ตอนที่แล้วตอนที่ 510 มุ่งหน้าสู่โลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 512 เข็มทิศมิติ

ตอนที่ 511 เตรียมพร้อมก่อนจะจากไป


ตอนที่ 511 เตรียมพร้อมก่อนจะจากไป

ยานฟินิกซ์ขนาดใหญ่ลอยเหนือพื้นโลกขึ้นไป 3,000 เมตร โดยมีเซี่ยเฟยกับแอวริลยืนเคียงข้างกันข้างหน้าต่างและมองดูดาวโลกที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขา

“ที่นี่น่ะหรอดาวบ้านเกิดของนาย ฉันว่ามันสวยมากเลยนะ” แอวริลกล่าวและการเดินทางมายังดาวบ้านเกิดของเซี่ยเฟยเป็นครั้งแรกก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะดาวดวงนี้เต็มไปด้วยอดีตที่เซี่ยเฟยเติบโตมาตั้งแต่เขาเป็นเด็ก

“ใช่ ดาวโลกเป็นดาวที่สวยมาก โชคดีที่ในช่วงเวลาสงครามแหล่งธรรมชาติภายในดาวไม่ได้ถูกทำลายลงไปมากนัก” เซี่ยเฟยกล่าว

“ในเมื่อนายชอบดาวบ้านเกิดของตัวเองมาก แล้วทำไมนายถึงไม่สร้างบ้านเอาไว้ที่นี่ล่ะ? พวกเราจะได้เดินทางกลับมาบ่อย ๆ” แอวริลกล่าว

“พี่หลงช่วยหาบ้านให้ฉันแล้ว เอาจริง ๆ บ้านหลังนั้นก็ถือว่าไม่เลว แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้มีเวลากลับมาที่โลกบ่อยมากนัก เอาเป็นว่าพวกเราไปที่บ้านหลังนั้นด้วยกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าว

แอวริลพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เซี่ยเฟยจึงติดต่อหาอู่หลงเพื่อเปลี่ยนสถานที่นัดพบเป็นบ้านใหม่ของเขา จากนั้นชายหนุ่มก็คอยแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ในระหว่างการเดินทาง และกว่าที่พวกเขาจะเดินทางไปจนถึงประเทศจีนเวลาก็ได้ผ่านพ้นไปจนถึงช่วงเย็นแล้ว

บ้านที่อู่หลงจัดเอาไว้ให้เซี่ยเฟยค่อนข้างที่จะถูกใจชายหนุ่มพอสมควร ซึ่งมันเป็นคฤหาสน์ขนาดประมาณ 5,000 ตารางเมตรที่ถูกประดับตกแต่งด้วยหินอันวิจิตรตระการตา และทางด้านหลังของคฤหาสน์ก็คือทะเลสาบอันเงียบสงบ

อันเดร์และอู่หลงที่อยู่ในโลกตั้งแต่แรกเดินทางมารอเซี่ยเฟยตั้งแต่ที่เขาทำการติดต่อไปแล้ว ส่วนชาร์ลีที่ประจำการอยู่ในสำนักงานใหญ่ก็เดินทางกลับมาเพื่อพบกับเซี่ยเฟยเช่นเดียวกัน

“ยานลำใหญ่นั่นเคลื่อนที่ช้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” อู่หลงพูดแซวด้วยรอยยิ้ม

“ผมมัวแต่แวะชมวิวตลอดทั้งทางผมเลยมาช้าไปบ้าง ผมต้องขอโทษทุกคนด้วย ว่าแต่คฤหาสน์นี่ดูไม่เหมือนกับคฤหาสน์ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาเลย พี่ไปซื้อมันต่อมาจากใครงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าว

