ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 176 - ซุ่มโจมตี (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 178 - ฟิลลิดา กับเดวิด

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 177 - สอบปากคำ


ในตอนต้น เงาร่างนั้นยืนจ้องอยู่ที่เดวิดอย่างสงบนิ่ง แต่ในใจนั้นเกิดความสงสัยและสับสนในอาการผ่อนคลายของเขาเป็นอย่างมาก

ในป่าลึกแบบนี้ อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สัตว์ป่าที่ดุร้ายมีอยู่เป็นจำนวนมาก นี่ยังไม่รวมถึงโอกาสที่จะถูกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์จู่โจมได้ตลอดเวลาอีกด้วย ถ้ามีใครจำเป็นต้องพักค้างคืนอยู่ในป่า เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีเพื่อนคอยอยู่เฝ้าเป็นเวรยามให้ ไม่มีใครกล้าจะหลับตาลงนอนได้แน่ แต่เดวิดกลับทำเหมือนว่าที่นี่เป็นสวนหลังบ้านเท่านั้น เขาสามารถนอนหลับฝันหวานได้อย่างสบายใจ ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว

เธอไม่แน่ใจว่าเขาโง่จริง ๆ หรือว่าแค่มีความกล้าหาญมากกว่าคนอื่น ๆ เท่านั้น แต่ถ้าดูจากที่เดวิดยังคงสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ มันน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ไม่มีทางที่คนโง่และประมาทเลินเล่อจะรอดชีวิตอยู่ในป่าแห่งนี้ได้เกือบ 2 วันแน่ ๆ

ร่างนั้นสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานออกมา “ไม่ได้เจอกันสักพักแล้วนะ เดวิด!” และก้าวออกไปทิ้งตัวนั่งลงบนก้อนหินที่อยู่ไม่ห่างจากโคนต้นไม้นั่นมากนัก

ดวงตาของเดวิดเบิกโพลงขึ้นมาอย่างทันที แววตาแข็งกร้าวขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนจะหายไป และเขารีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง หันมองไปทางต้นเสียงนั้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าดูจะกว้างกว่าปกติเล็กน้อย “ฟิล! ทำไมถึงเป็นเธอได้ละ ฉันคิดไม่ถึงเลยนะเนี่ย”

‘ในที่สุดก็ทนไม่ได้แล้วสินะ แม่เสือสาวในที่สุดก็แยกเขี้ยวเสียที’ ในใจของเดวิดมีเสียงหัวเราะที่เย็นชาดังขึ้น

ฟิลลิดาอยู่ในชุดเสื้อคลุมตัวโคร่งเหมือนเดิม แต่มันก็ยังไม่สามารถปิดบังเรือนร่างอันเย้ายวนของเธอได้ทั้งหมด เดวิดกวาดสายตามองไปอย่างชื่นชม ท่าทีของเขานั้นเป็นธรรมชาติและไหลลื่นมาก แต่ในใจของเขากระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นหมวกที่เธอสวมอยู่ มันดูคุ้นตามาก

หมวกนั้นมีรูปร่างที่ไม่สะดุดตาเลยแม้แต่นิดเดียว บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่ามันเพียงใช้สำหรับคลุมผมไม่ให้ยุ่งเหยิงน่ารำคาญเท่านั้น แต่เดวิดรู้ดีว่านี่เป็นหมวกของชุดรบ มันเป็นหมวกแบบเดียวกับที่อยู่ในมือของเขาตอนนี้ นี่ทำให้เดวิดระมัดระวังตัวมากขึ้นอีกไม่น้อย

สีหน้าของฟิลลิดานั้นเรียบเฉย แต่เสียงที่กล่าวออกมายังหวานไพเราะเหมือนเดิม “อืม! ฉันตั้งใจมาหานายโดยเฉพาะเลยล่ะ มันมีเรื่องสำคัญที่พวกเราจะต้องคุยกัน”

นั่นทำให้เดวิดต้องเอียงหัวอย่างสงสัย ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเกาที่หน้าคางของตัวเอง ก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย “เรื่องสำคัญอะไรขนาดนั้น นี่มันดึกมากแล้ว เอาไว้คุยกันตอนเช้าดีกว่ามั้ย?”

กลายเป็นฟิลลิดาที่ต้องขมวดคิ้วแน่น ความอดทนเริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆ แล้ว ถ้าไม่ได้เป็นเพราะว่าสภาพร่างกายของเธอยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ บางทีเธออาจจะลงมือจับเขาโดยตรงไปแล้วก็ได้

แต่ฟิลลิดาเลือกทำเพียงแค่ส่ายหัวออกมาเท่านั้น “ไม่ได้หรอก! เรื่องนี้รอนานไม่ดี อันที่จริง ฉันรอมานานพอสมควรแล้ว และมันทำให้เขาเริ่มที่จะหมดความอดทนแล้วด้วย เขาต้องการคำตอบโดยเร็วที่สุด!”

เดวิดกระพริบตาถี่ เสียงพึมพำดังขึ้นในใจทันที ‘อืม? นี่ชักจะน่าสนใจมากขึ้นไปทุกทีแล้ว’

“หือ? เรื่องอะไรสำคัญถึงขนาดที่จะรอแค่ 2-3 ชั่วโมงไม่ได้ แล้ว ‘เขา’ ที่เธอว่านั่นคือใครกัน? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน เธอช่วยอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ หน่อยได้มั้ย?” สีหน้าท่าทางของเดวิดนั้นดูไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก สายตานั้นเต็มไปด้วยความสงสัยและสับสนที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน อันที่จริงแล้ว มันเป็นการแสดงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะเขากำลังสงสัยในสิ่งที่ฟิลลิดากล่าวออกมาอยู่ไม่น้อยทีเดียว

“ฉันจะบอกให้นายฟังทีหลัง ถ้านายตอบคำถามของฉันมาตามตรงก่อน” ดูเหมือนว่าฟิลลิดาต้องการที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลอยู่เหมือนกัน

เดวิดรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ถามเลย ๆ ถ้าฉันรู้ ฉันตอบตามตรงแน่ ๆ จะพยายามตอบให้ดีที่สุดด้วย” เขาสงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่าฟิลลิดาต้องการอะไร ทำไมเธอถึงให้ความสนใจกับเขามากนัก มันไม่ใช่เรื่องที่ปกติเลยสักนิดเดียว

ตั้งแต่ตอนที่พบกับเธอในตอนแรก เดวิดนั้นกังวลกับความแข็งแกร่งของฟิลลิดาเป็นอย่างมาก เขารู้ตัวดีว่าไม่มีทางที่จะต่อกรกับเธอได้เลย ทำให้เลือกที่จะหลบเลี่ยง ไม่พยายามที่จะมีปฏิสัมพันธ์ด้วย แต่ตอนนี้มันต่างจากตอนนั้นแล้ว เขาพร้อมแล้วที่จะค้นหาว่าเจตนาที่แท้จริงของเธอคืออะไรกันแน่?

“ตอนที่นายได้ยินคำว่า ‘กริฟฟิน’ นายคิดยังไงบ้าง?” ระหว่างที่เอ่ยคำถามนี้ออกไป ฟิลลิดาเปิดการทำงานของ ‘ระบบขยายการมองเห็น’ ที่ติดตั้งอยู่ในหมวกของตัวเองทันที

มันเป็นระบบที่เพิ่มกำลังขยายในการมองเหมือนกับชื่อไม่มีผิด สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ปรากฏขึ้นในสายตาจะขยายขนาดขึ้นเป็น 2 เท่า แต่นี่ไม่ใช่ระบบที่ถูกติดตั้งเอาไว้สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการสู้รบเลยแม้แต่น้อย กลับกัน! ถ้าใช้มันในระหว่างที่ทำการต่อสู้ จะเป็นการลดประสิทธิภาพในการมองเห็นลงเสียอีก เพราะวิสัยทัศน์จะแคบลงเป็นอย่างมาก

แต่มันมีประโยชน์ในการรวบรวมเบาะแสและข้อมูล รวมถึงการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีหน้าและท่าทางของคู่ต่อสู้ได้ และฟิลลิดากำลังใช้มันเพื่อสังเกตอาการตอบสนองของเดวิดอยู่ เธอใช้มันเพื่อดูว่าเขาพูดจริง หรือว่ากำลังโกหกอยู่กันแน่!

และทันทีที่เดวิดได้ยินคำถามนี้จากปากของฟิลลิดา สีหน้าของเขาก็กลายเป็นสับสน และตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความประหลาดใจ “ก็ดีนี่?” แน่นอน! ในใจของเขานั้นกลายเป็นเย็นเยียบ เดวิดรู้ตัวแล้วว่าตัวเองก่อเรื่องยุ่งยากครั้งใหญ่ขึ้นมาแล้ว

แต่เขายังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมการเผลอหลุดพึมพำกับตัวเองแค่เพียงครั้งเดียวถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ หลังจากที่มีประสบการณ์ในโลกนี้มากขึ้น เดวิดรู้แล้วว่าชื่อของสิ่งมีชีวิตในตำนานของโลกเดิมที่ตัวเองจากมา เป็นความลับระดับสุดยอดของโลกใบนี้ มีแต่ผู้ที่มีอำนาจระดับสูงเท่านั้นที่รู้ความลับเหล่านี้ และพยายามที่จะดัดแปลงพันธุกรรมของตัวเองให้แข็งแกร่งเหมือนกับสิ่งมีชีวิตในตำนานเหล่านั้น

สิ่งที่เดวิดสงสัยเป็นอย่างมากก็คือ ใครคือคนที่ได้ยินเขาเอ่ยชื่อ ‘กริฟฟิน’ ออกมาในวันนั้น? มันเป็นการพึมพำที่เบาจนแทบจะฟังไม่ได้ยิน แม้แต่ไนฮุนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับเขาในตอนนั้น เดวิดก็มั่นใจว่าไม่มีทางได้ยินแน่ ๆ การที่มีไม่สามารถสรุปหาผู้ที่มุ่งร้ายต่อตัวเองว่าเป็นใคร ทำให้จิตใจของเขานั้นหวั่นไหวอยู่ไม่น้อยเลย

