บทที่ 22: เขาเป็นข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวงจริงหรือ?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 22: เขาเป็นข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวงจริงหรือ?
การสืบสวนคนธรรมดานั้นง่ายมากสำหรับจักรพรรดินี ภายในหนึ่งชั่วโมง ข้อมูลทั้งหมดอันเกี่ยวกับหลี่ซือซือได้ถูกรวบรวมและนำเสนอต่อจักรพรรดินีทันที
“หลี่ซือซือ อายุยี่สิบปีมาจากเขตไป๋หัว”
“นางมีความสง่างามและมีความสามารถเป็นพิเศษในด้านดนตรี หมากรุก การประดิษฐ์ตัวอักษรและการวาดภาพ นางเป็นที่รู้จักในฐานะโสเภณีอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง”
“นางเป็นลูกสาวของหลี่กวงเหยา อาชญากรที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด…”
หลังจากอ่านข้อมูลแล้ว จักรพรรดินีก็พยักหน้า “ดังนั้นนางคงเลือกหลินเป่ยฟานเพื่อหลีกเลี่ยงการรบเร้าจากบุตรชายของเสนาบดีเกาเทียนหยูสินะ ข้าราชการระดับสูงคนใหม่ ยังไงก็ย่อมดีกว่าบุตรของตระกูลร่ำรวยเสเพลอยู่แล้ว!”
จักรพรรดินีวางกระดาษลงและถอนหายใจ “นี่เป็นเพียงอีกวิธีหนึ่งในการป้องกันตนเองของเหล่าสตรีในหอนางโลม ด้วยตัวตนที่ต่ำต้อย เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของพวกนาง คงมีแต่ต้องทำวิธีนี้เท่านั้น”
“แต่สตรีนางนี้ถือได้ว่ามีสายตาอันดี เลือกบัณฑิตที่ข้าคาดหวังไว้สูง! จุ๊จุ๊ ในชีวิตของนางถือได้ว่านางประสบทั้งโชคดีและโชคร้าย”
“ฝ่าบาท เช่นนั้นเราจะจัดการกับหลี่ซือซืออย่างไรหรือ?” ขันทีเฒ่าเอ่ยถาม
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จักรพรรดินีก็กล่าวว่า “ตรวจสอบนางเป็นระยะเวลาหนึ่ง ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ปล่อยนางไปเถอะ”
“ขอรับฝ่าบาท!” ขันทีเฒ่าก้มศีรษะด้วยความเคารพ จากนั้นก็ถามอย่างระมัดระวัง “แต่หากเป็นเช่นนั้น ข้าราชการระดับสูงคงจะมีปัญหากับเกาเทียนหยู เพราะหลี่ซือซือเป็นแน่ เราจำเป็นต้อง…”
เมื่อได้ยินชื่อ “เกาเทียนหยู” จักรพรรดินีก็แสดงความรังเกียจออกมา พูดตามตรง นางดูหมิ่นพวกบุตรเสเพลที่ทำตัวเย่อหยิ่งและประมาทเพียงเพราะภูมิหลังครอบครัวของพวกเขามาก
หากพวกเขาไม่มีความสามารถ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การกระทำหยาบคายและอวดดีเช่นนี้ถือได้ว่าน่ารังเกียจอย่างยิ่ง!
ทว่าแม้เด็กเสเพลพวกนี้จะทำผิด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับจักรพรรดินีเยี่ยงนางที่จะสั่งสอนพวกเขา เพราะนางไม่สามารถข้ามหน้าบิดามารดาของพวกเขาเพื่อจัดการกับเด็กเหลือขอพวกนี้ได้
“ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ให้ข้าราชการระดับสูงคนนั้นจัดการด้วยตัวเขาเอง ถ้าเขาไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้ เขาจะจัดการกับหน้าที่ที่สำคัญกว่านี้ได้ยังไงกัน?”
“ขอรับฝ่าบาท!” ขันทีเฒ่ากล่าวพร้อมกับก้มศีรษะลง
จากนั้นขันทีเฒ่าก็ออกไปอย่างรวดเร็ว
ในวันที่ 2 หลี่ซือซือได้ตื่นแต่เช้า ดูเหนื่อยล้าจากการนอนไม่หลับในคืนก่อน นางคิดที่จะเข้าไปแสดงความเคารพต่อหลินเป่ยฟานตามมารยาทที่เหมาะสม แต่ก็พบว่าเขาออกจากเรือนที่อยู่อาศัยแล้ว เมื่อเห็นต้าหลี่กำลังกวาดพื้น นางก็ร้องเรียกเขา “ต้าหลี่!”
ต้าหลี่ก้มศีรษะลงอย่างเคารพและถามว่า “นายหญิง ท่านมีคำสั่งอะไรหรือเปล่า?”
หลี่ซือซือจึงเอ่ยถามว่า “นายท่านไปไหนแล้วหรือ? ทำไมข้าถึงหาเขาไม่เจอเลย?”
ต้าหลี่ตอบกลับไปโดยไม่ลังเลว่า “ขอตอบนายหญิง นายน้อยกำลังออกไปเดินเล่น! จักรพรรดินีให้วันหยุดแค่สามวันแก่นายท่าน ดังนั้นนายท่านจึงต้องใช้มันให้ดีที่สุดในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีโอกาสอีก!”
หลี่ซือซือพลันรู้สึกสับสนหลังจากได้ยินคำพูดของต้าหลี่ เขาใช้วันหยุดอันมีค่าด้วยการไปเดินเล่นแทนการไปเตรียมงานในอนาคตหรือ?
นั่นมันความคิดของเด็กไร้เดียงสาที่กำลังเรียนไม่ใช่หรือ?
ในฐานะที่เขาเป็นข้าราชการชั้นนำที่ได้รับการแต่งตั้งและยังเป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก ไม่ใช่ว่าเขาควรทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อรับใช้ราชสำนักหรอกหรือ? ความขัดแย้งนี้มันมากเกินไปแล้ว! ความง่วงนอนของนางหายไปในพริบตา!
หลี่ซือซือเริ่มอยากรู้เกี่ยวกับหลินเป่ยฟานมากขึ้นและจึงกวักมือเรียกต้าหลี่อีกครั้ง “ต้าหลี่ บอกเรื่องอดีตของนายท่านเจ้าให้ข้าฟังที เขาเป็นคนแบบไหนงั้นเหรอ?”
ต้าหลี่ตอบกลับไปอย่างกระตือรือร้น “โอ้ นายหญิง ข้าน่ะสามารถพูดเรื่องนายท่านของข้าได้เป็นเวลาสามวันสามคืนเชียวนะ! ท่านหลินเป่ยฟานเป็นคนที่มีความตั้งใจแน่วแน่ ไม่สนใจชื่อเสียงและโชคลาภ ไม่แสวงหาความสุขหรือความร่ำรวย นายท่านคือแบบอย่างที่ดีชีวิตของข้าเลย”
หากเป็นเช่นนั้น ไฉนถึงมีข่าวลือว่าเขาโลภและทุจริตในขณะที่เขาสะสมเงินตราหลังจากได้รับเข้าตำแหน่งกัน
หลี่ซือซือรู้สึกสับสนอย่างยิ่ง บุคลิกที่แตกต่างกันทั้งสองนี้จะมาอยู่ในตัวบุคคลเดียวกันได้อย่างไร? ซึ่งภาพที่นางเห็นก็สอดคล้องกับสิ่งที่ต้าหลี่อธิบายมากกว่า นางครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็ไม่เข้าใจเลย ในที่สุดนางก็ได้แต่ถอนหายใจ “หลินเป่ยฟาน เจ้าเป็นใครกันแน่?” หลี่ซือซือเริ่มอยากรู้เกี่ยวกับหลินเป่ยฟานมากขึ้นไปอีก มันเป็นความรู้สึกอยากรู้ที่นางไม่อาจต้านทานได้เลย
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าวันเวลาของนางที่นี่จะธรรมดา แต่หลี่ซือซือก็พบความสงบสุขและความปลอดภัย ต่างจากความวิตกกังวลในอดีตและความกลัวที่คุกคามนาง
บางครั้งนางก็เล่นพิณ บางครั้งนางก็ช่วยหลินเป่ยฟานทำงานบ้าน ดูแลสนามหญ้าและความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
หลินเป่ยฟานเริ่มสังเกตเห็นถึงความแตกต่างของการมีสตรีอยู่ในเรือนของเขา หลี่ซือซือสามารถจัดการปัญหาหลายอย่างที่เขาเคยมองข้ามไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในวันนี้ หลินเป่ยฟานได้สวมเครื่องแบบอย่างเป็นทางการของเขาและกำลังไปเข้าร่วมการประชุมราชสำนักช่วงรุ่งสาง