บทที่ 89 - ผู้ที่ต้องการช่วยผู้อื่นต้องปกป้องตัวเองก่อน
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 89 - ผู้ที่ต้องการช่วยผู้อื่นต้องปกป้องตัวเองก่อน
ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ก้มศีรษะลงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาพบว่ามีรูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเขา
“ข… ข้าแพ้งั้นเหรอ?”
เขายิ้มอย่างขมขื่นและทันใดนั้น ก็คายไข่ขาวออกมาจากปากของเขาและโยนมันไปทางทิศเหนือ
“ลูกชาย เจ้าต้องแก้แค้นให้พ่อของเจ้า! ความชั่วร้ายไม่อาจหมดสิ้นจากโลกไปได้!”
หลังจากการระเบิดอย่างรุนแรง ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างสมบูรณ์
ทว่าเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างที่ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่กำลังจะเสียชีวิตลง เขาได้ถุยไข่ออกมาและโยนไป โดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเลย
แต่หลินเฉินและบาร์ดัคที่อยู่ไกลออกไปบนท้องฟ้าเห็นมันได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกับกิเนบนพื้นดิน
เมื่อเห็นว่าลูกชายของนางไม่ได้กำจัดเขาอย่างสมบูรณ์ กิเนก็อยากจะจัดการแทนลูกชายของนางอีกครั้ง
แต่ในเวลานี้เอง เสียงของบาร์ดัคดังขึ้นจากเครื่องสื่อสารของนาง: “พอได้แล้วกิเน คราวนี้เจ้าเข้ามายุ่งมากพอแล้ว ในอนาคตความผิดพลาดของคาคารอทให้เขาแก้ไขด้วยตัวเอง”
"เอ่อ ก็ได้" เมื่อได้ยินเช่นนั้น กิเนก็หยุดและปล่อยให้ไข่หายไปในท้องฟ้า
ไม่นานหลังจากนั้น หยำฉาและคนอื่นๆ ได้รีบวิ่งเข้ามาช่วยเทนชินฮัง โดยพร้อมที่จะสละชีพกัน
ทว่าเมื่อพวกเขารู้ว่าราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ได้ตายแล้ว ทุกคนก็กระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น
“โกคู…โกคูเอาชนะราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่แล้ว!”
“ยอดเยี่ยมมาก ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ได้ถูกกำจัดไปแล้ว โกคู เจ้าช่วยโลกไว้!”
โกคูที่ได้รับการช่วยเหลือจากใครบางคนได้แต่ยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆ: “ไม่ใช่แค่ข้าคนเดียวหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะท่านป้าคนนี้ช่วย เทนชินฮังกับข้าอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
"ท่านป้าเหรอ?"
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของเขา พวกเขาก็ตระหนักว่ามีใครบางคนได้ยื่นมือเข้ามาช่วย
แม้ว่าหยำฉาจะจำนางไม่ได้ แต่อูลอน ปูอัลและรันจิก็รู้สึกคุ้นเคยผู้หญิงคนนี้มาก
ส่วนบูลม่าก็จำอีกฝ่ายได้ว่านางเป็นชาวไซย่าที่มาที่โลกพร้อมกับหลินเฉินและคนอื่นๆ
ในเมื่อนางอยู่ที่นี่ งั้นหลินเฉินก็...
บูลม่าเงยหน้าขึ้นและเห็นหลินเฉินกับบาร์ดัคกำลังลงมาจากท้องฟ้า
"พี่หลินเฉิน!”
“บูลม่า ทุกคน สวัสดี”
หลินเฉินยิ้มขณะที่เขาลงมายังพื้นเพื่อทักทายพวกเขา
"เจ้านั่นเอง!" หยำฉากล่าวออกมาด้วยความเจ็บแค้น “ทำไมเจ้าถึงเพิ่งออกมายามนี้? ไม่ใช่ว่าเจ้าทรงพลังมากหรอกเหรอ? ทำไมเจ้าไม่ช่วยเรา ไม่รู้หรือว่าผู้เฒ่าเต่าและคุริรินต่างก็ต้องตายกันไป?”
