ว
แต่สแปรโรว์ก็สะใจอยู่ได้แค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เหงื่อเย็น ๆ ที่เพิ่งจะแห้งไปไหลรินออกมาอีกครั้ง เมื่อเขารู้สึกได้ถึงสายตาที่เย็นชาของหัวหน้ากลุ่ม มันทำให้เขาต้องก้มหน้าต่ำลงไปมากกว่าเดิมอีก
“ถ้านายพูดอะไรอย่างนั้นออกมาอีก ฉันจะไม่ปล่อยให้นายมีโอกาสทำหน้าที่อะไรในภารกิจครั้งนี้ต่อแน่” ไพธ่อน กล่าวเตือนออกมาเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับหน้าต่างโฮโลแกรมอีกครั้ง
และเขาใช้เวลาไม่นานนัก มอบหมายหน้าที่ให้กับ 2 คนที่เหลือจนเสร็จสิ้น
หลังจากนั้น ไพธ่อนก็เริ่มขยับมือจัดหน้าต่างโฮโลแกรมใหม่อีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้มีข้อมูลของนักเรียนเพียงคนเดียวปรากฏขึ้นมาอีกต่อไปแล้ว มันมีภาพของนักเรียนชาย 2 คนและนักเรียนหญิง 1 คนปรากฏขึ้นมาพร้อมกันเลย
นักเรียนชายคนแรกเป็นเด็กหนุ่มชาวเอเชียที่มีผมสีฟ้ามัดเป็นหางม้าเอาไว้อย่างเรียบร้อย ไพธ่อนขยับมือหมุนภาพให้เปลี่ยนมุมเรื่อย ๆ เพื่อสังเกตลักษณะท่าทางและรูปร่างอย่างละเอียด รูปที่ใช้ประกอบขึ้นเป็นข้อมูลนี้มีความละเอียดที่สูงมาก มันเห็นแม้กระทั่งขี้แมลงวันที่อยู่ด้านหลังหูซ้ายเสียด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกฝน และตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันจะถูกแสดงเอาไว้เช่นกัน
นักเรียนชายคนที่ 2 เป็นชายหนุ่มร่างท้วมที่ดูฉลาดเฉลียวและมีไหวพริบ รูปของเขานั้นโดดเด่นออกมามากที่สุด แต่นั่นอาจจะเป็นเพราะขนาดตัวที่อ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าคนอื่นก็ได้ และนี่ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเด็กหนุ่มจ้ำม่ำอารมณ์ดี ‘ดราวิน’ นั่นเอง
ส่วนคนสุดท้ายที่อยู่ในหน้าต่างโฮโลแกรมในตอนนี้ เป็นนักเรียนหญิงที่มีดวงตาสีเขียว และใบหน้าที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง รูปร่างของเธอนั่นยิ่งเป็นสิ่งที่ยั่วยวนหัวใจผู้ชายทุกคนมากที่สุด มันดูสมบูรณ์แบบมาก เจ้าของภาพและข้อมูลที่ปรากฏอยู่ก็คือ ‘ฟิลลิดา’
สายตาของไพธ่อนมองสลับไปมาระหว่างภาพของนักเรียนทั้ง 3 คน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะให้ความสนใจกับภาพของ ‘ลู่ฟง’ และฟิลลิดามากกว่าดราวินมาก จากข้อมูลที่ปรากฏอยู่ ดูเหมือนว่าทั้ง 2 คนนี้จะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่สามารถสร้างความยากลำบากให้แก่เขาอยู่ได้บ้าง
ในขณะที่ข้อมูลของดราวิน ไม่แสดงว่ามีความแข็งแกร่ง หรือความสามารถทางด้านการต่อสู้ที่คู่ควรกับสายตาของเขาแม้แต่นิดเดียว สิ่งพิเศษที่ทำให้ดราวินมีรายชื่ออยู่ในลิสต์นี้ เป็นแค่เพียงข้อสงสัยที่ว่าเขาอาจจะเป็นนักพันธุศาสตร์ระดับอัจฉริยะคนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้าเรียนในสถาบัน แต่ความสามารถทางด้านพันธุศาสตร์ของเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับผู้ช่วยนักพันธุศาสตร์เรียบร้อยแล้ว มันเป็นเพียงสิ่งที่อัจฉริยะเท่านั้นที่จะทำได้
และดูเหมือนว่าองค์กรที่ไพธ่อนสังกัดอยู่จะมีอำนาจ และเครือข่ายที่กว้างขวางไม่น้อยเลยทีเดียว ข้อมูลลับระดับสูงแบบนี้ยังสามารถรวบรวมออกมาได้ นี่ต้องไม่ใช่องค์กรระดับธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน!
