ตอนที่แล้วบทที่ 32: การชักชวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34: ร้านตัดผมป๊อบ

บทที่ 33: ฮาร์เลม


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 33: ฮาร์เลม

'ฉันคิดว่าฉันคงคิดมากไปหน่อย'

แฟรงค์ให้คะแนนชื่อเสียงของเขาน้อยกว่าที่ไรอันคาดไว้

สิ่งนี้ทำให้ไรอันตระหนักได้ว่า แม้จะเป็นฮีโร่เหมือนกัน แต่คะแนนของทุกคนใช่ว่าจะให้มากเท่ากันทุกคน สถานะทางสังคมและอิทธิพลของฮีโร่ อาจมีความแตกต่างกัน แต่ไรอันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของบุคลิกของฮีโร่มากกว่าที่ส่งผลต่อคะแนนชื่อเสียง

เพราะโทนี่ในยามนี้ยังไม่ใช่ไอรอนแมน แต่เพราะเขายังไม่เคยพบเจอกับความพ่ายแพ้ เขาจึงให้คะแนนกับไรอันอย่างมหาศาล...

แฟรงก์ 'พันนิชเชอร์' ซึ่งเป็นนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาที่เกษียณแล้ว ทั้งยังพบเจอกับสถานการณ์รุนแรงมากมาย ย่อมจิตใจไม่สั่นไหวง่ายกับเรื่องราวที่ได้ยินอยู่แล้ว

สภาพจิตใจของแฟรงค์ในยามนี้ไม่ว่าจะพบกับเรื่องอะไร ก็อาจบอกได้ว่าเขาแทบจะไม่สนใจมันด้วยซ้ำ

สำหรับชายคนนี้ที่หัวใจเต็มไปด้วยการแก้แค้น จนลืมความเป็นและความตายไปนานแล้ว ไรอันก็คงจะไม่สามารถสร้างผลกระทบต่อจิตใจของเขาได้มากนัก ทำให้คะแนนที่เขาได้รับมามีเพียงน้อยนิด

ทว่าถึงแผนแรกจะล้มเหลว ก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นใจของไรอันลดลงไปมากนัก

เพราะเมื่อเทียบกับวันแรกๆ ที่เขาได้ระบบมา เขาต้องตื่นแต่เช้าและทำงานเหมือนสุนัข แต่ก็เก็บคะแนนชื่อเสียงได้เพียงหนึ่งหรือสองจุดเท่านั้น ดังนั้นชื่อเสียงที่ได้จากแฟรงค์ยังถือว่ามาก ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

'จงมีเหตุผลและอย่าทะเยอทะยานเกินไป คนที่ให้คะแนนมากแบบโทนี่ สตาร์ค ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นกันทุกคน'

หลังจากปลอบใจตัวเองเล็กน้อย ไรอันก็หันไปสนใจเป้าหมายต่อไปทันที

ในมือของเขา หน้าสามของ 'หนังสือพิมพ์ไดอารี่บุคเกิล' กำลังรายงานเรื่องราวใหม่ที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับย่านฮาร์เลม ของแมนฮัตตัน รายงานระบุว่าสมาชิกแก๊งหลายคนบอกว่าได้พบกับคนเหล็กเวอร์ชั่นที่มีรูปร่างสีดำ อีกทั้งยังคงกระพันอีก แถมไม่สวมเสื้อเลยสักชิ้นเดียว

  ...

ณ แมนฮัตตัน ย่านฮาร์เลม

ชุมชนที่มีชื่อเสียงที่สุดของนิวยอร์ก ซึ่งเป็นย่านคนผิวดำที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาได้รับความเดือดร้อนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการเข้ามาของผู้อพยพชาวละตินจากเม็กซิโก ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในในย่านฮาร์เล็มรุนแรงขึ้น ในขณะเดียวกัน ความขัดแย้งทางเชื้อชาติ สงครามแก๊ง ยาเสพติด อาชญากรรมและความยากจนก็ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วในพื้นที่

“เฮ้ ไอ้คนแคระผิวเหลือง! พวกแกไม่ควรอยู่ที่นี่นะ!”

ใกล้กับแม่น้ำย่านฮาร์เล็ม ชายผิวดำร่อนเร่หลายคนสังเกตเห็นร่างในเสื้อสเวตเตอร์สีแดงเดินผ่านมาที่แยกตรงข้าม จึงได้เอ่ยปากเหยียดขึ้นมา

ร่างนั้นหยุดลงและมองไปที่ชายผิวดำที่น่ารังเกียจที่รวมตัวกันสองสามคนไม่ไกลนักและถามออกมาว่า "พวกนายกำลังพูดกับฉันเหรอ?"

"ถ้าไม่ใช่แกไอ้ลิงเหลืองแล้วมันจะใครกันล่ะวะ?" เมื่อได้ยินคำถาม ชายผิวดำที่ดูผอมบางก็ยิ้มตอบด้วยท่าทางยั่วยุ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นพวกเหยียดสีผิวมาก

"ฮ่าฮ่า!"

เพื่อนของเขาที่อยู่รอบๆ ก็หัวเราะตามกันมา

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นคงไม่ได้พูดผิดไปสินะ” เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชาวเอเชียก็ยักไหล่แล้วส่ายศีระพขณะที่เขาเดินไปหาพวกเขา

"อะไรวะ? อยากคุยกับพวกเรามากกว่านี้เหรอ? หรือว่าอยากมาสั่งสอน?" เมื่อมองไปที่ร่างที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา แทนที่จะแสดงความกังวล พวกเขากลับประชดประชันมากขึ้น

“เฮ้ ไอ้เตี้ย ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ไสหัวไปซะ” ในหมู่ผู้ชายผิวดำ มีชายหัวล้านเปลือยท่อนบนอวดกล้ามเนื้อแวววาวก้าวไปข้างหน้าและขวางทางเอาไว้ "ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงจะไม่ได้จบแค่พูดคุยแน่"

“ไม่เอาน่ามาร์ติน อย่าทำลายความสนุกสิ เรื่องสนุกเพิ่งกำลังจะเริ่มเอง เราแค่สนุกกันนะ”

“ใช่แล้วมาร์ติน หยุดทำแบบนั้นไม่ได้เหรอ?”

เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ หลายคนที่ยืนอยู่ข้างหลังมาร์ตินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง

"ไม่ต้องเสียเวลาที่นี่หรอก อย่าลืมสิว่าเราต้องไปพบกับคอตตอนเมาธ์อีกนะ..."

เขาหันไปหาเพื่อนร่วมแก๊งที่อยู่ข้างหลังเขา พร้อมกับอธิบายไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากหาเรื่องชายเอเชียคนนี้ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากจะเสียเวลาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์ต่างหาก

"เฮ้ย เจ้าหนู ถือว่าแกโชคดีไปนะ..."

เมื่อหันกลับมา มาร์ตินก็มองไปยังร่างที่สูงไม่ถึงอกของเขาและเปิดปากพูดไป ก่อนที่เขาจะพูดอะไรอีก เขาก็รู้สึกว่ามีพลังมหาศาลกระแทกเข้าที่หน้าอกของเขาและทั้งร่างกายของเขาก็บินตรงขึ้นไป

"มาร์ติน!"

"เวรเอ้ย!"

พวกเขาแทบจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับมาร์ตินเลย

พวกเขาเห็นแค่เพียงว่าไอ้ลิงผิวเหลืองที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับมาร์ตินและถูกพวกเขาเยาะเย้ยเพียงแค่ยกเท้าของเขาขึ้นมา มาร์ตินที่มีน้ำหนักมากกว่า 200 ปอนด์ก็บินขึ้นราวกับว่าเขาเป็นบอลลูน

ปัง--

ด้วยเสียงทุ้มอันหนักหน่วงบนพื้น ชายผิวดำที่เหลืออีกสองสามคนก็ดูเหมือนจะกลับมามีสติอีกครั้ง ขณะที่พวกเขาหันหน้าไปมองมาร์ตินที่ล้มลงกับพื้นและกระอักเลือดออกมา พวกเขาก็รีบดึงมีดและปืนพกออกจากกระเป๋า เล็งไปที่ชายในชุดวอร์มสีแดงตรงหน้า

สีหน้าของชายคนนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามที่กำลังมาถึง

ปัง!

อึก--

จากนั้นพวกเขาได้ยินเสียงปืนสั้นๆ พร้อมกับหมัดและลูกเตะ ชายผิวดำหลายคนที่หยิ่งผยองถึงกับล้มลงกับพื้น

เหลือเพียงชายผิวดำร่างผอมที่อ้าปากค้าง เขามองไปที่เพื่อนที่ล้มลงและทุรนทุรายรอบๆ ตัวเขาพลางกลืนน้ำลายและขู่ว่า "อย่าเข้ามาใกล้นะ... เราคือคนของคอตตอนเมาธ์ ถามรอบๆ ดูสิ ไม่มีใครในฮาร์เล็มกล้าแตะต้องคอตตอนเมาธ์หรอก... "

"แกมีเงินหรือเปล่า?" ชายในชุดวอร์มสีแดงได้เอ่ยถามออกมา

"มีสิ มี!"

แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าทำไมจู่ๆ อีกฝ่ายถึงถามเช่นนั้น แต่เขาก็รีบพยักหน้าและหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง

"...มี 22... 25 ดอลลาร์!"

เขาส่งมอบเงินสดเพียงก้อนเดียวที่เขามีติดตัวไว้ในร่างกายให้กับชายในชุดสีแดงและมองดูอีกฝ่ายซุกมันไว้ในกระเป๋าของเขาด้วยท่าทางตื่นตะลึง ชายผิวดำอดไม่ได้ที่จะโพล่งถามออกมาว่า "นี่นายกำลังปล้นฉันอยู่เหรอ!?" ในอดีต พวกเขามักจะเป็นคนที่ปล้นคนโดยอาศัยชื่อเสียงของคอตตอนเมาธ์ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนจะปล้นพวกเขาและทุบตีพวกเขาอย่างรุนแรง

“ใช่” ชายในชุดวอร์มสีแดงพยักหน้าโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปยังคนที่กองอยู่กับพื้น แล้วก็มองไปที่ชายผิวดำร่างผอมตรงหน้าเขา “จำไว้อย่าดูถูกคนอื่นอีก”

ชายที่สวมเสื้อวอร์มสีแดงเดินกลับไปยังทิศทางที่เขามาและเลี้ยวไปด้วยท่าทางสบายๆ

เมื่อชายคนนั้นจากไป มาร์ตินที่นอนอยู่บนพื้นก็พยายามลุกขึ้น

"มาร์ติน! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? เมื่อสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายจากไปแล้ว ชายผิวดำร่างผอมก็หันกลับมาและพยายามช่วยมาร์ตินขึ้นมา

"โทรไปบอกคอตตอนเมาธ์ว่าเราถูกโจมตี"

มาร์ตินแทบจะลุกไม่ขึ้น เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก เมื่อมองไปในทิศทางที่ชายคนนั้นจากไป เขาก็กัดฟันและรีบโทรเรียกสายเพื่อขอกำลังเสริม

...

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด