บทที่ 87 - ปราบดร.เกโร่
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 87 - ปราบดร.เกโร่
เรื่องสถาบันวิจัยของดร.เกโร่ ดร.บรีฟรู้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น
หลายปีที่ผ่านมาก่อนที่ดร.เกโร่จะหายตัวไป นิตยสารวิทยาศาสตร์เคยสัมภาษณ์เขาและได้มีการเล่าว่าสถาบันวิจัยของดร.เกโร่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาของเมืองเหนือ
แม้ว่าดร.เกโร่อาจจะย้ายไปแล้ว แต่หลินเฉินก็จำได้ว่าสถาบันวิจัยของดร.เกโร่อยู่ในพื้นที่ลับของภูเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากและบินไปทางเหนือพร้อมกับฮานาเซีย
ในเทือกเขาทางตอนเหนือที่หนาวเหน็บ อันไกลสุดลูกหูลูกตา ภูเขาแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน
ในพื้นที่ภูเขากว้างใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาสถาบันวิจัยลับที่ซ่อนอยู่
เมื่อหลินเฉินและฮานาเซียเริ่มค้นหาที่อยู่ของดร.เกโร่ ท้องฟ้าพลันมืดลงไปทันที
"หือ? ฝ่าบาททำไมท้องฟ้าถึงมืดลงล่ะ?” ฮานาเซียมองไปที่ท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยความประหลาดใจ
“มีคนกำลังเรียกเชนรอนออกมา” หลินเฉินเงยหน้าขึ้นและพูดออกมา
ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ พิคโกโร่ คงต้องพยายามที่จะฟื้นคืนความเยาว์วัยของเขา
ไม่คาดคิดเลยว่าแม้โกคูจะแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็ยังเทียบกับราชาปีศาจพิคโกโร่ไม่ได้
แต่ไม่เป็นไร ยิ่งเขาผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากมากเท่าไร โกคูก็ยิ่งเติบโตต่อไปได้มากเท่านั้น
เมื่อคิดเช่นนี้ หลินเฉินก็เปิดเครื่องวัดพลังและปรับเป็นโหมดตรวจจับสิ่งมีชีวิต
หากเขาต้องการดูการประลองครั้งสุดท้ายของโกคูกับราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่พิคโกโร่ เขาคงต้องรีบหน่อย
เครื่องวัดพลังที่ได้รับการปรับปรุงของบูลม่ามีต้นแบบมาจากเครื่องวัดพลังของกองกำลังฟรีเซอร์ นอกจากการเปลี่ยนโหมดเพื่อตรวจจับระดับพลังงานแล้ว ยังมีระบบอื่นๆ อีกมากมาย จนถึงขั้นสามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตได้เลย
ระบบนี้สามารถตรวจจับสัญญาณชีวิตที่อยู่สูงกว่าระดับแมลง ซึ่งในคราวนี้ มันกำลังถูกใช้เพื่อค้นหาที่อยู่ของดร.เกโร่
อาจเพราะภูเขาทางตอนเหนือนั้นรกร้างมาก จึงมีสิ่งมีชีวิตไม่มากนักที่สามารถขึ้นอยู่หน้าจอสัญญาณของเครื่องวัดพลังได้ ด้วยเจ้าสิ่งนี้ เขาก็สามารถหาตัวดร.เกโร่ได้ด้วยการตรวจจับทีละสัญญาณ โดยไม่ต้องไปนั่งงมเข็มหาเอา
แน่นอนว่าหลังจากค้นหาต่อไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดหลินเฉินก็พบทางเข้าลับของสถาบันวิจัยของดร.เกโร่
เมื่อเรียกฮานาเซียมา พวกเขาทั้งสองก็มาถึงทางเข้าสถาบันวิจัยด้วยกัน
อีกด้านหนึ่ง เป็นประตูเหล็กหนาครึ่งเมตรที่ขวางทางพวกเขาอยู่
“ฝ่าบาทให้ข้าจัดการเอง!”
"เปิดประตูได้เลย"
"เพคะ"
ฮานาเซียก้าวไปข้างหน้าและสะบัดนิ้วของนาง คลื่นพลังงานที่สดใสได้พุ่งออกมาระเบิดรูที่ทางเข้าถ้ำ เผยให้เห็นอุโมงค์ภายใน
สถาบันวิจัยของดร.เกโร่ไม่เพียงแต่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีความลับมากเท่านั้น แต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายในยังมีมากมายเป็นพิเศษ
ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองเข้าไป หุ่นยนต์ยามจำนวนมากก็พุ่งออกมาและยิงใส่หลินเฉินกับฮานาเซียโดยไม่ลังเล
"อ่อนแอสิ้นดี!"
ฮานาเซียหัวเราะเยาะและด้วยการโบกมือ หุ่นยนต์ทั้งหมดถูกทำลายโดยลมออร่าของนาง
ในส่วนลึกของสถาบันวิจัย เหงื่ออันเย็นเหยียบของดร.เกโร่ได้ไหลไปทั่วร่าง ยามนี้เขารู้สึกสิ้นหวังมาก
"ให้ตายสิ... ทำไมกันล่ะ? ทำไมถึงมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในโลกด้วย?”
“ถ้าข้ารู้เรื่องนี้ก่อนหน้า ข้าคงไม่ปล่อยให้มนุษย์จักรกลออกมาเร็วขนาดนี้หรอก...ให้ตายสิ! บัดซบ! ถ้าข้ามีเวลามากกว่านี้…”
“เจ้าจะทำอะไรได้งั้นหรือ ถ้าเกิดมีเวลามากกว่านี้?”
ทันใดนั้นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งได้ดังขึ้นจากด้านหลังดร.เกโร่
ดร.เกโร่หันกลับมาอย่างรวดเร็วและเห็นว่าหลินเฉินกับฮานาเซียยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“เอ่อ… ถ้าเจ้าให้เวลาข้า หุ่นยนต์ของข้าจะสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดอย่างพวกเจ้าได้อย่างแน่นอน!”
“หา? แค่เศษเหล็กนั่นน่ะเหรอ?” ฮานาเซียกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม
แต่หลินเฉินรู้ว่าดร.เกโร่ไม่ได้โกหก
ในอนาคต มนุษย์จักรกลที่เขาจะสร้างจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ถึงขั้นสามารถท้าทายเทพเจ้าได้
อัจฉริยะเช่นนี้ควรค่าแก่การเลี้ยงดูจริงๆ
หลังจากผลักฮานาเซียออกไป หลินเฉินก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ดร.เกโร่ ยามนี้เจ้าน่าจะเข้าใจแล้วว่าไม่มีที่ให้วิ่งหนี ข้าจึงคิดจะให้ทางเลือกสองทางกับเจ้า”
“หนึ่ง สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อข้า ข้าสามารถให้เจ้าทำการวิจัยเกี่ยวกับมนุษย์จักรกลต่อไปได้ แต่จากนี้ไปผู้ที่เจ้าจงรักภักดีจะไม่ใช่กองทัพโบว์แดง แต่เป็นข้า หลินเฉินและอาณาจักรไซย่าของข้า”
“ชาวไซย่า? เจ้าไม่ใช่ชาวโลกหรือ?” ดวงตาของดร.เกโร่เบิกกว้าง
"ถูกต้องแล้ว เรามาจากดาวเคราะห์เบจิต้า รวมถึงโกคูที่เจ้าต้องการกำจัดด้วย เขาก็เป็นชาวไซย่าเหมือนกัน”
“ไม่น่าแปลกใจ… ไม่น่าแปลกใจที่พวกเจ้าจะมีพลังมาก …”
ดร.เกโร่กำหมัดแน่น เขาสงสัยมากว่ามนุษย์จะแข็งแกร่งขนาดนี้อย่างไร ปรากฎว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว!
หลินเฉินกล่าวต่อ: “ส่วนทางเลือกที่สอง ถ้าเจ้าไม่สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อข้า ข้าจะฝังเจ้าไว้ในถ้ำนี้พร้อมกับการวิจัยของเจ้า”
หลังจากที่หลินเฉินพูด ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นจากเขา ทำให้ดร.เกโร่แทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
"ว่ายังไงล่ะ? อยู่หรือตาย…ดร.เกโร่เจ้าจะเลือกอะไร?” หลินเฉินกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย
ในเวลานี้ ดร.เกโรกลัวเกินกว่าจะพูดเพราะออร่าของหลินเฉิน
ถึงแม้ดร.เกโร่จะสามารถสร้างมนุษย์จักรกลที่ทัดเทียมพระเจ้าได้ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินเฉินก็ถอนออร่าของเขาไป
ทันใดนั้น ดร.เกโร่ก็เริ่มหอบอย่างหนักราวกับคนที่ขาดอากาศได้หายใจอีกครั้งหนึ่ง
เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความยากลำบากพลางมองไปที่หลินเฉินและพูดว่า “เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรหลังจากขอให้ข้าสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเจ้า?”
“เจ้าไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ทำการวิจัยต่อไป พวกเราชาวไซย่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบต่อสู้และมักจะต้องออกไปต่อสู้ แต่ประชากรของชาวไซย่านั้นน้อยเกินไป มนุษย์จักรกลของเจ้าอาจให้ความช่วยเหลือแก่ชาวไซย่าในอนาคตได้”
หลังจากปราบดร.เกโร่แล้ว สิ่งเดียวที่หลินเฉินคิดออกว่าจะใช้ประโยชน์จากดร.เกโร่ได้ยังไงก็คือสิ่งนี้
ในอดีต ชาวไซย่ามักมีนิสัยที่จะใช้ไซไบแมนเพื่อฝึกและช่วยในการต่อสู้ แต่ด้วยมนุษย์จักรกลของดร.เกโร่ เหล่าไซไบแมนก็จะสามารถเกษียณได้เสียที
เมื่อเทียบกับไซไบแมนแล้ว มนุษย์จักรกลคงจะมีประโยชน์มากกว่าในแง่ของการฝึกและกองกำลังเสริม
“ดร.เกโร่ ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายว่าเจ้ายินดีที่จะติดตามข้าหรือไม่?” หลินเฉินเปิดปากเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อยืนยัน
“ข้า…” ดร.เกโร่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มศีรษะลง “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหลินเฉิน ข้ายินดีที่จะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อท่าน!”
"ติ้ง! ขอแสดงความยินดีกับการปราบดร.เกโร่ รางวัล: เคลื่อนย้ายพริบตาขั้นสูง!”
เมื่อเขาได้ยินเสียงของระบบ ในหน้าจอของหลินเฉินก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตัวเคลื่อนย้ายพริบตา
หลินเฉินยิ้มน้อยๆ และพูดพร้อมกับพยักหน้า “ดี ดร.เกโร่ เจ้าจงเก็บของในสถาบันวิจัยของเจ้าเสีย ในอนาคตสถาบันวิจัยของเจ้าจะถูกจัดตั้งขึ้นบนดาวเคราะห์เบจิต้าและข้าจะขอให้นักวิทยาศาสตร์ต่างดาวบางคนมาเป็นผู้ช่วยของเจ้าด้วย”