บทที่ 92 - ซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 92 - ซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก
“ฝ่าบาท น่าจะมีผลของต้นไม้แห่งชีวิตหลายพันต้นอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?” ฮานาเซียที่เห็นภาพเบื้องหน้าก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
“อาจเป็นเพราะดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์เบจิต้าถึงสองเท่า” บาร์ดัคกล่าว
หลินเฉินกำหมัดแน่นและพูดกับพวกเขาว่า “ต้นไม้แห่งชีวิตพวกนี้เป็นของพวกเราชาวไซย่า! ฮานาเซีย บาร์ดัค เจ้าพาคนไปดูแลลูกน้องของสลัก ข้าจะไปตามหาสลักเอง!”
“ขอรับท่านหลินเฉิน!” บาร์ดัคพยักหน้าทันที
แต่จู่ๆ ฮานาเซียก็พูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทลิงค์ ให้สลักเป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
"เจ้าเหรอ? ฮันนาห์ เจ้าลองเปิดเครื่องวัดพลังดูหรือยัง? สลักมีระดับพลังอยู่ที่ 20 ล้านแล้ว!”
"อะไรนะ?" เมื่อฮานาเซียได้ยินคำพูดของเขา นางก็เปิดเครื่องวัดพลังอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น สีหน้าของบาร์ดัคและคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไป พวกเขารีบเปิดเครื่องวัดพลังเพื่อตรวจสอบทันที
เป็นผลให้หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมา
“ชาวดาวนาเม็กมีระดับพลังสูงเช่นนี้ได้ยังไงกัน?” ฮานาเชียรู้สึกงสัย
ไม่ใช่ว่านางไม่รู้เกี่ยวกับดาวเคราะห์นาเม็ก ทว่าระดับพลังของชาวดาวนาเม็กมีเพียงไม่กี่พันและบางคนก็ต่ำกว่านั้น ส่วนชาวดาวนาเม็กบนโลก ระดับพลังก็แทบจะไม่ถึงหนึ่งพันด้วยซ้ำ
แต่ยามนี้ มีชาวดาวนาเม็กที่มีระดับพลังสูงกว่าเผ่าปีศาจน้ำแข็งได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาสำรวจพลังของอีกฝ่าย เครื่องวัดพลังก็ได้ระเบิดในทันที
แต่ชาวไซย่าที่มายังดาวเคราะห์ลาโอลาต่างก็รู้วิชาสัมผัสพลังกันแล้ว
เมื่อพวกเขาปิดเครื่องวัดพลังและรับรู้ถึงพลังของสลัก พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งแข็งแกร่งกว่าฟรีเซอร์หรือคูลเลอร์ที่พวกเขาพบเจอในดาวเคราะห์อิฟริต
“สลักเป็นซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก เหมือนดั่งซูเปอร์ไซย่า เขาเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในหมู่ชาวดาวนาเม็ก ฮันนาห์ ยามนี้เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา” หลินเฉินกล่าว
“ฝ่าบาทลิงค์ แล้วท่านล่ะ?” ใบหน้าของฮานาเซียพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง:
เป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่ที่นางสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าที่นางรู้สึกได้ถึงความไร้พลังเช่นนี้
“ไม่ต้องห่วง ถึงจะเป็นซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก ข้าก็ยังสามารถรับมือได้” หลินเฉินยิ้มออกมาจนเผยให้เห็นฟันขาวของเขา
ในความเป็นจริง หากคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าหลินเฉินในตอนนี้คือพิคโกโร่จากงานต้นฉบับที่รวมเข้ากับพระเจ้าในระหว่างการต่อสู้กับมนุษย์จักรกล แม้แต่หลินเฉินที่มีสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานก็ยังยากที่จะเอาชนะเขาได้เลย
เพราะพิคโคโล่ในตอนนั้นจะแข็งแกร่งกว่าฟรีเซอร์อย่างน้อย 5 เท่า เมื่อใช้การวิเคราะห์ระดับพลังแบบงานเขียนฉบับดั้งเดิม เขาจะมีระดับพลังอย่างน้อย 500 ล้าน
เมื่อเทียบกับในโลกของหลินเฉิน ระดับพลังสถานะปกติของเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบวกกับความสามารถพิเศษที่ชาวดาวนาเม็กเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หลินเฉินจะจัดการเขา
แต่เมื่อเทียบกับพิคโกโร่ในอนาคต ดูเหมือนว่าสลักจะขาดการฝึกฝนอยู่พอสมควร ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความอ่อนแอของเขาเนื่องด้วยความชรา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง แต่ระดับพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเพียงสองเท่าของฟรีเซอร์เท่านั้น
"อืม" ฮานาเซียพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็มองไปที่หลินเฉินสักพัก
“ฝ่าบาท หลังจากที่เรากลับมาแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะช่วยฝึกข้าได้ ข้าอยากจะแข็งแกร่งขึ้น...”
"ได้อยู่แล้ว"
หลินเฉินยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา ฮานาเซียที่ดูเหมือนจะไม่ชอบการฝึกฝนมาตลอด ดูเหมือนจะถูกกระตุ้นโดยสลักเช่นกัน
เมื่อเห็นฮานาเซียและคนอื่นๆ ฆ่าลูกน้องของสลัก หลินเฉินก็บิดขี้เกียจ
นับตั้งแต่กลับสู่จักรวาลของตนเอง หลินเฉินไม่พบเจอกับคู่ต่อสู้ที่จะทำให้เขาออกแรงได้อย่างเต็มที่มาเป็นเวลานานแล้ว
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ!”