“นี่นายคิดว่าฉันไปบังคับซื้อที่ดินของใครมาหรือยังไง? ตอนแรกที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินของรัฐบาลกลาง แต่ว่ามันถูกทิ้งร้างหลังจากช่วงสงคราม ฉันจึงตัดสินใจขายมันให้กับบริษัทควอนตัมเพื่อนำเงินกลับมาฟื้นฟูประเทศที่ได้รับความเสียหาย ส่วนค่าใช้จ่ายในการสร้างคฤหาสน์ก็ลงบัญชีของนายเอง ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามชาร์ลีดูสิ” อู่หลงกล่าว

“ประธานาธิบดีอู่พูดถูกแล้ว ผมเลือกซื้อที่ดินผืนนี้เพราะคิดว่ามันคุ้มค่า ความจริงเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนของบริษัทหลังช่วงสงคราม” ชาร์ลีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะท้ายที่สุดความรู้เรื่องเศรษฐกิจของชาร์ลีก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาโดยตลอดอยู่แล้ว และสำหรับบริษัทขนาดใหญ่อย่างบริษัทควอนตัม มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มาถือครองเอาไว้

แอวริลเริ่มทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม ซึ่งพวกเขาได้มีเวลาทำความรู้จักกันจริง ๆ ในช่วงสงคราม ทุกคนจึงพูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะแล้วบอกว่าแอวริลน่ารักมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หญิงสาวหน้าแดงด้วยความเขินอาย

เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนกลางคืน แอวริลก็ขอตัวกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน โดยปล่อยให้เซี่ยเฟยมีช่วงเวลาส่วนตัวกับสหายต่างวัยที่อยู่ด้วยกันมานาน

“เวลาผ่านไปเร็วมากจริง ๆ ฉันยังจำภาพวันที่ฉันถูกนายตบหน้าบนเครื่องบินได้อยู่เลย ย้อนกลับไปตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรู้สึกโกรธนายมาก แต่ในตอนนี้ฉันคิดว่าการถูกตบครั้งนั้นคุ้มค่าแล้ว เพราะมันช่วยทำให้ฉันได้กลายเป็นประธานาธิบดีของสหพันธ์โลก”

“ในที่สุดฉันก็ได้พัฒนาดาวบ้านเกิดให้มีอารยธรรมในระดับจักรวาลได้สักที และในตอนนี้กองยานของสหพันธ์ก็ถูกจัดตั้งขึ้นมาโดยเสร็จสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นการเดินทางระหว่างดวงดาวจึงกลายเป็นเพียงแค่เรื่องธรรมดา นี่ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนฉันก็คงจะไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ” อู่หลงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“เรื่องทั้งหมดคงต้องขอบคุณพี่เซี่ยเฟยเลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพี่เซี่ยเฟยก่อตั้งบริษัทควอนตัมขึ้นมา โลกก็คงจะไม่กลายเป็นดาวเคราะห์ที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้” ชาร์ลีกล่าวเสริม

เซี่ยเฟยรีบโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน และพยายามยกความดีความชอบในเรื่องนี้ให้กับทุก ๆ คนที่ช่วยกันพัฒนาบริษัทขึ้นมาไม่ใช่ตัวเขาเพียงคนเดียว

“ว่าแต่คราวนี้คุณจะไปไหน? แล้วมันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนคุณถึงจะกลับมา?” อันเดร์กล่าวถามหลังจากสังเกตเห็นว่าเซี่ยเฟยน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ต้องการจะบอกกับพวกเขา

ชาร์ลีกับอู่หลงให้ความสนใจคำถามนี้เช่นเดียวกัน พวกเขาจึงตั้งใจฟังรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะต้องจากไปนานแค่ไหน แต่ผมคิดว่ามันคงจะต้องใช้เวลานานมากพอสมควร”

“ที่นั่นอันตรายไหม?”