"เจ้ากล้าดียังไง!" ทันใดนั้นเสียงพลังปะทุก็ดังออกมาจากบาร์ดัค จนพัดพาหยำฉาออกไปไกล
อูลอนและปูอัลรีบพยุงตัวหยำฉาขึ้นมา
ส่วนเทนชินฮังก็ตกใจมาก เพียงแวบเดียว เขาก็รู้สึกได้เลยว่าชายสองคนที่ปรากฏตัวอยู่มีความน่าสะพรึงกลัวกว่าราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่
“ไม่เป็นไรหรอก บาร์ดัค”
หลินเฉินหยุดบาร์ดัค จากนั้นก็มองไปที่โกคู ซึ่งรู้สึกสับสนเช่นกัน
“โกคู เจ้าคิดว่าข้าควรช่วยไหม?”
"ค...ควรสิ! เพราะพี่หลินเฉิ ท่านน่ะมีพลังมาก หากท่านลงมือก่อนหน้านี้ หลายคนคงจะไม่ตายแล้ว”
“เราไม่ใช่ชาวโลก ทำไมเราต้องช่วยเจ้าด้วยล่ะ?” จู่ๆ หลินเฉินก็พูดขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โกคูก็ตกตะลึงทันที ส่วนทางด้านเทนชินฮังถึงกับพูดไม่ออก
“โกคู เจ้าจำสิ่งที่ข้าเคยพูดกับเจ้าได้ไหม? เราไม่ใช่ชาวโลกแล้วโลกเกี่ยวข้องอะไรกับเรา?”
หลินเฉินกล่าวต่ออีกว่า “จักรวาลนี้เต็มไปด้วยอันตรายทุกประเภท คนอย่างราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งเหล่านั้นเลย เราสามารถช่วยเจ้าได้เพียงครั้งเดียว แต่เราคงไม่สามารถปกป้องโลกเพื่อเจ้าได้ตลอดเวลา”
“หากเจ้าต้องการทำให้โลกปลอดภัยอย่างแท้จริง เจ้ามีแต่ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองได้เท่านั้น!”
“ผู้ที่ต้องการช่วยผู้อื่นก็ต้องปกป้องตัวเองก่อน เมื่อตัวเจ้าเองมีพลังในการปกป้องโลก จึงจะสามารถปกป้องความสงบสุขของโลกได้อย่างแท้จริง”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิน ทั้งโกคูและเทนชินฮังก็ชะงักไป
แม้กระทั่งหยำฉาที่รู้สึกเจ็บแค้น ก็ต้องยอมรับว่าคำพูดของหลินเฉินนั้นถูกต้อง
ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งพอ ความวุ่นวายที่เกิดจากราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ก่อก็คงจะไม่ฆ่าคนจำนวนมากขนาดนี้
“ต…แต่ผู้เฒ่าเต่าและคุริรินต่างก็ตายไปแล้วทั้งคู่นะ!” หยำฉาร้องไห้ออกมาด้วยความโศกเศร้า
“ไม่เป็นไร เราช่วยพวกเขาฟื้นคืนชีพด้วยเทพเจ้ามังกรได้” โกคูกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เทนชินฮังก็กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด: “โกคู เจ้าคงไม่รู้ แต่เทพเจ้ามังกรถูกราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ฆ่าตายไปแล้ว”
"อะไรนะ? ถ้าอย่างนั้นผู้เฒ่าเต่ากับคุริริน…” โกคูตกใจจนร่างของเขาสั่นสะท้าน
“ไม่ต้องห่วง เทพเจ้ามังกรถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า ก็แค่ขอให้เขาชุบชีวิตเชนรอนก็สิ้นเรื่อง!” หลินเฉินกล่าว
“พระเจ้า?” โกคูตกตะลึง
อูลอนถึงกับกล่าวอย่างดูถูกออกมา “โลกนี้จะมีพระเจ้าได้ยังไงกัน?”
