บทที่ 128 ความสามารถด้านข้อมูล
บทที่ 128 ความสามารถด้านข้อมูล
"ท่านเจ้าตำหนัก ขอบคุณท่านมากที่ให้โอกาสข้าในการทะลวงผ่านปรมาจารย์นักรบ ขัาสัญญาว่า ข้าจะรับใช้ท่านให้ดียิ่งขึ้น" ผู้เชี่ยวชาญปรมาจารย์นักรบคสใหม่กล่าวขอบคุณหมิงหลาน
โลกนี้พูดด้วยความแข็งแกร่ง ยิ่งถ้าเขาบุกเข้าสู่ขอบเขตมหาปรมาจารย์นักรบด้วยแล้ว ความสำคัญในสมาคมการค้าว่านเป่าของเขาก็ยิ่งสูงขึ้น
“แค่ทำงานให้หนักขึ้นในอนาคต” หมิงหลานพูดอย่างเฉยเมย
หลังจากนั้นทั้งหกคนที่เพิ่งทะลวงผ่าน ก็ก้าวเข้ามาขอบคุณหมิงหลาน โดยที่ทั้งหมดมีความรู้สึกคล้ายๆ กัน
เมื่อเผชิญหน้ากับจิตมารในใจนั้น ปกติก่อนที่จะใช้โอสถ จิตมารแข็งแกร่งมาก มันจะรบกวนจิตใจทำให้ไม่สามารถรวบรวมปราณเพื่อทะลวงผ่านได้ แต่หลังจากกินโอสถเข้าไป ทั้งหกมีความรู้สึกเหมือนจิตมารไม่แข็งแกร่งเท่าเดิม ทำให้พวกเขาสามารถรวบรวมปราณเพื่อผ่านทะลุคอขวดได้อย่างง่ายดาย
หมิงหลานบอกให้คนเหล่านี้ถอยออกไป นางมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว โอสถสงบจิตนี้มีผลที่ทรงพลังจริงๆ
ในความคิดนางตอนนี้คือ นางกำลังจะรวยแล้ว!
แม้ว่บิดามารดาของนางจะถือว่ารวย แต่พ่อนางก็มีลูกมากกว่าหนึ่งคน
และยังมีพี่น้องต่างมารดามากกว่าหนึ่งโหล แถมนางยังอยู่มีสถานะต่ำในครอบครัว
ยิ่งมีสมาชิกในครอบครัวมาก ทรัพยากรที่สนับสนุนก็น้อย ยิ่งกว่านั้น สถานะบิดายางในสมาคมการค้าว่านเป่า ไม่ถือว่าสูงนัก
แน่นอนว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอาณาจักรหยาย ครอบครัวของนางยังคงแข็งแกร่งกว่ามาก และบิดาของนาง ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญบรรพชนนักรบ(หวู่ซุน) อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ เพื่อตอบสนองต่อความทะเยอทะยานของนาง หมิงหลานจึงทำงานหนักมาก
“เป็นยังไงบ้าง ผลที่ได้ก็ไม่แย่ใช่ไหม?”หลินเป้ยพูดกับหมิงหลาน หลังจากที่คนเหล่านี้ออกไป
“ผลกระทบนี้มีพลังมากจริงๆ ดังนั้นความร่วมมือระหว่างเราจะมีผลทันที แน่นอนว่า เจ้าต้องแก้ไขวิกฤตกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตด้วยตัวเอง รวมทั้งตระกูลโจว และสมาคมเงามืดด้วย” หมิงหลานกล่าว
หมิงหลานให้หลินเป้ยจัดการแก้ไขปัญหาของเขาก่อน แต่แน่นอน ถ้าเขาไม่สามารถแก้ไขได้จริงๆ นางก็ไม่รังเกียจที่จะช่วย แต่หลินเป้ยอาจต้องให้ผลประโยชน์แก่นางเพิ่มเติมเล็กน้อย
ตอนนี้นางเห็นคุณค่าของหลินเป้ยแล้ว นางย่อมไม่ปล่อยให้หลินเป้ยตายอยู่แล้ว
ที่หมิงหลานอยากเห็นก็คือ หลินเป้ยจะจัดการปัญหานี้ยังไง ในตอนนี้ นางมีความรู้สึกสนใจในตัวเขาเล็กน้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้นางคิดว่าทักษะการปรุงยาของหลินเป้ยนั้นไม่ดีพอ แต่เขากลับทำให้นางประหลาดใจ
และเมื่อนางได้ยินว่า หลินเป้ยสามารถสังหารผู้ฝึกตยได้มากกว่า 200 คน รวมถึงปรมาจารย์นักรบมากกว่าหนึ่งโหล นางก็อยากจะเห็นว่าหลินเป้ยมีความสามารถเพียงใด
นักรบแท้จริงขั้น 3 จะทำได้ถึงระดับไหนกันนะ?