“ผมคิดว่ามันก็ไม่น่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยนัก”

“มันคือที่ไหนกันแน่?” อู่หลงถามด้วยความเป็นห่วง

“เอาเป็นว่ามันคือสถานที่ที่น่าสนใจมากก็แล้วกัน ทุกคนไม่จำเป็นจะต้องเป็นกังวล ผมสัญญาว่าผมจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเซี่ยเฟยทำให้ทุกคนต่างก็ต้องเงียบเสียงไป เพราะท้ายที่สุดในตอนนี้เซี่ยเฟยก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะพยายามคาดเดาการกระทำของชายหนุ่ม เพราะท้ายที่สุดชายหนุ่มคนนี้ก็คือหนึ่งในคนที่คาดเดาการเคลื่อนไหวได้อย่างยากลำบากมากที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่กลายเป็นวีรบุรุษผู้บุกเข้าไปในดินแดนเซิร์กเพียงลำพัง

“พี่หลงช่วยเตรียมของที่ผมบอกเอาไว้ให้แล้วหรือยังครับ?” เซี่ยเฟยถาม

“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเป็นชาหรือบุหรี่ฉันก็เตรียมเอาไว้ให้นายเป็นอย่างดีแล้ว ชาทุกชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นชาคุณภาพสูงที่นายสามารถเอาพวกมันไปชงกินได้ทุกที่ทุกเวลา” อู่หลงกล่าวพร้อมกับตบหน้าอกตัวเองอย่างแรง ก่อนที่เขาจะถามขึ้นมาด้วยความไม่แน่ใจว่า

“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายถึงยังสูบแต่หงตะชาน?”

“พอดีว่าผมชินกับมันแล้ว และการเปลี่ยนไปสูบอย่างอื่นก็คงไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่นัก” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ผมว่าพี่เซี่ยเฟยเป็นคนที่ชอบคิดถึงอดีตมากกว่า ย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ผมได้พบกับพี่เขาเป็นครั้งแรก พี่เขาก็ชอบกินผัดหมี่กับแตงกวาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าตอนนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่พี่เขาก็ยังชอบกินผัดหมี่กับแตงกวาอยู่เหมือนเดิม” ชาร์ลีกล่าว

“อ้อ! ฉันเกือบลืมไปเลยนะเนี่ยว่าฉันจะต้องเตรียมของทำผัดหมี่เอาไปด้วย” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อคิดได้ว่าเขาเกือบจะลืมของสำคัญ

“นายลืมแต่ฉันไม่ได้ลืมสักหน่อย ฉันได้เตรียมของทุกอย่างเอาไว้ให้กับนายแล้ว ฉันเชื่อว่าของที่ฉันเตรียมเอาไว้ให้น่าจะทำให้นายกินแต่ผัดหมี่ไปได้อีกนานหลายปีเลย” อู่หลงกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

เซี่ยเฟยเริ่มจัดเตรียมสิ่งของสำหรับการเดินทางอย่างเงียบ ๆ ซึ่งในวันพรุ่งนี้มันจะถึงเวลานัดที่เขาจะต้องเดินทางไปยังดินแดนของผู้ใช้กฎแล้ว ดินแดนแห่งนั้นคือดินแดนที่ลึกลับสำหรับเขามาก ซึ่งเขาก็ไม่รู้เลยว่ามันเป็นดินแดนแบบไหนและเขาจะต้องไปทำอะไรในดินแดนแห่งนั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือดินแดนของผู้ใช้กฎย่อมไม่ใช่ดินแดนที่สงบสุข ท้ายที่สุดหยูฮัวก็เคยบอกเขาเอาไว้แล้วว่ามันมีเฉพาะผู้แข็งแกร่งที่จะได้รับความเคารพ ส่วนผู้ที่อ่อนแอจะถูกกดดันให้อยู่ในสถานะที่โหดร้าย แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคงเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยโอกาสเช่นเดียวกัน

สถานการณ์ในดินแดนของผู้ใช้กฎกับพันธมิตรย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเขาก็คงจะไม่สามารถตั้งตัวในดินแดนของผู้ใช้กฎได้ง่าย ๆ เหมือนกับตอนที่เขาเอาบทกวีไปขายเพื่อหาเงินก้อนใหญ่เป็นครั้งแรกขณะที่เขาเดินทางออกจากโลก