หลังจากที่เดวิดเอ่ยตอบกลับไปแล้ว ฟิลลิดาก็ยังจ้องหน้าเขาอยู่เงียบ ๆ อย่างนั้นเกือบ 20 วินาที ก่อนที่เธอจะสั่งปิดระบบขยายการมองเห็นลง

‘คิ้วของเขาสั่น! ใช่! คิ้วของเขาสั่นนิดหนึ่ง เจ้าหมอนี้รู้เรื่องที่ฉันพูดจริง ๆ’

ฟิลลิดากระแอมทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดขึ้นมาในที่สุด “เดวิด! พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดที่นายรู้เรื่อง ‘กริฟฟิน’ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยิบย่อย เล็กน้อยขนาดไหน พฤติกรรม ขนาดตัว อุปนิสัย มันกินอะไรเป็นอาหาร ทุกเรื่อง! บอกทุกเรื่องที่นายรู้ออกมา”

สีหน้าของเดวิดยังคงอยู่ในอาการสับสน คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันแล้ว “เธอพูดเรื่องอะไร? กริฟฟินอะไร? อะไรคือกริฟฟิน? แล้วฉันรู้อะไร? มันเกี่ยวอะไรกับฉันกันแน่เนี่ย?” เขาถามกลับไปด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ มือทั้ง 2 ข้างขยับเข้าหากัน เดวิดไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าทันทีที่ยอมรับเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไป มันจะกลายเป็นบ่วงที่รัดคอตัวเองเอาไว้ทันที

เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่การทำข้อตกลงกับแม่สาวน้อยตรงหน้านี้เท่านั้น จากที่ฟิลลิดาพูดออกมาในตอนแรก มันยังมีตัวการใหญ่คอยชักใหญ่อยู่เบื้องหลังอีก ต่อให้เธอตั้งใจจะทำข้อตกลงกับเขาจริง ๆ มันไม่มีทางที่จะหลุดรอดสายตาของคนที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดนั่นได้แน่ และมันจะยิ่งทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากขึ้นอย่างทวีคูณทีเดียว เดวิดตั้งใจที่จะปฏิเสธจนถึงที่สุด เขาไม่มีวันยอมรับเรื่องพวกนี้แน่ ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม

“หึหึ! ฉันรู้ว่านายไม่มีทางยอมรับง่าย ๆ แน่ บอกนายตามตรงก็ได้ ที่ฉันทำเรื่องนี้ ก็เพราะว่าได้รับคำสั่งมาจากคนที่มีอำนาจอย่างเหลือล้นในสถาบัน คนที่นายไม่มีทางหลบหนีหรือต่อต้านได้ ต่อให้ฉันทำงานนี้ล้มเหลว เขาก็จะส่งคนใหม่มาค้นความลับจากนายอยู่ดี

คำแนะนำของฉันก็คือ นายบอกเรื่องที่รู้ออกมาให้หมดเถอะ อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปมากกว่านี้เลย คนที่จะมาแทนฉัน คงไม่ใช่คนที่ใจดีและคุยง่ายเหมือนฉันแน่!” ฟิลลิดาเอ่ยข้อมูลบางอย่างออกมาเพื่อเป็นการเกลี้ยกล่อมเดวิด ในสายตาของเธอนั้น เขาก็เป็นเพียงคนโง่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรอยู่เท่านั้น เป็นเหมือนกับชาวนาที่ขุดเจอสมบัติแล้วไม่รู้คุณค่าของมัน และที่เลวร้ายไปกว่านั้น เขากำลังจะถูกคนอื่นฆ่าเพื่อแย่งชิงสมบัตินั้นไปเสียด้วย

ฟิลลิดาไม่กังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลออกไปเล็กน้อยจะเป็นพิษเป็นภัยอะไร ต่อให้เดวิดรู้มากกว่านี้ ก็ไม่มีทางที่จะทำอะไรได้ เขาไม่ใช่คนฉลาด และไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งอะไรเลย การจะจัดการกับเดวิด เธอคิดว่าใช้แค่มือเดียวก็น่าจะเพียงพอ!

“คิดเรื่องนี้ให้ดี ๆ อย่างตัดสินใจทำอะไรที่มันวู่วาม คิดถึงความเป็นจริงด้วย” เธอยังใจดีพอที่จะเอ่ยเตือนออกมาต่อ

แต่สีหน้าของเดวิดนั้นไม่เปลี่ยนแปลงเลย มันยังเต็มไปด้วยความสับสน “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่? ฟิล! ใคร? ทำไม? ทำไมถึงได้มีใครส่งเธอมาหาฉันด้วย? มันเรื่องอะไรกันแน่? เธอไม่ได้จำผิดคนแน่นะ?” แววตาของเขาใสซื่ออย่างกับดวงตาของเด็กทารกก็ไม่ปาน

นั่นทำให้ให้ฟิลลิดาคำรามออกมาอย่างหมดความอดทน ร่างของเธอหายไปจากจุดที่นั่งอยู่ในทันที

และมีเสียงลอยมาเข้าหูเดวิดอย่างชัดเจน “นายบังคับฉันเองนะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด