ตอนที่ 1290 สุสานโบราณ.. บนภูเขา
หลินฟาน นั่งอยู่ข้างเตียง เทยาสีแดงออกจากขวด ใช้นิ้วจุ่มสัมผัสมัน และทาเบาๆ ไปทั่วบริเวณรอบดวงตาของ ฟาง สี่หยู่
เถ้าแก่ฟาง และภรรยาของเขายืนดูอยู่ข้างๆ จับมือกัน ทั้งสองต่างรู้สึกตึงเครียดมาก ไม่รู้ว่ายาของ หลินฟาน จะให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
“ยาแก้พิษนี้ ผมใช้สมุนไพรเมื่อกี้ปรุงขึ้นมาเอง เวลาเองค่อนข้างเร่งรีบ ดังนั้นสมุนไพรที่เลือกจึงเป็นสมุนไพรที่หาซื้อได้ง่ายโดยทั่วไป ระดับของยานี้ถือได้ว่าอยู่ระดับกลางๆ เท่านั้น ถ้าหากหาสมุนไพรที่ดีกว่าได้ ก็สามารถสกัดยาชั้นดีกว่านี้ได้” หลินฟาน ได้กล่าวออกมา
เมื่อได้ยินอย่างนี้ สามีภรรยาคู่นี้ต่างก็ตกตะลึง หลินฟาน หมายถึงอะไร หรือว่ายานี้.. ไม่ได้มีประโยชน์ในการรักษามากนักหรือ?
อย่างไรก็ตาม...
หลังจากที่ หลินฟาน ทายาไป ฟาง สี่หยู่ ที่เดิมบิดตัวดิ้นไปมาอย่างทุรนทุราย ก็ค่อยๆ สงบลง, ในที่สุด ฟาง สี่หยู่ ก็สงบลงอย่างสมบูรณ์ เขาไม่บิดตัวไปมา และไม่กรีดร้องอีกต่อไปแล้ว สีหน้าของเขาเองก็เริ่มผ่อนคลายลงเช่นกัน
“ลูกรัก ลูกรู้สึกอย่างไรบ้าง?” หญิงวัยกลางคน ตกใจ และอดไม่ได้ที่จะถามไปด้วยความประหลาดใจ
ฟาง สี่หยู่ กล่าวว่า : “มัน.. รู้สึกเย็นมาก เย็นเหมือนกับน้ำแข็งเย็นๆ เลย แล้วก็ตาของผมไม่ได้รู้สึกคันแล้ว และก็ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้นแล้ว!”
“อ๋า?” หญิงวัยกลางคนประหลาดใจมาก เห็นเช่นนี้ ใบหน้าของเธอก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ได้ผล.. ยาของ หลินฟาน มันได้ผลจริงๆ!
สามีของเธอพูดไม่ผิด หลินฟาน เก่งจริงๆ ตอนนี้เธอเชื่อแล้ว!
เถ้าแก่ฟาง ก็รู้สึกยินดีมาก ใบหน้าของเขาได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา และข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่า เขาคิดถูกที่เชิญ หลินฟาน มา และหลินฟาน ก็นับได้ว่าเป็นหมออัจฉริยะจริงๆ!
หลินฟาน ได้หยุดทา เขาหมุนปิดฝาขวดให้แน่น แล้วยื่นส่งไปให้ เถ้าแก่ฟาง พร้อมกําชับไปว่า : “ยาแก้พิษนี้ทาให้เขา เช้า เที่ยง เย็น อย่าได้ทามากเกินไป ภายในสามวัน อาการคันของเขาจะหายไป และภายในหนึ่งสัปดาห์ อาการเจ็บปวด และอาการคันก็จะหายขาด กลับไปเป็นปกติ.. ถ้าหากใช้สมุนไพรที่ดีกว่านี้ เวลาในการรักษานี้จะสั้นลงเหลือเพียงแค่สามวัน”
ที่แท้ หลินฟาน ที่พูด ..หมายความว่า ไม่ใช่ว่ายาระดับกลางๆ ไม่มีประโยชน์ เพียงแต่แค่… ต้องใช้เวลานานกว่าหน่อย!