อันธ, ขนอุยและกระป๋องจะติดตามเขาไปในการเดินทางครั้งนี้ด้วย เพราะข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าทีมประหลาดที่ประกอบไปด้วยหนึ่งคน, หนึ่งผี, หนึ่งสัตว์อสูรและหนึ่งเครื่องจักรค่อนข้างที่จะเป็นทีมที่สมดุลย์

กระป๋องทำหน้าที่เป็นเหมือนพ่อบ้านประจำตัวของเซี่ยเฟยที่รับผิดชอบดูแลของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนขนอุยก็เป็นสัตว์อสูรจอมตะกละที่นอนทั้งวัน แต่มันก็พร้อมที่จะออกมายืนสู้เคียงข้างเขาในช่วงเวลาที่เขาได้พบกับอันตราย

อันธเป็นทั้งอาจารย์ที่ดีและเพื่อนที่ดีของเซี่ยเฟยในเวลาเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาวิญญาณตนนี้ยังได้ข้อมูลจากโซฟีมาเป็นจำนวนมาก และเขาก็มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะนำความรู้พวกนั้นไปใช้ในดินแดนของผู้ใช้กฎ

นี่คือส่วนประกอบที่ลงตัวที่สุดที่เซี่ยเฟยได้ค้นพบ และมันก็ทำให้เขาได้ฝ่าฟันอุปสรรคจนมายืนอยู่ในจุด ๆ นี้

เซี่ยเฟยถอนหายใจอย่างผิดหวัง ก่อนที่จะเก็บกรงเล็บภูติโลหิตกลับไปไว้ในแหวนมิติ ซึ่งในตอนนี้กรงเล็บภูติโลหิตได้เริ่มการกลายพันธุ์รอบที่ 7 แล้ว ซึ่งมันก็หมายความว่าชายหนุ่มจะต้องเดินทางไปยังดินแดนของผู้ใช้กฎพร้อมกับพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ที่ยังคงไม่ได้รับการรักษา

“พวกเราคงจะต้องรออีกเดือนหนึ่งสินะถึงจะลุ้นเรื่องกรงเล็บภูติโลหิตได้ ฉันหวังว่านายจะไม่เจอปัญหาหลังจากที่เราได้เดินทางเข้าสู่ดินแดนผู้ใช้กฎ” อันธกล่าว

คำพูดของอันธทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอยู่เล็กน้อย เพราะเขาเกือบลืมไปเลยว่าตัวเขามักจะเป็นศูนย์กลางของปัญหา เพียงแต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบจนลืมนิสัยประจำตัวของตัวเองไปแล้ว

เหตุการณ์นี้มันจะผิดปกติเกินไปหรือเปล่านะ หรือว่ามันอาจจะหมายถึงการที่เขาจะได้พบปัญหาใหญ่หลังจากได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมานาน

เซี่ยเฟยพยายามส่ายหัวเพื่อสะบัดความคิดพวกนั้นทิ้งออกไป เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบไหน ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ใช่คนที่คอยดึงปัญหาเข้ามาหาตัวเองอยู่ดี

หัวใจจักรวาลสีม่วงบางส่วนถูกขายเพื่อนำไปแลกกับเงินทุนมาพัฒนาภูมิภาคดาวเหวทมิฬ แล้วมันก็ยังมีหัวใจจักรวาลสีม่วงอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกนำมาเป็นอาหารให้กับขนอุย ทำให้ในตอนนี้เซี่ยเฟยเหลือหัวใจจักรวาลสีม่วงอยู่เพียงแค่ประมาณ 6 ตันเท่านั้น และเขาก็คงจะต้องเก็บหัวใจจักรวาลส่วนใหญ่เอาไว้เพื่อเป็นอาหารของขนอุยในอนาคต

