บทที่ 19: ไปหอนางโลมเพื่อหาภรรยา!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 19: ไปหอนางโลมเพื่อหาภรรยา!
เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าโศกของหลินเป่ยฟาน ทุกคนก็อยากจะทุบตีเขา!
เขาได้รับสตรีโฉมงามที่มีทั้งทักษะด้านศิลปะและความรู้สึกรัก ซึ่งถือได้ว่าเป็นโชคลาภที่หลายคนไม่สามารถแม้แต่จะฝันถึงได้ แต่เหตุไฉนเขาถึงทำเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำเช่นนี้!
มันไม่มีเหตุผลเลย! พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว! อารมณ์พวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ!
ในที่สุด หลี่ซือซือก็ต้องจ่ายเงินไถ่ถอนและได้รับอิสรภาพกลับคืนมา เรือนร้อยบุปผาจัดพิธีอำลาอย่างเรียบง่าย
“ท่านแม่ ขอบคุณที่ดูแลข้ามาตลอดหลายปี! หากไม่ได้รับการดูแลจากท่าน ข้าเกรงว่าข้าคงจะไม่ได้อยู่ที่นี่ในยามนี้…เมื่อข้ามีเวลา ข้าจะมาหาท่านบ่อยๆ!” ดวงตาของหลี่ซือซือเต็มไปด้วยน้ำตา
ดวงตาของคุณหญิงก็เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเช่นกัน: “ซือซือ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนลูกสาวเสมอ! เมื่อเจ้าได้พบสามีที่ดีแล้ว ข้าก็รู้สึกมีความสุขแทนเจ้าจริงๆ! ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีทั้งดีและไม่ดี เช่นนั้นเมื่อเจ้าออกไปแล้ว จงอย่าได้กลับมาที่นี่อีก! แต่ถ้าข้ามีเวลา ข้าจะไปหาเจ้าเอง!”
"ท่านแม่!"
“ซือซือ!” หญิงสาวทั้งสองกอดกันและร้องไห้ออกมา จากนั้นคุณนายก็จับมือของหลี่ซือซือและวางไว้บนมือของหลินเป่ยฟาน
หลินเป่ยฟานได้แต่เงียบกริบ
“จากนี้ไป ขอให้เจ้าสองคนมีชีวิตร่วมกันอย่างสุขสันต์!”
คุณนายพูดกับหลินเป่ยฟานด้วยความจริงใจ: “ข้าราชการหลิน ซือซือมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่นางยังเยาว์วัย! แต่แม้ว่านางจะมาจากย่านโคมแดง แต่นางก็ยังคงไร้มลทินและเป็นสตรีที่หายากและยอดเยี่ยมมาก! ดังนั้นท่านต้องปฏิบัติต่อนางอย่างดีและไม่ทำให้นางผิดหวัง เข้าใจหรือไม่?”
เมื่อได้ยิน ปากของหลินเป่ยฟานถึงกับกระตุก ไหงมันถึงให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังเข้าพิธีแต่งงานกัน
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี!” เขากล่าวตอบ
ในที่สุด ท่ามกลางการอำลาอย่างไม่เต็มใจของฝูงชน หลินเป่ยฟานและแม่นางก็เดินออกมาจากเรือนร้อยบุปผา
หลี่ซือซือหลือบมองไปที่เรือนร้อยบุปผา จากนั้นจึงหันกลับมาโค้งคำนับหลินเป่ยฟานเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าราชการหลิน จากนี้ไปข้าเป็นของท่าน ได้โปรดอ่อนโยนแก่ข้าด้วย”
หลินเป่ยฟานที่มีสายตาเฉียบคมสามารถเห็นจุดประสงค์บางอย่างแฝงอยู่ในรอยยิ้มของนาง ในความเป็นจริง หลินเป่ยฟานสงสัยในแรงจูงใจของนางมาโดยตลอด
เขาไม่เชื่อว่าสตรีตรงหน้าจะตามเขามาเพราะนางชื่นชมเขา ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้บนโลกหรอก!
สตรีผู้ไม่ตรงไปตรงมาย่อมมีเหตุผลของการกระทำอยู่จริงไหม?
แสดงว่านางต้องมีเจตนาอื่นเป็นแน่! ทว่านางเป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอ หลินเป่ยฟานมั่นใจว่าเขาสามารถรับมือกับนางได้! เขาเองก็อยากเห็นว่านางมีจุดประสงค์อะไร
“เช่นนั้นก็มากับข้าเถอะ!”
พร้อมกันนั้น หลินเป่ยฟานก็กล่าวเตือนว่า: “แต่ให้ข้าบอกล่วงหน้าก่อนนะว่าชีวิตที่อยู่กับข้านั้นยากลำบาก! หากเจ้าไม่สามารถรับมือได้ เจ้าสามารถออกไปได้ด้วยตัวเองเลย ข้าจะไม่หยุดเจ้าไว้!”
"ท่านพูดเรื่องอะไรกันหรือ?"