หลินฟาน เองยังไม่ได้บอกพวกเขาว่า หากเขาสามารถทํายาที่พิเศษกว่านี้ได้ เพียงแค่ทามันลงไปเล็กน้อยก็จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ในทันที
เถ้าแก่ฟาง ได้รับขวดยานั้นด้วยมือทั้งสองข้าง และเก็บมันอย่างระมัดระวัง.. นี่เป็นยาที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาได้ ในสายตาของเขามันไม่ต่างอะไรกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ
หลินฟาน มองไปที่ ฟาง สี่หยู่ แล้วพูดว่า : “ตอนนี้อารมณ์ของคุณมั่นคงแล้วหรือยัง?”
ฟาง สี่หยู่ ตอบว่า : “ครับ..”
หลินฟาน กล่าวว่า : “สารพิษในตัวคุณ มันดูเหมือนคุณจะไปโดนอะไรกัดมา ทั้งพิษชนิดนี้ก็หาได้ยากมาก โดยพื้นฐานแล้วไม่น่าจะปรากฏขึ้นในเมืองได้ แต่อาจจะมีอยู่ในป่าลึก แล้วก่อนหน้านี้คุณเคยไปที่ไหนมาบ้าง?”
ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานมีภูเขานับแสนลูก ทั้งยังมีป่าที่เก่าแก่นับไม่ถ้วน แต่ในภูเขา และในป่าลึกก็มีสัตว์ป่า และพืชป่านับไม่ถ้วน.. สัตว์ และพืชเหล่านี้อาจมีเชื้อโรคที่มนุษย์ไม่รู้จัก ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนได้
ในความเป็นจริงแล้ว ความสําเร็จของมนุษย์ ในด้านการแพทย์ยังคงมีข้อจํากัดอยู่มาก ทั้งยังคงมีปัญหาทางการแพทย์อีกมากมายที่ยากที่จะเอาชนะ การเดินทางของเราได้ก้าวเข้าสู่ทะเลแห่งดวงดาวแล้ว รถแลนด์โรเวอร์ก็ได้ลงจอดบนดาวอังคารที่ห่างไกลแล้ว อย่างไรก็ตาม มนุษย์ก็ยากที่จะศึกษา และทําความเข้าใจ ทั้งมีอยู่หลายครั้งที่แม้แต่มนุษย์เองก็ยากที่จะช่วยเหลือตัวเอง และบางที.. เชื้อโรคที่ไม่รู้จักอาจทําให้สังคมมนุษย์อยู่อย่างกระสับกระส่ายได้
ฟาง สี่หยู่ กล่าวว่า : “ผมได้ไปบนภูเขา…”
ฟาง สี่หยู่ เป็นนักเรียนมัธยมปลายในท้องถิ่นคนหนึ่ง ที่มีผลการเรียนไม่ค่อยดีนัก เขาค่อนข้างชอบเที่ยวเล่นสนุกมากกว่า และชอบออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงกลุ่มหนึ่งในโรงเรียน
อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งของเขาเสนอให้จัดตั้งกลุ่มเพื่อไปสํารวจบนภูเขา เพราะได้ยินมาว่าในภูเขามีสุสานโบราณอยู่ พวกเขาต้องการออกไปล่าสมบัติในสุสานโบราณ หากใครไม่กล้าไปก็เท่ากับว่าเป็นคนขี้ขลาด ไม่มีความกล้า ใครที่ไม่ไปก็ไม่ใช่ ลูกผู้ชาย
คนหนุ่มสาวก็มักจะไร้เดียงสาเช่นนี้ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ แสวงหาความตื่นเต้น เมื่อสมองร้อนก็กล้าคิดกล้าทําอะไรก็ได้ทั้งนั้น
แต่เดิม ฟาง สี่หยู่ ก็เป็นคนที่ค่อนข้างขี้ขลาด และไม่อยากไป แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง บอกว่าจะไปด้วย บังเอิญผู้หญิงคนนี้ก็เป็นหญิงสาวที่ ฟาง สี่หยู่ ชอบ เขาไม่อยากให้เทพธิดาของตัวเอง ..ดูถูกตัวเอง และเขาก็เป็นห่วง ไม่วางใจเทพธิดา จึงตอบตกลงไป
วันนั้นพวกเขาทั้งกลุ่มหกคนได้ขับรถ SUV คันหนึ่ง และจอดอยู่ข้างถนนบนภูเขา พวกเขาได้เดินเท้าเข้าไปในป่าลึก และรีบไปค้นหาสุสานโบราณที่ว่า