"ไม่ พระเจ้าน่ะมีอยู่จริง!" ทันใดนั้นบูลม่าก็พูดขึ้น: “โกคู พระเจ้าอาศัยอญู่เหนือหอคอยคาริน ข้าเคยไปที่นั่นกับพี่หลินเฉินมาก่อน!”
"แล้วเราจะรออะไรกันอีกล่ะ? เมฆสีทอง!" โกคูเรียกเมฆสีทองทันทีและกำลังจะมุ่งหน้าไปยังหอคอยคาริน
"เดี๋ยวก่อน!"
เทนชินฮังหยุดเขา: “โกคู หอคอยคารินที่เจ้ากล่าวถึงในยามนี้คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานของผู้ฝึกวิชาศิลปะการต่อสู้ใช่หรือไม่?”
"ถูกต้องแล้ว ข้าเคยฝึกที่นั่นมาก่อนและสามารถเอาชนะราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ได้ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เป็นอมตะที่ชื่อคาริน จากหอคอยคาริน"
“ปรากฎว่าตำนานนั้นเป็นความจริงสินะ…ได้โปรดพาข้าไปด้วย! ข้าอยากจะแข็งแกร่งขึ้น การต่อสู้กับราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ทำให้ข้ารู้ว่าข้ายังอ่อนแอมาก ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นครั้งหน้า ข้าจะไม่ต้องการให้เจ้าช่วยข้าอีก!” เทนชินฮังกล่าว
“ข้าเองก็จะไปด้วย” หยำฉาลุกขึ้นยืนและพูดว่า “คราวนี้ถึงข้าจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ข้าจะต้องตามพวกเจ้าให้ทันอย่างแน่นอน!”
“ทุกคน …” โกคูพยักหน้าอย่างแรง: “เช่นนั้นเราไปที่หอคอยคารินด้วยกันเถอะ!”
ทั้งสามคนที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้พร้อมที่จะออกเดินทางไปยังหอคอยคารินทันที
หลังจากบอกลาทุกคนแล้ว หยำฉาและเทนชินฮังก็ขึ้นเครื่องบินไป ส่วนโกคูก็บินไปด้วยเมฆสีทอง
"พี่หลินเฉิน! ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นต่อไป!” โกคูที่นั่งอยู่บนเมฆสีทองได้หันกลับมาและพูดกับหลินเฉิน
“เมื่อข้าแข็งแกร่งพอ ข้าหวังว่าท่านจะสอนข้าได้นะ พี่หลินเฉิน”
“ตกลง ข้าจะรอวันนั้น” หลินเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“บาย เช่นนั้นก็ไว้เจอกันใหม่” โกคูโบกมือให้พวกเขาและกำลังจะจากไป
แต่ในตอนนั้นเอง…
“คาคารอ…โกคู!”
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ตะโกนหยุดโกคูเอาไว้
เขามองย้อนกลับไปและเห็นว่าคนที่หยุดเขาเป็นคนที่ไม่คุ้นหน้า ซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างหลินเฉิน
“ท่านลุงมีอะไรหรือเปล่า?”
“จงแข็งแกร่งขึ้น!” บาร์ดัคพูดขณะกลั้นอารมณ์ไว้
"ห่วงความปลอดภัยของตนเองด้วย!" กิเนกล่าวออกมาอีกคน
"อืม!" โกคูพยักหน้าให้พวกเขาสองคนแล้วหายตัวไปบนท้องฟ้า
“ลาก่อนบูลม่า รันจิ อูลอน ปูอัล!” เทนชินฮังและหยำฉาก็บอกลาทุกคน ก่อนจะไล่ตามโกคูไป
หลังจากที่โกคูและคนอื่นๆ จากไป หลินเฉินก็อำลาบูลม่าและคนที่เหลือ ก่อนที่จะกลับไปยังดาวเคราะห์เบจิต้าอีกครั้ง