ในเวลานี้เอง นักรบปีศาจที่บินออกจากยานอวกาศก็ได้ถูกโจมตีโดยบาร์ดัคและคนอื่นๆ
ต่อหน้าพวกเขาที่มีพลังเพียงหลักหมื่น ต่างก็ถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายคล้ายดั่งหั่นแตงโมหรือผัก
“ท่านสลัก!”
เมื่อเขาเห็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากรีดร้องออกมาขณะที่เขาถูกคลื่นแสงระเหยไป สลักก็สูดลมหายใจอย่างเย็นชาและเริ่มลงมือ
แต่ในเวลานี้เอง หลินเฉินได้ปรากฏตัวต่อหน้าสลัก
"หืม?"
สลักค่อนข้างประหลาดใจ เพราะเขาไม่รู้สึกถึงวิธีที่หลินเฉินปรากฏตัวขึ้นมาเลย
ราวกับว่าจู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวออกมาจากอากาศอันว่างเปล่า แม้จะมีสายตาของซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก แต่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้เลย
“สลัก คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า” หลินเฉินกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย
"เจ้าหรือ? เจ้าเป็นชาวไซย่าสินะ?” ดวงตาของสลักจ้องลงมาที่หางรอบเอวของหลินเฉิน
“ใช่ ข้าคือลิงค์จากดาวเคราะห์เบจิต้า!”
"ลิงค์..."
สลักพลันหรี่ตาลง ชาวไซย่าที่ชื่อนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ที่ฆ่าคนของเผ่าปีศาจน้ำแข็ง ฟรีเซอร์หรอกหรือ?
"งั้นก็เป็นเจ้าเองสินะ? ชาวไซย่าที่เป็นผู้ฆ่าฟรีเซอร์? ด้วยความแข็งแกร่งของชาวไซย่า มันช่างน่าทึ่งจริงๆ แต่ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าไร้เทียมทานเพียงเพราะเหตุนี้ มันก็น่าหัวเราะเกินไปแล้ว!”
สลักกล่าวว่าเสียงของเขาอันเปี่ยมล้นไปด้วยเจตนาฆ่า “ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของข้า การฆ่าฟรีเซอร์ก็เหมือนกับการบีบมด ข้าไม่มีความแค้นกับเจ้าชาวไซย่า เจ้าควรคิดอย่างมีเหตุผลและออกไปเสีย!”
“มิฉะนั้นหลังจากที่ข้าเก็บเกี่ยวผลของต้นไม้แห่งชีวิตชุดนี้แล้ว เป้าหมายต่อไปจะเป็นดาวเคราะห์เบจิต้าของเจ้า!”
“เหอะ!”
หลินเฉินหัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นและยิงลำแสงแห่งความตายใส่สลัก
ลำแสงสีทองบินเข้าหาสลักอย่างรวดเร็วและโจมตีเขา
ครืน! เสียงระเบิดดังขึ้น
แต่หลังจากที่ควันหายไป สลักก็ยังคงยืนอยู่กับที่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
หมวกที่สลักสลักอยู่ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นหนวดแมลงสองหนวดที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวดาวนาเม็ก
"รนหาที่ตาย!"
สลักคำรามและออร่าก็ปะทุออกมาจากทั่วร่างกายของเขาทันที
ออร่าที่เยือกเย็นและมืดมิดทำให้ชาวไซย่าที่กำลังต่อสู้อยู่พลันตกตะลึง
"พลังมหาศาลมาก!"
“ออร่านี้ดูจะแข็งแกร่งกว่าฟรีเซอร์และคูลเลอร์จริงๆ!”
ฮานาเซียและคนอื่นๆ จ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เหงื่อเย็นยะเยือกค่อยๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของพวกเขาและพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยของหลินเฉิน
ราวกับกำลังอวดความแข็งแกร่ง พลังออร่าของสลักยังพุ่งขึ้นไปอีก เมื่อมองไปที่หลินเฉินที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา สลักก็คิดว่าอีกฝ่ายกำลังกลับ
แต่ในยามนั้นเอง สลักได้เห็นหลินเฉินยกมุมปากขึ้นและยิ้มให้เขา
“หากเจ้าต้องการทำให้คนกลัวด้วยออร่า เจ้าควรทำเช่นนี้ต่างหาก!”
"อะไรนะ?" สลักพลันตกตะลึง
เพราะในวินาทีต่อมา เขาก็เห็นหลินเฉินตรงข้ามเขาตะโกนเสียงดังและพลังงานที่เพิ่มขึ้นเริ่มพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าประตูเขื่อนเก็บน้ำที่ล้นออกมาได้ถูกเปิดออก...
ออร่าของเขายังคงปะทุออกมา ทว่าคราวนี้เป็นสลักและลูกสมุนของเขาที่สติแตก
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างและร่างกายของพวกเขาพลันแข็งทื่อ
บนท้องฟ้าของดาวเคราะห์ลาโอลา ซึ่งเหมือนหัวใจที่ตายแล้ว กลับมีเมฆดำขนาดมหึมาลอยอยู่เหนือและทันใดนั้นสายฟ้าสีทองก็ผ่าลงมาและระเบิดขึ้นกลางอากาศ
ศัตรูที่น่าเกรงขามของพวกเขากำลังปล่อยคลื่นกระแทกออกมา เศษหินเริ่มล่อยลอยขึ้นไปในอากาศเนื่องจากแรงโน้มถ่วงเริ่มหายไป ทั้งหมดเป็นเพราะความแข็งแกร่งมหาศาลที่มาจากศัตรูของพวกเขา