ในตอนนี้ เป็นช่วงกลางวันแสกๆ แต่เนื่องจากต้นไม้ที่หนาแน่นจนบดบังท้องฟ้า ในป่าบนภูเขาจึงดูมืดสลัวเล็กน้อย คลื่นความรู้ที่กดขี่บางอย่างจากป่าก็เข้าปกคลุมพวกเขา
ฟาง สี่หยู่ ได้เดินติดตามทุกคนไป ในใจรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างมาก เขาได้มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง ไม่มีทาง.. เขาเคยได้ยินมาว่ามีสัตว์ร้ายในป่าลึก ถ้าเจอก็เท่ากับชีวิตพวกเขาจบเห่แน่ๆ!
เพื่อนสนิทของเขาที่อยู่ข้างๆ ได้เข้าตบไหล่ ฟาง สี่หยู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ยังไง.. ฟางน้อยของเรา นายกลัวเหรอ? ฉันเห็นว่าหน้าผากของนายมีเหงื่อไหลออกมามากเลยนะ?”
ทุกคนมองไปที่ ฟาง สี่หยู่ แล้วพากันหัวเราะออกมา
ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ซึ่งก็คือหญิงสาวคนที่ ฟาง สี่หยู่ ชอบ ก็มองมาที่เขาเช่นกัน
แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้เทพธิดาดูถูกตัวเองได้ ฟาง สี่หยู่ จึงยืดหน้าอกขึ้น และพูดว่า : “ใครกลัว จิตใจของฉันมันเข้มแข็งจะตาย นายมันไปคิดได้ยังไงว่าฉันกลัว!”
เพื่อนสนิทของเขาก็ได้หัวเราะ : “โอ้.. เช่นนั้น ฟางน้อยของเรา ก็กล้าหาญเป็นที่สุด!”
ฟาง สี่หยู่ ได้สังเกตเห็นว่าสายตาของผู้หญิงคนนั้นที่มองมาที่เขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว และดูเหมือนจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา นี่เป็นหนึ่งในสามภาพลวงตาที่สําคัญในชีวิตจริงๆ(1) แต่เด็กหนุ่มก็มักจะหลง และหายเข้าไปในภาพลวงตาเหล่านี้ได้ง่าย…
หลังจากนั้น พวกเขาก็ยังคงเดินเข้าไปในป่า โชคดีที่ไม่เจออันตรายใดๆ ในระหว่างทาง ฟาง สี่หยู่ ก็ค่อยๆ ปล่อยวางหัวใจที่ห้อยอยู่ของเขาลง
หลังจากเดินกันไปประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงป่าลึก ทั้งต้นไม้ที่นี่ก็ดูสูงผิดปกติ มีต้นไม้สูงตระหง่านไม่น้อย ภายใต้ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยวัชพืช พวกเขาได้มาถึงหน้าถ้ำที่ถูกปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์
เหลือเชื่อที่ว่า หน้าถ้ำมีแผ่นศิลาที่มีลวดลายจารึกบางอย่างหักอยู่แผ่นหนึ่ง แผ่นศิลาจารึกถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำ มองดูไม่ออกว่ามันถูกเขียนอะไรเอาไว้ แต่ในป่าลึกเช่นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวกลับแฝงไปด้วยงานฝีมือที่แปลกประหลาดที่ราวกับถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ แต่.. มันกลับมีเพียงแผ่นศิลาจารึกนี้เท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นโดย มนุษย์
เด็กหนุ่มร่างใหญ่คนหนึ่งได้ถือแผนที่อยู่ในมือ พวกเขาเดินตามแผนที่มาตลอดทาง แล้วได้พูดหัวเราะเสียงดังออกไปว่า : “มันมหัศจรรย์มากใช่ไหมล่ะ ที่นี่มีสุสานโบราณอยู่จริงๆ ครั้งที่แล้วเรามาสํารวจ บังเอิญพบมันเข้า แต่ตอนนั้นมันก็เกือบจะมืดค่ำแล้ว เลยต้องรีบออกมาก่อน จึงไม่ได้เข้าไปสํารวจ วันนี้ยังไงก็ต้องเข้าไปดูข้างใน เผื่อว่ามันจะมีสมบัติ!”
