CD บทที่ 396 ชื่อเสียง
จ้าวหยู่และเหมี่ยวอิงไปที่ร้านหม้อไฟติดแอร์ที่ตั้งอยู่บนถนนจิวเหอ ขณะที่เหมี่ยวอิงกำลังมองไปที่เมนู จ้าวหยู่ก็อ่านข้อความบางส่วนจากโทรศัพท์ของเขาให้เธอฟัง
“ฮาร์ดไดรฟ์ของกล้องวงจรปิดจากพิพิธภัณฑ์ถูกแทนที่เมื่อห้าวันก่อน หลังจากที่วัดพระทองถูกปล้น” จ้าวหยู่กล่าวต่อ “เนื่องจากโจรระวังตัวมากและไม่ได้ขโมยอะไรไป กว่าทางพิพิธภัณฑ์จะทราบว่าถูกบุกรุกก็เป็นตอนที่พวกเขาได้ทำการตรวจสอบตามกำหนดการของพิพิธภัณฑ์ในวันนั้น”
หลังจากจ้าวหยู่อ่านจบ เขาก็กล่าวเสริมว่า
“เห็นได้ชัดว่า สถานการณ์ของพิพิธภัณฑ์ก็คล้ายกับของสำนักโบราณวัตถุและวัดพระทอง โจรปล้นสุสานต้องมองหาบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระไตยปิฎก!”
“ฉันได้ส่งเสี่ยวหลิวไปสืบเรื่องนี้อย่างลับ ๆ แล้ว เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ไม่สะดุดตาของเขา ผู้คนไม่น่าจดจำเขาได้ง่าย ๆ”
จ้าวหยู่วิเคราะห์ข้อมูลใหม่นี้แล้วอุทานว่า
“จริงสิ! ตอนนี้ลำดับเหตุการณ์ดูเหมือนจะชัดเจนมาก โจรปล้นสุสานบุกปล้นสุสานของฉิวเชิง ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสำนักโบราณวัตถุเพื่อขโมยข้อมูลเกี่ยวกับพระไตยปิฎก ตามมาด้วยการบุกรุกวัดพระทองและพิพิธภัณฑ์
หากพวกเขารวบรวมข้อมูลได้เพียงพอ พวกเขาคงจะไปที่ภูเขาพร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ ดังนั้น หากเราเดินทางไปสำรวจหมู่บ้านรอบ ๆ ภูเขา เราอาจจะพบเงื่อนงำบางอย่าง!”
เหมี่ยวอิงยังคงดูที่เมนูโดยไม่สนจะตอบสนองต่อจ้าวหยู่ เมื่อจ้าวหยู่พูดจบ เหมี่ยวอิงก็เงยหน้าขึ้นและถามว่า
"จ้าวหยู่ คุณคิดว่าเทวรูปรูปทองคำมีอยู่จริงมั้ย?"
จ้าวหยู่ถามเธอเพื่อความชัดเจน “คุณหมายความว่าอย่างไร?”
“ฉันหมายความว่า… คุณ… มีแรงจูงใจซ่อนเร้นที่พาฉันไปที่ภูเขาคนเดียวหรือเปล่า?” เหมี่ยวอิงได้ตอบกลับ
จ้าวหยู่รู้ว่าเหมี่ยวอิงฉลาดพอที่จะมองทะลุแผนของเขา ดังนั้นเขาจึงยกมือขวาขึ้นและแสร้งทำเป็นสาบานว่า
“ผู้กองเหมี่ยว ขอให้ไว้วางใจฉันได้เลย ถ้าหากฉันแอบดูตอนอาบน้ำ หรือล่วงเกินคุณในป่าห่างไกลไร้ผู้คน หรือจับได้ว่าฉันมีแรงจูงใจแอบแฝงจริง ๆ ฉันจะยินดีอยู่เฉย ๆ และพร้อมให้คุณจัดการแต่โดยดี”
เหมี่ยวอิงมองไปที่จ้าวหยู่ด้วยความรังเกียจ และเอ็ดว่า "ในหัวของคุณมีแต่เรื่องอย่างว่าจริง ๆ! ฉันแค่กังวลว่าเราจะหลงทางต่างหาก!”
จ้าวหยู่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว "หลงทาง? ไม่เอาน่า! คุณกำลังอยู่ในช่วงพัก จะทำให้ตัวเองเครียดทำไม? หากเราพบบางสิ่งมันจะเป็นโบนัส หากเราไม่เจออะไรก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่สมควรได้รับ”
เหมี่ยวอิงสั่งอาหารและถอนหายใจ “ต้าเฟยมักจะพูดว่า เบื้องหลังของอาชญากรรมทุกครั้ง เต็มไปด้วยสายธารแห่งหยาดน้ำตา...”
“จ้าวหยู่ คุณไม่เข้าใจ ฉันเคยไปที่บ้านของตงเป่ยโจวมาก่อน เหตุการณ์นี้สร้างทั้งความเศร้าโศกและความกดดันให้กับภรรยาและลูกสาวคนเดียวของพวกเขาซึ่งทั้งคู่ต่างก็ทำงานในสำนักโบราณวัตถุ”
"ความกดดัน?" จ้าวหยู่ถามด้วยความงงงวย
เหมี่ยวอิงอธิบายว่า “มีข้อบ่งชี้ว่าโจรปล้นสุสานไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่ เป็นนักโบราณคดีชราทั้งสามคน แล้วยิ่งพวกเราไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าการหายตัวไปของพวกเขาเป็นการลักพาตัว แถมยังมีข่าวลือบางอย่างที่เล่าไปอย่างปากต่อปากอีก
จนเริ่มมีคนเชื่อแล้วว่านักโบราณคดีทั้งสามคนนั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับโจรปล้นสุสาน เพราะพวกเขาก็หมายตาในเทวรูปทองคำ”
“ตงเป่ยเหอและภรรยาของเขาทำงานให้กับสำนักโบราณวัตถุมาทั้งชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือชื่อเสียงของพวกเขา
แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แค่พวกเขาหายตัวไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถรักษาชื่อเสียงของพวกเขาไว้ได้ พวกเขาต้องรับมือกับแรงกดดันมหาศาล”
"จริงเหรอเนี่ย…"
จ้าวหยู่พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ แท้จริงแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นคดี เขามุ่งความสนใจไปที่คดีและเทวรูปทองคำมากเกินไป โดยละเลยข้อเท็จจริงที่ว่าคดีนี้ได้นำทั้งความโศกเศร้าและความกดดันมาสู่ครอบครัวของเหยื่อ
เหมี่ยวอิงพูดอย่างลึกซึ้งว่า
“เราต้องไขคดีนี้ให้เร็วที่สุด แม้ว่าเราจะพบว่านักโบราณคดีทั้งสามสมรู้ร่วมคิดกับโจรปล้นสุสานจริง ๆ อย่างน้อย ๆ เราก็สามารถนำเสนอความจริงให้พวกเขารับทราบได้ มันดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน...”
จ้าวหยู่ยกนิ้วให้เหมี่ยวอิงและชมเธอว่า
"ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว! ฉันได้รับความรู้มากมาย เพียงแค่ฟังผู้กองเหมี่ยวเท่านั้น!”
เหมี่ยวอิงส่ายหัวของเธออย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า
“ส่วนเรื่องของฝูเจียนซิง ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะทรยศฉัน เมื่อมองย้อนกลับไป เขาต้องอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในสำนักโบราณวัตถุมาโดยตลอด”
จ้าวหยู่เหวี่ยงหมัดลงบนโต๊ะแล้วตะโกนว่า “ช่างเป็นตาแก่เจ้าเล่ห์จริง ๆ! ฉันจะแก้แค้นเขาที่บังอาจมาทำร้ายแฟนของฉันแน่นอน”
"เดี๋ยวนะ! ใครคือแฟนของคุณมิทราบ!?“เหมี่ยวอิงจ้องมองที่เขา”ฉันสัญญาว่าจะไปที่ภูเขากับคุณโดยไม่มีคนอื่นไปด้วย เพียงเพราะฉันไม่ต้องการให้พวกเขามาเสี่ยงอันตราย คุณรู้ใช่มั้ยว่าโจรปล้นสุสานเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดา หากเราพบโจรปล้นสุสานระหว่างทางในป่า มันคงจะจบลงไม่สวยแน่นอน!”
"จริงหรือ?" จ้าวหยู่เกาหัวของเขา ความคิดของเขาเต็มไปด้วยเรื่องเกี่ยวกับเทวรูปทองคำเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเวลาต่างกันมาก เขารู้สึกว่าโจรปล้นสุสานน่าจะเสร็จสิ้นภารกิจแล้วในตอนนี้ และนั่นคือเหตุผลที่เดินทางเข้าไปในภูเขาเพื่อตามหาร่องรอยที่พวกโจรเหล่านี้ทิ้งไว้
จ้าวหยู่จึงตบหน้าอกของเขาและกล่าวเสริมว่า
"ผู้กองเหมี่ยว ขอให้มั่นใจได้ว่าฉันจะใช้พละพลังทั้งหมดของฉันเพื่อปกป้องความปลอดภัยของคุณ ความภักดีของฉันที่มีต่อคุณชัดเจนมาก ฉันไม่รังเกียจที่จะเสียสละเพื่อคุณ…”
“หยี๋…” เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ เหมี่ยวอิงตัวสั่นพร้อมกับขนลุกที่แขนของเธอ “ไม่ต้องมาห่วงเรื่องของฉันหรอก ห่วงเรื่องของตัวเองดีกว่า
เนื่องจากฉันถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้ากลางคัน ถึงผู้การหลันจะไม่ยินยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น เธอคงจะฝากฝังความรับผิดชอบต่าง ๆ มาให้คุณ โดยหวังให้คุณเข้ามาควบคุมส่วนต่าง ๆ ของแผนกแทนฉัน ดูสิว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง!?”
“เชี่ย!” จ้าวหยู่ฉุนเฉียวทันที “บังอาจมาบังคับให้ผู้หญิงของฉันพักงาน แล้วยังให้ฉันมารับงานของคุณอีก ไม่มีทาง! การเดินทางวันพรุ่งนี้ไม่มีใครหยุดฉันได้ หากผู้การหลันไม่อนุมัติ ฉันจะลาออก!”
“นี่คุณ…” เมื่อได้ยินคำพูดที่เร่าร้อนของจ้าวหยู่ เหมี่ยวอิงก็มองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม แต่ก็แฝงด้วยความประทับใจ
เมื่อตกกลางคืน จ้าวหยู่นั่งที่โต๊ะและทำรายการตรวจสอบสิ่งที่จะนำติดตัวไปที่ภูเขาในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านั้นเขาได้สั่งซื้ออุปกรณ์ระดับมืออาชีพที่ดีที่สุดจากร้านขายอุปกรณ์กลางแจ้งแล้ว ตอนนี้เขาขาดเพียงสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น
เนื่องจากเหมี่ยวอิงถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และจ้าวหยู่ยังไม่มีงานที่ได้รับมอบหมาย พวกเขาจึงไม่สามารถพกปืนไปด้วยได้ เขาจึงทำได้เพียงนำกระบองไฟฟ้าสองสามอันติดตัวไปด้วย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิด
การผจญภัยของจ้าวหยู่ในวันนี้ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ในอัตราสำเร็จ 94% นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลไอเทมสำคัญ นั่นก็คือ กล้องมองเห็นในที่มืดล่องหน
รางวัลอาจไม่ได้อยู่ในระดับสูง แต่มีประโยชน์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กลางแจ้งท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสนิท
ส่วนคำว่า ‘Gen-Kan’ ในวันนี้ มันไม่เพียงแค่ช่วยให้จ้าวหยู่มีความคืบหน้าในการสืบสวน แต่ยังนำข่าวดีมาสู่ชีวิตรักของเขาด้วย
เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าไปในป่าเขากับผู้หญิงที่เขาชอบ และอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าการเดินทางในวันรุ่งขึ้นจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้หรือไม่?