มีอัจฉริยะไม่มากที่นางสนใจ ไม่ต้องพูดถึงหลินเป้ยผู้นี้ ดูเหมือนจะมีความสามารถมากกว่านาง
“เฮอะ กลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตงั้นเหรอ? ข้ากลัวว่าพวกเขาจะไม่กล้ามา ถ้าพวกเขากล้า ข้าจะให้พวกเขามา แต่กลับไปไม่ได้” หลินเป้ยยิ้มเยาะ
ข้อมูลส่วนใหญ่ของสมาคมการค้าว่านเป่าเป็นเรื่องจริง และตอนนี้หลินเป้ยรู้สึกประหลาดใจกับความสามารถด้านข้อมูลมาก
ด้วยกองกำลังที่ทรงพลังเช่นนี้ ข้อมูลข่าวกรองจะอ่อนแอได้อย่างไร?
“ได้ นี่คือข้อมูลในอีก 10 ปี ข้างหน้า พร้อมเวลานัดหมายและคำแนะนำบางส่วน เจ้าเก็บมันไว้ดีๆ และห้ามลืมนัดหมายของเราเด็ดขาด ส่วนตราสัญลักษณ์อันนี้ เป็นของขวัญจากข้า ช่วยให้องค์กรข่าวกรองของ สมาคมการค้าว่านเป่าให้บริการเจ้าสามครั้ง เจ้าสามารถใช้ได้ที่ร้านค้าว่านเป่าสาขาใดก็ได้ แล้วเจ้าของสาขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าให้เสร็จสิ้น” หมิงหลานกล่าว
ดวงตาของหลินเป้ยสว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินที่นางบอก เขาไม่เคยคิดเลยว่าหมิงหลานจะเต็มใจที่จะมอบตราสัญลักษณ์ที่สำคัญเช่นนี้ให้กับเขา
เขาสามารถใช้องค์กรข่าวกรองได้สามครั้ง หากเขาต้องการตรวจสอบบางสิ่งในอนาคต มันจะสะดวกมากอย่างแน่นอน
ขนาดในสาขาเมืองเล็กๆ ยังน่าทึ่งเช่นนี้ แล้วในเมืองใหญ่ล่ะ?
หมิงหลานให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่เขา และหลินเป้ยก็รับมาอย่างดีใจ
หลังจากนั้น หลินเป้ยก็ได้มอบสูตรยาให้ ซึ่งช่วยให้หมิงหลานสร้างรายได้มากขึ้นในช่วงเวลานี้ นางรู้สึกขอบคุณและทำให้นางมีความมั่นใจมากขึ้น ในการเข้าร่วมการประลองในอีกสิบปีข้างหน้า
อีกประการหนึ่งคือ หมิงหลานไม่ต้องการให้อัจฉริยะเช่นหลินเป้ยอัตรายในวันข้างหน้า ดังนั้นนางจึงให้ตราสัญลักษณ์องค์กรข้อมูลของสมาคมการค้าว่านเป่า เผื่อบางทีอาจช่วยหลินเป้ยได้
โลกภายนอกนั้นอันตราย
หมิงหลานมีตราสัญลักษณ์ดังกล่าวเพียง 3 ชิ้นเท่านั้น เท่ากับนางขอข้อมูลฟรีได้เก้าครั้ง หลังจากหมดเก้าครั้งนี้ นางจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งมันแพงมาก
แน่นอนว่า หากเป็นข้อมูลเล็กน้อย ก็ไม่ต้องเสียเงิน อย่างข้อมูลเกี่ยวกับเมืองชิงหลินเป็นต้น
แต่หากเป็นข้อมูลข่าวกรองข้ามภูมิภาค นั้นต้องใช้ตราสัญลักษณ์หรือจ่ายเงิน
ในฐานะลูกหลานตระกูลรอง หมิงหลานมีสิทธิ์ได้ตราสัญลักษณ์แค่สามชิ้นแค่นั้น
สำหรับลูกหลานสายตรง จะมีตราสัญลักษณ์ดังกล่าวสิบชิ้น นั่นคือสามสิบข้อมูลฟรี
สถานะที่แตกต่างกัน ก็ได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดา
“ขอบคุณมาก เจ้าตำหนัก”หลินเป้ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากได้รับตราสัญลักษณ์นี้ หลินเป้ยก็รู้สึกดีมาก
“ซุนซิง ส่งแขกได้แล้ว” หมิงหลานพูด เพื่อไล่เขาออกไป
หลินเป้ยตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คิดว่านางจะขับไล่เขาออกไปเร็วเช่นนี้นี้ นางค่อนข้างเย็นชา
“นายน้อยหลิน มาเถอะ ข้าจะไปส่งท่านเอง แล้วข้าจะกลับไปร้านร้อยโอสถด้วย” ซุนซิงชวนหลินเป้ยกลับ
“ตกลง” หลินเป้ยก็ไม่พูดอะไรอีก อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงระหว่างทั้งสองก็บรรลุผลแล้ว
หลังจากที่หลินเป้ยติดตามซุนซิงออกมาแล้ว ซุนซิงก็เริ่มสนทนากับเขา ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นการถามข้อมูลของหลินเป้ยเพิ่มเติม
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหลินเป้ยเป็นศิษย์ของตระกูลหลิน แต่หลินเป้ยก็มีความลับมากเกินไป
หลินเป้ยไม่ใช่ขยะเหมือนที่เล่าลือกันมา แต่เป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่
เขาไม่เข้าใจว่าก่อนหน้านี้ตระกูลหลินถึงไม่สนใจ
“นายน้อยหลิน ทักษะการปรุงยาของท่านยอดเยี่ยมมาก ท่านเรียนรู้มาจากใคร?” ซุนซิงถามด้วยรอยยิ้ม
หลินเป้ยอายุ 17 ปี และเขาสามารถกลั่นโอสถระดับ 3 ได้คุณภาพสูงสุดซึ่งเขาไม่สามารถเทียบได้เลย
จริงๆ แล้ว นักปรุงยาถึงอยู่ระดับเดียวกัน แต่ยังแบ่งเป็นขั้นสูงและขั้นต่ำ
อย่างไรก็ตาม คนทัั่วไปไม่ทราบถึงการแบ่งขั้นเช่นนี้
ตัวอย่างเช่นหลินเป้ยและซุนซิง ต่างก็เป็นนักปรุงยาระดับ 3 แต่หลินเป้ยเป็นนักปรุงยาระดับ 3 ขั้นสูงสุด ในขณะที่ซุนซิงเคยอย่างมากก็กลั่นยาได้แค่คุณภาพสูงเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นนักปรุงยาระดับ 3 ขั้นสูง
“โอ้ อาจารย์ของข้า เขามีความสามารถมาก เขาเก่งกว่าข้าเยอะ แต่เขาแค่กลั่นโอสถเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น เจ้ายังจำโอสถรวบรวมปราณระดับหนึ่ง ขั้นสูงสุด ก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?”หลินเป้ยถาม
ก่อนหน้านี้ หลินเป้ยได้ขายโอสรวบรวมปราณขั้นสูงสุดให้ ซึ่งซุนซิงก้ก็จำได้อย่างแน่นอน