จากนั้นชายหนุ่มก็ใส่เสื้อผ้า, สมุนไพรและผลไม้เข้าไปในแหวนมิติ จนทำให้แหวนมิติที่มีพื้นที่ 1,000 ลูกบาศก์เมตรใกล้ที่จะใส่สิ่งของเข้าไปเต็มความจุแล้ว

“ฉันจำเป็นจะต้องเอามีดหัก ๆ นี่ไปด้วยไหม? ถึงยังไงฉันก็มีหิมะโปรยเป็นอาวุธอยู่แล้ว” เซี่ยเฟยหยิบมีดสีแดงขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้ว

“มีดหัก ๆ!? นั่นมันบลัดบิวเทียสเชียวนะ! มันคือสมบัติอันดับ 1 ของสำนักเงาสังหาร แม้ว่าตอนนี้มันจะไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก แต่ถ้าหากว่ามันฟื้นฟูพลังของมันกลับมา มันจะเป็นอาวุธที่ทรงพลังชนิดที่ไม่มีอาวุธชิ้นไหนของนายจะเทียบกับมันได้เลย” อันธพยายามทักท้วงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

เซี่ยเฟยทำได้เพียงแค่ยักไหล่โดยไม่พูดอะไร เพราะท้ายที่สุดมีดเล่มนี้ก็จำเป็นจะต้องดูดแก่นโลหิตของมนุษย์เข้าไปเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะฟื้นฟูพลังของมันกลับมา

ประเด็นสำคัญคือเจ้าของเก่าของมันอย่างเงาอำมหิตได้สังหารคนไปนับไม่ถ้วนตลอดช่วงชีวิตของเขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถจะฟื้นพลังให้กับบลัดบิวเทียสได้ ซึ่งมันก็หมายความว่าอาวุธชิ้นนี้อาจจะต้องใช้แก่นเลือดในการฟื้นฟูอีกมาก และเขาก็ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตนี้เขาจะสามารถฟื้นฟูพลังให้มันกลับมาได้หรือเปล่า

ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังไม่ชอบมีดเล่มนี้เลย เพราะมันเป็นมีดที่ไม่คม เขาจึงไม่ชอบนำมันขึ้นมาใช้เป็นอาวุธมากนัก ซึ่งในความเป็นจริงเซี่ยเฟยมองว่ามีดปอกผลไม้ยังเหมาะจะเป็นอาวุธมากกว่ามีดเล่มนี้เสียอีก

เมื่ออันธบ่นออกมาไม่หยุด เซี่ยเฟยก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องใส่มีดเล่มนี้เข้าไปในแหวนมิติเพื่อหยุดไม่ให้อันธบ่นต่อไป

เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องนอนเขาก็ได้พบกับแอวริลที่หลับใหลไปแล้ว เขาจึงค่อย ๆ ทิ้งตัวนอนไปบนเตียงแล้วใช้มือทั้งสองข้างรองศีรษะของเขาเอาไว้ และจ้องมองไปยังเพดานเหนือศีรษะอันว่างเปล่าอย่างเหม่อลอย

“ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า?” จู่ ๆ แอวริลก็ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“อืม”

“นายจะไปเมื่อไหร่?”

“คืนพรุ่งนี้”

บรรยากาศตกอยู่ภายใต้ความเงียบงันไปครู่หนึ่ง และแม้แต่พระจันทร์ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆก็ไม่อาจทนเห็นคู่รักต้องแยกจากกันได้

“ฉันนอนไม่หลับ…” แอวริลกล่าวพร้อมกับซุกตัวของเธอไว้ในอ้อมอกของชายหนุ่ม

“ฉันก็เหมือนกัน…”

***************

เตรียมตัวเข้าสู่ดินแดนผู้ใช้กฎ! ทุกคนพร้อมกันรึยัง? นับถอยหลัง 5… 4… 3… 2…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด