นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 45
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 45
แม้ว่าทูตจากอาณาจักรโอเว่นจะออกไปจากสนามฝึกที่ห้าแล้ว แต่เหล่าเด็กฝึกหัดในสนามที่ห้าก็ยังไม่ขยับตัว จิตใจของพวกเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและยังคงมองไปที่ราอนโดยไม่ละสายตา
พวกเขาอยู่กับราอนมานานและพวกเขารู้ว่าราอนนั้นแข็งแกร่ง แต่ว่าที่ผ่านมาพวกเขาเห็นเพียงราอนที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเท่านั้น พวกเขาไม่เคยเห็นราอนที่เคลื่อนไหวร่างกายได้รวดเร็วแล้วยังโจมตีรุนแรงได้ขนาดนี้
"เอ่อ..."
"เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?"
"ทำไมเขาถึงเก่งขนาดนั้น..."
เหล่าผู้ฝึกฝนยังคงยืนอึ้งจนกระทั่งคนที่ยืนอยู่บนเวทีประลองปรบมือขึ้นมา
"ทำได้ดีมากทุกคน"
ริมเมอร์ยิ้ม เขาทรุดตัวลงนั่งที่ขอบเวทีการประลอง
"ขอบคุณที่ทุกคนที่ตั้งใจต่อสู้อย่างดีในการประลองแบบกะทันหันครั้งนี้นะ"
"ครับ/ค่ะ!"
"ขอบคุณที่ให้พวกเราได้ฝึกซ้อมกับอัศวินฝึกหัดจากอาณาจักรโอเว่นนะครับ!"
ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนทุกคนก้มหัวเพื่อแสดงความขอบคุณให้ผู้ฝึกสอน
"ฉันดีใจที่พวกเธอชอบนะ"
ริมเมอร์ยิ้มและเตะขาของเขาขึ้นๆลงๆอย่างมีความสุข ดูเหมือนเขาจะกำลังอารมณ์ดีกว่าปกติ
"ในเมื่อทุกอย่างโอเคแล้ว ทีนี้ฉันจะบอกอะไรบางอย่างกับพวกเธอ อย่างแรกเลยคือพวกเธอรู้จักอัศวินฝึกหัดที่สู้กับพวกเธอในวันนี้มั้ย? พวกเขาไม่ใช่อัศวินฝึกหัดธรรมดาๆเลยนะ"
"อะไรนะ?”
"แล้วพวกเขาเป็นใครกันล่ะครับ?"
เด็กฝึกหัดพากันกลืนน้ำลาย
"พวกเขาเป็นชนชั้นสูงของราชอาณาจักรที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี พวกเขาเป็นเด็กที่พรสวรรค์โดดเด่นแล้วก็ถูกวางตัวไว้ให้เป็นอัศวินส่วนพระองค์หรือไม่ก็อัศวินชั้นสูง"
“เอ๊!”
"อัศวินส่วนพระองค์กับอัศวินชั้นสูงงั้นเหรอ?"
"ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาแข็งแกร่งมาก..."
ผู้ฝึกฝนพากันอ้าปากค้าง
พวกเขาเป็นชนชั้นสูงที่เป็นอนาคตของอาณาจักรโอเว่นทั้งหมด
อัศวินส่วนพระองค์มีหน้าที่ปกป้องกษัตริย์ภายในปราสาท ส่วนอัศวินชั้นสูงก็เป็นนักดาบที่คอยออกไปจัดการกับศัตรู
อัศวินทั้งสองรูปแบบเป็นอัศวินที่เป็นกองกำลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรโอเว่น
เหล่าผู้เข้าร่วมการฝึกฝนไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ได้เมื่อรู้ว่าพวกเขาสู้กับอัศวินฝึกหัดได้อย่างสูสี
"การที่พวกเธอต่อสู้กับพวกเขาได้อย่างสูสีมันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก ทุกคนปรบมือให้ตัวเองกันหน่อยสิ!"
"เย้!"
"วู้วววววว!"
"พวกเราชนะล่ะ!"
เด็กฝึกหัดพากันปรบมือและตะโกนด้วยความดีใจ
“อืม!”
"อาจารย์ริมเมอร์ครับ"
ในขณะที่ริมเมอร์กำลังเพลิดเพลินไปกับเด็กๆ ก็มีเด็กที่ยกมือขึ้นมาและเรียกเขา เป็นเบอร์เรนที่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ค่อยมั่นคง
"ผมจะได้สู้กับพวกเขาอีกไหมครับ?"
เบอร์เรนยังคงเหนื่อยล้าและหงุดหงิดกับการต่อสู้
"เธอไม่ได้แพ้ซักหน่อยนี่นา"
"แต่ผมก็ไม่ได้ชนะนะครับ...มันไม่ต่างอะไรกับการแพ้หรอก"
"จริงด้วย ฉันชอบความติดของเธอนะ"
ริมเมอร์ยิ้มและพยักหน้า
"อัศวินฝึกหัดที่เธอสู้ด้วยถูกวางตัวไว้ให้เป็นหัวหน้าหน่วยอัศวินส่วนพระองค์ ดังนั้นถ้าเธอพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองต่อไปเธอก็คงได้เจอกับเขาในสักวัน ในตอนนั้นเขาก็คงได้เป็นอัศวินเต็มตัวแล้ว ดังนั้น..."
"ผมจะเป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยมให้ได้ครับ"
ดวงตาสีเขียวของเบอร์เรนยังมีความขุ่นมัว
"นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว”
"แล้วก็อีกอย่างหนึ่งครับ"
"อะไรล่ะ"
"ถ้าคนที่ผมสู้ด้วยจะเป็นอัศวินส่วนพระองค์ แล้วเจ้าชายลำดับที่สามล่ะครับ? วิชาดาบที่เขาใช้มันไม่ใช่วิชาดาบเชื้อพระวงศ์ทั่วๆไปจะมี"
เบอร์เรนถามคำถามขึ้นมา เจ้าชายลำดับที่สามเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดจากอาณาจักรโอเว่นอย่างแน่นอนแม้ว่าเขาจะอายุเพียงสิบห้าปี
"ฉันได้ยินมาว่าเจ้าชายจะขึ้นเป็นนักดาบมือหนึ่งของราชอาณาจักรด้วย"
“เอ๊ะ?”
"ว้าว...!”
อยู่ๆ สนามฝึกซ้อมเต็มไปด้วยความเงียบงันหลังจากการตอบกลับของริมเมอร์ เด็กฝึกหัดหันมองราอนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ความรู้สึกของพวกเขาต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับราอนว่าเขาสามารถเอาชนะผู้ที่จะเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของราชอาณาจักรในอนาคตได้อย่างไร
"การฝึกวันนี้จบลงแค่นี้ล่ะ พวกเธอน่าจะใช้แรงกันไปเยอะมากดังนั้นก็รีบกลับไปห้องพักแล้วพักผ่อนซะนะ"
ริมเมอร์ปรบมือแล้วเขาก็หายตัวไปทันที แต่ถึงยังไงสายตาจากเด็กฝึกหัดยังคงไม่ละไปจากราอน
***
ราอนหลบหนีสายตาของคนอื่นๆโดยการเดินออกจากสนามฝึกคนแรก
โดยปกติแล้วเขาอาจจะอยู่ซ้อมต่อ แต่วันนี้่เขาต้องรีบกลับหอพักเพื่อไปทำอะไรบางอย่าง
เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล้ว เขาก็นั่งลงกับพื้นและแตะที่สร้อยข้อมือดอกไม้
ฟรึ่บ!
น้ำแข็งสีน้ำเงินเบ่งบานออกมาราวกับดอกไม้บนสร้อยข้อมือ แต่ความเย็นของมันนั้นทำให้รู้สึกได้ถึงอารมณ์โกรธแค้น
เวรเอ๊ย! เขามีพลังขนาดนั้นแต่มาแพ้คนอย่างเจ้าเนี่ยนะ?! ข้าอุตส่าห์เชื่อใจเขาเพราะเป็นถึงเชื้อราชวงศ์แต่เขามันก็เป็นแค่มนุษย์หน้าโง่และอ่อนแอ!
ราธกัดฟันแน่นด้วยความโกรธและปล่อยพลังที่ทำให้ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
ถ้าราชาแห่งแก่นแท้ได้ประลองกับเจ้าแทนเขา ข้าคงฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆและแช่แข็งไปแล้ว เขาเป็นถึงเจ้าชายแต่มีพลังแค่นั้นเองงั้นเหรอ? น่าสมเพชจริงๆ!
ดูเหมือนว่าราธรู้สึกว่าตัวเองมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าชายเพราะมันเองก็เป็นราชาแห่งอาณาจักรปีศาจเหมือนกัน มันดูโมโหมากที่ตัวเองแพ้เดิมพัน
หากย้อนกลับในตอนที่ข้ายังอาศัยอยู่ในอาณาจักรปีศาจ ราชาแห่งแก่นแท้เอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งได้ด้วยการใช้พลังเพียงเล็กน้อย แล้วในระหว่างการต่อสู้ระหว่างราชาด้วยกัน…
"โอเคๆ พอได้แล้ว"
ราอนต้องเคาะสร้อยข้อมือให้ราธหยุดพูด
'ฉันต้องหยุดมันตลอดเลย'
เมื่อไหร่ก็ตามที่ราธพูดว่า'หากย้อนกลับในอาณาจักรปีศาจ...ราชาแห่งแก่นแท้....' นั่นหมายความว่าเขาต้องรีบหยุดมันในทันที ถ้าฟังมันพูดต่อไปคงไม่รู้จะไปสิ้นสุดที่ตอนไหน
"ค่อยพูดทีหลัง ตอนนี้เอารางวัลมาให้ฉันก่อน"
เจ้าใช้เล่ห์โกงกับข้าอีกแล้ว ข้าแน่ใจว่าเขามีพลังมากเจ้าแน่ๆ
ความจริงแล้วเจ้าชายลำดับที่สามก็เป็นคู่ต้อสู้ที่เก่งกาจมาก แต่ว่าหมื่นเปลวเพลิงของเขานั้นทรงพลังมากกว่าถึงแม้ออร่าของมันจะมีขนาดเล็ก
"งั้นจะบอกว่าแกจะไม่ให้รางวัลฉันแล้วงั้นสิ? ทั้งๆที่แกเป็นราชาแห่งแดนปีศาจ...?"
เจ้าคิดว่าราชาแห่งแก่นแท้เป็นใครกัน? คิดว่าข้าเป็นเหมือนมนุษย์ที่ชอบโกหกหรือไง ข้าจะรักษาสัญญาต่อให้เจ้าจะเล่นโกงก็ตาม!
ติ๊ง!
[คุณชนะเดิมพันกับ'ราธ']
[รางวัลสำหรับชัยชนะของคุณกำลังจะถูกแจกจ่าย]
[แต้มสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 4 แต้ม]
ทันทีที่ข้อความปรากฏขึ้น เขาก็รู้สึกตัวสั่นเหมือนกับโดนไฟฟ้าช็อต
"ฮ่าๆ"
ราอนรู้สึกเบิกบานใจอย่างมาก ร่างกายและจิตใจของเขาพัฒนาขึ้นอีกแล้ว
* * *
* * *
กึด!
ราอนลองกำหมัดของตัวเอง แต้มสถานะของเขาเพิ่มขึ้น4แต้มในคราวเดียว มันทำให้เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้อย่างชัดเจน
หน้าต่างสถานะ
ชื่อ: ราอน ซีกฮาร์ท
ฉายา: ชัยชนะครั้งแรก
สถานะ: คำสาปเยือกแข็ง(หกสาย)
คุณสมบัติ: ราธ, วงแหวนแห่งไฟ(สามดาว), ต้านทานน้ำ(สี่ดาว), ญาณแห่งบุปผาหิมะ(สองดาว), หมื่นเปลวเพลิง(สองดาว), ผลึกเยือกแข็ง(สองดาว), ต้านทานไฟ(สองดาว)
ความแข็งแกร่ง : 47
ความว่องไว: 47
พละกำลัง: 48
พลังงาน: 36
การรับรู้: 58
ไม่ใช่แค่รางวัลจากการเดิมพันเท่านั้น ความพยายามอย่างหนักในการฝึกของเขาที่ทำให้แต้มสถานะเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก เขามีความสุขอย่างมากหลังจากได้เห็นตัวเลขในแต้มสถานะ
เฮอะ!
ราธเดาะลิ้นและพยายามชำเลืองมองไปที่หน้าต่างสถานะที่มันไม่มีทางมองเห็น ดูเหมือนมันจะไม่พอใจเขาอย่างมาก
พอใจรึยังล่ะ?
'ฉันมีความสุขมากเลย'
ราอนตอบกลับโดยไม่ลังเล
ก็ได้แค่นั้นแหหละ ต่อให้เจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนก็ไม่มีวันเทียบข้าได้ สักวันข้าก็จะครอบครองร่างกายของเจ้าอยู่ดี
ราธปล่อยเปลวไฟที่หนาวเย็นออกมา
"โอ้...โอเค"
อุณหภูมิที่หนาวเย็นแทรกซึมเข้าตามผิวหนังเขา แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรเพราะเขายังมีคุณสมบัติต้านทานน้ำ
"พยายามเข้าละกันนะ"
เขาผลักราธออกไปแล้วลุกขึ้นยืน
อย่าได้ประมาทราชาแห่งแก่นแท้โดยเด็ดขาด แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกเป็นร้อยปีแต่ข้าก็จะยึดร่างของเจ้าให้ได้
'เอางั้นก็ได้'
อ๊ากกกกก!
ราธโมโหเลยปะทุคความเย็นออกมามากขึ้น แต่เขาเลิกสนใจแล้วทิ้งมันไว้ในห้องทันที
จะบอกว่าฉันประมาทมันงั้นเหรอ?
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางทำแบบนั้น
ราธเป็นศัตรูที่อันตรายที่สุด
เหตุผลที่เขาปลูกฝัง'วงแหวนแห่งไฟ'ในทุกๆวันก็เพื่อพัฒนาจิตใจและร่างกายของตัวเองเพื่อไม่ให้พ่ายแพ้มัน
ต่อให้เขาแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจแต่เขาก็ไม่เคยประมาทแม้แต่วินาทีเดียว
การตายแบบโง่เง่าน่ะ...แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว
เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อความอยู่รอดและเพื่อเป้าหมายในการแก้แค้นของเขา
ราอนออกจากหอพักและเดินกลับไปที่สนามฝึกซ้อมที่ทุกคนได้ออกไปหมดแล้ว เขาใช้เวลาทั้งคืนในการกวัดแกว่งดาบ
***
สามเดือนผ่านไปนับตั้งแต่ราอนได้ประลองกับเจ้าชายลำดับที่สามแห่งอาณาจักรโอเว่น
ถึงแม้เขาจะเอาชนะคนที่จะเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของราชอาณาจักรได้ แต่ราอนก็ยังมุ่งมั่นในการฝึกฝนต่อไปโดยไม่สนใจชัยชนะที่ผ่านมา
ราอนยังได้รับชื่อเล่นใหม่ว่า'ผู้ฝึกหัดอัจฉริยะ'กับ'อัจฉริยะผีเข้า'จากเหล่าเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าราอนจะไม่รู้ตัวก็ตาม
"ดาบของเขาเร็วขึ้นอีกแล้ว"
"เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วหรือเปล่า? วิชาดาบและจังหวะเท้าของเขาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น”
"เขาเก่งขึ้นแน่ๆ"
"เกินไปแล้วนะ"
เด็กสายรองก็รู้สึกประหลาดใจ พวกเขายืนนิ่งมองดูราอนที่ฝึกซ้อมอย่างไม่หยุดพัก
"ฉันเคยคิดถึงโอกาสที่ฉันจะพอตามเขาทันแต่มันไม่มีเลย"
"ฉันด้วย ฉันฝึกจนฝ่าเท้าของฉันถลอกไปหมดแล้ว..."
ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนต่างก็ฝึกฝนให้หนักขึ้นเมื่อได้เห็นการต่อสู้ที่ราอนสามารถเอาชนะคนที่แข็งแกร่งมาได้นักต่อนัก รวมถึงกับการที่พวกเขาได้ประลองกับอัศวินฝึกหัดจากอาณาจักรโอเว่น
พวกเขารู้สึกว่าความแตกต่างระหว่างพวกเขากับราอนเหมือนจะจะลดลงบ้างเล็กน้อยเพราะการฝึกฝนอย่างหนักของพวกเขา
"นี่มันเรียกว่า...เอ่อ..."
"พรสวรรค์ที่แตกต่างกันสินะ"
"ใช่ๆ แค่เราเกิดมาก็มีพรสวรรค์ไม่เท่ากันแล้ว มันก็คงช่วยอะไรไม่ได้ในเมื่อพรสวรรค์ของพวกเรา..."
"พวกนายเชื่อจริงๆเหรอว่าเป็นเพราะพรสวรรค์อย่างเดียว?"
“หืม?”
เด็กฝึกหัดหันไปตามที่มาของเสียง
“เห้ย!”
"อ๊ะ..."
"ท่านเบอร์เรน!"
เบอร์เรนยืนกอดอกมองมาทางพวกเขา
"พูดง่ายไปนะว่าเขาแค่ใช้พรสวรรค์ พวกนายบอกว่าตัวเองทำแบบเขาไม่ได้แต่ก็ไม่ยอมลองทำให้ดีที่สุดเองนี่ ไหนจะเรื่อง..."
เขาเดินผ่านเด็กสายรองไปแล้วพูดต่อ
"พวกนายจะพูดแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อพวกนายฝึกหนักจนใช้รองเท้าฝึกพังไปเป็นสิบๆคู่เท่านั้นแหละ"
เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดคำนั้นกับผู้ฝึกฝนคนอื่น นี่เขากำลังพูดกับตัวเองอยู่ ครั้งหนึ่งเขาเคยอิจฉาราอนโดยไม่ดูเลยว่าราอนฝึกฝนหนักแค่ไหน
"น-นั่นก็ใช่"
"ขอโทษครับ..."
"ไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอก ยังไงมันก็เป็นเรื่องของพวกนาย"
เบอร์เรนเอื้อมไปหยิบดาบออกมาจากที่เก็บดาบที่อยู่ด้านหลังพวกเขา จากนั้นก็เดินไปยังลานฝึกซ้อม
"คุณชายเบอร์เรน...อ่อนโยนขึ้นหรือเปล่านะ?"
"ปกติแล้วเขาแทบไม่สนใจเราเลย..."
"เฮ้! เงียบก่อน"
"อุ๊บ!"
เด็กสายรองหยุดพูดเมื่อมองเห็นมาร์ธาที่เดินเข้ามาจากด้านซ้าย
กึก
มาร์ธาหยิบที่สวมไหล่ออกมาและสวมลงไปบนไหล่ของเธอ เธอสะบัดผมสั้นๆของเธอไปด้านหลังกำลังจะออกไปที่ลานฝึกแต่ก็หยุดชะงัก"
"อ่อนโยนขึ้นงั้นเหรอ?"
มาร์ธามองไปที่เด็กฝึกหัดกลุ่มนั้นด้วยสายตาที่ดูหมิ่นชัดเจน
"หมอนั่นมันเป็นภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิดชัดๆ เอาอะไรมาบอกว่ามันอ่อนโยนขึ้น สายตาของพวกนายนี่แย่กว่าพวกออร์คอีกนะเนี่ย"
มาร์ธายิ้มเยาะและเดินไปกลางสนามฝึกกลางแจ้งต่อ
ราอนและรูนันฝึกซ้อมต่อไปโดยไม่หยุดพัก ส่วนเบอร์เรนและมาร์ธาก็กวัดแกว่งดาบโดยไม่ยอมน้อยหน้ากัน
"พวกเขาน่าทึ่งสุดๆ"
เหล่าผู้เข้าร่วมการฝึกฝนที่เห็นแบบนั้นพากันถอนหายใจและส่ายหน้า
สัตว์ประหลาดในสนามฝึกที่ห้ามีตั้งสี่คน...
"นั่นก็จริง แต่..."
หนึ่งในกลุ่มเด็กฝึกหัดก้มมองรองเท้าของเขา
"นั่นทำให้ที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่ดีมากๆสำหรับการฝึกฝนเลยไม่ใช่รึไงล่ะ?"
"อืม นั่นก็จริง"
"นายพูดถูก"
คนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาพัฒนากันได้รวดเร็วมากก็เพราะพวกเขาได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดที่สนามฝึกที่ห้าแห่งนี้
"เราควรไปฝึกได้แล้ว"
พวกเขาแยกย้ายกันเข้าไปในลานฝึกซ้อมอีกครั้งแล้วต่างก็ฝึกฝนดาบกันต่อ
"ดีจัง"
ริมเมอร์นั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้แล้วมองลงไปที่เด็กๆด้วยรอยยิ้ม
"มีเสาหลักที่มั่นคงแล้ว ที่นี้คนอื่นก็ทำตาม"
เขามองไปที่ราอน เบอร์เรน รูนัน และมาร์ธา ที่กำลังกวัดแกว่งดาบอยู่ในลานฝึก เด็กทั้งสี่คนนั้นมีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้นำเด็กฝึกคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งสี่คนมีส่วนร่วมในการเติบโตของเด็กๆคนอื่นมากกว่าผู้ฝึกสอนเสียอีก
“อืม...”
ริมเมอร์ม้วนผมสีแดงของเขาเล่นในขณะที่เขานั่งอยู่บนต้นไม้ จากนั้นก็พยักหน้า
"พวกเขาคงพร้อมที่จะได้ลงสนามจริงแล้ว"