“เป้าหมาย 3 คนนี้ ฉันจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง! พวกเราจะกลับมาพบกันที่นี่เวลา 03.30 ทำทุกอย่างให้เรียบร้อย และแน่ใจว่าจะกลับมาได้ตรงเวลา ระหว่างที่ลงมือให้ปกปิดร่องรอยให้ดีที่สุด อย่าให้เหลือเบาแสใด ๆ ที่จะเชื่อมโยงกลับมาถึงองค์กรของพวกเราได้เป็นเด็ดขาด” ในที่สุดไพธ่อนก็กล่าวสั่งการออกมาเป็นครั้งสุดท้าย น้ำเสียงของเขาเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาเป็นอย่างมาก
“เริ่มลงมือได้เลย!”
หลังจากคำสั่งสุดท้ายหลุดออกมาจากปาก คนที่เหลือพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว และเริ่มขยับแยกย้ายกันไปในทิศทางต่าง ๆ ทันที การเคลื่อนที่ของพวกเขานั้นเงียบกริบ มันไม่เหมือนกับการเคลื่อนไหวของมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
ไพธ่อนยังยืนนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิม เขากำลังวางลำดับของการปฏิบัติงานให้กับตัวเอง ในความคิดของไพธ่อน คนที่แข็งแกร่งที่สุดน่าจะต้องเก็บเอาไว้เป็นคนสุดท้าย เขาควรเริ่มต้นจากคนที่อ่อนแอก่อน มันจะช่วยเพิ่มความตื่นตัวและโมเมนตัมในการลงมือของตัวเองให้เพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดก่อนการลงมือครั้งสุดท้าย ไพธ่อนเป็นคนเดียวที่รับเป้าหมายถึง 3 คน เขากำลังรวบรวมสมาธิของตัวเอง ทุกอย่างต้องเงียบเชียบ และที่สำคัญที่สุด มันต้องรวดเร็ว!
....................
เดวิดสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน มีคน ‘โทร’ เข้ามาหาเขาด้วยเครือข่ายภายนอก?
สีหน้าของเขาแสดงความหงุดหงิดที่ถูกรบกวนการนอนออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังตอบรับการติดต่อ และกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวเป็นอย่างยิ่ง
“นั่นใคร?”
“เฮ้! ฉันเอง! ดราวิน! จำฉันได้ใช่มั้ย?” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาในหัวของเขาโดยตรง ในดวงตานั้นมีแสงกระพริบอยู่เป็นจังหวะ
“มีเรื่องอะไร?” เดวิดถามเข้าเรื่องทันที เมื่อรู้ว่าคนที่ขัดจังหวะการพักผ่อนของตัวเองคือใคร อารมณ์ของเขาก็ยิ่งขุ่นมัวมากขึ้นไปอีก ‘เจ้าหมอนี่ยังคิดที่จะทำอะไรอีก เอาคะแนนจีโนของฉันไปตั้งเยอะยังไม่พออีกหรืออย่างไร’ ในใจของเขาแล้ว ดราวินคือหัวขโมยตัวร้าย และดูเหมือนว่าการติดต่อเข้ามาในครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องดีเสียด้วย
“ฮี่ฮี่” เสียงที่ปลายสายหัวเราะแบบอาย ๆ เล็กน้อยออกมา
“นายจำได้มั้ยว่ารับปากจะช่วยฉันครั้งหนึ่ง? ตอนนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือแล้ว” ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย ดราวินก็ไม่มีคำพูดไร้สาระอะไรออกมาเลย
แต่ข้อความที่เขาเอ่ยออกมาทำให้เดวิดอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนที่จะคำรามสวนออกไป “นายคิดจริง ๆ นะหรือว่าฉันจะช่วยนาย แค่การรับปากส่ง ๆ ตอนนั้นเนี่ยนะ? นายคิดว่าฉันเป็นคนที่จะสนใจกับคำพูดพวกนั้นจริง ๆ หรือ? ความช่วยเหลืออะไร ฉันไม่รู้เรื่องทั้งนั้น! ถ้าไม่มีเรื่องอื่นอีก ฉันจะตัดการเชื่อมต่อแล้ว!” เขาสวนคำพูดปฏิเสธออกไปรวดเดียวจบ พร้อมกับขยับมือหมายจะตัดการติดต่อจริง ๆ แต่เสียงที่เร่งร้อนดังขึ้นมาเสียก่อน
“ฉันจะให้คะแนนจีโนที่เหลือทั้งหมดกับนาย!” นี่มันน่าสนใจแล้ว! คำพูดของดราวินทำให้มือของเดวิดหยุดชะงักลงทันที
แต่เขาก็ยังไม่ได้รับปากออกไปอย่างทันทีทันใด ในหัวของเดวิดคิดว่าเรื่องมันคงจะไม่ได้ง่าย ๆ อย่างที่เห็นแน่
“แล้วฉันจะเพิ่มให้อีก 20,000 คะแนนด้วยนะ เพิ่มให้อีกฟรี ๆ เลย!” ดูเหมือนว่าเสียงที่ดังตามมาอีกครั้ง จะเป็นเสียงที่ออกมาจากปากที่กำลังกัดฟันแน่น
“ก็ได้! ส่งตำแหน่งปัจจุบันของนายมา!” 20,000 คะแนน มันเพียงพอที่จะทำให้เดวิดตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดเลย 50,000 คะแนนจีโน ต่อให้มันอาจจะยุ่งยากอยู่บ้าง แต่เขาไม่โง่พอที่จะปฏิเสธคะแนนจำนวนมหาศาลอย่างนี้แน่ ไม่ว่าการช่วยเหลือที่เจ้าอ้วนนี่พูดถึงจะเป็นอะไร ขอแค่มันไม่ใช่การล่าสังหารผู้บริสุทธิ์ เดวิดคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
หลังจากตัดการเชื่อมต่อแล้ว เดวิดรีบเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาตรวจสอบตำแหน่งที่เพิ่งถูกส่งเข้ามา ก่อนที่จะสั่งการออกไป
“เฮเซล! นำทางฉันไปที่ตำแหน่งนี้ที”
“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป สักวันหนึ่งนายต้องตายเพราะความโลภแน่!” เสียง AI ส่วนตัวของเขาแดกดันขึ้นมา แต่มันก็ยังทำหน้าที่อย่างรวดเร็ว ลูกศรชี้ทางปรากฏขึ้นมาที่กลางอากาศ นำทางให้เดวิดที่พยายามไม่สนใจกับคำถากถางเคลื่อนตัวตามไปอย่างรวดเร็ว
.........
หลังจากตัดการเชื่อมต่อแล้ว ดราวินส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะพึมพำออกมา “นี่น่าจะเพียงพอแล้ว!”
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ มีข้อมูลสำคัญถูกแจ้งเข้ามาที่กล่องข้อความส่วนตัว ในนั้นระบุวันเวลาของการ ‘ลอบสังหาร’ เขาเอาไว้ ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลทำให้ดราวินตื่นตระหนกอยู่เป็นเวลานาน และหลังจากที่รวบรวมสติได้ เขาก็คิดหาวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยขึ้นมาได้ และเดวิดก็เป็นหนึ่งในผู้คุ้มกันที่เขาเลือก
“นายแน่ใจใช่มั้ยว่าจะมีการลอบสังหารเกิดขึ้น?” เสียงที่เย็นชาของเด็กหนุ่มลอยมาเข้าหูของดราวิน สีหน้าท่าทางของคนพูดเย็นชากว่าน้ำเสียงเสียอีก
นักเรียนใหม่คนนี้เป็นนักเรียนพรสวรรค์ระดับ 5 ดาว ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์คนหนึ่งตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน ข้อมูลของเขานั้นถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดของทางสถาบัน มีคนจำนวนไม่มากนักที่รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แน่นอน! มันมีนักเรียนที่อยู่ในประเภทเดียวกันนี้อีกไม่น้อยเลย
และถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการดูแลเรื่องการฝึกฝนและทรัพยากรจากศาสตราจารย์แล้ว แต่เด็กหนุ่มอัจฉริยะคนนี้ไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสในการสร้างบุญคุณกับอัจฉริยะด้านพันธุศาสตร์หลุดลอยไปแน่ นี่ยังไม่นับรวมว่าดราวินสัญญาว่าจะตอบแทนเขาด้วยเซรุ่มพันธุกรรมที่มีค่าบางอย่างด้วย นั่นคือสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เขายอมรับหน้าที่มาเป็นผู้คุ้มกันในคราวนี้!