เมื่อมองไปที่ถ้ำที่อยู่ตรงหน้า ทุกคนก็ต่างรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ทั้งตื่นเต้น และเป็นกังวล..
มีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า : “ถ้าหากข้างในมีสุสานโบราณอยู่จริงๆ มันก็อาจเป็นอันตรายได้นะ ฉันเคยดูละครในทีวีเกี่ยวกับโจรปล้นสุสาน แล้วก็ในสุสานมันก็จะมีพวกกลไกอะไรพวกนั้นอยู่ด้วย!”
เด็กหนุ่มร่างใหญ่ เดินเข้าไปตบหัวเขา พร้อมกับหัวเราะ และด่าออกไปว่า : “แกมันดูทีวีเยอะไปแล้ว และในละครมันก็เป็นแค่เรื่องแต่งที่ทำให้ดูเกินจริงไปเท่านั้น อีกอย่างถ้ามันมีกลไกมากมายขนาดนั้นจริงๆ คงจะไม่มีสุสานโบราณมากมายถูกขโมยไปหรอก จริงไหม?”
ทุกคนได้พากันหัวเราะ
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของพวกเขา ถ้ำที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่น่ากลัวขนาดนั้นแล้ว
ดังนั้นจึงพากันนำไฟฉายที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา และผลักแกะเถาวัลย์ออก และเดินเข้าไปข้างในถ้ำ..
ในถ้ำทั้งมืด และก็ชื้น แสงจากไฟฉายส่องสว่างให้เห็นไม่หมด ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าเดินเข้ามาลึกแค่ไหนแล้ว และมันเกิดความเงียบงันที่เหมือนราวกับตกไปอยู่ในปากอันใหญ่โตของสัตว์ร้าย
หัวใจของ ฟาง สี่หยู่ ได้แทบจะหยุดเต้นอีกครั้ง และนั่นทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อยทันที ดูเหมือนว่าโรคกลัวที่แคบจะกําเริบ..
เด็กหนุ่มร่างใหญ่ ที่ได้เดินนำอยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นก็หยุด แล้วพูดว่า : “ลองปิดไฟฉาย ดูสิ ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหน้า”
ทุกคนปิดไฟฉายตามที่เขาพูด และเห็นข้างหน้ามีแสงสีเขียวกระพริบเล็กน้อยอยู่ตรงผนังถ้ำ
(1)[สามภาพลวงตาที่สําคัญในชีวิต (人生三大错觉之)] - มีสาขาวิชาจิตวิทยาที่เรียกว่าภาพลวงตาเกี่ยวกับเจตนาทางเพศซึ่งศึกษา “ความเข้าใจผิด (会错意)” และ “ความหลงใหล (自作多情)” ของผู้คน (โดยเฉพาะผู้ชาย)
และเหตุแห่งมายา หรือภาพลวงตานั้น.. เอฟเฟกต์การฉายภาพ, ผลกระทบของความคาดหวังต่อการรับรู้, และความคิด(คำทำนาย)ที่ตอบสนองตนเอง