หลี่ซือซือรู้สึกโกรธเล็กน้อย: “ในเมื่อข้าเลือกท่านไปแล้ว ข้าก็จะอยู่กับท่านตลอดไป! ข้าจะเป็นคนของท่านทั้งในโลกแห่งนี้และโลกความตาย! ข้าหวังว่าในอนาคตท่านคงจะไม่พูดคำที่ทำให้ข้าเจ็บปวดเช่นนี้อีก!” นางเป็นสตรีที่ยึดหลักขนบธรรมเนียม
ไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์อะไร แต่ในเมื่อนางเลือกหลินเป่ยฟานแล้ว แม้เขาจะเป็นไก่นางก็จะอยู่ด้วย แม้เขาจะเป็นสุนัข นางก็จะอยู่ด้วย
ถึงหลินเป่ยฟานจะมีปัญหา นางก็จะตามเขาไป เหมือนที่แม่ของนางทำในยามนั้น
หลินเป่ยฟานถึงกับตกตะลึง เขาเพียงกล่าวบอกนางเท่านั้น ไฉนนางถึงจริงจังมากเพียงนี้?
ราวกับว่านางจะไม่มีวันผิดหวังในตัวเขาเลย! เป็นไปได้ไหมว่านางตกหลุมรักเขาจริงๆ?
"ถ้าอย่างนั้นก็กลับเรือนก่อนเถิด
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็กลับไปยังคฤหาสน์ที่จักรพรรดินีมอบให้
ต้าหลี่เดินออกมาจากข้างในและเห็นหลินเป่ยฟานกับสตรีที่ดูโดดเด่นสองคน เขาจึงรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง: “นายท่าน แม่นางสองคนนี้คือ…?”
หลินเป่ยฟานถอนหายใจและแนะนำพวกนางไป: “คนผู้นี้ชื่อหลี่ซือซือ สตรีที่มีชื่อเสียงไปทั่วเมืองหลวง! ส่วนเด็กสาวตัวน้อยคนนี้มีชื่อว่าเสี่ยวกุ้ย สาวใช้ของหลี่ซือซือ! จากนี้ไป พวกนางจะอาศัยอยู่ที่นี่!”
"อา? พวกนางจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือ?”
ต้าหลี่ยิ่งประหลาดใจและกระซิบออกมาว่า “นายท่าน พวกเขาเป็นอะไรกับท่าน ทำไมพวกนางถึงอยู่ที่นี่ได้? ไม่ใช่ว่าท่านบอกไม่ชอบพวกคนนอกไม่ใช่หรือ?”
หลินเป่ยฟานรู้สึกขัดมาก “ข้าไปพูดเช่นนั้นยามใดกัน?” การบอกว่านางเป็นภรรยาของเขานั้นคงไม่ถูกต้องนัก การบอกว่านางเป็นสหายก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน เช่นนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไร? เขาไม่สามารถอธิบายได้ในยามนี้ หากจะบอกเป็นคำพูดคงยากจะอธิบายได้ง่าย
ในตอนนั้นเอง หลี่ซือซือพูดขึ้นว่า “เจ้าต้องเป็นต้าหลี่ใช่หรือไม่?” ต้าหลี่พยักหน้า “ขอรับข้าเอง! มีอะไรที่ท่านต้องการหรือเปล่าคุณหนูหลี่?”
“ไม่เลย!” หลี่ซือซือถือชุดอาภรณ์ไว้ในมือและยิ้มออกมา “ข้าได้ยินองค์จักรพรรดินีกล่าวถึงเจ้ามาก่อน นางบอกว่าเจ้าเป็นบุรุษที่ซื่อสัตย์และเป็นคนดี! ข้าเลือกเสื้อผ้าเหล่านี้ให้เจ้าระหว่างทาง เพื่อที่จะมอบให้เจ้าเป็นของขวัญ ข้าหวังว่าเจ้าจะชอบมันนะ!”
“นี่คือเสื้อผ้าของข้าหรือ?” ต้าหลี่ประหลาดใจมาก ตั้งแต่เขาจำความได้ นอกจากแม่ของเขาแล้ว ไม่มีสตรีคนไหนเคยให้ของขวัญแก่เขาเลย
ทันทีที่เขาเห็นความประณีตของเสื้อผ้าเหล่านี้ เขาก็ตื่นเต้นและถูมือเข้าหากัน “ข้าจะรับสิ่งนี้มาได้ยังไงกัน?”
ในเวลานั้นเอง เสี่ยวกุ้ยที่เป็นสาวใช้ก็พูดขึ้น “เจ้าควรรับมันไปเถอะ นี่เป็นของขวัญจากนายหญิงของเจ้านะ!”
“นายหญิงหรือ? นั่นหมายความว่าท่านเป็นภรรยาของนายท่านใช่หรือไม่?”
ต้าหลี่หันศีรษะกลับมาด้วยความตกใจ “ให้ตายเถอะ! นายท่าน ท่านช่างน่าทึ่งจริงๆ!” เพียงออกไปเที่ยวข้างนอก ท่านก็กลับมาพร้อมภรรยาโฉมงามแล้ว!"
หลินเป่ยฟานได้แต่เงียบกริบตอบไป
เขาเองก็คิดว่าเขาน่าทึ่งมากจริงๆ! เขาไปหอนางโลม ฟังท่วงทำนอง ดื่มไวน์บุปผาและจบลงด้วยการได้รับภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มจนตาค้าง! ทั้งหมดนี้…เขาคิดว่าสวรรค์กำลังล้อเขาเล่นด้วยซ้ำ!
.
. .