ตอนที่ 74 แตกตื่น
ตอนที่ 74 แตกตื่น
“ข้าก็ดีใจที่ได้ต่อสู้กับเจ้า แต่การต่อสู้กับคนอย่างเจ้านั้นมันไม่สนุกเลย”
หลี่กุยยิ้มกว้างอ้าปากด้วยความดีใจและพูดด้วยเสียงเศร้าๆในเวลาเดียวกัน เขาได้มอบสร้อยข้อมือเก็บของของชายชราคนนั้นให้กับซู่เฮาเที่ยน
ซู่เฮาเที่ยนคว้ามสร้อยนั้นมาทันที เพราะสร้อยข้อมือผู้ฝึกตนระดับราชานั้นถือเป็นของสำคัญสำหรับซู่เฮาเที่ยนมาก แต่สำหรับหลี่กุยที่อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นที่เก้านั้นไม่ได้สำคัญกับเขาเลยแม้แต่น้อย
"ฮ่าๆๆ จบแล้วสินะ"
เมื่ออยู่กับซู่เฮาเที่ยนมาเป็นเวลานาน สิงโตเก้าหัวก็ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆจากเขามาบ้าง
“ใช่แล้ว เรื่องวันนี้น่าจะจบลงแค่นี้แล้วล่ะ”
ซู่เฮาเที่ยนพงกหัวและหันหลังเดินกลับเข้าไปในโรงเตี๊ยม
“ว่าแต่ชายชราคนนั้นเป็นใครกันน่ะ?”
“เขาคืออาจารย์ของหลิวเฟิงซึ่งเป็นบุคคลสำคัญเพราะเขาคือผู้อาวุโสของนิกายเปียวหยุน ดังนั้นการที่เขาตายแบบนี้จะต้องเกิดเรื่องใหญ่ตามมาแน่ๆ”
“แต่เจ้ารู้อะไรไหม เด็กหนุ่มในชุดสีม่วงคนนั้นคือนายน้อยที่สามของตระกูลซู่และผู้ที่ติดตามเขานั้นล้วนเป็นผู้ฝึกตนระดับสูงทั้งนั้น”
"อีกไม่นานจะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ"
“นั่นสินะ ฮ่าๆๆ”
เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นแพร่กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว มันแพร่กระจายไปกระทั่งทั่วทุกมุมของอาณาจักรเที่ยนซวน ในเวลาครู่หนึ่ง ซู่เฮาเที่ยนนายน้อยของตระกูลเล็กๆได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนอย่างมาก
………
“หยานเอ๋อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลิวเฟิงนั้นตายยังไง? หลิวเฟิงนั้นถูกฆ่าตายด้วยหอกของซู่เฮาเที่ยนและนั่นทำให้ทั่วทั้งอาณาจักรเที่ยนซวนตื่นตระหนกกับเรื่องนี้อย่างมากเพราะดูเหมือนว่าซู่เฮาเที่ยนจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วด้วยเช่นกัน
บรรพบุรุษของตระกูลซู่ที่กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงนั้น ดวงตาของเขาสั่นไหวและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดเวลา ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินออกไปพร้อมกับกัดฟันแน่น
….
“ว่าอะไรนะ อาจารย์หลิงเฟิงตายแล้วงั้นรึ ใครกันที่เป็นคนทำเรื่องแบบนั้น?”
ในคฤหาสน์ของตระกูลเฉิน บรรพบุรุษของตระกูลเฉินลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“ท่านบรรพบุรุษ คนๆนั้นคือผู้พิทักษ์ของนายน้อยจากตระกูลซู่ ซึ่งดูเหมือนกับหมีร่างสูงใหญ่ เขาฆ่าอาจารย์ของหลิวเฟิงได้ด้วยการขว้างขวานออกไปเพียงเดียวเท่านั้น”
เฉินหยานเฟิงผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเฉินพูดด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
“ผู้พิทักษ์ของนายน้อยจากตระกูลซู่งั้นรึ! รีบส่งคนของตระกูลเฉินไปเดี๋ยวนี้! พวกเราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาอย่างเร่งด่วน!”
….
ณ เมืองซินโจว ห้องโถงใหญ่ของตระกูลเป๋ย
“ซู่เฮาเที่ยน ฆ่าหลิวเฟิงและอาจารย์ของเขาด้วยงั้นรึ อย่าบอกนะว่าชายร่างสูงเหมือนกับหมีดำนั่นเป็นผู้พิทักษ์ของซู่เฮาเที่ยนน่ะ?”
เป๋ยเหยาเทียนผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเป๋ยกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักพร้อมกับขมวดคิ้วก่อนจะถามชายในชุดผ้าคลุมผ้าที่ยืนอยู่ด้านล่างเขา
“ท่านผู้นำ ท่านคาดเดาถูกแล้วเพราะเขาเป็นผู้พิทักษ์ของซู่เฮาเที่ยนจริงๆ”
“รีบส่งหน่วยลับออกไปสิบคนทันที และทำยังไงก็ได้เพื่อขวางไม่ให้เจ้าซู่เฮาเที่ยนนั้นไปที่เมืองหลวงของอาณาจักร แม้ว่าจะฆ่าไม่ได้ แต่จงพยายามขัดขวางให้ได้มากที่สุดและไม่ให้พวกมันเข้าร่วมสุดยอดการประลองซวนหลงได้ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม”
เป๋ยเหยาเทียนขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงออกคำสั่งออกมาอย่างเด็ดขาด
“นายท่าน นายน้อยแห่งตระกูลซู่คนนั้นได้สังหารผู้ที่แข็งแกร่งในอาณาจักรแห่งนี้ไปแล้วหลายคนติดต่อกัน และคราวนี้ผู้อาวโสซึ่งเป็นรองผู้นำของนิกายเปียวหยุนก็ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมเช่นกัน ข้าเองก็คิดว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ ในอนาคตซู่เฮาเที่ยนคนนั้นจะต้องเป็นอันตรายต่อตระกูลของพวกเราอย่างแน่นอน”
….
ณ เมืองหลวงของอาณาจักรเที่ยนซวน เมืองซวนหลง ในพระราชวัง
ตอนนี้ โจวปี่ซี จักรพรรดิแห่งอาณาจักรเที่ยนซวนกำลังฟังรายงานจากนายพล เถี่ยลี่ฟาง ด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ
“จะบอกนายน้อยของตระกูลซู่คนนั้นเปรียบเสมือนคลื่นลูกใหญ่งั้นรึ? สิ่งที่ควรคิดในตอนนี้คือพวกเราจะเอาชนะความเย่อหยิ่งของอีกสิบสองอาณาจักรได้อย่างไรมากกว่า เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของสุดยอดการประลองซวนหลงนั้นคือการคัดกรองเหล่าหนุ่มสาวผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในอาณาจักรเที่ยนซวนแห่งนี้ แม้ว่าเจ้าเด็กจากตระกูลซู่นั่นจะแข็งแกร่งมากแต่การสังหารบุตรทั้งสิบสามอย่างไม่ใยดีนั้นจะทำให้เขาต้องถูกลงโทษ ตอนนี้ให้ทำเพียงแค่ส่งนายพลไปสองคนเพื่อดูสถานการณ์ก่อนก็พอ”
โจวปี่ซีออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด เขาไม่ได้สนใจในความแข็งแกร่งของซู่เฮาเที่ยนแม้แต่น้อย จากความคิดของเขานั้น การจะฆ่าซู่เฮาเที่ยนได้ใช้เพียงนายพลที่อยู่ในระดับราชันย์แห่งจิตวิญญาณแค่สองคนก็เพียงพอแล้ว
……
“เฮะๆๆ เมืองฉูโจววันนี้ช่างมีชีวิตชีวาจริงๆ แม้ว่าซู่เฮาเที่ยนจะดูน่าสนใจ แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องฉลาดสำหรับเขามากนักที่จะเป็นตัวรังควานท่านหมิงหวังชิ่งได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรอย่างมุทะลุแบบนี้ในชาติหน้าหรอกนะ”
ในเมืองฉูโจว ผู้ฝึกตนชุดสีขาวคนหนึ่งกำลังถือพัดกระดาษเดินเล่นอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่าน และหลังจากที่พึมพำเสร็จนั้นเขาก็หายตัวไปจากฝูงชนอย่างรวดเร็ว